ร้ายนักรักให้หนัก : 2 โกหกกันหรือเปล่า
ตั้งแต่วันนั้นทรายก็โดนทำโทษคือปรับกะให้เป็นเข้าเช้าทั้งหมด จนถึงสิ้นเดือนเวรกรรมแท้คนที่ใช้ชีวิตกะดึกต้องมาตื่นเช้าแล้วกับบ้านค่ำๆ มืดๆ ถึงบ้านจะไม่ไกลจากที่ทำงาน แต่ก็นั่นแหละเพราะความไม่เคยชิน
"เลิกงานแล้วทำไมไม่กลับบ้านวะพี่" ต่อเดินผ่านมาทางโต๊ะที่ทำงาน
"ขี้เกียจพรุ่งนี้หยุด วันนี้อยากอยู่โหลดหนังด้วยไปไว้ดูเวลาว่างๆ " ทรายหันกลับไปตอบต่อและหันหน้ากลับเข้าคอม
นี่มัน 22.00น. แล้วนะเวลาผ่านไวเหลือเกินพอคิดว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด มันก็งุ้นง้านในจิตใจยังไงแบบบอกไม่ถูก วันนี้ทำไมโหลดช้าจังวะ ทรายคิดในใจปกติมันแป๊บเดียวก็ได้เป็น 10 เรื่อง
ไม่รู้จะทำอะไรก็หันไปทางเพื่อนๆ ที่กำลังรับสายเลยลองเดินไปดูเพื่อนที่นั่งรับสายหน่อยแล้วกันแบบคนมันว่างอ่ะนะ แต่เดี๋ยวนะ ทำไมน้องใหม่ทำหน้าจะร้องไห้แล้ววะแปลกใจจังเลยเดิน เลยเข้าไปใกล้ๆเผื่อมีอะไรช่วยได้
"พี่ค่ะหนูไม่ไหวแล้วฮึก..." น้องใหม่ต้อนรับคืนแรกถึงกับถอดหูออกหัวหน้ากะประจำวันเดินตรงมาที่น้องใหม่ทันที
"เป็นอะไรครับน้องร้องไห้ทำไม" ต้นหัวหน้ากะวันนี้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงกลัวน้องจะเจอลูกค้าแรง
แต่พอทรายชะโงกหน้าไปดูที่คอมก็รู้ได้ทันทีว่าใครที่โทรมา "โยธรา" วันนี้โทรมาแต่วันยังไม่ดึกเหมือนคราวที่แล้ว
"เขาถามหนูว่าใช่สายลมที่รับสายเมื่อคราวก่อนมั้ย แล้วเขาก็ดักคอหนูว่าเขาจำเสียงได้นะ เขายืนยันจะคุยกะพี่ทราย เขาไม่ฟังอะไรหนูเลยฮึก..." หลังจากน้องใหม่อธิบายคร่าวๆ พนักงานที่รับสายก็เริ่มหันกลับมามองที่ทรายเป็นตาเดียว
ก็จะไม่ให้มองได้ยังไงเล่นมาหาถึงบริษัท สงสัยเข้าใจว่าเข้าดึกแน่ๆ แต่ด้วยความที่เลิกงานมา 3 ชม. จะให้ไปรับสายต่อก็คงจะใช่ที่ใช่ไหมล่ะ
ต้นเลยหันไปบอกให้น้องใหม่กลับไปคุยกับลูกค้าแล้วให้บอกตรงๆ ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเลิกงานไปแล้ว
จากนั้นน้องก็กลับไปสนทนากับลูกค้าในสาย เหมือนจะไปได้ดีแต่สุดท้ายน้องก็หันกลับมาและขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
"ลูกค้าแจ้งว่าเราโกหกเขาค่ะพี่ต้น" โกหกบ้าอะไรคนเลิกงานแล้วเว้ยยยยยย
สุดท้ายต้องเป็นต้นที่ลงไปรับสายแทนพยายามอธิบายให้คุณโยอะไรนั้นเข้าใจ และจะทำการแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าพบเจอให้ แต่จนแล้วจนรอดลูกค้าก็ไม่ยอม
"มันจะเอายังไงวะ!!! " ต้นถอดหูออกเพราะเริ่มโมโหลูกค้าคนนี้สุดๆ คุยมา 40 นาทีไม่วาง ไม่แก้ไข ถามคำถามเดิมอยู่นั่น โกหกหรือเปล่าผมวางสายแล้วโทรมาใหม่ได้นะเพราะผมจำเสียงคุณสายลมคนนั้นได้
จ้าาาาาา ความจำเป็นเลิศสงสัยพ่อแม่ให้กินแต่ปลาความจำดีเหลือเกิน
"เอ็งลงไปรับสายไปทรายเดี๋ยวให้โอที 1 ชม." เป็นพี่ฝนที่เดินมาบอกหัวหน้ากะอีกคน
"บ้าพี่จะห้าทุ่มแล้วนะหนูอยากกลับบ้านแล้ว" ทรายรีบตอบปฏิเสธทันที
"แต่มึงก็ไม่กลับ สงสัยมึงจะเจอเนื้อคู่แล้ว" พี่ฝนยังว่าต่อ สุดท้ายก็จำใจรับทำโอทีแบบงงเพิ่มอีก 1 ชม.
"สวัสดีค่ะ ดิฉันสายลมที่คุยกับคุณโยธราวันนั้นค่ะ" ทรายกรอกสายลงไป พร้อมกันต้นที่นำหูฟังอีกอันมาฟังระหว่างสนทนาด้วยกัน
"เอาชื่อจริงคุณมาคุยกับผมคุณสายลม" ชายหนุ่มยังกรอกเสียงลงไปด้วยความหงุดหงิดเพราะเจ้าหน้าที่สองก่อนหน้านี้โกหกว่าอีกคนเลิกงานไปแล้ว
ทรายมองหน้าต้นเชิงสอบถามว่าแจ้งชื่อได้หรือไม่ เพราะปกติแล้วบริษัทจะให้ใช้ชื่อปลอมในการรับสาย แต่ลูกค้าคนนี้เป็นเหมือนข้อยกเว้นทุกประการ
"ดิฉัน..." กำลังจะแจ้งชื่อจริงแต่เสียงอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
"ชื่อเล่นของคุณชื่ออะไร" น้ำเสียงยังคงบ่งบอกถึงความหงุดหงิด
"ทรายค่ะ เรียกดิฉันว่าทราย" ทรายตัดสินใจแจ้งคนในสายทันที
"พวกเขาหลอกผมว่าคุณเลิกงานแล้วผมจะร้องเรียน"
"เจ้าหน้าที่ไม่ได้หลอกนะคะคุณโยธรา คือดิฉันเลิกงานแล้วค่ะ ตั้งแต่ 19.00น. เดือนนี้ทั้งเดือนดิฉันเข้ากะเช้าค่ะ แต่บังเอิญว่าดิฉันยังไม่อยากกลับบ้านเลยอยู่ที่ทำงานค่ะ"
"คุณแก้ตัวแทนหัวหน้าคุณหรือเปล่า ผมแค่โทรกริ๊งเดียวก็ได้ตารางของคุณมาแล้วนะ อย่าโกหกเชียว"
คนเอาแต่ใจยังพูดจาข่มขู่ ซึ่งถ้าฟังดีๆ น้ำเสียงนั้นไม่ได้มีความล้อเล่นอยู่ด้วยแน่ๆ ต้นแอบถอนหายใจหนักๆ พร้อมมองหน้าทรายว่านี่มันถึงคราวซวยหรือเปล่าเพราะลูกค้าคนนี้ท่าจะเกาะติดไม่ไปไหน
"ก็ถ้าคุณโยธราจะทำแบบนั้นก็ได้ค่ะ เพราะดิฉันไม่ได้โกหก หรือถ้าคุณมองว่าตอนนี้มันดึกแล้วพรุ่งนี้คุณมาดูกับตาก็ได้นะคะเดี๋ยวดิฉันจะเอาตารางงานให้คุณดูเลยค่ะ"
เมื่อหมดหนทางความปากไวของทรายก็เอ่ยท้าทายคนอย่างโยธราทันทีทั้งที่ตัวเองคงไม่รู้ว่าระหว่างสนทนากันมาราวๆ ชั่วโมงกว่าโยธราชายหนุ่มได้ออกมาจากบ้านแล้ว และตอนนี้ก็รอลิฟต์ที่จะขึ้นไปยังชั้นที่หมายของทรายที่ทำงานอยู่
"ออกมา" สิ้นเสียงคำสั่ง เจ้าเบลล์รุ่นน้องในกะวันนี้ก็วิ่งเข้ามาที่โต๊ะมอนิเตอร์พร้อมแจ้งพี่ฝนว่ามีลูกค้ามาขอพบพี่ทราย
ทุกคนในที่ทำงานล้วนแต่แปลกใจปกติแล้วลูกไม่มีคนไหนบ้าบิ่นกล้ามาในช่วงเวลากลางค่ำกลางคืนแบบนี้ แต่คนแบบโยธรามันเหนือความคาดหมายจริงๆ
ทรายหลังจากที่วางสายเสร็จก็เริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาบ้างเพราะตามจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องรับหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ก็ได้เพราะเขาเลิกงาน แต่ในเมื่อลูกค้ามาถึงขนาดนี้เขาก็อยากจะปกป้องทั้งรุ่นน้องและหัวหน้าของตนเหมือนกัน เพราะทั้งสองคนก็ไม่ได้โกหกสักหน่อย
"สวัสดีค่ะคุณลูกค้า" พี่ฝนรีบออกมาต้อนรับ
"ผมไม่ได้มาเจอคุณ ทรายอยู่ที่ไหน" ทันทีที่เขาเห็นคนอื่นออกมานับหน้าแต่ไม่ใช่คนที่คุยกับเขาอารมณ์ฉุนเชียวก็ดูจะกลับมาอีกครั้ง
"คุณโยธราดิฉันอยู่นี้ค่ะ" ร่างผู้หญิงที่เคยเจอเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนตอนที่เขามาที่นี่ปรากฏตัวขึ้น เขาจำไม่ผิดแน่ ยัยผู้หญิงอ้วนกลมที่นั่งลงบนเก้าอี้จนหัก มุมปากยกยิ้มขึ้นน้อยๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันมันถึงลืมหน้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สักที จนเขาเกิดอาการหงุดหงิดและดั้นดนมาถึงที่นี่ก็เพราะอยากจะรู้ว่าโกหกกันหรือเปล่าแค่นั้นเอง
โยธราแบมือออกไปคล้ายจะขออะไรจากหญิงสาวตรงหน้าซึ่งหญิงสาวก็เตรียมไว้ให้อยู่แล้ว เขารับมามองก็ขมวดคิ้วน้อยๆ ใช่สิก็ที่พนักงานก่อนหน้านี้แจ้งมันคือเรื่องจริง ทั้งเจ้าตัวเองที่คุยกันก็ยังแจ้งว่าเป็นเรื่องจริงอีก เมื่อพิสูจน์กันแล้วว่าไม่โกหก โยธราก็เก็บตารางของหญิงสาวเข้ากางเกงตัวเองทันที
"อ้าวคุณดูแล้วก็คืนสิ" เจ้าของตารางงานโว้ยขึ้นแบบเซ็งๆ อะไรของเขาอีกว่ะ
"เลิกงานแล้วก็กลับบ้านสิ ยืนทำอะไรอยู่ไปเอาของมาเร็ว เดี๋ยวรอหน้าลิฟต์" ชายหนุ่มเอ่ยต่อด้วยเสียงราบเรียบผิดกับตอนรับสายที่เสียงเคร่งขรึม
"เดี๋ยวคุณ ทรายยังไม่กลับนะคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ" ไล่แม่งเลยเริ่มจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วนะคนอะไรวะ งงใจ
"พวกคุณอยากให้ผมเทกโอเวอร์ที่นี่หรือ แค่ผมยกหูพวกคุณก็ตกงานได้ทั้งหมดเลยนะ" ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มชูโทรศัพท์เครื่องหรูออกมา ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นนะ
เป็นทรายเองที่มองชายหนุ่มตาเขม็ง เขาว่าผู้ชายคนนี้มันแปลกๆ ไปแล้วนะ สงสัยคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นก็จะมาวุ่นวายที่บริษัทไม่เลิกไม่ราสักที
------------------------------------------
คุณโยไม่อ่อนโยนเลยอ่ะคิคิ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 771
แสดงความคิดเห็น