#12 กิก้าบอร์1
เมื่อผมถึงจุดที่นัดหมายกันไว้ ผมก็พบว่าคริสติน่าและจูเลียสนั้นมารออยู่ก่อนแล้ว และข้างๆ มีเด็กผู้หญิงที่ผมไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีผมสีทองเงางามและมัดผมเอาไว้สองข้าง เธอมีดวงตาสีเทาที่ดูสดใสและดูอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา ผ้าพันคอของเธอปลิวไปตามกระแสของลม และสีเสื้อผ้าของเธอดูสะดุดตาอย่างยิ่ง เสื้อยืดสีม่วงสว่างตา ถุงมือที่ยาวมาถึงศอกสีน้ำเงินเข้มสีเฉกเช่นเดียวกับกระโปรงสั้นๆ ของเธอ และรองเท้าหนังสีดำที่ยาวมาถึงแข้ง โดยรวมแล้วผมก็พอคาดเดาได้ว่านั่นน่าจะเป็นน้องสาวของจูเลียส จูลี่นั่นเอง
คริสติน่าได้เดินมาทักทายผมเป็นคนแรกด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนกับทุกครั้ง
"สวัสดีนะเวล" จูเลียสกล่าวเอ่ยทักทายผมก่อนจะหันไปทางเด็กผู้หญิงที่ผมไม่คุ้นตา
"นี่คือน้องสาวของฉันเอง จูลี่ที่พูดถึงไง"
"สวัสดีค่ะ" จูลี่เดินมาทักทายผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
"สวัสดี ฉันชื่อเวลนะ"
"ขอบคุณนะคะที่ชวนหนูกับพี่มา"
"ด้วยความยินดี จริงๆ ฉันก็ต้องขอบคุณเธอกับพี่ของเธอเช่นกัน"
พวกเราแนะนำตัวและพูดคุยกับอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเดินทางออกนอกเมืองไป
ภารกิจที่ผมทำต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางไปทำภารกิจโดยที่ต้องค้างคืนนอกเมือง เพราะตามรายละเอียดแล้วกิก้าบอร์ที่ผมต้องไปกำจัดนั้นอยู่บริเวณหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลออกไปทางทิศใต้ จึงต้องใช้เวลาเดินทางเกือบทั้งวัน
ระหว่างทางเต็มไปด้วยพืชพรรณมากมายที่ดูแปลกตา มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็น สำหรับผมการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากจริงๆ ระหว่างทางพวกเราก็ได้พักนั่งทานอาหารกลางวันกันอยู่สักพัก เอาจริงๆ ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองมาเที่ยวเล่นเสียมากกว่า แต่แล้วความคิดนั้นก็ค่อยๆ หายไป เนื่องจากความลำบากที่แท้จริงค่อยๆ ปรากฎขึ้นมา ความเหนื่อยล้าในการเดินเท้า น้ำหนักของสัมภาระ และอากาศยามเที่ยงวันทำให้รู้สึกร่างกายผมหนักอึ้งผมในตอนนี้อยู่ในสภาพที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมา คริสติน่าก็เหมือนว่าจะอยู่ในสภาพเดียวกัน ต่างกับสองพี่น้องสองคนนั้น จูเลียสและจูลี่ดูไม่ได้เหนื่อยล้าเท่าไรนัก
"จูเลียส นายไม่เหนื่อยบ้างเหรอ? " ผมเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
"ก็นะ ฉันกับจูลี่เดินแบบนี้บ่อยแล้ว เลยไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่"
ผมรู้สึกอิจฉาจูเลียสจริงๆ ที่มีร่างกายที่แข็งแรงดีแบบนั้นต่างกับผมในตอนนี้ที่เหนื่อยจนไม่รู้ว่าถ้าไปถึงที่หมู่บ้านแล้วจะมีแรงเหลือพอสู้กิก้าบอร์ได้หรือเปล่า
การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป ผมสังเกตคริสติน่าอยู่บ่อยครั้งเพราะเธอดูน่าเป็นห่วงมากที่สุด แม้ว่าผมจะถามเธอเท่าไหร่ว่าต้องการพักไหมเธอก็จะตอบปฏิเสธอยู่เสมอ
แสงยามเย็นจากดวงอาทิตย์สาดส่องลงมาในขณะที่พวกเราเดินมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งนี้ กำแพงไม้สูงตระหง่านล้อมรอบเมืองไว้อย่างมั่นคง หน้าทางเข้านั้นมีชายสองคนถือหอกเหล็กยืนเฝ้าอยู่และมองมาทางพวกเราก่อนที่จูเลียสจะเดินไปพูดคุยอะไรบางอย่างกับพวกเขา สักครู่คนพวกนั้นก็เดินนำพวกเราเข้าไปในตัวหมู่บ้าน ในหมู่บ้านนั้นเด็กไปด้วยบ้านไม้ที่ดูสวยงามมากมาย คนในหมู่บ้านดูมีความสุขและยิ้มแย้มให้อย่างเป็นมิตร พวกเราเดินมาจนถึงหน้าบ้านของบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่ง
จูเลียสหันมาหน้ามาหาผมและคริสติน่าพลางเปิดประตูเข้าไป
"เข้ามาเลย นี่คือบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน เราต้องไปคุยกับผู้ว่าจ้างก่อน"
ผมพยักหน้าตอบรับ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมเป็นคนชวนจูเลียสมาทำภารกิจจริงๆ หรือเปล่า หรือจูเลียสเป็นคนชวนผมกันแน่
หลังจากที่คุยกับได้สักพักหนึ่งผมก็จับใจความได้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่เป็นแหล่งผลิตเบียร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง และมีสวนของต้นบาร์ม (Barm) ที่นำมาใช้ผลิตเบียร์กันอยู่แถวนี้ แต่วันหนึ่งจู่ๆ ก็มีกิก้าบอร์โผล่ออกมากินผลผลิตและสร้างความเสียหายให้กับสวน จึงทำให้คนในหมู่บ้านได้รับผลผลิตและรายได้น้อยลง จึงจ้างนักผจญภัยเพื่อหวังว่าจะมาช่วยจัดการ
หลังจากสนทนาเสร็จแล้วหัวหน้าหมู่บ้านก็ได้นำไปยังที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้ ที่นั่นเป็นโรงแรมที่ดูดีมาก และมีผู้คนกำลังดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนานในชั้นแรกของโรงแรม หัวหน้าหมู่บ้านได้พูดคุยกับเจ้าของโรงแรมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินมาบอกกับพวกเราว่าเขาได้จ่ายค่าที่พักและค่าอาหารไว้ให้แล้ว ขอให้พักให้เต็มที่ หลังจากนั้นหัวหน้าหมู่บ้านก็เดินกลับไปยังบ้านของตน
"เหมือนว่าจะมีแค่สองห้องนะ" ผมบอกกับทุกคนหลังจากที่ไปถามรายละเอียดกับพนักงานแล้ว
"งั้นเรานอนแยกหญิงกับชายดีไหม" ผมถามออกไปเพื่อที่จะได้แยกห้องนอนกันให้เรียบร้อย
"ไม่ได้หรอก จูลี่ติดฉันมากๆ ฉันเลยต้องอยู่กับจูลี่ตลอด" จูเลียสพูดแย้งขึ้นมาในทันที
"ถ้าแบบนั้นจะแยกห้องกันยังไง" ผมถามจูเลียสไปอีกครั้งในขณะที่คริสติน่ากำลังเดินเล่นกับจูลี่อยู่ในโรงแรม
ผมกับจูเลียสยืนคิดกับอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปปรึกษากับคริสติน่าและจูลี่
"คุณเวลกับพี่คริสติน่านอนด้วยกันไม่ได้เหรอคะ" จูลี่ถามด้วยความสงสัยแต่คำถามของเธอทำให้คริสติน่าแสดงอาการเขินอายออกมาอย่างเห็นได้ชัด
"ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่คริสติน่าจะยอมรับได้เหรอ" ผมพูดออกไปด้วยท่าทางที่นิ่งเฉย
"ฉัน... ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก" คริสติน่าตอบกลับพลางหันหน้าไปทางอื่นเหมือนกับกำลังหลบหน้าผมอยู่
"แบบนั้นจะดีเหรอ" จูเลียสดูเหมือนจะเกรงใจอยู่พอสมควร
"งั้นก็ตกลงตามนี้" ผมรีบตัดบทสนทนาทันทีเนื่องความเหนื่อยล้าของทั้งวันทำให้ผมอยากพักมากๆ ในตอนนี้
พวกเราแยกย้ายกันไปที่ห้องของตนเองเพื่อเก็บสัมภาระไว้ก่อนจะเดินมารวมตัวที่ชั้นแรกอีกครั้งเพื่อทานอาหารกัน
"อันนี้น่าอร่อยจังเลยพี่" จูลี่มองรายชื่ออาหารในกระดาษที่อยู่ตรงหน้า
"นั่นสินะ ทำไมไม่สั่งมาลองดูล่ะ" จูเลียสยิ้มให้น้องสาวก่อนจะเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งอาหาร
"เบียร์งั้นเหรอ..." ผมมองผู้คนรอบๆ ที่กำลังดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน
"อยากลองเหรอ? " จูเลียสหันมาถามผม
"ก็นะ ดูเป็นของชื่อดังของที่นี่ก็เลยอยากลองสักหน่อย"
"งั้นเอาเบียร์ด้วยนะครับ ขอสำหรับสองที่นะครับ" จูเลียสหันไปสั่งเบียร์กับพนักงานให้ผมและไม่ลืมที่จะสั่งเผื่อตนเองด้วย
อาหารที่ดูน่าอร่อยจำนวนหนึ่งถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะ จูลี่และคริสติน่าทานอาหารอย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าพวกเธอจะสนิทกันแล้วในตอนนี้ ผมหั่นเนื้อย่างบนจานด้วยมีดก่อนจะใช้ส้อมจิ้มส่วนที่ตัดขึ้นมาและนำมันเข้าปากไป รสสัมผัสของเนื้อที่นุ่มและชุ่มฉ่ำ รสของซอสที่ช่วยทำให้เนื้อมีรสละมุนมากขึ้น กลิ่นหอมไหม้ของเนื้อผสมกับกลิ่นหอมของซอส โดยรวมแล้วมันอร่อยมากจริงๆ ผมหันไปจับแก้วเบียร์ที่วางอยู่และยกดื่มเบียร์อึกใหญ่ ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่เบียร์ของที่นี่จะมีชื่อเสียง
หลังจากที่พวกเราทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วก็ได้แยกย้ายไปห้องพักของตัวเอง ทันทีที่ผมขึ้นมาที่ห้องพร้อมกับคริสติน่าผมก็สังเกตเห็นได้ชัดว่าเธอดูเกร็งและไม่สบายใจอย่างมาก ผมจึงได้เอ่ยปากบอกไป
"ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก และไม่ต้องห่วง ฉันจะนอนพื้นส่วนเธอก็นอนบนเตียงไป" ผมพูดจบก็นำกระเป๋ามาหนุนหัวไว้และนอนกอดอกบนพื้น อาจเพราะด้วยเบียร์ที่ผมดื่มจึงทำให้ผมหลับในทันทีที่หัวหนุนกับกระเป๋า
"ฉันไม่ได้คิดว่านายจะทำอะไรสักหน่อย!" คริสติน่าพูดด้วยน้ำเสียงดุด้วยใบหน้าเขินอายของเธอก่อนที่เธอจะล้มตัวนอนบนเตียง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 271
แสดงความคิดเห็น