ตอนที่ 17 เคลียร์ปัญหา
บ้านหลังเล็กตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน ชั้นล่างทำจากปูนซีเมนต์และชั้นบนทำด้วยไม้ แต่ก็ถือว่าไม่เล็กมากในเนื้อที่ประมาณสองงานเศษ รวมพื้นที่บริเวณรอบๆบ้าน สัดส่วนของบ้านแม้จะไม่ใหญ่โตนัก แต่สิ่งของเครื่องใช้ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบและน่าอยู่ และพื้นที่ภายในบ้่านมีต้นไม้ปลูกไว้หลากหลายชนิดทำให้มีร่มเงาที่น่าอยู่เป็นอย่างมาก ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงเป็นแปลงนาข้าวของชาวบ้านในระแวกนั้น ทำให้สองข้างทางเขียวขจี และดูสบายตามากกว่าอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่แออัด ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นมรดกที่ตากับยายได้มอบไว้ให้แม่ของเธอ ก่อนแม่จะย้ายเข้าไปอยู่กับพ่อในตัวเมืองหลังจากแต่งงานกัน และบ้านหลังนี้ก็ถูกปล่อยให้คนเช่ามานานหลายปี และผู้เช่าคนเก่าก็ได้ย้ายออกไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ชโลธรจึงได้ขอพ่อกับแม่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
“แม่ว่าอยู่บ้านหลังใหญ่นี้ก็ดีแล้วนะลูก ทำไมถึงอยากไปอยู่บ้านนั้นล่่ะ ยิ่งกำลังท้องกำลังใส้ใครจะดูแลหนู”
หลังจากที่เธอกลับมาอยู่ที่บ้าน เธอก็ได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้กับแม่ของเธอฟังทั้งหมด คงมีแค่คนในครอบครัวที่เข้าใจและคอยให้กำลังใจเธอไม่ว่าจะเจอเรื่องที่หนักหนาแค่ไหน
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะแม่ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ อีกอย่างบ้านนั้นก็ไม่ได้อยู่ไกลมากสักหน่อย นะคะแม่”
“เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวแม่ให้ป้าเดือนมาอยู่เป็นเพื่อนนะ จะได้คอยช่วยหยิบจับอะไรได้สะดวก และจะได้ดูแลหนูด้วยเผื่อเป็นอะไรขึ้นมา และถ้าแม่ว่างตอนกลางวันแม่จะมาอยู่เป็นเพื่อนนะ”
“จ้ะแม่” หญิงสาวออดอ้อนแม่จนยอมให้เธอย้ายมาอยู่บ้านนี้แต่ก็ต้องมีป้าเดือนคนข้างบ้านที่คอยมาของานทำอยู่เป็นประจำ ให้ไปช่วยดูแลและให้ค่าจ้างตามที่เห็นสมควร
ส่วนตัวเธอเองในช่วงนี้คงจะเอางานบัญชีของพ่อมาช่วยทำที่บ้านก่อน เพราะเป็นช่วงที่พ่อของเธอเริ่มทำธุรกิจใหม่หลังจากที่ล้มละลายไป หากจะให้เธออยู่เฉย ก็คงจะทำไม่ได้แน่ๆ
“ลูกต้องดูแลตัวเองนะ ถึงใครจะไม่รักก็ช่างเขา แต่จงจำไว้ว่าลูกยังมีครอบครัวที่คอยให้ความรักกับลูกเสมอ”
“ค่ะแม่ ถึงเขาจะไม่มีพ่อแต่ชลจะเลี้ยงดูเขาให้ดี ทำให้เขาไม่รู้สึกขาดทั้งพ่อทั้งแม่”
เธอก้มมองท้องที่กำลังป่องออกมาน้อยๆอย่างเอ็นดูและใช้มือลูบเบาๆ ท้องของเธอโตขึ้นทุกวัน มันทำให้เธอมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ ใจเธอจดจ่อให้ถึงวันที่เจ้าตัวเล็กจะตื่นมาลืมตาดูโลก
“คุณชลเป็นยังไงบ้างคะ ท้องเริ่มโตหรือยัง”
“ค่ะป้า ตอนนี้เริ่มเห็นชัดแล้วค่ะ”
“คุณชลดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าทำงานให้หนักมากนะคะ พักผ่อนเยอะๆเจ้าหนูจะได้แข็งแรงค่ะ”
“ขอบคุณนะคะป้าสำรวย ป้าเองก็ดูแลตัวเองเช่นกันนะ”
“ค่ะๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
เสียงสนทนาผ่านสายโทรศัพท์ ระหว่างชโลธรกับป้าสำรวย เพราะว่าทั้งคู่ยังติดต่อกันเป็นประจำ ด้วยความที่ป้าสำรวยเองก็เป็นห่วงเธอ แต่ก็ได้แค่โทรศัพท์หาสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง ในช่วงที่ธิวากรนั้นไม่อยู่บ้านและเป็นช่วงที่เขมจิราน่าจะออกไปข้างนอกพอดี แต่จู่ๆก็มีเสียงของใครบางคนพูดขึ้นหลังจากที่ป้าสำรวยวางสายโทรศัพท์จากเธอลง
“ป้าคุยกับใคร”
“คุณกร!!!” ป้าสำรวยตกใจจนหน้าถอดสี ไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในบ้านตอนช่วงบ่ายแบบนี้
“ป้าคุยกับชลใช่ไหม ป้าบอกมาสิว่าเธออยู่ไหน??” ธิวากรใช้มือจับต้นแขนของป้าสำรวยและเขย่าอย่างแรง เมื่อมั่นใจว่าปลายสายที่วางไปสักครู่คือชโลธร
“ปะ! เปล่าค่ะป้าไม่ได้คุยกับคุณชล”
“ผมได้ยินที่ป้าพูดหมดแล้ว ป้าบอกมาเถอะจะให้ทำอะไรผมก็ยอม”
“คุณกรใจเย็นๆก่อนนะคะ”
“ป้าบอกผมมา เธออยู่ที่ไหน ชลอยู่ไหนป้า” ธิวากรคาดคั้นเอาคำตอบจากป้าสำรวย
“คุณกรรักคุณชลบ้างหรือเปล่าคะ” คำถามที่ทำให้เขาต้องหยุดชะงักและเลิกคลุ้มคลั่งได้ เขาปล่อยมือออกจากต้นแขาของป้าสำรวยก่อนทรุดตัวลงนั่งอย่างคนหมดแรง
“รักครับ รักมาก มากกว่าชีวิตของตัวเองซะอีก”
“แล้วคุณเขมล่ะคะ” เขาเงยหน้าขึ้นมองป้าสำรวยอย่างไม่เข้าใจ
“เขมเป็นแค่เพื่อนของผม จริงๆนะครับ”
“แล้วคุณเขมคิดยังไงกับคุณคะ ผู้หญิงเราแม้จะไม่พูดก็ต้องการความชัดเจนและความซื่อสัตย์ ถ้าคุณไม่ทำให้เขาเห็น เขาก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าคุณรู้สึกยังไง”
“ป้าพูดหมายความว่าไงครับ”
“รักก็ทำให้เขาเห็นว่าเรารัก ถ้าไม่ได้รักก็บอกเขาไปตรงๆผู้หญิงเขาจะได้ไม่คิดไปเองยังไงล่ะคะ คุณต้องแก้ปมที่คุณผูกมันขึ้นมาก่อนจะไปตามหาคนที่คุณรักนะคะ”
ธิวากรเข้าใจกระจ่างแจ้งในสิ่งที่ป้าสำรวยพูดถึง คนที่เขาจะต้องจัดการให้ได้เสียก่อนนั่นคือเขมจิราเขาจะต้องเด็ดขาดกับเธอสักที โดยเฉพาะเรื่องวันนั้นที่เขาเข้าไปนอนในห้องของเธอ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ล่วงเกินเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นเธอต่างหากที่มอมเหล้า จนเห็นว่าเขาเมามากจึงฉวยโอกาสนั้นพาเขาไปนอนที่ห้องของตัวเองก่อนจะจัดฉากทำเหมือนว่าโดนเขาขืนใจ ที่ผ่านมาที่เขาไม่ได้พูดอะไรเพราะกลัวว่าจะทำให้หญิงสาวเสียหน้าเขาจึงเลยตามเลย แต่ครั้งนี้คงจะปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
“อ้าวเขม กลับมาแล้วเหรอมานั่งสิกรมีเรื่องจะคุยด้วยพอดีเลย”
“กรมีอะไรคะ ถึงตั้งหน้าตั้งตารอเขมขนาดนี้” หญิงสาวเข้าไปนั่งข้างๆแล้วเกาะแขนธิวากรอย่างสนิทสนม แต่ทว่าเขาแกะมือเธอออกก่อนจะขยับออกห่างจากเธอ
“ร้านเป็นไงบ้าง ใกล้เสร็จยัง”
“ใกล้แล้วค่ะ อีกประมาณสามสิบเปอร์เซ็นทำไมเหรอคะ”
“กรว่าเขมควรจะย้ายออกจากที่นี่ได้แล้วนะ อย่าหาว่ากรไล่เลยแต่กรไม่สะดวกใจจริงๆ”
“ทำไมเหรอกร แล้วเรื่องของเราล่ะ อยู่ดีๆกรจะมาไล่เขมแบบนี้หรอ แล้วที่ผ่าามาล่ะ กรไม่ได้รักเขมเลยใช่ไหม”
เมื่อได้ยินคำพูดเจ้าของบ้านทำเอาเขมจิราโวยวายลั่นบ้าน จู่ๆน้ำตาเธอก็ไหลลงมาอาบสองแก้มอย่างห้ามไม่ฟัง แต่เขาเองก็จะต้องไม่ใจอ่อนให้กับเธออีกเขาจึงพูดเพื่อให้เธอเข้าใจและเรื่องราวจะได้จบไป
“ใช่...กรไม่ได้รักเขมแบบนั้น แต่กรรักเขมแค่เพื่อน”
“เพื่อนงั้นเหรอ แล้วที่กรเข้าไปปล้ำเขมในห้องวันนั้นล่ะ เขาเรียกว่าเพื่อนหรอ”
“เขม เขมฟังกรให้ดีนะ วันนั้นถึงกรจะเมาแต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง กรไม่ได้ทำอะไรเขมเลย เขมต่างหากไม่ใช่เหรอที่พากรเข้าห้องเขมแล้วเขมก็เป็นคนจัดฉากเองทุกอย่าง เขมตั้งใจให้ชลเข้าใจกรผิด กรพูดถูกไหมเขม”
“ไม่จริงคะ เขมไม่ได้ทำ เขมไม่ได้ทำแบบนั้น”
“กรี๊ด!!!” จู่ๆเธอก็ร้องกรี๊ดขึ้นมาลั่นบ้านก่อนจะสลบไป ทำเอาคู่สนทนาของเธอตกใจไม่น้อย ก่อนจะเอาเธอนอนลงที่โซฟากลางห้องโถงของบ้่าน
“ป้าสำรวย อยู่ไหนครับขอยาดมหน่อยครับ” ธิวากรตะโกนเรียกป้าสำรวยให้มาช่วยดูแลเธอ
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าจัดการเอง” ป้าสำรวยรับคำของธิวากร ก่อนจะหายาดมและผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้กับเธอ จู่ๆก็มีข้อความเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์มือถือของเธอธิวากรจึงถือวิสาสะ แอบอ่านข้อความของเธอ จึงทำให้เขารู้ว่าสามีของเธอกำลังตามมาง้อเธอที่เมืองไทย ธิวากรจึงจัดการโทรศัพท์หาสามีเก่าของเธอให้มารับตัวเธอกลับไปซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ
“แดเนียล!!! นี่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วนี่มันคือที่ไหน” เมื่อเขมจิรารู้สึกตัวเธอก็พบว่าอยู่ในห้องกับแดเนียลสามีเก่าของเธอที่เคยอยู่กินกันมาเป็นสิบปี
“ผมไปรับคุณที่บ้านคุณกร เขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังหมดแล้ว ที่นี่ก็คอนโดของผมเอง กลับไปอยู่กับผมเหมือนเดิมเถอะนะ”
“ปล่อยเขมไปเถอะค่ะ เรื่องของเรามันจบลงแล้ว”
สิ้นเสียงแดเนียลดึงร่างบางเธอเข้ามาแนบชิดกับอกแกร่ง ก่อนจะประทับริมฝีปากอวบอิ่มลงบนปากบางชมพูระเรื่อของเขมจิราก่อนบทเพลงรักของทั้งคู่จะเริ่มต้นขึ้น….
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 401
แสดงความคิดเห็น