ตอนที่21:เหยื่อและผู้ล่า
ซีคที่เดินมาหยุดที่ตรงหน้าลูเบลล่าเอ๋ยถามขึ้น “ นั่นเขาหรือป่าวคนที่เธอบอกว่าเป็นรองเจ้าเมืองคนนั้น ”
“ ใช่ค่ะ ฉันจำคนไม่ผิดแน่นอน ”
“ แต่ทำไมละ ฉันคิดว่าคิดว่าคุณตายไปแล้วในตอนนั้น.. ”
รองเจ้าเมืองไม่ตอบคำถามของลูเบลล่า เขายังทำสีหน้าบึ้งอยู่ขณะจ้องมองสิ่งของที่อยู่ในมือ
มันคือหนังสือเวทย์หนึ่งเล่ม
“ นั่นคือ…! ” ลูเบลล่าคุ้นเคยกับหนังสือที่รองเจ้าเมืองกำลังถืออยู่
“ หนังสือเวทย์ของเบลลู… ” มันคือหนังสือเล่มนั้นที่ลูเบลล่าเห็นก่อนจะหลบหนี เธอรู้สึกได้ว่ามันปนเปื้อนด้วยพลังชั่วร้ายของเบลลู
“ เธอเรียกมันผิดแล้ว ‘แก่นแท้ของพิธีกรรมสังเวย’ นี่คือชื่อที่แท้จริงของมันครับท่านหญิงลูเบลล่า ” รองเจ้าเมืองแก้ไขชื่อของหนังสือให้ถูกต้องขณะที่กำลังปิดหนังสือ เสียงของเขานุ่มนวลให้บรรยากาศผ่อนคลาย
แต่สิ่งที่ซีคสังเกตุเห็นคืออารมณ์ที่บิดเบี้ยวเบื้องหลังมากกว่า
“ นี่มันอะไรกันค่ะ! คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่…”
“ นี่เธอยังไม่เข้าใจหรือไง? ” ซีคตบไปที่หลังลูเบลล่าให้ใจเย็นลง
“ พวกเราได้ข้อมูลที่ผิดมา เจ้าเมืองปอร์ติไม่ใช่สาวกตัวจริงของเบลลู คงเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกเอาวิญญาณออกไปมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง ”
“ มัน… ” ไม่ใช่ว่าลูเบลล่าตามเรื่องไม่ทัน แต่ที่ผ่านมาเธอเชื่อมาตลอดว่าเจ้าเมืองคือต้นเหตุทั้งหมดจึงเป็นเป้าหมายในครั้งนี้ ที่ผิดคือตั้งแต่แรกเธอมองการแสดงของรองเจ้าเมืองไม่ออก เมื่อความจริงปรากฏเธอจึงออกอาการสับสน
เธอมองหัวเจ้าเมืองที่กำลังกลิ้งอยู่บนพื้น ก่อนจะมองมาทางซีคอีกครั้ง
" งั้นใคร…? " ลูเบลล่าไม่พูดให้จบประโยคก็เหลือบสายตาไปทางรองเจ้าเมือง
จริงๆแล้วตั้งแต่เห็นรองเจ้าเมืองปรากฎตัวเธอก็เริ่มรู้ความจริง แต่เธอไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อนจึงทำใจเย็นแบบซีคไม่ได้
" เขาใช่ไหม… "
“ ใช่ เขาน่าจะเป็นผู้บงการ ” ขณะเกาคอซีคก็พยักหน้า โดยใช่ปลายค้างเชิดไปทางรองเจ้าเมืองแทนการใช้นิ้วชี้ตัว รองเจ้าเมืองไม่ได้สนใจเรื่องที่พวกเขารู้ความจริงเลย ทำแค่ขมวดคิ้วมาทางซีค
“…นี่เป็นฝีมือนายงั้นหรอเจ้าหนู” รองเจ้าเมืองเปิดหนังสือเวทย์ที่เขาเรียกมันว่า‘แก่นแท้ของพิธีกรรมสังเวย’ ให้เห็นสภาพด้านใน มันเป็นงานเขียนอันเลือดเย็นเต็มไปด้วนกลิ่นอายคำสาปแช่ง แต่ความน่ากลัวมันลดทอนลงเพราะบางหน้าขาดครึ่งออกไป
“ อ่อนั้นหรอโทษทีละกัน ข้าเห็นอะไรก็ไม่รู้กระโดดออกมาเลยเผลอเหวี่ยงดาบฟันเข้าให้หนะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกใช่มั้ย นี่ไงเศษกระดาษที่ขาด ”
ซีคใช้เท้าเหยียบแผ่นกระดาษที่อยู่ใกล้ตัว แล้วเขี่ยมันไปทางรองเจ้าเมือง แต่ไม่ว่ายังไงหน้ากระดาษพวกนั้นก็ไปไม่ถึงรองเจ้าเมืองเพราะถูกลูกเตะของซีคอีกหลายครั้งจนเป็นเศษมากกว่าเดิมแล้วตกลงพื้นแทน
ตัวรองเจ้าเมืองตอนนี้ไม่ได้มองเศษหน้ากระดาษพวกนั้นเลย
“…เฮ้อเหมือนหนูน้อยตัวนี่ ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังวิ่งเล่นอยู่ในดงจั่น ท่าทางสนุกสนานเชี่ยว ”
“ โอ้งั้นหรอ แล้วแกเคยคิดบ้างไหม “ ” ว่าคนวางเหยื่อบางครั้งก็ไม่รู้ตัวว่าถูกล่าได้เหมือนกันหนะ ”
ซีคสวนกลับโดยพาดดาบไว้บนบ่า จ้องตรงไปทางรองเจ้าเมืองแผ่ออร่าข่มออกมา ไร้ความกังวลแม้แต่น้อยว่าจะถูกศัตรูล้อมจับ กลิ่นอายเหล่านี้ทำให้ลูเบลล่าที่ตอนแรกกังวลกลับมาสงบได้อีกครั้ง
“ จะว่าไปก่อนกระทืบแกขอถามก่อน—พวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์ละ ”
“ แล้วเจ้าคิดว่าพวกมันควรจะมีชีวิตอยู่มั้ย ” ดวงตาของลูเบลล่าสั่นไหวขึ้นเมื่อพวกเขาโยงมาที่เรื่องนี้ จากนั้นดวงตาของรองเจ้าเมืองก็ย้ายไปทางลูเบลลา บนใบหน้าปรากฎรอยยิ้ม
“ ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะบดเนื้อพวกมันอย่างพิถีพิถัน ป้อนให้พวกอันเดตตัวน้อยๆเป็นอาหารไปแล้วสิ ”
“ ฮึกก! ” ลูเบลล่าร้องลั่น อยากตวาดออกมาด้วยความโกรธมือที่จับคฑาของเธอสั่นเทา
“ เป็นเช่นไรท่านหญิงลูเบลล่า สนุกกับละครที่ข้าจัดเพื่อท่านหรือไม่ ”
“ เสียดายก็ตรงท่านหญิงรีบหนีออกไปก่อน แต่ประหลาดใจกว่าที่เธอกลับมาพร้อมตัวช่วยดีดีได้เร็วขนาดนี้ "
" อาจจะเป็นอันตรายกว่านี้แล้ว ถ้าไม่ถูกบังคับให้มาเผชิญหน้าตรงๆ ”
“ ไม่เรื่องนี้ข้าขอแก้ "
" ไม่ใช่'อาจเป็นอันตราย' แต่วันนี้แกตายแน่นอน ”
ซีคเหยียดนิ้วโป้งขึ้นแล้วทำท่ากรีดผ่านคอ แสดงออกมาว่ารองเจ้าเมืองต้องตายด้วยมือเขา จากการยั่วยุนี่รองเจ้าเมืองกระตุกริมฝีปากขึ้นอย่างลำคาญใจ
“ ที่เจ้ายืื่นมือมาช่วยผู้สมัครนักบุญจากคารุวิมาณแบบนี้ มาจากกลุ่มอำนาจไหนละ หรือเป็นกองกำลังลับของศาสนจักรกัน "
" ฮึ ไม่ใช่ที่แกว่ามาเลย! "
ซีคปฏิเสธที่รองเจ้าเมืองกล่าวทันที ความคิดที่ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของคารุวิมานทำเขารู้สึกหนาวแปลกๆ แม้ว่าเส้นทางเดินตอนนี้กำลังข้องเกี่ยวกับศาสนจักรในรูปแบบใหม่ แต่ไม่มีความคิดเข้าร่วมอยู่แน่นอน
' และมันจะไม่เกิดขึ้นแม้แต่ในอนาคต '
“ แล้วเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องทำไม? ”
“ อ่ามันเรียกว่าอะไรนะ คงเรียกว่าทำสิ่งดีๆหนะ ”
"…เหตุผลอะไรนะ? " รองเจ้าเมืองถามอีกครั้งเหตุผลทั้งหมดที่เข้าคิดไว้ นี่เป็นคำตอบที่คาดไม่ถึงที่สุด อย่างไรก็ตามซีคกลับยืดอกตัวเองมากขึ้น พร้อมประกาศอย่างมั่นใจ
“ ข้าพูดว่า เพราะต้องการทำความดี ”
“ เพราะเหตุผลนี่แกถึงให้ความร่วมมือกับพวกศาสนจักร ? ”
" ใช่ "
“…แกมันเสียสติไปแล้วจริงๆ”
“ ไอ้โง่ อย่างแกไม่ควรพูดวิจารณ์วิถีชีวิตคนอื่น ” ซีคถ่มน้ำลายลงพื้น
“ ฮ่าๆตกลง เจ้าหนูตอนนี้แกคงจะเป็นที่พึ่งเดียวที่ยัยนี่ขอร้องได้แล้วแหละ แต่ว่าถ้าแกมีเหตุผลแบบนั้นจากนี่ไปทำไมไม่เข้าร่วมกับพวกข้าละ"
" แกว่าไงนะ? "
“ เจ้าบอกว่าอยากทำความดี ที่จริงแล้วเจ้าควรสนับสนุนพวกข้า การถวายโลกใบนี้แด่ท่านเบลลูคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดสำหรับทุกชีวิต ” “ เพราะท่านเบลลูคือความเป็น…”
“ พอ แกแพล่มซะเยอะเพราะอยากยกฐานะสาวกหัวปลาให้ดูดี แต่ว่านะไม่ควรพูดมากเกินไปรู้มั้ยเพราะสมองปลาแบบแกที่นับถือบูชาสิ่งด้อยสติปัญญาแบบนั้น ” “ ระวังจะคิดคำพูดไม่ทันแล้วลิ้นพันตายไปก่อนละ ”
“…”
“ แกอย่าจ้องกันแบบนั้นสิ ข้าแค่พูดความจริง บนโลกนี้ใครก็รู้ว่าเทพอะไรนั่นที่พวกแกนับถือบูชามันมีระดับสติปัญญาต่ำแค่ไหนจากหัวปลาแบบนั้น เรียกว่าโง่แหละ ”
“ ไม่เป็นไรนะ อย่างน้อยที่สุดแกจะดีขึ้นได้เมื่อยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แล้วตาสว่างขึ้น”
“ ฮึ่บ! หึ ฮิๆ ” จากด้านข้างเสียงหัวเราะที่กลั่นไม่ไหวแล้วของลูเบลล่าดังออกมา เมื่อเธอเห็นสายตาอาฆาตของรองเจ้าเมืองเลยพยายามไม่หัวเราะออกมาดังมากเกิน กับคำพูดที่วิเศษของซีค
“…ถ้าแกอยากเลือกความตายขนาดนั้น ข้าจะสนองให้ "
“ ราคาที่แกทำความเสียหายกับหนังสือเวทย์นี้ และ เพื่อเป็นการขออภัยท่านเบลลูจากสิ่งที่แกทำ แกต้องเจอความทรมานก่อนตายอย่างเหมาะสมแน่ ระหว่างรับโทษก็อย่าลืมสำนึกผิดด้วยละไอ้หนู ”
รองเจ้าเมืองยกหนังสือเวทย์ขึ้น มานาแห่งความมืดไหลออกมาจากมันปกคลุมไปทุกทิศทาง จากนั้นตัวเจ้าเมืองก็ถอยหลังออกจากประตู แล้วค่อยมีบางอย่างรุมทะลักเข้ามาเต็มห้อง
" มันคืออันเดด "
ซีคยกดาบขึ้นตัวเองขึ้น เขาสัมผัสถึงตัวตนอันเดตที่มากขึ้นอย่างทวีคูณ รองเจ้าเมืองคงกำลังเรียกพวกมันจากที่ไหนสักแห่งต่อไป
“ ฆ่าผู้ชายอย่างเดียว ผู้หญิงยังมีประโยชน์ ไว้ชีวิตเธอไว้ก่อน! ”
“ นายก็ ระวังตัวด้วย! ”
ลูเบลล่ายกคฑาในมือขึ้นพร้อมเริ่มไหลเวียนพลังศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเหมือนเธอตัดสินใจแล้วว่าจะเดิมพันด้วยชีวิต
กลับกันซีคที่อยู่ข้างเธอยังใจเย็น
“ จะว่าไปข้าเกิดคำถามทุกทีเลย ที่เห็นคนแบบแกหนะไอ้สาวกหัวปลา ”
ซีคที่เตรียมออกท่าบางอย่าง แล้วบ่นออกมา “ ทำไมถึงมั่นใจกันจังว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม ”
“ ล่าสุดแกก็ผิดพลาดปล่อยให้ยัยนี่หนีไปจากคฤหาสน์ได้แล้ว ล้มเหลวหวะ ”
วิงง!
ซีครวมมานาไว้ในดาบราวกับคลื่นทะเลปั่นป่วน แล้วเหวี่ยงฟันออกไป พลังทำลายถูกส่งออกมาเป็นคมดาบหลายสิบเล่มบินออกไปยังศัตรูตรงหน้า
ฉิงง! ฉิงง! ฉิงง!
เกิดเสียงคมดาบฟันขึ้นหลายสิบเสียง ลูเบลล่าที่เตรียมใจตายแล้ว แม้แต่รองเจ้าเมืองที่ระวังตัวอยู่ก็ต้องผวาไปกับฉากฟาดฟันตรงหน้า
แต่ถึงยังไงรองเจ้าเมืองยืนมองเฉยๆไม่ได้ เพราะออร่าแหลมคมหลายอันก็ถูกล็อคเป้าตรงมาที่เขา
" ฮึก! "
รองเจ้าเมืองยกหนังสือเวทย์ขึ้น ไหลเวียนพลังมืดให้มากกว่าเดิม
ปึงง! ปึงง! ปึงง!
พลังฟาดฟันที่ซีคส่งออกมาชนกำแพงโปร่งแสงและถูกหักล้างหายไป กำแพงโปร่งแสงนั้นไร้รอยขีดข่วน
แต่
พรึบ! พรึบ! พรึบ!
อันเดตจำนวนมากล้มลงกับพื้น บางตัวขาดครึ่ง บางตัวหัวหาย ส่วนเจ้าของผลงานแทนที่จะดีใจกับผลงานตรงหน้าเดาะลิ้นขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ คิดไว้ไม่มีผิด หนังสือเล่มนั้นเป็นของที่ใช้การได้เหมือนกัน ”
ทักษะที่ซีคแสดงออกมาแรงกว่าที่รองเจ้าเมืองคิดไว้พอสมควร ทำเขารู้สึกใจเต้นขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่นาน พอซีคพูดชมความสามารถของหนังสือเวทย์ในมือ รองเจ้าเมืองก็ยังรักษาความมั่นใจไว้ได้อยู่เช่นกัน
“ แน่นอน! หนังสือเวทย์เล่มนี้ อาบไว้ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์บางส่วนของท่านเบลลู ”
“ แค่ทักษะโจมตีอย่าง—!…”
“—อ่า ช่างมันเถอะถือว่าไม่ได้พูด ”
ซีคตัดคำพูดของรองเจ้าเมือง
“…ไอ้หนูแกมันอวดดีให้ถึงที่สุดละ ไม่ว่ายังไงก็—!”
“—ไอ้โง่นี่ก็บอกแล้วช่างมัน ไม่ต้องบรรยายเพิ่ม ”
“ ตอนนี้แกดึงพลังของมันมาใช้ได้แค่บางส่วนเท่านั้นแหละ เพราะ..ว่า..มัน เสียหายเข้าใจใช่มั้ย ”
ซีคกระทืบไปที่เศษกระดาษบนพื้นอีกครั้ง เหมือนย้ำสาเหตุให้รองเจ้าเมืองดูอีกที รองเจ้าเมืองยังทำเฉยมีแค่หน้าผากย่นเล็กน้อย เหมือนยังไม่มีอะไรแย่แล้วพูดต่อ
“ เจ้าจะพูดเรื่องเดิมทำไม แค่นั้นมันไม่ได้รับกระทบอะไร ”
“ งั้นหรอ ถ้างั้นไอ้โง่อย่างแกลองเรียกใช้งานอันเดตชั้นสูง เหมือนตอนแกใช้วางกับดักพวกอัศวินศักดิ์สิทธ์ที ”
“…”
รองเจ้าเมืองยังไม่ตอบโต้อะไรเขากัดฟันอยู่ ซีคสังเกตุนานแล้วว่าอันเดตที่รวมตัวทั้งในและนอกห้องทั้งหมดอยู่แค่ระดับกลางและต่ำ เขายังสัมผัสไม่ได้ถึงอันเดตขั้นสูงอย่างที่ลูเบลล่าเคยพูดถึงเลย
"…ถึงข้าเรียกใช้อันเดตขั้นสูงไม่ได้ ทหารยามด้านนอกก็พอ—”
“ โทษทีแต่ข้าว่าทหารยามของเมืองปอร์ติไม่ได้อยู่ข้างแกนะ! ไม่สิที่ถูกคือพวกนั้นไม่ได้เป็นคนของเบลลิตแน่นอน ”
ใบหน้าของลูเบลล่าอึมขรึมลงเมื่อนึกถึงทหารยามของเมืองนี้ แต่เธอก็ถามออกมาด้วยความประหลาดใจเพราะคิดไม่ถึงเรื่องนี้ “ นี้เรื่องจริงงั้นหรอ?”
“ ก่อนแอบเข้ามาไม่ได้บอกเธอแล้วหรอ ว่าทหารยามในคฤหาสน์มันน้อยผิดปกติ ” “ แต่ละคนก็ไม่ได้เชี่ยวชาญการใช้มานาเลยหนะ ”
“ ฮ่า นั่นเป็นเพราะข้าต้องการหลอกล่อให้หนูที่หลบหนีไปกลับมาต่างห่าง "
รองเจ้าเมืองทำเสียงฮึดฮัดก่อนตอบ แต่ซีคก็ถามต่อโดยทำเสียงฮึดฮัดสองครั้งในลักษณะเดียวกัน
“ ฮ่าฮ่าเอาล่ะ สมมติว่าแกตั้งใจลดเวรยามเพราะแผนนั่น แล้วจำนวนข้ารับใช้ในคฤหาสน์ที่ลดไปมีเหตุผลอะไรละ "
ช่วงระหว่างวันที่ซีคมาสำรวจ เขาไม่เพียงแค่เก็บรายละเอียดทหารยามเท่านั้น แม้แต่คนรับใช้ คนสวน คนออกไปซื้อของในเมือง ส่วนใหญ่ถูกซีคสังเกตุพฤติกรรมและคอยแอบฟังการพูดคุยของพวกเขา แม้แต่เจ้าของร้านที่ขายของให้คฤหาสน์ก็เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลได้เช่นกัน
“ ข้าเคยเป็นขุนนางมาก่อนมองโดยรอบก็รู้ได้แล้วว่าผิดปกติ ความสะอาดเรียบร้อยมันแย่ไปหมดเพราะคนรับใช้จำนวนมันไม่พอกับงาน ”
“ เธอรู้มั้ยการลดกำลังทหารยามหนะพอว่า แต่การที่คนรับใช้ก็ถูกลดไปด้วย มันหมายความว่ายังไงถ้าไม่ใช่เพราะว่าอยากปิดบังบางสิ่ง ถ้าให้พูดตรงๆก็คือต้องการซ่อนพวกมันไว้ยังไงละ ” ซีคชี้ไปทางอันเดต
พอเหตุการณ์มาถึงตรงนี้ทุกอย่างเริ่มชัดขึ้น ถึงแม้ซีคจะรู้ว่านี่เป็นกับดักแต่เขากล้าพอจะพาลูเบลล่าเข้ามา เพราะเขามีแผนการในใจแล้ว แต่มันเกี่ยวข้องกับทหารยามและคนรับใช้ในคฤหาสน์ จะส่งผลได้ดีก็ต่อเมื่อพวกอันเดตรวมตัวกันจำนวนมาก
อันเดตขั้นสูงจำนวนมากสำหรับซีคตอนนี้ใช่ว่าจะไม่เป็นไร ขนาดพวกอัศวินศักดิ์ตอนถูกวางกับดักยังพลาดท่าลง ด้วยเหตุนี้ซีคที่รู้ว่าภายในคฤหาสน์ต้องมีอันเดตไม่น้อยการหาทางไว้ล่วงหน้าเป็นเรื่องจำเป็น อย่างถ้าเหตุการณ์ไม่ดีเขาสามารถดึงให้ทหารยามด้านนอกมาสนับสนุนต้านพวกอันเดตไว้ แล้วตอนชุนลมุลค่อยแอบพาลูเบลล่าหลบหนี
‘ แน่นอนว่ายัยนี่คงไม่เห็นด้วยคงต่อต้านด้วยซ้ำเพราะมีชีวิตคนบริสุทธิ์เกี่ยวข้อง… ’
เพราะงั้นตั้งแต่แรกซีคถึงไม่เล่าแผนการอะไรให้ลูเบลล่าฟังเลย แต่มันไม่สำคัญแล้ว ด้วยความเสียหายของหนังสือเวทย์ รองเจ้าเมืองไม่มีอำนาจพอจะหยุดยั้งพวกเขาอีกต่อไป
‘ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เราลงมือได้เร็วกว่า ’
ซีคแอบภูมิใจปฎิกิริยาโต้ตอบของตัวเองในใจอยู่ครู่หนึ่ง
“ ข้าพูดผิดมั้ยละ เมื่อไม่มีอันเดตระดับสูงแกก็หยุดพวกเราไม่ได้อีกต่อไป ”
“ ส่วนอันเดตพวกนี้ถ้าเกิดปะทะกับทหารยามด้้านนอกคงโกลาหลน่าดู ผู้คนในเมืองจะได้เห็นเรื่องน่าตกใจที่คนที่สมควรตายแล้วอย่างแกยังสบายดีขนาดนี่ ไอ้สาวกหัวปลาแกว่าดีไหมละ ”
“…ฮึ ข้ายอมรับว่าจะหยุดพวกแกไว้มันยาก แต่เสียใจ'พิธีกรรมสังเวยเมือง'นี้แด่ท่านเบลลูมันสมบูรณ์แล้ว ”" สิ่งที่พวกแกทำได้ตอนนี้ก็แค่การหลบหนี "
ร่างของลูเบลล่าสั่นเทาขึ้น ทั้งชีวิตเธอไม่เคยอยากเอาคฑาฟาดหน้าใครเท่านี้มาก่อน ยิ่งตอนเห็นรอยยิ้มเหน็บแหนบของรองเจ้าเมือง
กลับกันคนที่ยังอารมณ์ใจเย็นที่สุดไม่พ้นตัวซีค ทำเอารองเจ้าเมืองเริ่มกังวลเล็กน้อย เขายังกลัวว่าซีคยังมีอะไรที่ซ่อนเอาไว้อยู่อีก
“ เมื่อไหร่แกจะหยุดละครตบตาโง่ๆสักทีละ ”
“ ข้าจะย้ำให้ฟังอีกรอบ หนังสือเวทย์—ที่แกเรียกว่าแก่นแท้อะไรนั่น—มันพังแล้ว “ ” เป็นไปไม่ได้ที่แกจะทำให้แผนการสำเร็จ ”
" ไม่สำคัญกับพิธีกรรม—”
“ ตกลงถ้าแกว่างั้นพวกเราจะเชื่อ ก็ดีพวกเราจะหนีไปเลยตอนนี้เลยให้แกเริ่มพิธีกรรมได้ตามใจ ”
“ แกพอใจรึยัง แน่ใจแล้วนะที่ให้พวกเราไป ”
“…ก็ไม่เป็นไรที่แกทำลายไป เวลาไม่นานก็ฟื้นฟูได้ใหม่แล้ว ”
“ ไอ้โง่นี่ แกช่วยรู้ตัวสักทีได้มั้ยว่าละครบลัฟนี่มันไม่ได้ผล แผนแกพังแล้ว “ ” เวลาสั้นๆนี่แหละที่พวกเราทำบางอย่างได้ ”
“…เจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่ละ ”
“ หลังจากออกไปหนะหรอ ก็ว่าจะไปสำรวจเมืองระหว่างนั้นก็มองหารูปปั้นหินของเบลลู ต่อมาก็ทำลายเล่นระบายอารมณ์สักหน่อย ”
รองเจ้าเมืองที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่่่าง แต่ซีครำคาญที่จะฟังแล้วจึงตัดบทพูดต่อเอง “ แน่นอนว่าพิธีกรรมที่ใกล้สมบูรณ์แล้วแบบนี้ การทำลายรูปปั้นพวกนั้นไม่ช่วยหยุดพิธีกรรมได้หรอกเพราะพลังของพิธีกรรมทั้งหมดถูกปนเปื้อนไปกับสายน้ำบาดาลที่ไหลอยู่ใต้เมืองแล้ว ”
“ แต่ว่านะจะบอกให้สักอย่าง การทำลายรูปปั้นหัวปลาโง่ๆนั่นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของคารุวิมาณ ผลของมันคือการทำให้พลังของพิธีกรรมบั่นทอนลง เรื่องนี้ข้าก็รู้..” ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนถูกเหน็บแหนมเป็นฝั่งของรองเจ้าเมืองแทน
“เรื่องนี้ จ-จริงเหรอ”
“ ใช่ พอดีรู้มาโดยบังเอิญ พวกเราไม่มีเวลาให้รอความช่วยเหลือจากภายนอกแล้ว ”
“ เพราะฉะนั้นการทำลายรูปปั้นเบลลูที่อยู่รอบเมืองจะทำให้ไอ้โง่นี้ถูกลดอำนาจของพิธีกรรม ยิ่งตอนนี้มันไม่สามารถย้ายศูนย์กลางของพิธีกรรมได้อีกแล้ว เมื่อถึงจุดๆหนึ่งตอนนั้นเราคงทำลายพิธีกรรมได้โดยตรง เรียบร้อยภารกิจก็สำเร็จ ”
แม้แต่รู้เบลล่าก็ไม่รู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ตัวเธอนี้ไม่สงสัยคำพูดของซีคเลย เธอกำลังยินดีในความหวังครั้งใหม่ โดยทางตรงข้ามสีหน้าของรองเจ้าเมืองบิดเบี้ยวไม่ต่างกับวิญญานร้ายที่ปวดท้อง
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 327
แสดงความคิดเห็น