ร้ายนักรักให้หนัก : 1 พบกันครั้งแรก
หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่เจอลูกค้ากวน* เอ๊ะหรือเราจะกวน*เขา เออช่างมันทรายก็โดน Supervisor เรียกไปคุยเพราะมีสายหลุด ด้วยความเอาตัวรอดในหัวสมองก็คิดข้ออ้างเป็นร้อยเป็นพันเหตุผล สุดเลยได้แต่บอกไปว่ากินยาแก้แพ้อากาศไปเลยทำให้ไม่ค่อยมีสติ Supervisor ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ให้ระมัดระวังเท่านั้น
"รอดตัวไปนะมึง" เสียงพี่อุ๊บ่นตลอดทางเพราะเมื่อคืนตอนสายเข้าแกบอกว่าแกสะกิดเราแล้วแต่เราไม่อือไม่หือ แกเลยปล่อยเลยตามเลย
"ก็คนมันง่วงอ่ะพี่ จะให้ทำไงล่ะ" แกก็มองแบบเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร คงจะบอกประมาณว่าเออกูชินกะมึงแหละประมาณนั้นมั้ง
หลังจากที่พวกเราสมาชิกกะดึกเลิกงานก็ได้ข้อตกลงว่าวันนี้จะไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำกันสักหน่อย เพราะไม่ได้ไปมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้วสาเหตุอะไรน่ะเหรอ ก็พี่สนิทกันในกลุ่มเนี่ยแหละรถไฟดันชนกัน พังร้านป้าแกซะยับเลย วันนี้ก็เลยใจดีสู้เสือพากันไปอีก
ไปถึงร้านได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของทุกคนก็ดังขึ้นพร้อมๆ กัน มันเป็นเสียงข้อความเราต่างมองหน้ากันก่อนจะรีบกดเข้าไปในแอปพลิเคชันสีเขียวของบริษัท ในกรุ๊ปใหญ่ คุยกันไปประมาณ 300 กว่าข้อความแล้ว
แต่!!! มาจับประเด็นได้ตรงที่มีรายชื่อคนเข้ากะดึกเมื่อคืนถูกส่งไปในกรุ๊ป พร้อมชื่อที่ทุกคนใช้รับสายเมื่อคืน เหตุการณ์บางอย่างมันผลุบเข้ามาในหัวแบบไม่ทันได้สนใจอะไรต่อ ก้มหน้าไปดูข้อความอีกที พี่ปุย ก็สั่งทุกคนไปทำงาน
"พี่เมื่อคืนนี้คุยกะลูกค้าไม่ดีเลยอ่ะจะโดนร้องเรียนเปล่าวะ" ไอ้บิวถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ
"เมื่อคืนมีแต่ลูกค้ารายใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยนะ" น้องตาทำท่าคิดก่อนจะพูดขึ้นบอกให้ทุกคนได้รู้
"แต่ก็แก้ไขได้หมดไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นมีส่งช่างเลยนะเมื่อคืนอ่ะ" น้องตายังเสริมต่อ
"หรือเพราะสายที่กูทำหลุดเมื่อคืนวะ!!! " ทรายพูดออกไปบ้าง ทุกคนเงียบกริบ "หรือจะเป็นเพราะกูด่าเขาวะ" นั่นไงความทรงจำเริ่มเข้าที่เข้าทางจำได้รางๆ ว่าเหมือนเมื่อคืนมีอะไรเกิดขึ้น
"ไม่มีอะไรหรอกพี่ทรายคิดมากจัง" ออยล์พูดขึ้นขัดความเงียบ
มื้อนั้นเราไม่ได้คุยกันอีก เพราะต่างคนต่างกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่บ่อยที่พี่ปุยจะขอรายชื่อตนที่ทำงานกะนั้น เพราะถ้าขอเมื่อไรแสดงว่า วันนี้จะต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ซึ่งมันก็ทำให้พนักงานกะนั้นจิตตกกันได้เป็นแถบๆ
"ไม่มีอะไรหรอกน่าพี่ พวกพี่อ่ะคิดมากเกินไป" ต่อพูดขึ้นหลังจากที่เรากำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
นั่นดิ!!! จะคิดไปทำไมให้ปวดหัววะ เหมือนต่อชี้ทางสวรรค์เบี่ยง จบด้วยที่แยกย้ายกันกลับบ้านไปนอน (หลับเป็นตาย) วันนี้ยังมีภารกิจต้องฟาดฟันกับลูกค้าอีกเยอะ
17.00น.
"ทราย เสร็จแล้วไปคุยกับพี่ที่ห้องประชุมหน่อยนะ" AM เรียกคุยเลยเหรอวะตู นั่นไงเริ่มรางๆ ความไม่ดีเข้ามาแล้ว
ทันทีที่เอากระเป๋าไปเก็บที่โต๊ะ ที่ทำงานประจำก็ไม่ลืมที่จะส่งข่าวบอกทุกคนว่าพวกมึงรอดแล้วนะ แต่คนที่ไม่รอดคือกูนี่แหละจ้าาาาาา
ภายในห้องอากาศมาคุฉิบหาย ตายแน่กูนั่งกันอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 คนเหมือนรอใคร เอ๊ะ หรือรอเราแต่เราก็ไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงนะ จะมารอเราทำไม?
"นั่งเลยยัยตัวดี!!! " แงงงงเสียงพี่ปุยโคตรเข้ม ห่ามึงเอ๊ย!!! กูไปสะกิดตรีนใครอี๊ก
สิ่งที่ทำได้เพียงแค่ยิ้มแบบเหงือกแห้งๆ ตอบกลับไป พร้อมเกาท้ายแก้เคอะเขิน ไม่จริงๆ ไม่ได้เขิน แต่รู้สึกร้อนตัว
"โครม!!! "
ยัง ยังไม่ทันได้นั่งได้เต็มตูดก็มีเสียงดังโครมสนั่นหวั่นไหว พระเจ้าช่วยเก้าอี้ตัวที่นั่งมันหัก อ่านไม่ผิดหรอกจ๊ะ หัก เก้าอี้หัก แถมล้อยังหักทับนิ้วก้อยมืออีก ห่ามึงเจ็บจนน้ำตาปริ่ม
ทันใดนั้นเองก็ปรากฏร่างผู้ชายสูงโปร่ง โคตรหล่อเดินเข้ามาในห้องทั้งห้องเงียบ พี่AM ที่กำลังจะเดินเข้ามาช่วยก็หยุดอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหนมองหน้ากันทำตาปริบๆ แต่เดี๋ยวนะทำไมต้องมีผู้ชายใส่สูทสีดำอีก 2-3 คนยื่นอยู่ข้างหลังด้วย
นี่สรุปกูไปสะกิดตรีนใครจริงๆ สินะ เวรกรรมต้องหางานใหม่ไหมวะ ลูกค้าต้องการที่จะพบขนาดนี้หรือต้องให้ก้มกราบเลยจะได้จบๆ กันไป
"เอ่อ...ลุกไหวไหมครับ" เราคงทำหน้าหมางงมั้งผู้ชายที่อยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้น ถึงเดินเข้ามาแล้วทำท่าจะช่วยแบบนั้น
"ไหวๆ ค่ะ" ไอ้เราก็รับคำไปอย่างนั้นแหละแต่จริงๆ สะโพกแม่งหักแล้วมั้ง เป็นพี่ AM คนเดิมเดินเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้นและหาเก้าอี้ตัวที่แข็งแรงกว่าให้นั่ง
"ขอบคุณค่ะพี่นุ" ภาณุ หรือ พี่นุ หัวหน้าใจดีที่ลูกน้องต่างเคารพและหมายปอง ส่งยิ้มตาสระอิกลับมาให้เชิงว่าไม่เป็นไร
"อะแฮ่ม" พี่ปุยทำร้ายบรรยากาศก่อนจะหันไปทางผู้ชายคนนั้นที่เข้ามา เอิ่มนั่งตอนไหนเนี่ย ยังไม่มีใครเชิญสักหน่อย
"ผม โย โยธรา คุณพอจะจำได้ไหม? " ผู้ชายคนนั้นที่แนะนำตัวเสร็จ มองหน้าฉันคาดคั้นเอาคำตอบ เดี๋ยวสิขอสมองประมวลผลแป๊บ
"อ๋อออออ....คุณลูกค้าตอนตี 3 นี่เอง" ถึงบางอ้องั้นแสดงว่าเรื่องที่มาคงเป็นเรื่องการบริการ ที่หลับแล้วแถว่าไม่สบายสินะ ปล่อยให้มันผ่านๆ ไปบ้างไม่ได้หรือไงคุณ ถึงต้องมาจ้องแต่จะเบียดเบียนการขนาดนี้ หรือถ้าขอโทษมันจะหายเลยหรือเปล่าวะ
"เมื่อคืนก่อนวางสายคุณพูดกับผมว่าอะไรนะ" อ่ะมาทวนตอนนี้จะจำได้หรือไง ตั้งกี่ชม. มาแล้วยังจะถามอีก
"จำ...ไม่ได้แล้วค่ะ" ยอมรับตรงๆ นั่นแหละ ผิดตรงไหนล่ะ ก็คนมันจำไม่ได้อ่ะจะถามเอาอะไร๊
ผู้ชายคนนั้นหันหน้าไปทางลูกน้องพร้อมกันกับที่ลูกน้องเขาเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วกดอะไรหยุกหยิก สักพักก็มีเสียงดังออกมา
~ขี้บ่นขนาดนี้จะหาเมียได้ไหมฟ่ะ~ จ้าาาาาา ชัดเลยไม่ต้องให้พูดพร่ำทำเพลงอะไร
ทรายรีบหันหน้าไปทางผู้ชายคนนั้นและพนมมือขึ้นอัตโนมัติ เอาว่ะ ผิดก็ต้องขอโทษ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
"หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ หนูขอโทษปากหนูมันไวไปหน่อย" หนูห่าอะไรของทราย น่ารักตายห่าเลยอีบ้า
"หนู? " ผู้ชายคนนั้นเลิกคิ้วเหมือนเป็นคนถาม
"เอ่อ .... คือทรายคงหมายถึงแทนตัวเองครับ เพราะปกติแล้วทรายจะแทนตัวเองว่าหนูที่บริษัท" พี่นุใจดีจังแก้ต่างให้ด้วย หัวหน้าที่น่ารักของน้อง
"วันหลังกรุณาทำหน้าของคุณให้มันเต็มที่กว่านี้ ถ้าคุณง่วงคุณก็ไม่ควรเข้ากะดึก ใช่คุณแก้ไขเครื่องให้ผมใช้งานได้ ผมก็เดือดร้อนจริงๆ ถ้าไม่เดือดร้อนผมคงไม่โทรมาตอนดึกๆ หรอก แล้วก็ถ้าอยากจะนินทาลูกค้า คุณควรมั่นใจว่าเขาวางสายคุณไปแล้ว ไม่ใช่ยังอยู่ในสายเข้าใจที่ผมพูดหรือเปล่า"
"ค่ะ หนูเอ๊ย...ทรายเข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษคุณโยธราอีกครั้งนะคะ" เอาจริงๆ ก็รู้สึกผิดนั่นแหละ เลยยอมขอโทษออกไปแต่โดยดี แต่ก็นะใครจะไปนึกว่าคนที่คุยด้วยเมื่อคืนจะหล่อขนาดนั้น แถมยังเอาเรื่องซะด้วย
แต่อีก 5 คนที่อยู่ตรงหน้านี่แบบอย่างกะจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยทีเดียว แงงงงงงทรายผิดไปแล้วจ้าาาาา
------------------------------
เนี่ยครั้งแรกที่พระนางเขาได้เจอกัน
รอดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกคิคิ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 864
แสดงความคิดเห็น