Only one love รักนี้ แค่เธอ… คนเดียวเท่านั้นนะ [Yuri] Chapter 12
Chapter 12: จงมุ่งหน้าไป ภารกิจใหญ่ของทั้งสอง
(ซินนามอนบรรยาย)
เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์หลังจากการเลือกชมรม ฉันเริ่มสนิทกับเพื่อนใหม่ในชมรมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพาเฟ่ต์หรือโรสแมรี่ ทั้งสองคนปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับตอนที่เข้าชมรมใหม่ๆ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ตอนที่ฉันเข้าชมรมมาแรกๆ เวลาต้องร้องเพลงต่อหน้ารุ่นพี่ ฉันอายมากเลยค่ะ เพราะไม่ชินแล้วก็ตื่นเต้นมากๆ เลยด้วย ความที่ฉันเป็นคนขี้อายอยู่แล้ว เวลาแสดงต่อหน้าคนเยอะๆ จึงทำให้ฉันตื่นเต้นและกังวลได้ง่ายมาก จนช่วงแรกๆ แม้ว่าจะเป็นเวลาซ้อมอยู่ในห้องดนตรี ฉันจึงต้องยืนอยู่หลังสุดเสมอ ทั้งที่ในใจลึกๆ แล้วก็อยากจะมีความกล้าให้มากกว่านี้ และอยากลองร้องนำ หรือยืนเป็นเซนเตอร์ให้ได้บ้างสักครั้งหนึ่งก็ยังดี
แต่เมื่ออยู่ไปได้สักพักก็เริ่มปรับตัวได้ ฉันเริ่มได้มายืนอยู่แถวหน้าบ่อยขึ้น แต่ทักษะการร้องเพลงที่มีก็ยังไม่แข็งแรงและมีพลังพอที่จะยืนอยู่หน้าสุดและร้องนำอย่างมั่นใจได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องพยายามทำให้ได้ต่อไป ในปีนี้ฉันก็ตั้งเป้าหมายไว้แล้วละค่ะว่าจะต้องทำมันให้สำเร็จให้ได้ ทุกคน ช่วยให้กำลังใจฉันต่อไปด้วยนะคะ
“เอาละ วันนี้ ชมรมเราได้รับมอบหมายให้ร้องเพลงในพิธีเปิดงานประกวดวาดภาพระดับจังหวัดที่โรงเรียนเราเป็นสนามแข่งนะ งานจะจัดขึ้นสัปดาห์หน้า และเพราะแบบนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราต้องเริ่มซ้อมกันแล้วนะ มีใครไม่ว่างช่วงเย็นบ้างมั้ย เพราะพี่จะนัดซ้อมหลังเลิกเรียน แล้วก็ในคาบชมรม 2 เวลาน่ะจ้ะ” พี่เชอร์ผู้เป็นหัวหน้าชมรมประกาศเมื่อทุกคนมารวมกันที่ห้องดนตรีในคาบชมรมซึ่งเป็นคาบสุดท้ายของทุกวันอังคาร ฉันรีบคำนวณเวลาทันทีเพราะคาบชมรมเองก็มีแค่อาทิตย์ละครั้ง แล้วงานจริงก็ใกล้เข้ามาทุกที
“งานจัดวันไหนเหรอคะ?” ฉันถาม พี่เชอร์นิ่งคิดสักพักก่อนเอ่ยตอบ
“วันพฤหัสหน้าจ้ะ ถ้าพวกเราไม่เริ่มซ้อมละก็ไม่ทันแน่ๆ แล้วอีกอย่าง พอถึงวันงาน จะมีนักเรียนโรงเรียนอื่นมาที่โรงเรียนเราเยอะเลยนะ ดังนั้นงานนี้จะมายืนร้องกันเล่นๆ ไม่ได้” พี่เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันมองใบหน้าหวานนั้นแล้วนึกชื่นชมพี่เขาอยู่ในใจ พี่เชอร์คือหัวหน้าชมรมที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย มีความรับผิดชอบสูง จัดการทุกอย่างเป็นระบบ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ทุกเมื่อ ตรงข้ามกับนิสัยของเจ้าตัวที่เป็นคนสบายๆ คุยกับรุ่นน้องอย่างเป็นกันเอง และเข้ากันได้ดีกับรุ่นพี่คนอื่นในชมรมด้วย
“หนูว่างค่ะ” โรสแมรี่ตอบเป็นคนแรก
“หนูก็ว่างค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ
“หนูมีซ้อมวอลเลย์ทุกเย็นวันพุธน่ะค่ะ” พาเฟ่ต์เอ่ยเบาๆ รุ่นพี่พากันหันไปมองหัวหน้าชมรมเชิงขอความเห็น
“ฉันลืมไปว่าเธอเป็นนักวอลเลย์ประจำห้อง” โรสแมรี่พูดขึ้นลอยๆ “แต่ในเมื่อเธอมาอยู่ชมรมนี้ ช่วยโฟกัสกับงานอาทิตย์หน้าก่อนได้หรือเปล่า วอลเลย์น่ะมันซ้อมเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าจะไม่มาซ้อม” พาเฟ่ต์พูดบ้าง ฉันสังเกตได้ถึงความหงุดหงิดเล็กๆ เจืออยู่ในน้ำเสียงนั้น แต่ใบหน้าของเธอก็ไม่ได้แสดงว่ารู้สึกหงุดหงิดหรือโกรธอะไร เธอยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ
“เอ่อ ทั้งสองคน” พี่เชอร์พูดขัดก่อนที่จะเกิดสงครามน้ำลาย “สรุปแล้วน้องพาเฟ่ต์ ตอนเย็นมาซ้อมร้องเพลงก่อนได้หรือเปล่าจ๊ะ ช่วยบอกพี่ก่อนตอนนี้เลยเพราะพี่จะได้จัดแถวในการยืนถูก”
“ได้ค่ะ” เพื่อนผมเขียวตอบ
“แล้วพวกเธอล่ะ?” หัวหน้าชมรมหันไปทางรุ่นพี่ 3 คนที่นั่งนิ่งไม่พูดจา “ว่างกันหรือเปล่า? ตอนเย็นน่ะ”
“พวกเราไม่มีปัญหาค่ะ หัวหน้า” ทุกคนตอบพร้อมกัน เรียกรอยยิ้มร่าบนใบหน้าหวานได้ไม่ยาก
“บราโว! เยี่ยมไปเลย” พูดพลางยกมือขึ้นโบกกลางอากาศด้วยความดีใจ ก่อนจะหันไปหาคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องซึ่งถูกเปิดเอาไว้เมื่อไรไม่รู้ กดเข้ากูเกิลเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ไม่นานก็เปิดคลิปใน YouTube คลิปหนึ่ง พวกเราทุกคนหันไปมองด้วยความสนใจก่อนผู้เป็นหัวหน้าชมรมจะบอกว่า นี่คือเพลงที่เราจะต้องร้องในพิธีเปิดงาน
(มาการงบรรยาย)
เช้าวันพุธ ฉันมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติครึ่งชั่วโมง เมื่อเดินเข้าประตูโรงเรียนมาได้ก็ตรงไปที่ตึกศิลปะทันที แต่ระหว่างทางก็เดินสวนกับใครคนหนึ่ง ฉันหยุดกึกและมองหน้าคนที่เดินสวนมา เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงยิ้มให้ก่อนเอ่ยทัก
“อ้าว พาเฟ่ต์ ทำไมวันนี้มาเช้าจัง”
“ฉันมาเวลานี้เป็นปกติอยู่แล้ว” ฝ่ายนั้นเอ่ยตอบก่อนย้อนถาม “เธอล่ะทำไมมาเช้าจัง”
“ฉันมีนัดที่ชมรมน่ะ ต้องรีบไปแล้ว” พูดพลางทำท่าจะเดินต่อไป ผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของวาฟเฟิลมองหน้าฉันนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า ไม่มีอะไร แล้วเดินออกจากตรงนั้นไป ฉันยืนมองด้วยความสงสัยจนเธอเดินหายไปทางโรงยิมจึงรีบเดินไปที่ห้องศิลปะอย่างรีบร้อน จนสุดท้ายก็มายืนหอบอยู่หน้าประตูห้องแล้วผลักประตูเดินเข้าไปข้างใน
เวลาเกือบ 10 นาทีที่ฉันนั่งอยู่กับรุ่นพี่หัวหน้าชมรม เหมือนจะเป็นเวลาที่แสนยาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ความจริงถ้าไม่ถูกเรียกตัวมา ฉันคงไปนั่งกินขนมปังปิ้งทาเนยที่โรงอาหารอย่างสบายใจเฉิบ หรืออาจจะไปวิ่งเล่นอยู่ที่สนามกับช็อกโกล่าที่มาเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับงานที่รุ่นพี่มอบหมายให้ ฉันจึงต้องจำใจตอบตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ น้องมาการงทำได้อยู่แล้ว ในชมรมเราคนที่วาดรูปเก่งที่สุดก็คือเธอนะ คิดซะว่าช่วยโรงเรียน แล้วก็ช่วยชมรมเราด้วย พี่ขอร้องล่ะ” คำขอร้องของพี่แอปเปิ้ลพายยังดังก้องอยู่ในหัว เมื่อได้รู้ว่าเวลาหลังเลิกเรียนตั้งแต่วันนี้จนถึงวันพุธหน้าจะไม่ใช่เวลาว่างอีกต่อไป ฉันนั่งทอดถอนใจอยู่พักใหญ่ เมื่อชำเลืองมองนาฬิกาข้อมือเห็นว่าอีกห้านาทีจะถึงเวลาเข้าแถวจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินลงบันไดออกจากอาคารมุ่งตรงไปยังสนาม
“สวัสดี” เสียงของช็อกโกล่าทักอยู่ข้างตัว ฉันทำได้เพียงส่งยิ้มบางๆ ให้เธอเท่านั้น รู้สึกยังพูดอะไรไม่ออก จึงได้แต่เงียบและเดินตามเธอไปที่แถว ซินนามอนตามมาสมทบในเวลาไม่นาน
พวกเราเดินไปด้วยกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จนเมื่อเลิกแถวนั่นแหละ ช็อกโกล่าจึงเอ่ยขึ้นว่า
“อะไรกันเนี่ยพวกเธอ ทำไมวันนี้เงียบกันทั้งสองคนเลย ปกติพอมาถึงแถวแล้วต้องจ้อไม่หยุดเลยนี่นา”
เฮ่อออ…
ทั้งฉันและซินนามอนถอนหายใจออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย ช็อกโกล่ามองหน้าของพวกเราสองคนสลับกัน ก่อนจะถอนใจไปด้วยอีกคน
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เพื่อนผมดำบ่นออกมา ยังไม่มีใครพูดอะไรกันต่อ จู่ๆ คัสตาร์ดก็วิ่งตัวปลิวตรงมาทางพวกเรา
“ทุกคน ได้ยินข่าวที่โรงเรียนเราจะเป็นสนามแข่งประกวดวาดภาพอาทิตย์หน้าหรือยัง?”
“ได้ยินแล้วจ้ะ” ซินนามอนตอบเนือยๆ คัสตาร์ดยังคงยิ้มร่า ดวงตาเป็นประกายวิบวับ
“ไม่เห็นจะตื่นเต้นตรงไหนเลย” ช็อกโกล่าพูด ก่อนจะหันมาทางฉันกับซินนามอนที่ยังหน้าเซ็งกันทั้งคู่ “แล้วพวกเธอล่ะ จะบอกฉันได้หรือยังว่าเป็นอะไรกัน พรีเซนต์งานอะไรก็ไม่มี งานกลุ่มใหญ่ๆ ก็ยังไม่ได้สั่ง แล้วเครียดอะไรกันเหรอ?”
“ที่จริงแล้ว” ซินนามอนเริ่มพูด “ตั้งแต่เย็นนี้ไป ฉันคงกลับบ้านพร้อมกับทุกคนไม่ได้จนถึงวันพฤหัสหน้าเลยนะ” ฉันพยักหน้าเข้าใจ เพราะตัวเองก็เพิ่งได้รับมอบหมายงานสำคัญมาสดๆ ร้อนๆ
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันเข้าใจ” ในที่สุดฉันก็เอ่ยขึ้นมาหลังจากเงียบมาตลอด “ว่าแต่ซินนามอนต้องไปทำอะไรเหรอ?”
“ฉันต้องซ้อมร้องเพลงที่จะร้องในพิธีเปิดงานสัปดาห์หน้าน่ะจ้ะ”
“ว้าว! ถ้าแบบนี้แสดงว่าทุกคนในชมรมต้องแสดงทั้งหมดเลยเหรอ ดีใจด้วยน้า พอถึงวันนั้นฉันจะคอยเชียร์เต็มที่เลย”
“ดีจังเลยนะ ในที่สุดเธอก็จะได้แสดงต่อหน้าผู้ชมทั้งโรงเรียนสักที” ช็อกโกล่ายิ้มออกมา “ว่าแต่ ได้ยืนเป็นเซนเตอร์หรือเปล่าน่ะ?”
“เรื่องแถวเหรอ…” ซินนามอนพูดขึ้น ฉันสังเกตเห็นสีหน้ายุ่งยากใจของเธอก็อดรู้สึกร้อนใจแทนไม่ได้ จึงพูดว่า
“ไหนเล่ามาหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
“แถวน่ะ ยังไม่ลงตัวเลยว่าใครจะได้ยืนเป็นเซนเตอร์ รุ่นพี่เขาเถียงกันว่าอาจจะเป็นฉันหรือโรส…”
“เพื่อนเธอที่เคยเล่าให้ฟังว่าอยู่ห้องเดียวกับพาเฟ่ต์น่ะเหรอ?” ช็อกโกล่าถาม ได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบ
“ฉันเองก็อยากเป็นเซนเตอร์นะ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะตื่นเต้นจนลืมเนื้อ…”
“ไม่เอาน่าซินนามอน พอถึงวันจริงก็ทำออกมาให้ดีๆ ก็พอแล้ว” ฉันปลอบใจเพื่อนสนิท ทั้งที่ตัวเองก็ยังมีเรื่องที่กังวลอยู่เหมือนกัน “พอยืนอยู่บนเวทีก็ร้องออกมาด้วยความมั่นใจ ตื่นเต้นได้แต่ต้องพอดีๆ แล้วก็ร้องเพลงออกมาด้วยจิตใจที่มีความสุข เท่านี้เสียงของเธอก็จะส่งไปถึงผู้ชมแล้วจ้ะ ฉันเชื่อแบบนั้นนะ”
“มาการงพูดถูกนะ ไม่ว่าเธอจะได้ยืนอยู่ตรงไหนของเวที ก็ไม่ต้องไปโฟกัสกับมันมาก แต่ขอให้เธอแสดงออกมาให้เต็มที่ พวกเราจะคอยให้กำลังใจเธออยู่ที่แถวเอง” “ช็อกโกล่าพูดบ้าง สีหน้าของซินนามอนดูดีขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดให้กำลังใจจากพวกเรา ไม่นานเพื่อนผมสีโกโก้ก็ยิ้มออกมา
“ขอบคุณมากเลยจ้ะ พอได้พวกเธอให้กำลังใจ ฉันก็มีแรงฮึดขึ้นมาแล้วล่ะ วันนี้ก็เริ่มซ้อมแล้ว จะทำให้เต็มที่เลยนะ”
“ดีมาก สมกับเป็นซินนามอน ต้องแบบนี้สิ” ช็อกโกล่าพูดพร้อมยกนิ้วโป้งให้ ก่อนจะหันมาหาฉัน
“ว่าแต่เธอล่ะมาการง เครียดอะไรมาตั้งแต่ก่อนเข้าแถวแล้วเหรอ?”
“จริงด้วย ฉันเห็นยัยมาการงทำหน้าปั้นยากมาสักพักแล้ว เหมือนไปกินน้ำมะเขือเทศมายังไงยังงั้นเลย” คัสตาร์ดออกความเห็น เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนตัวเล็กที่ยืนเงียบมานาน ฉันก็ยิ้มแหยๆ เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไรให้เข้ากับสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตัวเองดี
“จริงๆ แล้ว พี่แอปเรียกฉันไปหาที่ห้องศิลปะเมื่อเช้า บอกว่ามีเรื่องสำคัญมากๆ ให้ฉันช่วยน่ะ” ฉันเริ่มพูด และเมื่อถูกเพื่อนซักมากๆ เข้า ฉันจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟังอย่างไม่ปิดบัง
“อะไรนะ! เป็นเรื่องจริงเหรอ?” เมื่อฟังจบ คัสตาร์ดถึงกับอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ ฉันพยักหน้าช้าๆ เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปทั้งหมดนั้นถูกต้องแล้ว
“มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ? เพื่อนเราได้ประกวดวาดภาพทั้งที ถ้าผลออกมาว่าชนะเดี๋ยวเลี้ยงไอติม ดีไหมล่ะ?” ช็อกโกล่าพูดทีเล่นทีจริง
“เรื่องนั้นอย่าเพิ่งเลย ให้ฉันผ่านวันพฤหัสหน้าไปให้ได้ก่อนเถอะนะ” ฉันพูด รู้สึกว่างานที่ได้รับมอบหมายเหมือนกับสิ่งของหนักๆ ที่ต้องแบกเอาไว้ยังไงยังงั้น
“มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่พี่เขาเสนอชื่อเธอเข้าประกวดงานใหญ่ระดับนี้น่ะ แสดงว่าเธอต้องมีของ หรือไม่พี่แอปคงเห็นอะไรบางอย่างในตัวเธอแล้วก็ไปคุยกับครูที่ปรึกษามาเรียบร้อย เขาเลยตกลงกันแบบนี้” คัสตาร์ดออกความเห็น ฉันมองหน้าเพื่อนผมแดงอย่างใช้ความคิดก่อนตอบว่า
“ใจหนึ่งฉันก็ดีใจนะ ที่พี่เขายังเห็นว่าฉันมีความสามารถ แต่อีกใจก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกันเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลย อยู่ๆ โดนเรียกตัวไปคุยแบบนี้ใครมันจะไม่ตกใจเล่า?”
“ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวทางชมรมก็นัดซ้อมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องกังวลหรอกจ้ะ” ซินนามอนปลอบใจ ฉันพยักหน้า
“มันก็จริง หมดกัน เวลาหลังเลิกเรียนของฉัน”
“ดีแล้ว จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์” ช็อกโกล่าพูดพร้อมกับยักคิ้ว
“ฮือออ ไม่จริงน่า!” ฉันทำได้แค่โอดครวญออกมาเท่านั้น ไม่นานก็ทำใจได้ และตั้งใจว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายออกมาให้ดีที่สุด เพื่อชมรม และเพื่อโรงเรียนที่ฉันรัก ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนฉันก็จะวาดรูปออกมาให้สุดความสามารถเลยค่ะ แม้นี่จะเป็นการลงสนามครั้งแรกของฉันก็ตาม
“แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก” ฉันพูดพร้อมกับหันไปหาซินนามอน “ไม่ได้มีแค่ซินนามอนคนเดียวที่ต้องซ้อม ฉันเองก็ต้องซ้อมเหมือนกัน”
“นั่นสินะ เรามาพยายามด้วยกันเถอะนะจ๊ะ มาการง” ซินนามอนพูดพร้อมกับชูสองนิ้ว
“อื้ม สู้ไปด้วยกันน้า” ฉันชูสองนิ้วให้เธอ และเดินนำเพื่อนทุกคนขึ้นห้องเรียนทันที
แต่ละคนมีสิ่งที่ได้รับมอบหมาย และต้องรับผิดชอบแตกต่างกัน เมื่อเราทำออกมาด้วยความตั้งใจและเต็มที่กับมัน ฉันเชื่อว่า จะต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม
(ติดตามตอนต่อไป)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 817
แสดงความคิดเห็น