กรุ่นรักละมุนใจ 4: ในวิกฤตก็ยังมีอะไรดีๆ
จากพายุใหญ่เมื่อคืน ส่งผลให้ไร่ของเกียรติคุณเสียหายหนัก พืชไร่ที่ปลูกไว้ยับเยินล้มระเนระนาด
เป็นว่าเล่น ทำให้เขามีงานต้องจัดการตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากแพทย์สาวออกจากไร่ได้ไม่นาน ฝนอีกห่าก็เท
ลงมาอีกระลอก แม้ว่าครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้า
แต่ฝนก็ตกยาวจนถึงเช้าของวันนี้ แถมยังไม่หยุดดีด้วย
เห็นสภาพพืชพรรณในไร่แล้วก็หนักใจ ท่ามกลางฝนที่ยังโปรยปรายอยู่ เขาทำได้เพียงเกนคนมาจัดการพื้นที่บางส่วนเบื้องต้นเท่านั้น
รถกระบะคันโตวิ่งเข้ามาจอดหน้าหอพักขนาดสีชั้นได้ไม่นาน หญิงสาวในชุดกาวน์ขาวสะอาดก็เดินกางร่มออกมาเมียนมอง ก่อนกระจกรถคันดังกล่าวจะเลื่อนลงพอให้เห็นหน้าคนด้านในได้ถนัดตา
“ขึ้นมาได้เลยครับคุณหมอ” มหานครยื่นหน้ามาบอกพรรษา เธอรับคำ ก่อนเปิดประตูหลังเข้ามา เพราะเห็นว่าข้างคนขับมีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะคุณสักหลาด สวัสดีค่ะคุณตา”
แพทย์สาวยกมือไหว้คนทั้งคู่อย่างมีมารยาท
“สวัสดีครับ” มหานครกล่าวรับโดยไม่ได้หันมามอง เพราะเป็นจังหวะกำลังออกรถพอดี
“สวัสดีครับคุณหมอ” ชายชราเบาะข้างคนขับ
หันมารับไหว้
“คุณตาของผมเองครับ นี่คุณหมอนานา เพื่อนผมครับตา”
“ยินดีที่ได้พบคุณตานะคะ” พรรษากล่าวด้วยไมตรี
“ครับคุณหมอ” คุณตาของสักหลาดตอบรับ
“ลำบากคุณสักหลาดตื่นมารับนานาแต่เช้า
หรือเปล่าคะ?” เธอยังไม่คลายความเกรงใจต่ออีกฝ่าย
“ไม่เลยครับ พอดีเช้านี้ต้องพาคุณตาไป
ทำธุระด้วย ยังไงผมก็ต้องออกบ้านเวลานี้อยู่แล้วล่ะครับ”
“อ๋อค่ะ แหะๆ”
“คุณหมอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่หรือครับ เห็นสักหลาดเล่าให้ฟัง” ชายชราถามชวนคุย
“ค่ะ”
“คุณหมอเป็นคนที่ไหนครับ” ชายสูงอายุถาเรื่อยๆ
“เป็นคนจังหวัดนี้แหละค่ะ”
คุณตาของมหานครคุยเก่งและท่าทางอบอุ่นใจดีไม่ต่างจากหลานชาย ท่านชวนแพทย์สาวคุยจนถึงโรงพยาบาล ก่อนทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันไป
“อ้าว วันนี้ไม่มีติวหรือ” มหานครทักกัลยาณีที่นั่ง
ดูโทรทัศน์อยู่ลำพังในห้องนั่งเล่นของบ้าน
“พี่หมอกล้วยไม้กับพี่หมอนานาโดนกักตัว
เลยบอกให้หนูอ่านหนังสือเองไปก่อน ถ้าสงสัยอะไร
ค่อยไลน์ถามน่ะ” อีกฝ่ายตอบพลางกินแอปเปิลไปด้วย
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณหมอหรือ?!” คนมากวัยกว่าตกใจนิดๆ หากพูดถึงเรื่องกักตัวช่วงนี้ คงไม่พ้น
โรคระบาดโควิด ซึ่งกำลังค่อนข้างแพร่กระจายรุนแรงทีเดียว
“เห็นว่าเจอคนไข้ติดโควิดแต่ปิดข้อมูลเข้าไปน่ะ คนที่ได้สัมผัสเลยต้องกักตัวกันเป็นแถว พี่หมอกล้วยไม้ไม่ได้ส่งข้อความบอกพี่หรือ?”
“โทรศัพท์เครื่องนั้นพี่เสียบชาร์จไว้ที่บ้าน
พกอีกเครื่องมาแค่เครื่องเดียว” ชายหนุ่มอธิบาย
“พี่มาหาพี่กวินใช่มะ ยังไม่กลับจากไร่เลย”
“เห็นว่านอกจากต้นกาแฟแล้ว พวกพืชผลอื่นๆ
ที่ปลูกไว้ก็พังเกือบหมด พี่เป็นห่วง เลยมาดูนี่แหละ เผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง แล้วป้ากรอยล่ะ” ท้ายประโยค
เขาถามถึงแม่ของสองพี่น้อง ก ไก่ ที่ปกติเวลานี้มักจะทำกับข้าวอยู่ในครัว
“เข้าไปในไร่กับพ่อนู่นแหละ ถ้าพี่จะเข้าไปหา
พี่กวินก็ลองโทร.ไปถามดูก่อนว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
เพราะน่าจะไม่ได้อยู่กับที่กันหรอก” เด็กสาวแนะนำ
“งั้นพี่ไปล่ะ ดูบ้าน ดูแลตัวเองด้วยล่ะ อยู่คนเดียว” พูดจบเขาก็เดินเร็วๆ ออกจากบ้านไป
เสียงข้อความเข้าจากไลน์ดังขึ้น มือเรียวจึงหยิบขึ้นเปิดดูว่าใครส่งอะไรมาให้ ก่อนจะพบว่าคนที่ส่งข้อความหาเป็นโปรแกรมเมอร์หนุ่มมหานครนี่เอง เธอจึงตอบกลับ
พรรษา: สะดวกค่ะ
มหานคร: เมื่อวานได้ข่าวจากกอบุญว่าคุณหมอสองคนต้องกักตัวหรือครับ
พรรษา: ใช่ค่ะ พอดีมีคนไข้เป็นโควิดปิดข้อมูล
เข้ามาน่ะค่ะ
มหานคร: คุณหมอฉีดวัคซีนไปกี่เข็มแล้วครับ
พรรษา: สองเข็มแล้วค่ะ
มหานคร: ฉีดอะไรไปบ้างครับ
พรรษา: แอ๊ซตร้ากับไฟเซอร์ค่ะ
มหานคร: ตรวจเบื้องต้นแล้วหรือยังครับ
พรรษา: ค่ะ ผลเป็นลบ
มหานคร: ดีครับ ยังไงขอให้คุณหมอปลอดภัย
นะครับ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยบอกได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ
พรรษา: ขอบคุณค่ะ คุณสักหลาดก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ นานาขอให้คุณปลอดภัยค่ะ
มหานคร: ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวไปช่วยกวิน
ดูไร่ต่อก่อนนะครับ ไว้จะทักหาอีกครับ
พรรษา: ค่ะ
ความจริงแพทย์สาวเอะใจ อยากจะถามว่า
เกิดอะไรขึ้นกับไร่ของเกียรติคุณเหมือนกัน แต่คิดว่า
อีกฝ่ายคงอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ จึงตัดสินใจ
เงียบไว้เสีย หลังจากการสนทนาสิ้นสุด เธอจึงหันมา
เล่นเกมที่เล่นค้างไว้ต่อเพื่อฆ่าเวลาแสนน่าเบื่อไปให้เร็วๆ บางคนอาจว่า ดีสิ จะได้พักบ้าง ทว่ามันแย่ตรงที่เครียดถึง
ผลตรวจในอนาคต และต้องอยู่คนเดียวในห้องแบบไม่ได้ออกไปไหนเลยนี่แหละ
ภายในศาลาพักกลางไร่กาแฟที่ฝนโปรยปราย เกียรติคุณกำลังนั่งจิ้มสมาร์ทโฟนของตนเพื่อทำธุรกรรมการเงินบางอย่าง นัยน์ตาคู่สวยมีแววลังเลเล็กน้อยถึงเรื่องใช้เงินในบัญชีดังกล่าว เพราะมันเป็นเงินเก็บสำหรับ
เรียนต่อปริญญาโทของเขา ชายหนุ่มอยากเรียนต่อเพื่อนำความรู้ชั้นสูงกลับมาพัฒนาไร่พ่อแม่ และอยากสร้าง
โปรไฟล์ของตนให้ตรงตามที่หญิงสาวในหัวใจ
ต้องการด้วย ทว่าตอนนี้ ความปรารถนาจำต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เงินออมในบัญชีต้องถูก
นำออกมากู้วิกฤตในไร่เสียก่อน
เสียงข้อความเข้าเมสเซนเจอร์ดังขัดจังหวะขึ้นขณะที่พรรษากำลังนั่งกินมื้อเที่ยง เปิดสมาร์ทโฟนดูคลิปต่างๆ นานาไปพลางๆ เธอหยิบขึ้นมาดู พบเป็นเฟส
แปลกหน้า จึงคลิกเข้าไปดูโปรไฟล์ พอเห็นว่าเป็นคนรู้จัก
ก็ตอบกลับ
มหานคร: ผมตอบคำถามของคุณหมอในกลุ่ม....ให้แล้วนะครับ
พรรษา: ขอบคุณมากๆ ค่ะ
มหานคร: นี่เฟสคุณหมอหรือครับ
พรรษา: ค่ะ แต่ไม่ค่อยได้เล่นบ่อยหรอกค่ะ
มหานคร: ครับ ผมเพิ่งรู้ว่าคุณหมอก็เล่นเกมนี้ด้วย
พรรษา: เล่นมาได้สักพักแล้วค่ะ
มหานคร: เข้ากลุ่มมานานหรือยังครับ ผมไม่เคยเห็นคุณหมอในกลุ่มเลย
พรรษา: เพิ่งเข้ามาได้ไม่กี่วันเองค่ะ
มหานคร: สงสัยหรือมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเกมถามได้ตลอดนะครับ
พรรษา: ขอบคุณมากค่ะ
มหานคร: คุณหมอใช้ชื่อยูสเซอร์อะไรหรือครับ เผื่อเจอกันจะชวนเล่นด้วยกันบ้าง
แล้วหญิงสาวก็บอกชื่อผู้เล่นของตนเองให้
ชายหนุ่มทราบ ทำให้นับจากนั้น เวลาทีมของเขาขาดคน
ก็มักจะมาชวนเธอร่วมด้วยบ่อยๆ จนกลายเป็นคุ้นเคยกันมากขึ้นในช่วงเวลาสิบสี่วันกักตัว
“สวัสดีค่ะคุณหมอ ไม่ได้เจอกันหลายวันเลย
นะคะ” พนักงานคาเฟ่1+1mm. coffeeที่เดินนำกาแฟ
มาเสิร์ฟทักทายด้วยไมตรี
“พอดีหยุดกักตัวสิบสี่วันน่ะจ้ะ เลยไม่ได้มา
ที่นี่เลย” แพทย์สาววรัทยาเล่าด้วยแววตามีรอยยิ้ม
“ที่เขาลือกันเมื่อครั้งก่อนใช่ไหมคะ?” พนักงานสาวถาม
“น่าจะงั้นนะ”
“ตอนนี้ปกติดีแล้วใช่ไหมคะ?” คนถามมีท่าทีกังวลเล็กน้อย
“โอเคแล้วจ้ะ ผลตรวจเป็นลบ ไม่งั้นหมอไม่กล้ามาที่นี่หรอก” เธอกล่าวหยอกเล่นอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้ถือสาปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่มีต่อตน
“ค่ะ...” พนักงานสาวตอบด้วยความละอายใจ
รู้ว่าตนเสียมารยาทต่ออีกฝ่าย ก่อนจะนึกอะไรได้
ก็กล่าวต่อ “ช่วงนี้กาแฟอาจไม่อร่อยถูกปากเท่าทุกวัน
นะคะ เพราะคุณกวิน ที่รับหน้าที่ทำเครื่องดื่มให้ร้านหยุดไปจัดการปัญหาที่ไร่ก่อนน่ะค่ะ”
แพทย์สาวได้ฟังน้ำเสียงและเห็นท่าทีเป็นนัย
ของอีกฝ่ายก็สะดุด เหมือนเธอต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างด้วย แต่แล้วก็ตัดบทขอตัวกลับไปทำงานต่อเสียดื้อๆ ทิ้งเพียงความค้างคาไว้ให้วรัทยาเก็บไปคิด
หญิงสาวเพิ่งรู้ว่าคนทำเครื่องดื่มให้คาเฟ่นี้ชื่อ ‘กวิน’ ชื่อคล้ายกับพี่ชายของเด็กสาวลูกเจ้าของไร่กาแฟ
ที่มักจะไปติวหนังสือให้เสียจนอดคิดไม่ได้ว่าน่าจะเป็น
คนเดียวกัน กัลยานีและมหานครเคยพูดถึงเขาให้ฟังอยู่หลายครั้ง แต่ละครั้งก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมต้องเล่าให้เธอฟังหนักหนา แต่ก็เข้าใจว่าคงอยากเม้าท์ตามประสา
คนคุยเก่ง ชอบหาอะไรมาคุย มาเล่าให้ฟังมากกว่า
“พี่ชายหนู ชื่อกวินค่ะ เป็นคนขี้อายมาก ชอบใครก็ไม่ค่อยกล้าบอกเขา กลัวผู้หญิงจะปฏิเสธที่ตัวเองอ้วน
แต่หน้าตาเขาไม่ได้แย่นะคะ” กัลยาณีเล่าให้ฟังในเย็น
วันหนึ่ง
“ถ้าไม่รังเกียจคนอ้วน แนะนำพี่กวินเลยค่ะ อ้วนๆ อย่างนั้นก็เป็นคนดี รักใครรักจริงนะ ถ้าได้เป็นคนที่เขารัก รับรองไม่มีเสียใจ” เด็กสาวพูดทีเล่นทีจริงในเย็นของอีก
วันหนึ่ง
“ความจริง1+1mm. coffeeผมร่วมหุ้นกับพี่ชายเจ้ากอบุญนั่นแหละครับ พูดถึงเขาแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ ตอนนี้กำลังพยายามลดหุ่นตัวเองเพื่อคนที่เขา
แอบชอบอยู่” มหานครเล่าเรื่อยๆ
ถึงตอนนี้ หรือที่เธอคิดมาตลอดมันจะผิด
คนพวกนี้ชักทำอะไรแปลกๆ ขึ้นทุกวัน
เด็กในคาเฟ่น้อยคนจะไม่รู้ว่าเกียรติคุณ หนึ่งในเจ้าของร้าน1+1mm. coffeeแอบชอบแพทย์สาววรัทยาอยู่แต่ไม่กล้าแสดงตัว เพราะทุกคนรู้ดีว่าคนที่ชอบเขียนข้อความฝากไปกับแก้วกาแฟของวรัทยาคือใคร พวกเขาได้แต่อมยิ้ม หยิบเอาเรื่องนี้ไปหยอกนายจ้างหนุ่มใจดีในบางครั้ง และคอยเอาใจช่วยกันอยู่ห่างๆ ไม่กล้ายุ่งอะไรเกินจำเป็น ด้วยเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย
********************
ตอนนี้เป็นตัวอย่างตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ดีใจที่ทุกคนอ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ การจัดหน้าอาจแปลกๆ แต่ก็ทำเต็มที่สำหรับนักเขียนตาบอดคนหนึ่งแล้วค่ะ ถ้าต้องการอ่านฉบับสมบูรณ์กว่านี้เชิญได้ทางMebนะคะ ขออภัยในความไม่สะดวกจริงๆ หวังว่า เรื่องต่อๆไปจะยังได้พบทุกคนอีกเรื่อยๆน้า
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 213
แสดงความคิดเห็น