74 ความขัดแย้งกับเทรีย ② การรุกรานที่พล่าน
74 ความขัดแย้งกับเทรีย ② การรุกรานที่พล่าน
—————————————————————
【–มุมมอง บุคคลที่สาม/เทรีย–】
「ลอร์ดเมเซล…………ท่านทำอะไร?!」
「ลูกธนูลอยไปที่ฝั่งโกลโดเนีย! พวกเค้าจะไม่ปล่อยให้เราขอโทษแล้วตอนนี้!」
พลเมืองที่ไม่รู้จักตะโกนอยู่บนเนินเขากลายเป็นศพ แต่ไม่มีเสียงเชียร์จากทหาร และผู้บัญชาการและขุนนางก็ตกตะลึงด้วย
นั่นเป็นธรรมชาติ; ลูกธนูที่ถูกปล่อยโดยวิสเคาน์เมเซลหลังจากถูกยั่วยุ ได้ชิงชีวิตไปจากกบฏที่น่ารังเกียจ แต่ลูกธนูพลาดที่จะโดนเป้าหมายและข้ามเนินเขาไปและลอยเข้าไปในดินแดนของโกลโดเนีย กองทัพลอร์ดศักดินาอยู่อีกฝั่งได้จัดรูปแบบพร้อมแล้ว และลูกธนูหล่นใส่หัวของพวกเขา พลเมืองและทหารหลายคนได้เป็นพยานการกระทำนั้นๆของความโหดร้าย และหนีจากสถานการณ์นี้ไปไม่ได้แล้ว
「ลอร์ดมาร์เซล ไอ้เวร!」
ผู้บัญชาการของทั้งกองทัพ คนที่พยายามจะทำให้ทหารใจเย็น เห็นความพยายามของเขาเสียเปล่าอย่างสิ้นหวัง ขณะที่เขากดดันเอาคำตอบจากเมเซล
「ล็อกจีล-โดโนะ ถามเขาหลังจากนี้ ก่อนอื่นเราต้องมอบข้ออ้างอะไรบางอย่างให้ฝั่งโกลโดเนีย หรือไม่มันจะเปลี่ยนเป็นบางอย่างที่มีปัญหา!」
ชายที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่จ้องเมเซลที่สลด แต่เขาก็แสดงให้ล็อกจีลเห็นด้วย
「ดี ตอนนี้ส่งสาส์นฉุกเฉิน ให้มันเป็นคนที่มีสถานสูงมากที่สุดเท่าที่ทำได้」
「ตอนนี้เรายังล่าชาวนาที่เหลืออยู่ ดังนั้นมันจะใช้เวลาเล็กน้อย แต่ผมจะรีบเท่าที่ผมรีบได้」
เจ้าหน้าที่ส่งม้าออกไป
「ลอร์ดเมเซล นายบังคับเราให้อยู่ในความเสียเปรียบในการเจรจากับโกลโดเนียในครั้งนี้! เตรียมตัวตัวเองซะ!」
ล็อกจีลกังวลเกี่ยวกับการเจรจาที่จะมีขึ้นในใจของเขา ไม่มีอะไรที่เขาทำได้สำหรับกองทัพเกี่ยวกับความผิดพลาด แม้ว่าเรื่องราวจะถูกแต่งขึ้น และลูกธนูบินเนื่องจากน้องขุนนางได้รับบาดเจ็บ ไม่มีอะไรที่เขาจะบ่นได้ มันจะดีถ้ามันสรุปได้โดยการจ่ายค่าตอบแทน เพราะมันเป็นเรื่องที่มีปัญหาถ้ามันเปลี่ยนไปเรื่องการสนทนาเกี่ยวกับดินแดน การเปลี่ยนเส้นชายแดนเป็นเรื่องข้ามชาติและต้องรายงานกับไปที่รัฐบาลของประเทศบ้านไม่ว่าอย่างไร ถ้าการสรุปเกี่ยวกับเหตุการนี้เปลี่ยนเป็นบางอย่างที่ไม่น่าดู ความสามารถในการนำของเขาน่าจะถูกตั้งคำถาม และตระกูลราชวงศ์ก็มีความประทับใจที่แย่กับเขาด้วย
อีกครั้ง ข้าจ้องเมเซล บอกเขาว่าเขาทำบางอย่างไม่จำเป็น และมันถึงจุดนั้น ที่ว่าความกังวลเขาหายไป – ความกังวลที่ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทน เกี่ยวกับการสละดินแดน – มันดั่งเขาไม่มีปัญหาตั้งแต่ทีแรก เขาไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นต้องส่งผู้ส่งสาส์นด้วย
ลูกธนูที่ยิงพลาดไปไม่กี่ลูกไม่มีความสำคัญอะไรซักนิดแล้ว
นั่นเป็นเพราะฝนของเหล็ก – ธนูมากกว่า 1000 เทลงมาหาเขาจากข้างบน
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
「บุก!!」
จากหนึ่งในคำบัญชาการของผม ทีมทหารม้าทั้งหมดพุ่งเข้าตีทีเดียว มันเป็นแบบแผนของการโจมตีที่ หลังจากที่คุณให้ของขวัญพวกเขาด้วยฝนของลูกธนู ทหารม้าพุ่งเข้าตีเพื่อขยี้ศัตรูที่ว้าวุ่น
ในพริบตา กองทัพที่รวมไปด้วยทหารม้าหอกและทหารม้าหนักของกองทัพทิศตะวันออก แล้วก็ทหารม้าธนู – อดีตชาติภูเขา – ควบไปกับเนินเขาตื้นๆ ทหารม้าธนูหยุดที่ยอดของเนินเขาและปล่อยลูกธนูอย่างต่อเนื่อง ที่เพิ่มความแรงเนื่องจากความต่างในความสูง และพลังของธนูที่สร้างโดยโกลโดเนียที่เลื่อนขั้นขึ้นมานั้นเทียบไม่ได้กับธนูที่ถูกสร้างหยาบๆ และยกเว้นว่าศัตรูใส่เกราะหนักเต็มตัว ลูกธนูจะทะลุการป้องกันของพวกเขา
ทหารม้าหนักและทหารม้าหอกได้ดันศัตรูภายใต้การสนับสนุนจากธนู ทหารราบของศัตรูและทีมหอกยาวอยู่ที่นี่นี่นั่น แต่เนื่องจากพายุของลูกธนู พวกเขาเขาสู่รูปแบบไม่ได้ และถูกขยี้ ไม่ว่าหอกยาวจะแข็งแกร่งกับทหารม้าแค่ไหน พวกเขาทนได้แค่การโจมตีซึ่งหน้า ถ้าพวกคุณล้อมเขา พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นอะไรที่ไม่มากกว่าทหารราบสมองน้อย
「แกมันคนน่ารังเกียจ ผู้กดขี่คน ชั้นจะลงโทษแกเอง!」
อิริจิน่าแทงหอกระหว่างที่ขี่ม้า ขณะที่เธอนำแนวหน้าของทหารม้าหอก เหวี่ยงหอกของเธอจากข้างบนม้า เธอกำราบทหารของเทรียทีละคน บางทีเธอรู้สึกแค้นใจที่คนจากบ้านเกิดของเธอถูกกดขี่ สำหรับพลเมือง กองทัพของอาร์คแลนด์นั้นโหดร้ายที่สุด แต่ผมจะไม่พูดอย่างนั้นกับสาวที่ไร้เดียงสา
「ซอร์ย่า!」
หลังจากฆ่าไปประมาณห้าคน ฝูงของพลหอกศัตรูขัดขวางเธอ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ธนูที่ลงไปเป็นห่าฝนเทลงมาจากข้างบนเนินเขา ทีมของพลหอกล้มไปอย่างรวดเร็ว และเป็นอีกครั้ง อิริจิน่าสามารถกลับไปอาละวาดต่อ มองดูเธออาละวาดทำให้ผมตื่นเต้นด้วย
「ลีโอโพลต์ นำ」
「อย่าทำมันเกินไป」
พูดอย่างเป็นกลาง ผมอยากจะอาละวาดบนสนามรบมากกว่าอยู่ในฐานและออกคำสั่ง เพราะทั้งหมดลีโอโพลต์เดิมทีแล้วเป็นคนที่ควบคุมทั้งทีม
「หนูจะไปเป็นเพื่อนพ่อ」
「ปีปี้ก็จะไปด้วย」
ซีเลียและปีปี้ ด้วยกันกับทหารม้าที่จะไปด้วยกันสิบคนมาด้วย นำม้าของพวกเธอมากับเขา อย่างที่คาด ลีโอโพลต์และซีเลียขอให้ผมหยุดการขี่ออกไปคนเดียว จากที่ลีโอโพลต์พูด ถ้าผมตาย งั้นทั้งทีมจะพังทลายและมันค่อนข้างจะสร้างความรำคาญให้เขา
「แต่ชั้นจะไม่พลาดแบบนั้นนะ」
ผมเข้าทะลุตรงกลางของรูปแบบ ผมตัดหัวของคนที่ดูเหมือนขุนนาง และสร้างความวุ่นวายระหว่างที่อยู่บนหลังม้ากับการโจมตีซึ่งหน้าที่กระทันหัน ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีความหมายที่จะลังเลที่จะโจมตี เพิ่มเติมจากนั้น ในแง่ของจำนวน ศัตรูมี 5000 และพวกของเรามี 3000; แม้ว่าพิจารณาการเสียไปไม่มากก็น้อยจากการสู้กับชาวนา พวกเรายังเสียเปรียบทางจำนวนอยู่ มันจะเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าเราขยี้ศัตรูได้ระหว่างที่พวกเขาสับสน
「กะ-เกิดอะไรขึ้น?!!」
ผมแทงตัวท่อนบนของผู้บัญชาการที่ลนลาน และกระทืบทหารราบที่ทำหน้าที่เป็นคนคุ้มกัน หลังจากที่เหวี่ยงหอกของผมอย่างสมบูรณ์ ทหารราบได้มาจากด้านข้างของผมกระทันหัน ดังนั้นผมใช้มือซ้ายเพื่อต่อยเขาไป
「กุเอ่ะ!」
「ฮฮฮิ้ห์! สัตว์ประหลาด!」
ใครเป็นสัตว์ประหลาดกัน? ผมแค่ต่อยหัวเขาแยกด้วยหมัดของผม ผมตอบแทนทหารที่หยาบคายโดยการจับคอเขาด้วยมือซ้ายที่เปื้อนเลือดของผม และหักคอของเขา
ศัตรูได้ถอยอย่างช้าๆ ระหว่างที่ชี้อาวุธมาที่ผม ผมพูดไม่ได้ว่าพวกเขากล้าหาญเมื่อเทียบกับชาติภูเขาและแม้แต่ทหารของผมเอง นั่นทำให้ผมจำได้ เทรียไม่ได้รุกมากในการต่อสู้กับอาร์คแลนด์
จากนั้น ทหารม้าหนักสามคนของศัตรูที่ถือหอกใหญ่ได้พุ่งเข้าตีมาหาผม มันดูเหมือนศัตรูมีบางคนที่จัดการกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วด้วย ผมนำหอกขึ้นด้วยเหมือนกัน และกำลังจะไปปะทะกับพวกเขา ก่อนที่จะปะทะกับพวกเขา เพราะพวกเขาถอดเกราะหมวดเพื่อการหายใจและมองให้ชัดเจนขึ้น รับธนูเข้าไปที่หน้าและตกจากหลังม้า
「หัวหน้า! คิดยังไงกับทักษะของปีปี้?」
「พวกเขาสามคนในสิบวินาทีเหรอ? ……น่าประทับใจ」
ผมสนใจแค่ความแม่นยำของการยิงบนหลังม้า แต่ความเร็วในการยิงมันก็เร็วด้วยเหมือนกัน แม้ว่าในหมู่ชาติภูเขา ปีปี้อยู่ในระดับของตัวเอง แต่มองดูสภาพของการต่อสู้ ทหารม้าธนูนั้นเอาชนะอยู่ฝ่ายเดียวกับกองทัพของเทรีย ที่ราบทำให้พวกเขาทรงพลังไปแล้ว แต่การได้ธนูคอมโพสิท และลูกธนูคุณภาพที่เหนือกว่า ทวีคูณความสามารถของพวกเขาขึ้นหลายครั้ง และตัวของพวกเขาเทียบได้กับม้าของพวกเขา และค่อนข้างเล็ก ดังนั้นความเร็วที่พวกเขาวิ่งเป็นทางตรงด้อยกว่าทหารม้าธรรมดา อย่างไรก็ตาม เมื่อพยายามจะยิ่งหนีจากเขาที่ยิงคุณจากข้างหลัง มันเป็นงานที่ลำบาก
กองทัพของเทรียได้รับความเสียหายจากการโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัวและอยากจะวิ่งหนีโดยเร็ว แต่มันไม่ใช่ความเสียหายมากพอที่จะทำลายพวกเขา แต่ในการต่อสู้ที่เริ่มกระทันหันลดกำลังใจของพวกเขาลง
「ทหารม้าธนู จัดการศัตรูที่หนีจากข้างหลัง! ทหารม้าหนักและทหารม้าหอกจะพุ่งเข้าตีศัตรูที่สู้กับชาวนา!」
ไม่ว่าจะยิงได้อย่างละเอียดอ่อนและแม่นยำแค่ไหน ถ้าคุณยิงธนูในการต่อสู้ที่อิสระสำหรับทุกคน และคว้าระยะของกัน คุณจะทำให้คนบาดเจ็บอย่างไม่เลือก มันอาจจะกลับมากัดตูดเราภายหลัง
ผมอยู่ข้างหน้าโดยการนำทหารม้าและกระโดดเข้าไปในหมูศัตรูที่กองทัพของเทรียและชาวนาสู้กันอยู่ ฟันศัตรูคนไหนก็ตามที่อยู่ในระยะของผมตาย ศัตรูที่ถูกฆ่าถูกบดเป็นชิ้นๆและกระจายกันออกไป มันธรรมชาติสำหรับทหารของเทรีย แต่แม้ว่าชาวนาที่ผมควรจะช่วยยืนอยู่ที่นั่นอย่างมึนงง และผู้หญิงอายุน้อยๆก็สลบไปด้วย มันไม่เหมือนว่าผมอยากจะฆ่าพวกเขาอย่างโหดร้าย มันแค่หอกของผมเป็นระดับที่หนัก และทุกอย่างที่มันสัมผัสถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
「ทำไมกองทัพของโกลโดเนียถึง-?!」
「ทำไมพวกเขาไม่บอกมันกับเรา?!」
ไม่มีอะไรที่ผมจะตอบคำถามของคนพวกนี้ได้ ผมแค่ถือหอกผ่านตรงกลางของตัวอัศวินสองคนที่จัดการกับสถานการณ์ไม่ได้และจบพวกเขา
「เอเกอร์-ซามะ ศัตรูพังทลายทุกด้าน ถ้าทีมทหารราบเข้ามาร่วมด้วย มันควรจะเป็นการปราชัยของศัตรู」
ซีเลียยืนบนเข่าของเธอระหว่างขี่ม้าและพยายามที่จะเข้าใจสถานการณ์โดยมองให้สูงขึ้น มันค่อนข้างเป็นท่าที่ไม่มีเหตุผล ดังนั้นระวังอย่าหล่นนะ
「มาทำอย่างนั้นกันเถอะ ในท้ายที่สุด มันแค่การต่อสู้อุบัติเหตุ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องกวาดล้างศัตรู」
ทันใดนั้น กลุ่มหนึ่งในหมู่ความวุ่นวายได้ถูกพบว่าหนีไวที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้ พวกเขาขี่บนหลังม้าในรูปแบบที่ชายคนหนึ่งถูกล้อมโดยคนอื่น และทุกคนใส่ชุดเกราะที่ฉูดฉาดและโดดเด่น
「ผู้บัญชาการ หือห์?......ทำไมชั้นไม่ขยี้เขาระหว่างที่ชั้นทำมันอยู่ล่ะ」
ผมคิดเกี่ยวกับการโยนหอก แต่ระยะทางามันมากกว่า 50 ม. แต่ผมไม่คิดว่าผมจะปาโดนบางคนบนหลังม้า
「ปีปี้ คนที่ฉูดฉาดที่อยู่ตรงกลาง – เธอจัดการเค้าได้มั้ย?」
「ได้ ถ้าหนูยิงโดน นายจะมอบรางวัลให้หนูมั้ย?」
ช่างน่ารัก ผมจะมอบขนมบางอย่างให้เธอที่ผมแอบซื้อมาภายหลัง
「ลมพัดไปด้านข้าง รอเดี๋ยว」
ปีปี้ทำให้นิวเปียกด้วยน้ำลายและชี้มันขึ้นบนอากาศ และหลังจากที่ลมสงบชั่วคราว เธอใส่ลูกธนูและปล่อยมันอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่เรารออยู่ ระยะระหว่างเขาและเราเพิ่มไปมากถึง 100 ม. แต่ลูกธนูขึ้นไปบนฟ้าเฉียงๆและดั่งมันถูกดูดเข้าไป แทงข้างหัวของชายคนดันตรงเป้าเผง ทันไดทันใดนั้น ชายแข็งตัวตรงบนหลังม้าและตกม้า
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี่ยงการตายทันทีจากลูกธนูเข้าไปที่หัว
「บุกเข้าดี! มอบความปราชัยให้ศัตรู!」
บนคำสั่งของการตะโกนที่น่ารักของซีเลีย ทีมทหารราบก็เริ่มรุกรานด้วย เส้นกองกองทัพเทรีย ได้ถูกแยกโดยทหารม้าที่ทำตามใจ พังทลายไปทันทีที่ทหารราบบุกเข้าตี แต่แม้แต่ชาวนาก็ตามพวกเขาเพื่อไล่พวกเขาไป
「รางวัล หนูรอคอยมัน」
เห็นว่าการต่อสู้ได้จบลงแล้ว ปีปี้กระโดดกลับเข้ามาที่ชวาร์ซ เมื่อเธอฝังหน้าของเธอเข้ามาที่อกผม ผมเข้าใจว่าเรามีความหมายของรางวัลที่ต่างกันในใจของเรา
「มันเป็นชัยชนะของเอเกอร์-ซามะ! ……ทำไมเธออยู่บนม้าเดียวกันกับเอเกอร์-ซามะ?」
โดยไม่ตอบซีเลียที่หรี่ตา เราขี่เข้าไปข้างหน้าชาวนาที่ฝังอยู่ในดิน การตอบสนองของชาวนาทั้งหมดเหมือนกันและดี
「ฮูเร่ให้โกลโดเนีย!」
「ชั้นคิดว่าเราจบเห่แล้ว」
「คนนั้นคือลอร์ดฮาร์ดเลตต์เหรอ?」
「ตัวเป็นๆ……」
ระหว่างที่ซีเลียและลีโอโพลต์ รับของมูลของรูปแบบตามกัน มันจำเป็นต้องทำให้ทุกคนสงบลง
「ทุกคนฟัง! การต่อสู้นี้เกิดขึ้นด้วยความจริงที่ว่าอาณาจักรเทรียได้ข้ามชายแดน โดยการโจมตีมาที่เรา ชั้นไม่ได้สนับสนุนการกบฏของพวกนาย แต่ชั้นจะไม่หยุดใครก็ตามที่อยากจะเข้ามาในดินแดนของชั้น」
เสียเชียร์ปะทุจากทุก ผมไม่มีอารมณ์ติดพันกับพวกเขา แต่เมื่อผมเห็นพี่สาวน้องสาวกอดกันระหว่างที่ร้องไห้ ผมรู้สึกว่าผมได้ทำอะไรดีๆ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะกอดพวกเธอทั้งสองคนด้วยกัน
「ยังไงก็ตาม เมื่อพวกนายเข้ามาที่ดินแดนของชั้น พวกนายไม่ได้รับอนุญาตให้ถืออาวุธ ดาบ หอก หรืออะไรบางอย่างแบบนั้น ทุกอย่างต้องถูกทิ้ง」
หลังจากที่พวกเขาถูกปลดอาวุธ ที่เหลือจะถูกทิ้งให้อดอล์ฟ ตั้งแต่ตอนนั้นมา ผมคุยกับลีโอโพลต์นิดหน่อย แต่พวกเขารอสิ่งนั้นไม่ได้ แต่ มีแถวของชาวนาที่รีบทำอย่างนั้นในความสุข
「วิสเคานต์ฮาร์ดเลตต์-ซามะ เราสนับสนุนการกบฏแต่เราไม่ใช่ชาวนา เราเป็นทหารในกองทัพประจำ เพราะอาร์คแลนด์ได้หายไป พวกเราไม่มีที่จะไป ……ดังนั้นท่านใส่เราเข้าไปในกองทัพของท่านได้มั้ย?」
ปรกติแล้วคนแบบนี้จะเป็นทหารรับจ้าง แต่กฎอาชีพของเทรียจะไม่อนุญาตเรื่องนั้น
「งั้น ไปจนถึงราเฟนด้วยกันกับชาวนา พวกนายจะถูกจ้างใหม่เป็นส่วนหนึ่งของทหารส่วนตัว เพราะชั้นทำมันตอนนี้ไม่ได้」
ปฏิบัติการที่จะมาต้องการความเร็วและความสามารถเป็นผู้นำ เราจะเข้าสู่ดินแดนของศัตรูไปแบบนี้ ผมไม่อยากจะพาคนที่ไม่รู้นิสัยมาด้วย แค่เพิ่มจำนวนจากพวกนั้นที่รวมกันอยู่จะเพียงแค่ทำให้เราช้าลง
ผู้คนจากทิศตะวันออกและการเตรียมการของเราเสร็จแล้ว
「ลีโอโพลต์ ได้บอกราชวงศ์รึยัง?」
「ครับ ผมได้ส่งผู้ส่งสาส์นไปเพื่อบอกอาณาจักรถึงอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการปะทะของกองกำลัง ม้าจะใช้เวลาสองวันเพื่อไปที่เมืองหลวงและสองวันเพื่อกลับมา รวมกันแล้วสี่วัน ต้องจำเป็นต้องให้งานนี้เสร็จ」
「งั้น มารีบกันเถอะ」
คนที่ตั้งแถวกันอยู่มีแค่ทหารม้าและเกวียนเสบียง ทหารราบที่ช้าจะทำหน้าที่เป็นคนคุ้มกันพลเมืองและคนเฝ้าระวังขณะที่พวกเขากลับไปที่ราเฟน ที่ต้องการต่อจากตอนนี้ไปเป็นความเร็วที่ท่วมท้น
「ทั้งกองทัพ เคลื่อนทัพ! มาเอาชนะพวกเทรียกันเถอะ」
—————————————————————
【–มุมมอง บุคคลที่สาม/อีริช–】
สองวันต่อมา เมืองหลวงของโกลโดเนีย
「......คนนั้นทำอะไร?」
อีริชเห็นจดหมาย รับรู้ว่าเขาซีด มีสามอย่างเขียนอยู่ที่นั่น:
กองทัพของเทรียและชาวนากบฏได้สู้กันตรงชายแดนของบริเวณทิศตะวันตก ดังนั้นฉันมุ่งหน้าไปที่เขตของศัตรูเพื่อจะระมัดระวัง
ในที่เดียวกัน เราได้ถูกโจมตีโดยกองทัพของเทรียและทำการโจมตีสวน ดังนั้นเราต้องเอาชนะเขา
เพื่อที่จะกวาดล้างภัย ฉันตามทหารที่หนีไปและเริ่มมุ่งหน้าเข้าไปที่ดินแดนของเทรีย
เนื้อหาของประโยคสั้นๆนั้นเพียงพอสำหรับอีริชที่จะหยุดหน้าที่อย่างเป็นทางการของเขา และหาการเข้าพบกับราชา จดหมายที่มีเนื้อหาเดียวกันควรจะถูกส่งให้ราชวงศ์ด้วย
「แค่เมื่อชั้นคิดว่านายเคลื่อนไหวไปที่ดินแดนไม่นาน นายไปสร้างปัญหาบางอย่างไวขนาดนี้……」
ไม่มีใครรอบอีริช แต่เขาช่วยไม่ได้นอกจากจะบ่น
—————————————————————
「พระองค์ ผมเชื่อว่าท่านอยู่ในอารมณ์ที่ดี……」
「ได้โปรดหยุดมันอีริช แม้ว่าเจ้าชื่นชมฉัน ฉันจะอิ่มตัว」
ราชา……อเล็กซานโดรที่หนึ่งขอให้คนรับใช้ไปและให้อีริชที่คุกเข่ายืนขึ้น
「งั้นได้โปรดให้อภัยผม ครั้งนี้ ที่จะมาถามการพบที่ฉุกละหุก……」
ขณะที่ราชารู้ว่าอะไรที่จะพูด เขาถือจดหมาย
「จดหมายก็มาถึงฉันด้วย มันดูเหมือนฮาร์ดเลตต์ได้ทำมันแล้ว」
ราชาอ้าแขนและแสดงความกังวลและยิ้มอย่างขมขื่น
「มันเป็นการขาดการนำของผม ผมขอโทษอย่างจริงใจ」
「เจ้าพูดอะไร? ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นขุนนางที่ฉันได้มอบชื่อวิสเคานต์ให้ และเป็นเพื่อนร่วมงานของเจ้า ไม่มีใครนอกจากฉันที่ควรจะรับผิดชอบ」
มันเป็นอย่างนั้นในทฤษฎี แต่ความจริงที่ว่าอีริชอยู่ที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของขุนนางใหม่ หมายความว่าเขาต้องการจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์
「ไม่ว่าอย่างไร มีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะบ่นเกี่ยวกับบางอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ฉันอยากจะรู้ว่าเราจะสรุปความขัดแย้งที่อย่างไร」
「ในจดหมาย มันพูดว่าพวกเขาโจมตีก่อน ถ้านี่เป็นความจริง การกระทำเกินไปของเขาถูกยกโทษได้ ปัญหาคือพยานและคนที่หนี……ถ้าท่าดูจากข้างๆ พวกเขาเป็นคนทรยศ พวกเขาอาจจะยืนกรานว่าคนจะโกหกเพื่อที่จะทำให้พวกเขาอยู่ในความเสียเปรียบ」
「หืม มันอยู่บนหลักฐานที่ลอร์ดฮาร์ดเลตต์นำทัพเค้าก่อน?」
「ยังไงซะ ผมเชื่อว่ามันเป็นการปะทะที่เป็นอุบัติเหตุ พวกเขาต้องหยุดการโจมตีหลังจากที่ทหารได้ถูกนำ」
อีริชพูดบางอย่างกลับกับราชาด้วยหน้าตาที่สงสัย แต่ราชาคิดอย่างเงียบๆ
「จดหมายได้ถูกส่งมะรืนวาน ใช่มั้ย? มันจะขึ้นอยู่กลับว่าเขาเดินหน้าไปไกลแค่ไหนระหว่างสองวันนี้」
อีริชกางแผนที่ที่เข้านำไปที่โต๊ะ เขาก็เป็นนายพลที่มีประสบการณ์ที่นำกองทัพหลายครั้ง; เขาคิดถึงความเร็วของการเดินทัพของกองทัพได้อย่างแม่นยำ
「กองทัพของเทรียปราชัย ดังนั้นไม่มีศัตรูที่ดีๆในบริเวณทิศตะวันตก ถ้าพวกเขาเดินหน้าได้ตามใจต้องการ งั้นพวกเขาจะอยู่ที่จุดนี้ และถ้าเวลาที่พวกเขาส่งผู้ส่งสาส์นที่ใช้เวลามาถึงสองวัน งั้น พวกเขาควรจะมาถึงบริเวณชานเมืองของเมืองที่เรียกว่าเมย์เซ่」
「พวกเขาไม่ได้ก้าวหน้าไปมากอย่างคาดไม่ถึง」
「เวลาที่กองทัพเดินได้ในหนึ่งวัน ยกเว้นเวลาพัก มันประมาณหกชั่วโมง มันจะใช้เวลานานกว่าถ้าพวกเค้าไม่คุ้นเคยกับดินแดน การคำนวนก็พูดถึงสภาพอากาศดีด้วย」
「งั้นเราจะออกคำสั่งให้พวกเขาหยุดใกล้กับเมืองเมย์เซ่ ในเวลาเดียวกัน เราจะส่งผู้ส่งสาส์นไปที่เทรีย เพื่อจะบอกพวกเขาว่าเราจะทำการเจรจา ด้วยข้อกำหนดเบื้องตนที่พวกเขาต้องนำทหารถอยไป นั่นจะเพียงพอไหม?」
「ครับ ผมเชื่อว่านั่นเป็นอุดมคติ อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะทำตามอารมณ์จากการที่มีคนมาเหยียบดินแดนของพวกเขา และอาจจะไม่ทำตามการหยุดโจมตี เผื่อไว้ ผมจะเตรียมกองทัพกลางเพื่อเตรียมการสำหรับการต่อสู้」
จากนั้น ราชาพูดบางอย่างที่ไม่ชัดเจนอย่างคาดไม่ถึง
「อีริช นี่เป็นสิ่งสมมุตินะ ถ้าเจ้าปล่อยให้ฮาร์ดเลตต์ทำตามใจ ปัญหามากเท่าไหร่ที่เขาจะก่อขึ้นในเทรีย?」
「......ผมจงใจพยายามที่จะไม่ถามคำถามนั้น แต่ทักษะและอุปกรณ์ของกองทัพทิศตะวันออกภายใต้การบัญชาการของเขา ไม่ต่างกันกับกองทัพกลาง รวมไปถึงกองทัพส่วนตัว กองกำลังของเขาควรจะมีขีดจำกัดอยู่ที่ประมาณ 3000 เขามีทหารม้าอยู่เยอะ ดังนั้น เขาอาจจะดันศัตรูตรงที่ราบ แต่เขาไม่ควรจะไปถึงเมืองป้อมปราการในทิศตะวันตกของบริเวณกลาง เมื่อเรียเรียกกองทัพเต็มรูปแบบในที่สุด เขาจะเทียบไม่ได้เลย」
「งั้นเมื่อเทรียนำทัพของเขามาที่เขา ถ้ากองทัพกลางลงไปหาเขาจากบริเวณทิศเหนือด้วยล่ะ?」
อีริชมองขึ้นมาวินาทีหนึ่ง แต่พูดต่อ
「เทรียจะหายไปจากแผนที่ แต่……」
「ประเทษของฉันจะเสียความถูกต้องที่ยิ่งใหญ่ไป และประเทศรอบข้างจะกลายเป็นศัตรู……ใช่มั้ย?」
「ครับ」
ราชาถอนหายใจหนึ่งครั้ง
「นี่ก็เป็นการสมมุิต แต่กองทัพกลางจะขยี้อาณาจักรเทรียได้มากแค่ไหน?」
「มันจะใช้เวลาสองเดือนเพื่อดึงกำลังหลักของพวกเค้าออกมา ถ้าพวกเค้าป้องกัน งั้นเราทำได้แค่ภาวนากับพระเจ้า」
กองทัพของเทรียไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น แต่มีป้อมปราการในเขตชายแดนทิศเหนือจากหลายปีของความขัดแย้งกับอาร์คแลนด์ สิ่งนั้นมีกลุ่มของป้อมที่หนาและเป็นเหตุผลที่เทรีย ที่ด้อยกว่าในอำนาจทหาร ทนการโจมตีเต็มรูปแบบของอาร์คแลนด์ได้ มันไม่ง่านทีจะเข้าตีแม้ว่าการเน้นการยิงของอาวุธล้อมเมือง
「ความต่างของกองกำลังโตขึ้นในแต่ละวัน มันควรจะง่ายที่จะบังคับพวกเขาให้ออกมาจากดินแดนที่พวกเค้าปกครอง แต่เมื่อมันเป็นเรื่องของบ้านเกิด……」
「มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะอ้อมจากบริเวณทิศตะวันออกด้วยหรือ?」
「ถนนย่ำแย่และไม่เหมาะสมกับการเคลื่อนทัพกับมัน ทางหลวงบริเวณทิศตะวันออกยังสร้างอยู่」
「ฉันเดาว่ามันยังเร็วเกินไปเล็กน้อย」
ราชายิ้มอย่างขมขื่น
「ดีมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฮาร์ดเลตต์เหนือกว่าในการต่อสู้ จำนวนของทหารที่ฉันให้เขายืมมีจำนวนแค่ 2000 ถ้าเขาถูกโจมตีโดยกองกำลังเต็มรูปแบบ เขาจะถูกดันกลับมาที่ดินแดนของเขา การเบี่ยงเบนความสนใจเป็นสิ่งจำเป็น」
「ยังไงซะ นั่น…….แม้อย่างนั้น มันจริงที่ว่าเขาเอาชนะศัตรู 5000 คนในสถานการ์แตะและไป เขาค่อนข้างน่าประทับใจ」
ราชาส่งเสียงและทำลายท่านั่งของเขา
「เขามีนิสัยที่ไม่ดีด้วย แต่เขาไม่ใช่คนที่ขี้อวด มันหายากสำหรับชายระดับนี้จะมีตัวตนอยู่บนสนามรบ แต่เขาก็เป็นผู้บัญชาการชั้นหนึ่งด้วย」
อีริชรู้ จุดแข็งของเขาคือเขาเหวี่ยงหอกได้ และไม่ต้องพูดถึง เขาไม่มีความสามารถที่จะบัญชาการทหารหลายพันสูง เพื่อทดแทนสิ่งนั้น เขามีลูกน้องคนนั้นที่ชื่อลีโอโพลต์
มันเป็นอย่างนั้นแน่นอนสำหรับลูกน้องของเขา แต่แม้ว่าเทียบกับอีริชเอง มันคาดว่าเขามีความสามารถการเป็นผู้นำและความสามารถในการวางแผนที่เหนือกว่า มันไม่เหมือนว่าเขาหาชายที่มีทักษะโดยเฉพาะไปทั่ว ดังนั้น เขาไปรับคนที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นแบบนั้นได้อย่างไร – อีริชรู้สึกอิจฉาแบบนี้
นั่นทำไมความสงสัยของอีริชยังไม่จบ ถ้าเขาเป็นชายที่ฉลาดแหลมคมอยู่กับเขา เขาความจะเข้าใจว่าไม่มีความหมายที่จะเกี่ยวก้องลึกกับการปะทะของกองกำลังที่เป็นอุบัติเหตุนี้
「อย่างที่ฉันพูดมันมาก่อน ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ไม่ใช่ลูกน้องของเจ้าหรืออะไรก็ตามอย่างเป็นทางการ ฉันจะส่งผู้ส่งสาส์นในชื่อของราชวงศ์ เจ้าจงพักผ่อนให้สบายและกลับไปที่คฤหาสน์」
「ผมเข้าใจ แต่มันไม่เหมือนว่าผมรู้สึกโล่งใจได้ ท้องของผมป่วยแค่โดยการคิดว่าเค้าจะทำเละเทะอะไรต่อ」
ราชาหัวเราะออกมาดังๆ ระหว่างที่อีริชลดหัวของเขาและออกจากห้อง
ในหัวของอีริช ข่าวที่บารอนพีดอทถูกโจมตีโดยคนป่าเถื่อนและรายงานความเสียหาย และการเรียกร้องหนีที่เกิดขึ้นเพื่อฝังความเสียหายได้ถูกจัดอันดับอยู่ด้านหลังไกลๆ มีการร้องขอที่ขึ้นมาจากพลเมืองที่บ่นว่าเขาได้กระทำสกปรกกับเด็กเพิ่งเกิดด้วยเหมือนกัน ความหมายของความจริงใจก็ไม่อยู่ในจิตใจที่นั่นด้วย
—————————————————————
【–มุมมอง เอเกอร์–】
สามวันต่อมา อดีตอาร์คแลนด์ ดินแดนของอาณาจักร์เทรีย
「มันดูเหมือนการตอบของราชวงศ์มาที่นี่แล้ว」
มันดูเหมือนผู้ส่งสาส์นขี่ม้าระหว่างตอนกลางคืนเพื่อมาที่นี่ เมื่อผมถามเขา มันดูเหมือนเขาไม่คิดว่าเราอยู่ในที่ที่เขาคิดตอนแรก ดังนั้นมันใช้เวลาเพิ่มอีกวันที่เขาจะมาถึง
「โอ้ อ่านมันให้ชั้น」
จดหมายได้ถูกส่งให้ลีโอโพลต์และซีเลีย ที่อยู่ข้างหลังผม เคลื่อนไหวอยู่ เพราะลีโอโพลต์เตี้ยกว่าผม เธอแอบดูได้จากข้างหลังถ้าเธอยืนด้วยปลายเท้าอย่างสิ้นหวัง
「เราจะหยุดที่เมืองเมย์เซ่โดยไม่โจมตี และจะมีการหยุดโจมตีระหว่างที่เราทำการเจรจา……?」
โอ้ อิริจิน่าอุ้มซีเลียขึ้น เธอดิ้นรนซักพัก แต่ใจเย็นลงเมื่อเธอรู้ว่าเธออ่านจดหมายได้อย่างง่ายๆ
ยังไงซะ ตอนนี้เราได้อยู่ในคฤหาสน์ที่เรายึดมาจากขุนนางในเมืองที่เรายึดครองแค่เมื่อเช้านี้
「งั้นเมย์เซ่เป็นชื่อของเมืองนี้เหรอ?」
「ไม่ มันไม่ใช่ เมืองนี้เรียกว่าวาเลร่า และมันเป็นเมืองแกนกลางของบริเวณกลางของอดีตอาร์คแลนด์เก่า เราผ่านเมย์เซ่ไปเมื่อสองวันก่อน อัศวินของลอร์ดศักดินาได้ตะโกนอย่างดัง……」
โอ้ใช่ อัศวินคนนั้นที่เปลี่ยนเป็นเม่นหลังจากที่เขาพุ่งเข้าที่ข้างหน้าทหารม้าหอก ต้องการการดวลระหว่างที่ตะโกนด้วยเสียงดัง! ตั้งแต่ตอนนั้นมา ผมบอกชาติภูเขาผ่านปีปี้ว่าถ้าพวกเขาไม่รีบ ให้พวกเขาพูดจนจบ
「บอกเราให้หยุดที่นั่นในเวลานี้」
「มันเป็นการบ่งบอกที่ดี แม้ว่าสำหรับกองทัพโกลโดเนีย มันหมายถึงว่าความเร็วการเดินทัพของเราเร็วกว่าที่คาด」
ระยะของเมย์เซ่มาที่นี่ไกลมากกว่าระยะของชายแดนไปที่เมย์เซ่ ความเร็วของการเดินหน้าของเราน่ากลัว ถ้าผมพูดเอง มันเร็วกว่าความเร็วที่ผมมีประสบการณ์ในกองทัพกลางสามเท่า ทหารม้าธนูทำหน้าที่เป็นกำลังหลัก และไม่ถูกขัดขวางโดยสภาพของทางหลวง ระหว่างที่ทหารม้าอื่นก็งฝึกที่จะเดินทัพอย่างรวดเร็วในป่าเขาด้วย; ปัจจัยสองอย่างนี้สำคัญ ผมเดาว่าคุณพูดได้ว่าไม่พอใจกับถนนเป็นผลข้างเคียงของการคุ้นชินกับการอาศัยในภูมิภาคชนบท
ตั้งแต่แรก เราไม่มีเจตนาจะเอาเมืองและหมู่บ้านในบริเวณของชายแดน เราแค่เอาเปรียบจากทหารที่หนี และความสับสนที่รุกล้ำไปตลอดทางถึงเมืองหลัก เราไม่ควรจะทนมันได้ แต่ถ้าเราตีเมืองขนาดนั้นได้ เราจะสามารถยึดสมบัติของขุนนางและพ่อค้าได้
「มันเหมือนเราเป็นโจรเลย」
「คนที่เสนอเรื่องนี้คือนาย」
ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเรายืดเมือง มันจะทำหน้าที่เป็นความได้เปรียบของเรา ถ้าพวกเขาอย่ากจะเอามันกลับไปด้วยกำลัง งั้นเราก็แค่เผาทั้งเมืองและถอนได้ เพราะมีความต่างในความคล่องแคล่วสูง เราจะเป็นคนที่มีการขึ้นนำตลอด ถ้าเราอยากที่จะวิ่ง เราถอยทัพได้ทุกเวลาที่เราต้องการ
วาเลร่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ ที่มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่หลายพันคน และยังมีกำแพงชั้นนอกถูกคิดตั้ง พวกเขาไม่มีกองทัพอยู่ในกองประจำการ และไม่มีการป้องกันเมือเราปรากฏขึ้นมากระทันหันนะ…….ปรกติแล้ว เมืองแบบนี้จะไม่ถูกทิ้งเพราะการป้องกันของมัน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่การต่อสู้เมื่อวันก่อน และเพราะการหนีที่ต่อเนื่องของกองทัพเทรีย และการทำลายทีมสนับสนุนที่ขนเสบียงของกองทัพ ที่ไม่รู้เกี่ยงกับการพ่ายแพ้ของกองกำลังหลัก ความต้องการกองทัพที่จะสร้างการป้องกันใหม่ได้ถูกตัด นอกจากการจะเน้นหนีไปที่ทิศตะวันตก พวกเขาไม่ทำอะไรอย่างอื่น
ยามเมืองที่ปกป้องวาเลร่าไม่สู้เมื่อพวกเขาเห็น ทหารม้ามากกว่า 1000 คนและยอมแพ้ ขุนนางข้างในเมืองกระจายกันเพื่อที่จะเป็นคนแรกที่วิ่งออกจากเมืองด้วยแค่เสื้อผ้าอยู่ที่หลังของพวกเขา ผมคิดเกี่ยวกับการจับพวกเขา แต่โดยไม่มีคนพวกนั้นอยู่ที่นี่ มันจะทำให้หยิบของของพวกเขาง่ายกว่า ดังนั้นผมปล่อยเขาไป แล้วก็ ข้ออ้างสุดยอดคือกำจัดภัยกับดินแดนของผม ดังนั้นมันจะสร้างปัญหาหลายรูปแบบถ้าผมต้องจัดการกับขุนนางในเมืองนี้
「คุณทำอะไรบางอย่างกับคนรับใช้ ไม่ใช่เหรอ เช้านี้ มีผู้หญิงเปลือยครึ่งหนึ่งเกือบจะร้องให้」
「ชั้นถูกพูดเข้าไปเรื่องนั้น แต่ชั้นแค่จูบและลูบไล้เธอ ชั้นไม่ได้โจมตีเธอ」
เธอเป็นสาวไม่มีประสบการณ์จากครอบครัวที่ดี และเมื่อเธอเห็นความต้องการของผู้ชายดิบๆเมื่อเขาอยากจะทำมัน เธอกลัว ผมไม่คิดว่าเธอจะร้องไห้หลังจะที่ผมให้เธอเปลือยและเลียเธอทั้งตัว
แต่เรื่องนั้นไว้ก่อนนะ มันยากที่จะเคารพคำสั่งของราชวงศ์ ยังไงซะ ผมควรจะทำอะไรดี?
「แค่อธิบายสถานการณ์และเมินคำสั่ง สนามรบมีความสำคัญมากกว่า จากการตัดสินของพวกนั้นที่ตำแหน่ง」
「ชั้นเดาว่าอย่างนั้น ชั้นจะไม่ทำลายนโยบายที่จะรอการหยุดโจมตี ดังนั้นชั้นจะให้พวกเขามองข้ามตำแหน่งไปเล็กน้อย ชั้นหวังว่าการสนทนาจะสรุปได้อย่างเร็วก่อนที่ท้องของอีริชจะแตก」
มีหน่วยสอดแนมอยู่มากรอบๆวาเลร่าดังนั้นถ้ากองทัพใหญ่มา พวกเขาจะวิ่งหนี ขุนนางและผู้ส่งออกของรัฐบาลเทรียหนี และพลเมืองอื่นทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นมิตร ผมคิดเกี่ยวกับความจริงว่าเราตั้งแคมป์ที่นี่ในที่อันตรายและรอการหยุดโจมตี มันเหมือนสวรรค์เลย ผมจะปล่อยการเจรจาให้ลีโอโพลต์ระหว่างที่ผมสนุก
—————————————————————
「การคุยเกี่ยวกับการเมืองจบแล้ว อิริจิน่า ซีเลีย ดูแลพี่ได้มั้ย?」
เวลานั้นใกล้กับเทียงคืนไปแล้ว หลังจากการต่อสู้ ผู้หญิงที่ถูกพามาให้กระแทกความใคร่ของผมใส่วิ่งหนี ดังนั้นตัวผมเอ่อล้น
「ปล่อยมันให้หนู」
「ได้ จากใจ」
อิริจิน่าเข้าห้องนอนและโยนเสื้อผ้าของเธอทิ้ง ในทางกลับกัน ซีเลียใส่แค่กางเกงในของเธอ เธออยากจะเพิ่มความเงี่ยนของผมโดยการให้ผมถอดพวกมันเอง ซีเลียเป็นคนขยัน ดังนั้นเธอได้เรียนรู้มารยาทในตอนกลางคืนจากเมลิสซ่าและริต้า ดังนั้นผมลดการป้องกันของผมไม่ได้
「นนนู……พี่ชอบซีเลียมากกว่าหนูเหรอ?」
ระหว่างที่อาบอยู่ในเสียงที่มุ่ยของอิริจิน่า ผมลดกางเกงในของซีเลียอย่างช้าๆ ก้นที่แน่นและนุ่มของซีเลีย ช่องคลอดที่ปิดอย่างแน่น และขนเพชรสีเงินที่กระจายออกไปทั้งหมดได้ถูกเปิดเผย
「ดะ-ได้โปรดจูบหนู」
ความอายของการเล่นกับความคิดของแผนน่าจะไม่หายไป ซีเลียปิดหน้าของเธอ ย้อมเป็นสีแดง ด้วยทั้งสองมือ และพึมพำในเสียงที่เบา เธอต่างอย่างสิ้นเชิงเทียบกับปรกติที่เธอเป็นเมื่อเธอออกคำสั่งกับทหาร ผมจับกดสวยๆสีขาวของเธอ และคลานลิ้นของผมไปทั่วอวัยะเพศของเธอ ดูดแตดของเธอด้วย
「อะอุ! มันน่าอาย」
「มันขยายค่อนข้างนิดนึงเพื่อรับของของพ่อ ไม่ใช่เหรอ」
รูของซีเลียขยายอย่างดีโดยเคารพร่างการของเธอ เพราะเธอได้รับควยผมไปบ่อย มันได้ขยายมากขึ้นเล็กน้อย ผมใช้สะโพกและขยับได้จริงๆ ผมฝังลิ้นของผมลึกเข้าไปในหีของเธอ แต่ขนเพชรของเธอโดนจมูกผม เมื่อเราพบกันครั้งแรก ไม่มีขนโตอยู่ที่นั่น แต่ตอนนี้มันได้งอกอย่างถูกต้องเพื่อแสดงการมีอยู่ของมัน ขนเพชรสีเงิน ที่มีสีเดียวกันกับผมของเธอ ดูเหมือนจะได้ถูกดูแลอย่างดี เพราะมันไม่มีความรู้สึกของความไม่สะอาดเลย
「อะออุ หนูมีความสุขที่พ่อไปที่นั่น แต่ถ้าพ่อจูบหนูบนนี้ได้ด้วย……」
ระหว่างที่ยังยืนอยู่ ผมกอดซีเลียจากข้างหน้าและจูบกับเธออย่างเร่าร้อน กลิ่นผู้หญิงของเธอทำให้ควยผมแข็งและสร้างเต็นท์ในกางเกงของผม
「พ่อแข็งแล้ว หนูจะทำให้มันสบายกับพ่อตอนนี้เลย เค๊?」
ซีเลียนำกางเกงผมออกไปอย่างแนบเนียน และเมื่อผมเปลือยกับเธอพวกเรากอดกันอีกครั้ง ควยที่แข็งมากๆแทงหน้าอกและนมของเธอ
「ไม่ว่ากี่ครั้งที่หนูเห็นมัน มันน่าทึ่ง……. เมื่อหนูเห็นมัน มันรู้สึกเหมือนพ่อเป็นตัวร้ายเลย อ๊า-!」
ผมหยิบซีเลียด้านข้างและอุ้มเธอไปที่เตียง โยนเธอข้างบน มันหยาบนิดหน่อย แต่มีผู้หญิงหลายคนที่ชอบแบบนี้ เธอก็ด้วย มันบอกว่าผมจะสร้างความรักกับเธอและปั่นป่วนหัวใจของเธอ โดยเฉพาะนนน่า ถ้าผมแค่กระซิบคำหวานในหูของเธอ เธอจะเปียก แม้ว่าผมไม่ลูบไล้เธอ
「เอาเลยแล้วปลดปล่อยตัวเองแบบนี้」
ซีเลียผ่อนคลายระหว่างที่หันหน้าขึ้น และผมจูบต้นอ่อนน้อยๆของเธออย่างขยัน เมื่อมันเปียกมาก ผมจับทั้งสองขาและแหวกมันกว้าง ดันตัวของผมเข้าไปในที่ที่พิเศษของเธอ
「ฮฮฮิ้ออุ-!」
อย่างแรกส่วนที่ลึกที่สุด: ปลาย
「ฮาาอออออุ!」
ตามนั้น ผมดันไม้เข้าไปอย่างช้าๆ โอบกอดเธอและพัก รูของเธอควรจะหลวมค่อนข้างดี แต่มันแหวกถึงขีดจำกัดและดูเหมือนจะทำเสียงเอี๊ยด ถ้าผมไม่ทำให้มันเปียกอย่างดี และขยับทีละนิดทีละนิด มันดูเหมือนเธอจะเจ็บ มากกว่านั้น เธอจะไม่บอกผมอย่างแน่นอนถ้ามันทำให้เธอเจ็บ ดังนั้นผมต้องเดามันจากจำนวนของเหงื่อเย็น ตอนนี้ คิ้วบางๆของเธอผ่อนคลาย ดังนั้นเธอต้องรู้สึกถึงความรู้สึกดีแน่
「มันเป็นยังไง? มันรู้สึกดีมั้ย?」
「ใชชชชช่! ได้โปรดอย่าออมแรงและแทงตลอดทางไปถึงข้างหลัง」
ผมดันลึกเข้าไปข้างใน สนับสนุนซีเลียด้วยเสียงหวานและดื่มดำในความรู้สึกดี แม้ว่าหลังจากผมฝังเขาไปส่วนที่ลึกที่สุด ยังมีประมาณครึ่งของควยผมเหลืออยู่ แต่ผมเงี่ยนมากกว่าเดิมอย่างช้าๆ จากความรู้สึกของการแยกรูเล็กๆและน่ารัก สาวที่เกาะอย่างสิ้นหวัง
「เอเกอร์-ซามะ! เอเกอร์-ซามะะะ!」
แม้ว่าระหว่างที่ถูกเล่นเป็นของเล่นจากการเคลื่อนไหวของชาย เธอจูบผมที่หน้าอกและต้นคออย่างสิ้นหวัง ซ้ำแล้วซ้ำอีก ด้วยการกระทำที่น่ารักแบบนั้น และรูของเธอแน่นพอที่จะทำเสียง ความรู้สึกดีได้ก่อขึ้นเมื่อผมไปที่ช่วงเวลาสุดท้าย
「ซีเลีย เกาะพ่อ」
「ค่ะะะ! ได้โปรดมอบความเสน่หาลึกเข้าไปข้างใน-!」
ผมดูดอย่างแรงที่ต้นคอของสาว ที่เกาะตัวของผมด้วยทั้งสองแขนและขา ปล่อยอสุจิที่เก็บไว้ รู้สึกถึงอสุจิน้ำแตกเข้าไปในเธอ เธอปล่อยเสียงครางที่ยาวและยืดขณะที่เธอหมดกำลังอย่างช้าๆ และทรุดไปบนเตียง
「ยัก ป้ออ หนูยักป้อ เอเกอร์-ซามะะะ」
ตาของเธอเสียจุดโฟกัสและไม่ชัดเจนอย่างถูกต้อง มันดูเหมือนเธอถึงจุดสุดยอดอย่างงดงาม หลังจากที่เราทำการลูบไล้หลังจากเสร็จกิจของการลูบกับหน้าอกที่โตอยู่และดูดหัวนมของเธอ ผมดึงควยผมออก
「ขอโทษที่ทำให้หนูรอ อิริจิน่า หนูได้……เตรียมพร้อมแล้ว เข้าใจแล้ว」
อิริจิน่าได้ช่วยตัวเองระหว่างที่ซีเลียและผมมีเซ็กส์กัน เมื่อผมเห็นเธอมีสามนิ้วเข้าไปข้างใน ผมไม่ต้องการแม้แต่การลูบไล้
「หนูอยากได้มันยังไง?」
「จากข้างหลัง……แรงๆได้โปรด」
เธอวางมือของเธอลงที่โต๊ะแทนที่จะเป็นเตียงและหันตูดมาที่ผม ขณะที่ผมแทงเธอ ทำเสียงที่เข้มข้นของเนื้อตีกันก้องอยู่ในห้อง ด้วยชายที่รุนแรงครวญและผู้หญิงที่มีความสุขครางขณะที่คลอเคลียกัน กลางทาง ความรู้สึกดีของเธอก่อนขึ้นค่อนข้างเร็วและผมจับสะโพกของเธอ ใส่ตัวของผมไปตลอดทางถึงโคนด้วยกำลัง ทำให้อิริจิน่าน้ำแตกและทรุดไป
「อาาาา…… มันเข้าไปถึงโคนเลย โอ้ไม้! น้ำหวานไม่หยุดแตกออกมา」
แน่นอนว่า ผมกระแทกสะโพกของผมเข้าไปในผู้หญิงต่ออย่างไม่ปราณี ใส่น้ำหนักทั้งหมดของผมเข้าไปในเธอ ซีเลียตื่นขึ้นและเริ่มช่วยตัวเองบนเตียงขณะที่เธอดูการผสมพันธุ์ที่เหมือนสัตว์ของเรา ผมปล่อยข้างในอิริจิน่าขณะที่ผมปล่อยตัวของเธอ ซีเลียได้มาต่ออย่างอายๆ เมื่อผมคิดว่าผมจะโจมตีเธอยังไงต่อ ผมเงี่ยนและควยผมบวมขึ้นอีกครั้ง อย่างที่คาด รูของอิริจิน่านั้นแน่นมาก ยืดจนถึงขีดจำกับ ทำให้มันยากที่จะขยับ
「หนา……มันหนาเกินไป มันเหมือนเค้าใส่แขนของเค้าเข้าไปเลย……」
แรงที่ตึงเครียดมากจากอิริจิน่าขณะที่เธอถูกกด สติของเธอต้องลอยไปที่อื่นแล้ว แต่อย่างแรกผมต้องเสน่หากับผู้หญิงข้างล่างผมก่อน
「อิริจิน่า พี่จะแตกกับหนูแล้วนะตอนนี้ อย่าลังเลที่จะรู้สึกดี」
「อ-โอเค หนูอาจจะหมดสติแต่ไม่ต้องกังวลและปล่อยเมล็ดพันธุ์ของพี่เลย」
ผมคำรามและอิริจิน่ากรีดร้องเสียงสูงที่ไม่เมหือนตัวเธอเลย ผมแทงเข้าไปในเธอมากเสียจนตัวของเธองอและบิด และอย่างที่เธอเตือน เธอสลบขณะที่ผมปั้มเมล็ดพันธุ์ลึกเข้าไปข้างในตัวที่หมดแรงของเธอ
「มานี่」
ผมดึงตัวผมออกมาจากอิริจิน่า แต่ควยที่เต็มไปด้วยอสุจินี้ยังเต็มไปด้วยพลังงาน ขณะที่น้ำหยดไปที่พื้น ซีเลียนำมันไปที่เธอเองโดยไม่ลังเล และอีกครั้งที่เสียงของเราดังก้อง
การคืนดำเนินต่อไป
—————————————————————
เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์: 20 ปี – โหมดสงคราม
ทีม
กองทัพอิสระทิศตะวันออก: 500, ทหารม้า: 500
กองทัพส่วนตัวปรกติ: 200, ทหารม้า: 200
ทหารม้าธนู: 1000, ทหารม้า: 1000
รวม: 1700
ลูกน้อง: ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการกองทัพส่วนตัว), ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการกองทัพส่วนตัวปรกติ), ปีปี้ (หน้าที่ติดต่อสื่อสาร)
ตำแหน่งปัจจุบัน: อาณาจักรเทรีย (อดีตอาร์คแลนด์) บริเวณกลาง เมืองวาเลร่า
ความสำเร็จ: เอาชนะกองทัพหลวง 5000 คนของเทรีย ล้มหลายเมืองและหมูบ้าน ล้มเมืองบริเวณกลาง วาเลร่า
—————————————————————
เป้าหมายเดือน 5/66
ค่าเน็ต 200/200
กาแฟ 300/300
ค่าไฟ 100/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: "wayuwayu แปล"
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 152
แสดงความคิดเห็น