บทที่ 9...3/3
โรงพยาบาลเป็นที่ฝึกงานของธามิณีในครั้งนี้ โดยเธอจะมาฝึกงานช่วงปิดเทอมของปี 3 จะขึ้นปี 4 และช่วงปิดเทอมของปี 4 เป็นการฝึกงานสองครั้ง นั่นเพราะเป็นการเก็บจำนวนชั่วโมงการฝึกงานให้ครบ 900 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้มีสิทธิ์ในการสอบใบประกอบวิชาชีพนักกำหนดอาหาร (CDT- Certified Dietitian of Thailand) โดยนักกำหนดอาหารจะเป็นผู้เขียนใบสั่งอาหารเพื่อกำหนดอาหารให้ผู้ป่วยรับประทานในแต่ละมื้อเหมือนที่แพทย์สั่งยานั่นเอง เส้นทางนี้ของเธอยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกล แต่เธอมั่นใจว่าปลายทางจะมาถึงแน่นอน
งานที่ธามิณีได้รับมอบหมายในช่วงเดือนแรกจะเป็นช่วยตรวจเช็คถาดอาหารของผู้ป่วยก่อนจะนำส่งไปที่ห้องเก็บล้าง เตรียมวัตถุดิบ และคำนวณปริมาณอาหารปั่นทางสายยางให้กับผู้ช่วย ถ้ามีเวลาเหลือก็จะช่วยในส่วนให้คำปรึกษา การบริโภคอาหารให้กับผู้ป่วย ส่วนในเดือนหน้าเธอจะได้ติดตามไปเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านและออกหน่วยให้ความรู้โภชนาการตามบริษัทที่ได้มาติดต่อกับโรงพยาบาลไว้ แผนงานของการฝึกงานจะมีคราวๆ ประมาณนี้
“ดีจังเลยนะ ที่ฝึกงานของเราสองคนอยู่ใกล้ๆ กัน” รวิชญ์เอ่ยด้วยสีหน้าดีใจ
ธามิณีเพิ่งรู้หลังจากมาฝึกงานที่โรงพยาบาลได้ 2 วัน กัลยาเป็นคนบอกรวิชญ์ว่าเธอฝึกงานที่ไหน แล้วช่างบังเอิญเขาก็มาฝึกงานที่บริษัทของญาติซึ่งทำธุรกิจนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์ เขาจึงมาฝึกงานด้านบริหารสายตรงกับที่เรียนมา
“เอาไว้ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันแถวนี้ก็ดีเหมือนกัน” ธามิณีเล็งร้านขนมไทยเอาไว้ร้านหนึ่ง จำได้ว่าแม่เคยพามากิน อย่างน้อยได้กลับไปในเวลาที่ไม่เศร้าแล้วก็ยังดี
รวิชญ์ยิ้มรู้สึกมีความหวังอยู่ในใจ แม้จะต้องเก็บความลับไว้ว่าเขาจงใจมาฝึกงานใกล้ๆ กับเธอ โชคดีที่บริษัทของพ่อมีสาขาของญาติอยู่ทางนี้
“ดีจังเลยนะที่เราสองคนฝึกงานใกล้ๆ กัน”
“ถ้ายัยกัลมาฝึกงานแถวนี้ด้วยก็คงจะดีนะ” ธามิณีเสียดายไม่อย่างนั้นคงได้ไปไหนไปกันสามคนอย่างเคย “ขอบใจนะที่มาส่ง”
รวิชญ์จอดรถที่หน้าหอพัก สีหน้าของเขายังยิ้ม แม้ในใจจะห่อเหี่ยวไปบ้างที่ธามิณีดูเหมือนไม่ได้รู้สึกพิเศษที่มีแค่เขาอยู่ด้วยกัน แต่เวลาอีก 2 เดือนข้างหน้า เขาคงมีโอกาสได้พูดความในใจให้เธอรู้สักครั้ง
“พรุ่งนี้เจอกัน เอาไว้ไปกินของอร่อยๆ ที่ธามอยากไปกินกันนะ”
“ได้สิ” ธามิณีกำลังจะเดินไป แต่กลับหันมาเมื่อนึกขึ้นได้ “ไปกันวันศุกร์หน้าดีไหม เดี๋ยวธามโทรชวนกัลให้มากินด้วยกัน นั่งรถเมล์แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เราจะได้ไปกินด้วยกันทั้งสามคน”
รวิชญ์ยิ้มกว้างคิดไม่มีผิดว่าธามิณีคงชวนกัลยามาด้วยแน่ๆ เขารอจนเห็นว่าเพื่อนเดินเข้าหอพักเรียบร้อยแล้วจึงขับรถออกไป เสียงเพลงในรถที่เนื้อหาเกี่ยวกับความรักทำให้เขายิ่งสุขใจเคาะนิ้วกับพวงมาลัยรถ หมายใจแล้วว่าจะทำให้ธามิณีสนใจเขาในฐานะอื่นนอกจากเพื่อน ตอนนี้แค่เริ่มต้นเท่านั้น เขายังมีเวลาอีกเป็นปีก่อนที่จะเรียนจบ เมื่อถึงเวลานั้นเขาคงไม่ถูกมองว่าเป็นแค่เพื่อนอีกแล้ว
หลายวันมานี้กาญเกล้าเก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหน แม้ว่าจะมีเรื่องร้อนใจเพราะเพิ่งถูกแฟนบอกเลิก ณวัตจับได้ว่าเธอแอบคบซ้อน ทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่เคยเช็คโทรศัพท์ของเธอมาก่อน เขาเห็นแชทที่เธอคุยกับผู้ชายอีกคนแล้วโทรไปหาทางนั้นจนรู้เรื่องทุกอย่าง เธอให้เหตุผลยังไงเขาก็ไม่ฟัง จนมาจบที่เราเลิกกัน เธอพร่ำด่าเขาทั้งน้ำตาว่า...ผู้ชายเฮงซวย ตอนเขามีคนอื่น เธอนั่งร้องไห้ตั้งเท่าไหร่ พอเธอมีบ้างทำมาขอเลิก
แม้จะโกรธที่ถูกด่ากลับมาว่าเขาให้เงินเธอมากมายจนเหมือนคนโง่ จึงกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต แล้วณวัตก็เป็นฝ่ายที่เดินจากไป แต่กาญเกล้ายังรอให้เขาโทรกลับมาหา มาง้อเธอ หรือส่งข้อความมาก็ได้ แต่หลังจากรอมานานหลายวัน เธอจึงเป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาเขา แล้วรอจนโมโห
“ทำไมไม่โทรมาสักที ไม่อ่านข้อความเลยหรือไงพี่วัต”
กาญเกล้าร้องไห้เพิ่งรู้ว่าตัวเองพลาดไป ตอนนั้นถ้าเธอยอมอ่อนลงหรือแม้แต่ยอมรับผิด ณวัตอาจจะไม่ขอเลิกกับเธอใช่ไหม แต่พอร้องไห้จนหยุดแล้ว เธอกลับยังเชื่อมั่นว่าถ้าอดทนมากพอ ณวัตจะมาง้อขอคืนดีกับเธอเอง เพราะฉะนั้นเธอต้องกลับมารับงานอย่างจริงจังเพื่อให้พอค่าห้องและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้ณวัตช่วยดูแลให้ทั้งหมด เธอจึงโทรหาผู้จัดการส่วนตัวเพื่อที่จะมีงานมาทำในเวลาที่กำลังร้อนเงิน
“กาญรับได้ทุกงานค่ะ แค่ไม่เอาประเภทแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยก็พอ”
หลังจากนั้นคือการรอคอย ซึ่งเธอมั่นใจว่าคงไม่นานเพราะเธอกำลังรุ่งในเส้นทางนางแบบ แม้งานพริตตี้จะเงินดี แต่ณวัตไม่อยากให้เธอไปทำนักเพราะเขาค่อนข้างขี้หึง อีกทั้งเขาจ่ายให้ทุกอย่างอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาโทรหาเมื่อไหร่ เธอต้องว่าง ทำให้กลายเป็นทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ไม่เคยถึงขั้นบอกเลิก ทำไมเธอไม่ใจแข็งนะ ถ้าไม่ให้เบอร์โทรกับกิ๊กไปตอนนั้น ตอนนี้เธอคงไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจแบบนี้หรอก
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 182
แสดงความคิดเห็น