บทที่ 300 รอยแผลเป็น
สิ้นเสียงของเขา ร่างกำยำทั้งร่างก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมพร้อมกับสอดขาของฉันยกขึ้น จนขาทั้งสองข้างของฉันตั้งฉากเป็นรูปตัวM
ตุบๆๆๆ
“นี่แหนะๆๆๆ คนเจ้าเล่ห์พอเลยนะคะ เอลิซบอกว่าเหนื่อยแล้วไง กลับลงไปนอนเดี๋ยวนี้เลยนะ นี่แหนะๆๆๆ” ฉันที่ออกแรงทุบไปที่ต้นแขนของเขา ก่อนจะเอ่ยไล่ให้เขากลับไปนอนตามเดิม เนื่องจากตอนนี้เขาอยู่ในท่าล่อแหลมที่อาจจะทำให้คืนนี้ ฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ได้
“ขอครั้งเดียวได้ไหมอ่า...นะนะนะนะ ~~” (◕_◕) เสียงออดอ้อนที่ส่งมาพร้อมกับสายตาเว้าวอนใสซื่อ อีกทั้งมือที่ยกนิ้วชี้ขึ้นหนึ่งนิ้วเป็นสัญลักษณ์ ทำให้ฉันเกือบจะเผลอหลุดขำออกไป
(คริคริ...นี่ถ้าใครมาเห็นว่ามาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มาทำท่าทางอ้อนขอเอาเมียแบบนี้ ใครมาเห็นเข้าเขายังจะเกรงกลัวอีกไหมเนี้ย...หืมมมม...ท่านเซบาสเธีย...ฮ่าๆๆ” (^-^)
ฉันที่แม้อยากจะใจอ่อนให้เขาก็ตาม แต่ทว่า...ร่างกายของฉันมันไม่พร้อมที่จะต้องโดนจับพลิกไปพลิกมาเหมือนกัน ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียง...
“ให้เอลิซใช้ตรงนี้ทำได้ไหมคะ...” ฉันที่อดไม่ได้ เอ่ยบอกกับเขาพร้อมกับเอานิ้วมือตัวเองชี้ไปที่ปากอันอวบอิ่ม ก่อนจะบิดร่างกายเล็กน้อยให้ดูเซ็กซี่ (^//o//<)
เฮือกกกก ~~
และมีหรือที่ปีศาจบ้ากามจะปฏิเสธ...
พรึ่บ... ~~
เสื้อผ้าอาภรณ์ชุดนอนของเราทั้งสองที่ถูกเปลี่ยนมาตั้งแต่ที่โรงแรมต่างถูกเขาถอดออกจนหมดอย่างรวดเร็ว
เฮือกกก ~~
จากนั้นภาพตรงหน้าก็เป็นฉันเองที่ลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
ภาพที่เห็นตรงหน้า เรื่องมวลกล้ามเนื้อความกำยำและกล้ามที่เป็นลอน ๆ ของเขาช่างเป็นความงามที่สมบูรณ์แบบและไร้ที่ติ ยิ่งพอผสมผสานเข้ากับรอยแผลจาง ๆ ทั้งสองแผลจากการถูกแทงและถูกยิง โดยที่ทั้งสองแผลก็ต่างมีเรื่องราวเกี่ยวกับฉันทั้งนั้น ฉันที่เคยถามเขาว่าทำไมถึงไม่ไปทำเลเซอร์ลบรอยแผลทิ้งซะ แต่ทว่า...คำตอบของเขาก็ถึงกับทำให้ฉันน้ำตารื้นออกมาทันที...
ย้อนไปเมื่อครั้งที่เขาได้ให้คำตอบกับฉันเรื่องรอยแผลเป็น ~~
หลังจากภารกิจอันดุเดือดเลือดพล่านที่เราสองคนเพิ่งผ่านกันมาหยก ๆ เราสองคนคนที่นอนกอดก่ายกันเพื่อพักยก ฉันที่กำลังนอนซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นแต่เต็มไปด้วยไอความหื่นกระหายของเขา ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาได้เหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นจาง ๆ บนร่างกายของเขาที่ฉันจำได้ดีว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
‘เอ๊ะ...!! นี่ยังมีรอยแผลเป็นอยู่นี่ค่ะ เฮียน่าจะไปเลเซอร์ออกนะคะ’ ฉันเอื้อมมือไปลูบไล้รอยแผลเป็นที่อยู่บนเรือนร่างเขาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยแนะนำอย่างไม่ได้คิดอะไร
แต่ทว่า...เพียงคำตอบสั้น ๆ ของเขา ทำให้ฉันถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
‘เฮียไม่อยากลบ...’
‘ทำไมถึงไม่อยากลบล่ะคะ...??’
‘ก็เพราะเฮียอยากเก็บรอยแผลนี้ไว้เป็นความทรงจำไงคะ’
‘เอ๊ะ...!! เก็บไว้เป็นความทรงจำ??’ ฉันเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัยใคร่รู้ในคำตอบของเขา
ส่วนเขาก็ยิ้มละมุนให้ฉัน ก่อนที่คำตอบของเขาจะทำให้ฉันถึงกับจุกขึ้นมากลางอก
‘นั่นก็เพราะว่ารอยแผลหนึ่งมันเป็นรอยแผลที่ทำให้เราสองคนเข้าใจกันและยังทำให้เอลิซยอมเปิดใจให้เฮียไงคะ ส่วนอีกรอยแผลหนึ่งมันเป็นเพราะความสะเพร่าของเฮียที่เกือบจะทำให้เฮียต้องเสียเอลิซไป...เพราะงั้นด้วยสาเหตุนี้เลยทำให้เฮียไม่อยากลบมันออกไป’
‘เฮีย’ ฉันเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
ฉันจำได้ดีว่าหลังจากที่เขาอธิบายถึงความหมายที่เขาไม่ยอมเลเซอร์ลบรอยแผลเป็นทิ้ง น้ำตาที่เริ่มออกคลอก็ทยอยไหลออกมาทันทีด้วยความอื้ออึงที่อัดแน่นอยู่ข้างใน
‘ฮึก ฮึก’ T^T
‘ไม่ร้องไห้นะคะ เฮียไม่ได้อยากให้เอลิซรู้สึกไม่ดี’ เขาเอ่ยปลอบฉันพร้อมกับบรรจงเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มฉัน
‘แต่มันก็เป็นเพราะเอลิซนี่ค่ะ ถ้าเอลิซไม่เชื่อคนง่ายจนถูกหลอก เฮียก็ไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้’ ฉันลูบไปที่แผลเป็นอีกที่หนึ่งของเขาด้วยความรู้สึกสงสารและรู้สึกผิดจับใจ
ส่วนเขากลับไม่ได้คิดแบบนั้น และยังมองฉันด้วยความรักที่ไม่เคยลดน้อยลง ก่อนที่เขาจะพูดถึงความรู้สึกข้างในให้ฉันได้ฟัง
‘แต่เอลิซรู้ไหมว่ามันยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่ทำให้เฮียยิ่งไม่อยากให้มันลบหรือจางหายไปเลย...’ เขาที่ปาดน้ำตาที่ไหลเปื้อนใบหน้าเนียนสวยของฉันอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนแผ่วเบา จนทำให้ฉันถึงกับเงยหน้าขึ้นมาเพื่อฟังคำพูดต่อไป
‘นั่นก็เพราะว่าวันที่เกิดแผลนี้ มันเป็นวันที่ทำให้เฮียได้รู้ถึงการมีอยู่ของลูก ๆ ของเราไงคะ มันเป็นวันที่ทำให้เฮียได้รู้ว่าเฮียได้รับของขวัญที่ดีสุดจากเอลิซ และมันเป็นวันที่เฮียมีความสุขมากแม้ว่าจะเจ็บแผลนิดหน่อยก็เถอะ’ เขาที่พูดแกมติดตลก จนฉันที่ร้องไห้อยู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
แต่ทว่า...ถึงยังไงคำตอบที่อบอุ่นหัวใจของเขาก็ยังทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้งอยู่ดี
‘ฮึก ฮึก เฮียค่ะ เอลิซขอบคุณเฮียอีกครั้งนะ ที่เฮียเลือกที่จะรักเอลิซ และยังคงเสมอต้นเสมอปลายตลอดมา’ ฉันพร่ำบอกเขาด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันหัวใจ ก่อนที่จะย้ายมือเอื้อมลูบที่ใบหน้าเขาอย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกรัก
‘ไม่ใช่แค่รักเสมอต้นเสมอปลายนะคะ แต่เฮียรักเอลิซมากขึ้นทุกวัน รักจนตัวเฮียเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะรักใครได้มากขนาดนี้ จุ๊ฟ ~~’ เขาพูดพร้อมกับกดจูบลงมาเบา ๆ ที่กลางหน้าผากของฉัน อีกทั้งยังส่งยิ้มหวานรัญจวนใจมาให้
‘เดี๋ยวลูก ๆ ก็ทำให้เฮียรักพวกเขาได้มากกว่าที่รักเอลิซแน่นอนค่ะ’ ^-^ ฉันบอกพลางส่งยิ้มหวานตาหยีไปให้เขา และฉันเองก็ยินดีที่จะให้ลูก ๆ เป็นที่หนึ่งในใจเขาแทนฉัน
‘เฮียรักลูกมากอยู่แล้วค่ะ แต่มันก็ในส่วนของความรักที่พ่อมีต่อลูก แต่ในส่วนความรักที่มีต่อเมียต่อแม่ของลูกแล้วเฮียมีให้เอลิซได้มากกว่านี้อีกแน่นอนค่ะ’ ^-^ เขาเอ่ยพร่ำคำหวานจนฉันได้แต่ก้มหน้าซุกไปที่แผงอกของเขาด้วยความเขินอาย แต่ก็สุขใจที่ได้ยินคำบอกรักเช่นนั้น
‘ปากหวานจังเลยนะคะ ไปฝึกมาที่ไหนคะเนี้ย’ ฉันที่แม้จะก้มหน้าอยู่ แต่ก็อดที่จะแซวเขาแก้เขินไม่ได้
‘หวานแต่กับคนนี้คนเดียวนั่นแหละ...’ เขาเอ่ยบอกพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นมาเชยคางของให้ให้เงยหน้าขึ้น ก่อนที่ปากหวาน ๆ ของเขาจะประกบจูบลงมาอย่างแผ่วเบา แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นรุกเร้ารุนแรงแต่วาบหวามยิ่งขึ้น
จนกระทั่ง...ร่างทั้งร่างของฉันได้แต่อ่อนระทวยไปตามแรงสวาทของเขาที่บรรจงปรนเปรอมาให้ไม่มีหยุด จวบจนกระทั่งฟ้าสาง...
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 107
แสดงความคิดเห็น