บทที่ 19 สามฝ่าย 2

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 19 สามฝ่าย 2

บทที่ 19 สามฝ่าย 2

ในบ้างหลังงามที่ตั้งจตระหง่านอยู่กลางป่าลึกที่ผู้คนนั้นยากที่จะเข้าถึงและไม่มีผู้ใดคิดจะค้นหา ชายหนุ่มที่นามปกรณ์ว่าวินกำลังนั่งจิบชากับหญิงคนรัก สายลมที่พัดพาความหอมของใบไม้ใบหญ้านั้นทำให้หญิงสาวต้องยิ้ม  ทว่ามันกลับไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังคิ้วขมวดมุนด้วยความเคร่งเครียดเนื่องจากไม่รู้ว่าตนเองจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไร

วินจิบชา แต่ทว่าในใจของชายหนุ่มกลับคำนวณเร่องต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องของนักข้ามเวลาและเรื่องของเมฆา เขามองหน้าของหญิงผมฟ้าที่กำลังยิ้ม มือของรินกำลังปอกผลไม้ที่เขาไม่รู้จัก ผลไม้นั้นมีรูปร่างคล้ายคลึงกลับแอปเปิ้ลสีแดงสดเหมือนเลือด แต่ทว่าข้างในนั้นกับเป็นสีเหลืองทองส่องประกาย อันที่จริงวินนั้นไม่สนใจหรอกว่ารินจะนำอะไรมาให้เขากิน เพราะว่ายังไงรินก็ไม่มีทางหาของไม่อร่อยมาให้เขาอยู่แล้ว

“คิดอะไรอยู่น่ะ”

เสียงหวานใส ของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าไปมอง ตอนนี้รินหยุดการปอกผลไม้ประหลาดแล้ว หล่อนมองหน้าของเขา

“คิดเรื่องของพวกเมฆาอยู่”

“ถ้าเป็นเรื่องของเมฆาจริง ๆ ฉันคิดว่าวินคงไม่คิดมากขนาดนี้ สิ่งที่ทำให้เธอกังวลจริง ๆ คงเป็นเรื่องของผู้ข้ามเวลามากกว่า แล้วอีกอย่างคงคิดเรื่องบาดแผลที่ได้รับด้วยใช่ไหม”

ชายหนุ่มยื่นมือไปหยิบผลไม้ของริน “จริง ๆ แล้วฉันก็ตกใจนะ ไม่รู้ว่ากี่ปีมาแล้วที่ฉันไม่เคยโดนโจมตีจนเลือดตกยางออกขนาดนี้ ตั้งแต่สงครามครั้งนั้นจบลง”

รินพยักหน้าก่อนที่จะรินน้ำชาใส่แก้วของตนเอง “เธอเสียใจงั้นหรอที่เดินทางจากมา ถ้าเรายังอยู่ที่นั่นคงจะดีกว่าใช่ไหม ถึงเธอจะพยายามเปลี่ยน ๆ หลายสิ่งให้มันเหมือนโลกของเธอ ทำให้โลกใบนี้ให้ดีขึ้นแค่ไหนก็ตาม”

“ไม่ ฉันไม่เคยเสียใจที่เดินทางมายังยุคสมัยนี้ แล้วอีกอย่างพวกเราก็ต้องมาทำตามสัญญากับพวกนั้น แต่ว่าระยะเวลาที่ใช้มันทำให้ฉันเสียหลาย ๆ สิ่งไป ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถำกมันคงเป็นพวกเราที่ใช้เวทนั่น นอกจากพลังทั้งสามที่พวกเราได้มา”

ชายหนุ่มเงยหน้ามองแสงสีแดงของดวงอาธิตย์ที่สาดส่อง ถึงแม้ว่ามันจะร้อนสักปราณใด แต่มันกลับมิอาจจะแต่กายของพวกเขาได้แม้เพียงนิด บาเรียที่ไร้สีไร้แสงที่ปกคลุมรอบ ๆ ที่แห่งนี้ทำให้ไม่มีผู้ได้สามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย

“พลังนั้นควรสูญหายจกาโลกนี้ แต่ว่าฉันกลับลืมไปว่าต่อให้จะพยายามเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์มากแค่ไหน แต่ว่าสิ่งที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็คือผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์”

“ฉันเข้าใจเธอดีวิน สิ่งที่เธอไม่สิ สิ่งที่พวกเราพยายามทำมันคือการช่วยโลกนี้หรือเป็นการทำลายโลกกันแน่ ในยุคสมัยที่เวทมนตร์คือทุกสิ่ง แต่พลังเวทของผู้คนนั้นกลับไม่พัฒนาได้มากเท่าที่ควร ถ้าผนึกถูกเปิดออกผู้คนในโลกนี้คงไม่สามารถต่อสู้ได้”

วินพยักหน้ารับ “อันที่จริง ในยุคก่อนผู้คนที่สามารถต่อสู้กับพวกเทพกับมารก็มีน้อยอยู่แล้ว แต่ว่าหลังจากที่พวกมอนสเตอร์ถูกผนึกไปทำให้ผู้คนในโลกนี้ขาดการฝึกฝน การต่อสู้ครั้งนี้พวกเราคงเสียเปรียบแบบสุด ๆ เลย”

หญิงสาวถอนหายใจ “ใช่ พวกเรากำลังเดินทางซ้ำรอยอยู่หรือเปล่า หรือว่าสิ่งที่หมอนั่นพูดจะเป็นเรื่องจริง”

“ฉันไม่รู้หรอก อันที่จริงฉันไม่ค่อยชอบหน้าหมอนั่น แต่ไม่ใช่เพราะมันฉันคงไม่สามารถมาถึงจุด ๆ นี้ได้ มันจะถูกหรือผิดมีแต่เพราะเจ้าเท่านั้นที่จะรับรู้”

รินยิ้ม “พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนัก คนที่มีพลังใกล้เคียงกับพระเจ้าเคยเตือนพวกเราแล้ว แต่ว่าพวกเรากับไม่คิดจะสนใจนี่นา”

วินพยักหน้ารับ ก่อนที่จะก้มหน้าไปมองแก้วชาในมือ “ใบชาตั้งด้วย สงสัยพวกเราคงมีโชค แน่”

วินยกชาขึ้นดื่ม ก่อนที่จะหันมามองยังพรรยาของตน “ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่พวกเราจะเดินทาง หลังจากนี้ฉันคิดว่า ฉันคง”

ระหว่างที่พวกของมิคาเอลกำลังรีบเร่งเคลื่อนร่างผ่านมิติอยู่นั้น ทันใดนั้นเองเวทมนตร์มิติที่ชายหนุ่มได้ร่ายไว้พลันสูญสลาย ประตูมิติค่อย ๆ ถูกทำลายอย่างช้าๆ ชายหนุ่มมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ใบหน้าภายใต้หน้ากากมีความสงสัยเจือปนอยู่

“ในที่สุดก็หายตัวพวกคุณเจอสักที”

เสียงของชายหนุ่มทำให้มิคาเอลหันไปมอง ชายหนุ่มใบหน้าที่แสนเย็นชากำลังจับจ้องมาทางพวกของเธอ ข้าง ๆ มีอีกหนึ่งชายหนึ่งหญิงกำลังมองมาเฉกเช่นเดียวกัน

“สามผู้คุมกฎอย่างนั้นหรือ ทำไมพวกแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากลุ่มยิ้มกับคำกล่าวของหญิงสาว “นั่นไม่น่าจะเป็นคำถามสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าผู้ข้ามห้วงเวลา”

“ถึงจะเป็นผู้ข้ามเวลา แต่ว่าก็ไม่ได้รู้เรื่องทุกอย่างไปเสียหมดหรอก ยิ่งพวกที่ใกล้อยู่เหนือกฎเกณฑ์อย่างพวกนายด้วย”

“รู้แม้กระทั่งว่าพวกเราเป็นผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์ แสดงว่าพวกเธอนี่ก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน” เนโกะกล่าวขึ้น

เธอมองสำรวจหนึ่งชายหนึ่งหญิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า หญิงสาวไม่อยากจะคิดเลยว่าเบื้องหน้าของเธอคือเมฆา ชายหนุ่มที่เคยเกือบจะทำลายกฎเกณฑ์ของโลกเวทมนตร์

“ไม่ได้พบกันนานเลยนะเนโกะ ไม่สิถ้าเป็นเธอในห้วงเวลานี้คงได้เจอกับฉันเป็นครั้งแรก ถ้าอย่างนั้นฉันจะแนะนำตัวให้รู้จักอีกรอบ ฉันมิคาเอล ผู้ข้ามเวลาแล้วเป็นผู้ข้ามมิติ”

“ฉันไม่เคยรู้จักพวกคุณ”

“พวกเราคงได้รู้จักกันหลังจากนี้”

เมฆาโบกมือห้ามการสนธนา เขามองชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้า ก่อนที่จะกล่าว “นายสินะที่เป็นหัวหน้า ถ้าจำไม่ผิดนายคงมีชื่อว่าเลโอ บอกมาว่านายตรงการอะไร หรือว่าจะมาล้างแค้นให้กับวิน”

“เรื่องนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมกับวินถึงแม้จะเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ แต่ว่าพวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกล้ำจนถึงขนาดที่ต้องมาล้างแค้นให้หรอก”

“แล้วนายมาที่นี่ทำไม”

สิ้นคำถาม เลโอพลันทะยานร่างเข้าหาเมฆา พลังจิตสังหารของทั้งสองคนปะทะกัน ก่อนที่จะตามมาด้วยพลังหมัดของทั้งสอง

“แน่นอน ผมมาเพื่อสังหารพวกคุณ”

ชายหนุ่มผนึกพลังไว้ที่มือก่อนที่จะชกไปที่ร่างกายของเมฆา ทว่าชายหนุ่มกับพบว่าเมฆาสามารถเคลื่อนร่างหลบหลีกได้ เมฆาเลิกคิ้วก่อนที่จะใช้หมัดสวนกลับไป ทว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าก็สามารถหลบหลีกได้เช่นเดียวกัน

เลโอหลบหลีกการโจมตีของชายเบื้องหน้า หางตาของเขาเหลือบไปเห็นว่าพวกของโทระกำลังจะพุ่งเข้ามาสมทบ ชายหนุ่มจึงกล่าว

“ไม่ต้อง พวกคุณจัดการผู้ท่องเวลา”

 ไบรท์ทอดตามองฟ้าที่กำลังเข้าสู่ความมืด ตอนนี้พวกอาสึนะได้ไปรับประทานข้าวเย็น ทว่าสำหรับไบรท์ตอนนี้เขาไม่สามารถกืนอะไรลงคอได้แม้แต่นิด เด็กหนุ่มคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวัน เขาตั้งคำถามในหัวของตนเองว่าเพราะเหตุใด ทำไมตนเองต้องถูกจ้องเอาชีวิตด้วย  ไบรท์เสกลูกไฟเล็ก ๆ ขึ้นมาบนฝ่ามือของตนเอง เขาเฝ้ารอเวลาจนกว่าพวกไอยราจะกลับมายังบ้านหลังนี้อีกครั้ง

พลังที่ห่างชั้นทำให้เด็กหนุ่มเจ็บใจ พลังเวทของพวกไอเขาเคยคิดว่ามันเป็นพลังที่สุดยอด แต่ว่าวันนี้พอเขาได้เจอกับผู้ที่มาโจมตีทำให้ไบรท์รู้ได้ทันทีว่านอกจกพี่สาวของตนเอง ในโลกนี้ยังมีผู้ที่มีพลังระดับนั้นอยู่

“ครั้งหน้าฉันต้องชนะให้ได้ ฉันจะไม่มีทางจบแบบนั้น”

เด็กหนุ่มนึกถึงโจรร้ายที่ต้องตกตายอย่างหน้าอนาด เขาจะไม่มีทางตายอย่างหมาข้างถนนเด็จขาด สายฝนที่กำลังไหลรินทำให้ไบรท์เงยหน้ามองฟ้า วันนี้ไม่รู้ว่าพวกไอจะกลับมายังบ้านไหม

พวกเนกินั้นกลับไปบ้านของตนเองนานแล้ว ตอนนี้คงเหลือชายหนุ่มอยู่เพียงลำพัง เขายืนอยู่หน้าบ้านเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไบรท์ทอดสายตามองยังความว่างเปล่าเบื้องหน้า ทว่าก่อนที่ไบรท์จะละสาสยตาเขาพลันเห็นร่างกายที่ไบรท์คุ้นตา

“ในที่สุดก็กลับมาสักทีนะพี่”

 

สวัดดีครับนักอ่านทุกท่าน ตอนนี้แผลหายแล้วครับนิ้วก็กลับมาใช้ได้แล้ว เย้ ผมเลยกลับมาเขียนได้เหมือนเดิมแล้ว เพื่อน ตอนนี้ผมต้องสอบจบแล้ว นี่โคชตื่นเต้นเลย ว่าแต่มันไม่ได้เกี่ยวกับนิยายนี่นา ฮ่าๆๆๆๆ 

ผมขอบคุณเพื่นอที่ติดตามอ่านนะครับ ถ้าใครชอบนิยายก็ฝากแช ไม่สิถ้าชอบอยู่อย่ากดออกจากชั้นก็พอ ไม่รู้ว่าใช้คำนี้ได้ไหมฮ่าๆๆๆ

อ่อ ส่วนคนที่ติดตามอ่านนิยายทั้งสองเรื่อง คือ user กับ เรื่องนี้ แล้วสงสัยว่า ทำไมบอกว่ามือเจ็บแล้วลง user ได้ ผมต้องบอกก่อนว่ามันเป็นนิยายเรื่องเก่า คือแบบว่าพื้นที่ของ drive ของผมไม่พอผมเลยมาลงไว้ คือเพื่อน ๆ คงคิดว่ามันคงไม่เปลือง ใช่ครับ แต่ว่าผมอยากจะให้คนอื่นอ่านได้วย แล้วอีกอย่างเรื่องนั้น ไม่มีแผนการ ไม่มี plot นะครับ ดังนั้นก็นะ เละจ้า แล้วอีกอย่างผมทำแบบเผยแพร่ไว้ก่อน เลยลงได้ 

 

แต่ว่าถ้าไม่มีนิยายเรื่องพวกนั้นก็คงไม่ทำให้ผมชอบการเขียนได้

ตอนนี้ผมกำลังเก็บเงินเรียนเขียนนิยายอยู่ ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบก่อนหรือว่าจะมีเงินก่อน ก่อนที่จะมีเงินก็คงต้องหางานประจำทำฮ่าๆๆ

นี่เพื่อน วั้นนี้ผมอาจจะเขียนให้อ่านได้อีกตอนมั้ง คือแบบว่าพอมาเขียนก็รู้สึกว่านะ ติดใจมั้ง ตอนนี้พยายามเขียนหลายเรื่อง คือแบบว่าเขยนทิ้งไว้ แต่ว่าโดนด่า คือแบบว่าเพื่อนเห็นนิยายแล้วบอกว่ามันไม่เหมาะ ก็เลย ต้องกับมาเขียนไหม

วันนี้ก็แค่นี้ ถ้ามีคำผิดก็บอกได้นะทุกคน บายจ้า ๆ คิดถึงทุกคน ถ้าจะชวนพูดคุยอะไรในเม้นก็ได้นะ ได้หลายเรื่อง กาตูนออกใหม่ นิยายที่อ่าน หรือว่าจะเป็นเรื่องภาษาที่เรียน แต่ว่าเรื่องคอมพักนะ ฮ่าๆๆ 

ลาจ้าๆๆๆ เจอกัน 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.