ตอนที่ 2 ทำไม่ได้ดั่งใจสั่ง
เขาและเธอพูดคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขก่อนที่ภาพความทรงจำเมื่อครั้งในอดีตจะเตลิดล่องลอยออกไปไกลเสียงของประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาซะก่อนตามด้วยร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาปลุกให้ณเวฬาตื่นจากภวังค์ในห้วงแห่งความคิดถึงและคนึงหา เมื่อคนทั้งคู่หันกลับมามองสบตากันต่างคนก็ต่างตกตะลึงและจมดิ่งไปในห้วงแห่งความหลังในทันทีศรัณย์ รดิศไชยนันท์ผ่านมา 22 ปีแล้วสินะ ที่ฉันไม่ได้เจอกับพี่ นาน..นานมากเหลือเกินหัวใจของณเวฬาเต้นสั่นไหวอย่างรุนแรงตั้งแต่เห็นศรัณย์ก้าวเข้ามาในห้องนี้แล้ว
ทางด้านศรัณย์ก็เช่นกันเมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องทำงานและเห็นใบหน้าของณเวฬาชัดๆ เต็มทั้งสองตาก็ถึงกับหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอด 22 ปีที่ผ่านมานี้ นี่หรือพยาบาลคนใหม่ที่เพิ่งมาถึงทำไมใบหน้าและรูปร่างหน้าตาของเธอช่างละไม้คล้ายคลึงกับนับดาวเมียที่เขารักและคิดถึงสุดหัวใจ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดียังไงก็ไม่ใช่คนคนเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ทำไมหัวใจของเขาถึงเต้นแรงแบบนี้นะนับดาว รดิศไชยนันท์เป็นเมียที่เขารักมากที่สุดและเขาก็ได้มอบหัวใจทั้งดวงนี้ให้กับเธอคนเดียวตั้งแต่แรกเจอไปแล้ว และนับดาวก็ได้ตายจากเขาไปพร้อมกับหัวใจที่แหลกสลายจนถึงวันนี้ 22 ปีผ่านมาแล้ว นับดาวตายจากเขาไปนานมากแล้วจริงๆ
นับดาวตายจากกันไปทั้งที่ยังตั้งท้องได้เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นเธอตายจากไปท่ามกลางความรักความเสียใจและอาลัยอาวรณ์จนเขาแทบไม่กินไม่นอนเสียสูญอยู่หลายปี คนทั้งคู่ต่างคนต่างมองสบตากันเนิ่นนานยืนระลึกถึงความหลังและความทรงจำครั้งเก่าคนหนึ่งไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ส่วนอีกคนหนึ่งแทบไม่ต้องคิดเพราะมันเป็นไปแล้วจริงๆ และเธอก็ได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าคนที่เธอรักและคิดถึงโหยหามาตลอด 22 ปีที่ผ่านมา ณเวฬาส่งยิ้มให้กับศรัณย์พร้อมทั้งยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อมจริงใจ
หวนนึกถึงเมื่อครั้งในอดีตตอนที่เธอกับเขายังคงเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอยู่ในตอนนั้นพี่ศรัณย์อายุเพียง 25 ปี ส่วนนับดาวก็อายุเพียง 20 ปีเท่านั้นห่างกันถึง 5 ปีเต็มเลยทีเดียว เธอจึงเรียกเขาว่าพี่ศรัณย์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คุณหญิงสร้อยสิรินทร์หรือคุณหญิงแม่มีศักดิ์เป็นน้องของพ่อนับดาวซึ่งเกี่ยวพันธุ์กันเป็นญาติห่างๆ แต่ที่สนิทสนมกันมากเป็นเพราะว่าคุณหญิงแม่คือเพื่อนสนิทของแม่นับดาวจึงมักที่จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอและรับนับดาวมาอยู่ที่เรือนใหญ่ด้วยบ่อยครั้งนั่นเป็นจุดเริ่มต้น
ที่ทำให้นับดาวได้เจอกับพี่ศรัณย์เป็นครั้งแรกที่เรือนหลังนี้ตอนที่เจอกันแรกๆ นั้นพี่ศรัณย์ก็ไม่ได้คิดอะไรกับนับดาวเลยแม้แต่น้อยแต่พอนานวันไปเมื่อศรัณย์เห็นการดูแลเอาใจใส่ด้วยความจริงใจไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด นับดาวเสียสละอุทิศตัวดูแลคุณหญิงแม่ของเขาด้วยความรักและเคารพอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ เธอเจียมเนื้อเจียมตัวรู้จักกาลเทศะและที่สำคัญคุณหญิงแม่เองก็รักเธอเหมือนลูกคนหนึ่งและยินดีรับนับดาวมาเป็นสะใภ้ด้วยความเต็มใจ ท่านตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วด้วย ในที่สุดทั้งศรัณย์และนับดาวก็เกิดความรักต่อกันจนได้และแต่งงานกันในที่สุดทุกอย่างถูกต้องตามประเพณีถึงจะมีเสียงข้างมากที่คัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ก็ตามพวกญาติๆ ฝ่ายชายเขาคิดว่าไม่สมควรที่จะให้ลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันเอง
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พี่น้องท้องเดียวกันที่คลานตามกันออกมาก็เถอะ แต่พวกญาติๆ ของฝ่ายชายก็คิดว่าถึงยังไงมันก็ไม่ถูกไม่ควรอยู่ดีในตอนนั้นนับดาวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจนเมื่อมีใครคนหนึ่งที่โกรธและเกียจนับดาวมากอย่างไม่คิดที่จะปิดบัง นำพาให้นับดาวต้องมาจบชีวิตลงด้วยความอิจฉาริษยาทำให้นับดาวต้องตายอย่างทรมานทั้งกายและจิตใจจนมาถึงวันนี้ ณเวฬาหรือนับดาวคิดย้อนกลับไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเธอไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนอกเสียจากทำวันนี้ให้ดีที่สุดอยู่ใกล้กับคนที่เธอรักและคิดถึงให้มากที่สุดก็เพียงพอแล้วคงเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้ในตอนนี้
[ศรัณย์] “คุณชื่อ..ณเวฬาหรือครับ..”
น้ำเสียงที่นุ่มทุ้มดังกังวานปลุกให้ณเวฬาตื่นขึ้นมาจากภวังค์ในห้วงแห่งความคิด
[ณเวฬา] “ใช่ค่ะ..”
ณเวฬาไม่รู้จะพูดยังไงหรือตอบอะไรต่อไปดีนอกเสียจากมองใบหน้าของชายคนรักนั้นใกล้ๆ พี่ศรัณย์ยังหล่อเหมือนเดิมในความทรงจำของเธอหน้าตาคมเข้มผิวขาวร่างกายสูงใหญ่สง่าผ่าเผยมีเสน่ห์ดึงดูดเมื่อยามได้อยู่ใกล้ชิดในความเป็นจริงปีนี้พี่ศรัณย์ย่างเข้าสู่วัย 47 ปีแล้วแต่ถึงยังไงก็ไม่ดูแก่ไปเลยสุขภาพร่างกายก็สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเช่นเคยเธอคิดถึง..คิดถึงพี่ศรัณย์เหลือเกินเกือบจะวิ่งเข้าไปกอดเขาซะแล้ว และบอกกับพี่ศรัณย์ว่าเธอกลับมาแล้วนับดาว รดิศไชยนันท์กลับมาหาพี่ศรัณย์แล้วแต่ก็ทำไม่ได้ดั่งใจคิด ณเวฬาต้องรวบรวมสติเอาไว้ให้มากที่สุดไม่ให้ทำอะไรที่ไม่สมควรออกไปถึงมันจะยากก็เถอะ เธอจึงทำได้แค่ยืนมองสามีสุดที่รักแต่เพียงเท่านั้นมันช่างทรมานจิตใจของเธอมากเหลือเกิน
[ศรัณย์] “ผมขอดูจดหมายที่ผมส่งให้คุณไปจะได้ไหมครับ”
[ณเวฬา] “ได้สิคะ..นี่ค่ะ”
ณเวฬาส่งยิ้มหวานให้กับศรัณย์ด้วยไมตรีจิตพร้อมทั้งยื่นซองจดหมายส่งไปให้กับศรัณย์ตามคำขอ หารู้ไม่ว่ารอยยิ้มนั้นทำให้จิตใจของศรัณย์ถึงกับสั่นไหวเขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะจนต้องแกล้งทำเป็นกระแอมขึ้นมาเสียหนึ่งครั้ง แล้วทำเป็นก้มอ่านจดหมายเมื่อจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านอยู่ภายในจิตใจลงได้แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของณเวฬาแล้วกล่าวออกไปว่า..
[ศรัณย์] “ยินดีต้อนรับนะครับ คุณณเวฬา ตามผมมาทางนี้สิครับ ผมจะพาคุณไปหาคุณหญิงแม่ที่เรือนหลังเล็ก”
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะคะ นักเขียนพิมพ์พัณณิตากำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ ฝากกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไปและนิยายเรื่องใหม่ ฝากกดถูกใจส่งข้อความเป็นกำลังใจหรือติชมผลงานกันเข้ามาได้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 247
แสดงความคิดเห็น