ชิเอโกะ [Yaoi] บทที่ 12
หลังจากพิธีศพผ่านไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยของชาวเมือง ฮิโรมาสะก็ได้ขึ้นเป็นไดเมียวต่อจากอิซามุพ่อของเขาในทันที ด้วยความที่ฮิโรมาสะเคยได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจึงทำให้เขาทำหน้าที่ของไดเมียวได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และนอกจากนั้นเขายังเริ่มที่จะสนิทกับพ่อบ้านมาซาโตะมากยิ่งขึ้นด้วยความที่ต้องทำงานร่วมกันอยู่ตลอด
ช่วงสายของวันหนึ่งในฤดูร้อนที่แสงของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมากระทบกับผิวดินที่อ่อนนุ่ม มาซาโตะยื่นรายงานให้แก่ฮิโรมาสะด้วยสองมือพลางเอ่ยบอกคร่าวๆ ถึงรายงานสรุป
"ท่านฮิโรมาสะ… ผลผลิตของชาวนารอบนี้ดีกว่าปีก่อนๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากสูตรบำรุงดินที่ท่านฮิโรมาสะแนะนำให้กับชาวเมือง ไม่ทราบว่าท่านอยากจะแบ่งผลผลิตไปให้กับแคว้นนาโกย่าหรือไม่ขอรับ" ฮิโรมาสะได้ฟังก็พยักหน้าเห็นด้วย
"เอาสิ ถ้าเป็นท่านพ่อก็คงจะทำเช่นเดียวกัน" มาซาโตะโค้งตัวรับคำ ฮิโรมาสะดูเอกสารต่ออีกนิดหน่อย เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรมากแล้วก็เดินออกไปจากห้องทำงาน มาซาโตะค้อมตัวลงยามที่ฮิโรมาสะเดินผ่าน ประตูบานกว้างถูกเลื่อนให้ปิดลง มาซาโตะยืดตัวขึ้น เขาเดินไปดูเอกสารบนโต๊ะและจัดเก็บมันให้เป็นระเบียบ เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังแว่วเข้ามาภายในโสตประสาท มาซาโตะหันมองออกไปนอกหน้าต่าง คิโยชิที่บัดนี้อยู่ในวัยสิบขวบกำลังวิ่งเล่นอยู่กับเคนตะด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข คิโยชินั้นเมื่อยิ่งเติบโต ฝีมือการวาดภาพของเขาก็ยิ่งพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
เส้นผมสวยงามพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดผ่านมาอ้อยอิ่ง รอยยิ้มสดใสที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าหวานสวยแตกต่างกับเด็กผู้ชายที่มักจะเห็นอยู่มากมายในเหล่ากองทหารทำให้มาซาโตะมองภาพนั้นด้วยความเพลินตา ความสดใสร่าเริงของคิโยชิทำให้ปราสาทอิชิฮาระที่เงียบเหงาแห่งนี้สดชื่นขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่ากังวลใจอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือยังไม่มีใครกล้าบอกคิโยชิเลยว่าแท้ที่จริงแล้วแม่ของเขานั้นเป็นใคร มาซาโตะคิดพลางสายตาคมก็อ่อนลงด้วยความรู้สึกสงสารที่ก่อตัวอยู่ลึกๆ ภายในจิตใจอันด้านชาของตน
ในค่ำคืนที่เงียบสงัด เสียงของเหล่าแมลงที่เคยร้องระงมในตอนหัวค่ำได้เงียบลงไปแล้ว คิโยชิที่นอนอยู่บนฟูกนุ่มเงยหน้าขึ้นมองพ่อของตนที่กำลังลูบศีรษะของเขาเบาๆ เพื่อที่จะส่งเขาเข้านอน เสียงหวานเอ่ยถามพ่อของตนตามประสาเด็กที่ไม่รู้ประสา
"ท่านพ่อ เป็นไดเมียวนี่สนุกไหมครับ" ฮิโรมาสะยิ้มขึ้นทันทีกับคำถามนั้น เขาจ้องมองดวงตาสีสวยใสแจ๋วที่จ้องมองเขาตอบกลับ
"ไม่ใช่งานง่ายๆ เลยลูก" คิโยชิกะพริบตาปริบ เขาเอ่ยออกมาตามความรู้สึก
"ข้าอยากเก่งเหมือนท่านพ่อจังเลย จะได้ดูแลชาวเมือง ท่านพ่อคิดว่าถ้าข้าเป็นไดเมียวแล้วชาวเมืองจะรักข้าไหม" ฮิโรมาสะฝืนยิ้มออกมาด้วยหัวใจที่ถูกบีบเค้นกับความจริงที่ยังคงฝังอยู่ในดวงใจ เขาเอ่ยปลอบโยนเสียงอ่อนนุ่ม
"รักสิ ชาวเมืองจะรักเจ้าหากเจ้าเป็นไดเมียวที่ทรงธรรม" สิ้นเสียง คิโยชิก็เบิกตากว้างขึ้นเป็นประกายแห่งความหวัง ฮิโรมาสะรีบเอ่ย
"นอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงวาดรูปสวยๆ ให้พ่อดู" คิโยชิพยักหน้าถี่รัวแบบเด็กๆ แล้วหลับตาลงปี๋เรียกเสียงหัวเราะหึหึอย่างเอ็นดูจากคนเป็นพ่อ นิ้วเรียวลูบแก้มอ่อนนุ่มของลูกชายเบาๆ แล้วใช้ปลายนิ้วแตะจมูกหนึ่งทีแบบที่ชอบทำทุกครั้งเวลาจะส่งเข้านอน ฮิโรมาสะยืดตัวขึ้นช้าๆ และเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
ประตูห้องนอนหรูหราขนาดใหญ่ถูกเลื่อนให้เปิดออก สีหน้าของฮิโรมาสะที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักทำให้อากาเนะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงในน้ำเสียง
"มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ" ฮิโรมาสะถอนหายใจเชื่องช้า เขาเอ่ยตอบอย่างเรียบๆ แต่น้ำเสียงมีความหนักใจแฝงอยู่ในนั้น
"คิโยชิ ถามข้าเรื่องเป็นไดเมียว" อากาเนะสายตาสั่นคลอน ฮิโรมาสะเอ่ยต่อราวกับว่าตนนั้นได้ตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"คิโยชิก็โตมากแล้ว ข้าคิดว่าถึงเวลาที่เขาควรจะได้รู้ความจริงเสียที" ราวกับเลือดในกายทั้งหมดถูกแช่แข็ง อากาเนะหัวใจตกลงไปที่ตาตุ่ม ลึกๆ แล้วนางยังคงทำใจไม่ได้หากต้องบอกความจริงกับคิโยชิ บัดนี้นางได้หลงรักคิโยชิราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง หากคิโยชิทราบความจริง เขาจะยังยอมรับในตัวของนางอยู่หรือไม่… คิดไปสารพัดพาลน้ำตาใสก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาคู่สวย ฮิโรมาสะที่เห็นอากาเนะเงียบไปและนั่งก้มหน้าพลางปาดน้ำตาใสที่กำลังไหลลงมาก็ตกใจเล็กน้อย เขาเดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆ แล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไร อากาเนะ" อากาเนะสะอื้นเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยความปวดร้าวระคนทุกข์ใจ
"ข้า… ข้ากลัวว่าหากเขารู้ เขาจะ… ไม่ยอมรับข้าเจ้าค่ะ" สะอึกสะอื้นเบาๆ กับความเจ็บปวดที่กำลังได้รับ ฮิโรมาสะได้ฟังก็สายตาอ่อนลง เขาค่อยๆ โอบกอดอากาเนะก่อนจะปลอบโยนด้วยน้ำเสียงดุจใยไหม
"เจ้าทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว" อากาเนะพยักหน้าเบาๆ แต่ก็มิอาจห้ามน้ำตามากมายที่ไหลรินลงมาได้ นางได้แต่ร้องไห้ออกมาเงียบๆ ในอ้อมกอดของสามีอันเป็นที่รัก
ในช่วงสายของวันต่อมา อากาเนะและคิโยชิออกมานั่งสูดอากาศที่บริเวณลานกว้างใต้ต้นไม้แบบที่ทำเป็นประจำทุกวันดั่งเช่นเคย คิโยชิวิ่งเล่นไปมาก่อนจะหอบเอาอุปกรณ์เครื่องเขียนไปนั่งวาดรูปอย่างสบายใจริมลำธารที่ไหลอ้อยอิ่ง อากาเนะมองดูคิโยชิด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก นางตัดสินใจเอ่ยเรียกคิโยชิด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน คิโยชิหันไปตามเสียงเรียกนั้นในทันที เขาวิ่งเข้ามาหาด้วยใบหน้าระรื่น อากาเนะจับต้นแขนของลูกชายอย่างแผ่วเบาแล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"คิโยชิ… ลูกเองโตก็เป็นหนุ่มแล้ว อยากรู้ไหมว่ามีอะไรอยู่ที่ท้ายปราสาท" สิ้นเสียง คิโยชิก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความดีใจสุดขีด
"ท่านแม่จะพาข้าไปดูเหรอครับ!" อากาเนะยิ้มและพยักหน้าเบาๆ คิโยชิกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเพราะเขาเฝ้ารอวันนี้มานานหลายปี
"ไปกันเลยครับท่านแม่!" เด็กน้อยจูงมืออากาเนะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังท้ายปราสาทด้วยความสดใส อากาเนะหัวเราะออกมาเบาๆ พาลูกชายเดินไปข้างหน้า แม้ใบหน้าสวยงามดุจเทพธิดาจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับดอกไม้แรกแย้มแต่แววตาคู่นั้นกลับเริ่มหม่นลงเล็กน้อย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 495
แสดงความคิดเห็น