ดอกเบี้ย mor mlr และ mrr คืออะไร ทำไมคนซื้อบ้านไม่ควรมองข้าม

ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ ทั้งที่เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือว่าโครงการคอนโด นั้น ต้องเตรียมที่จะวางแผนทางการเงินให้พร้อมเพราะการซื้อบ้านสักหลังนอกจากจะต้องมีเงินก้อนไว้สำหรับวางดาวน์และจองบ้านแล้ว ก็ยังต้องมองหาแหล่งเงินกู้ระยะยาวที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับการกู้ซื้อบ้านไว้ด้วย ซึ่งจะช่วยลดภาระการผ่อนส่งในแต่ละเดือนลงได้ด้วย 

            ดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับการซื้อบ้านนั้น ทางสถาบันการเงินจะมีการกำหนดไว้ 2 อัตราหลัก ๆ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หมายถึง ดอกเบี้ยที่กำหนดเอาไว้ตายตัวว่าจะคิดในอัตราเท่าใด เช่น 3.5% ต่อปี หรือ 4% ต่อปี ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ส่วนอีกประเภทก็เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวซึ่งจะผันแปรไปตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดเงิน โดยจะกำหนดขึ้นมาเป็นกติกากว้าง ๆ เช่น MRR-1% หรือ MLR -0.75% เป็นต้น

            ดังนั้นในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวนี้เอง ผู้กู้จะต้องทำความเข้าใจถึง 3อัตราดอกเบี้ยสำคัญที่จะส่งผลต่อภาระดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในแต่ละช่วงเวลานั่นก็คือ

1. mor คือ Minimum Overdraft Rate หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ทางสถาบันการเงินจะเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี เป็นอัตราดอกเบี้ยที่จะคิดจากวงเงินที่มีการเบิกเงินเกินบัญชี ส่วนใหญ่ดอกเบี้ยแบบนี้สถาบันการเงินจะใช้กับสินเชื่อสำหรับเงินทุนหมุนเวียนที่ทำผ่านบัญชีกระแสรายวันเป็นหลัก ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจจะมองว่า mor คือหัวใจสำคัญอีกอย่างสำหรับการทำธุรกิจด้วย
2. อัตราดอกเบี้ยแบบ mrr คือ Minimum Retail Rate เป็นดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือลูกค้าที่ไม่เคยมีประวัติเสียทางการเงินและสินเชื่อส่วนใหญ่ที่มักจะได้รับอัตราดอกเบี้ยแบบ mrr คือสินเชื่อซื้อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล จึงถือว่า mrr เป็นอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับคนทั่วไปมากที่สุดรวมถึงคนที่ต้องการซื้อบ้านด้วย
3. อัตราดอกเบี้ย mlr คือ Minimum Loan Rate ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีซึ่งมีระยะเวลาการกู้ยาว มีกำหนดระยะเวลาแน่นอนรวมถึงมีมูลค่าของหลักทรัพย์เพียงพอต่อการกู้ โดย mlr จะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยแบบอื่นในกลุ่มลอยตัว ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยแบบ mlr คือผู้ที่มีประวัติการเงินดีไม่มีประวัติการค้างชำระซึ่งก็คือ “ธุรกิจทั่วไป” นั่นเอง

         ดังนั้นเมื่อวางแผนการเงินสำหรับซื้อบ้านก็ควรต้องดูทิศทางดอกเบี้ยในตลาดว่าจะมีแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง หากว่าดอกเบี้ยมีโอกาสจะปรับขึ้นต่อเนื่องก็ควรเลือกกู้เงินที่ให้เงื่อนไข “ดอกเบี้ยคงที่” ไว้เป็นระยะเวลานานพอสมควรก็จะได้ประโยชน์ แต่หากว่าดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาลงการเลือกดอกเบี้ยแบบลอยตัวก็จะทำให้มีโอกาสรับต้นทุนการเงินลดลง ดังนั้นการรู้จักกับศัพท์ดอกเบี้ยและเงื่อนไขเงินกู้จึงเป็นอีกเรื่องสำคัญที่คนซื้อบ้านไม่ควรมองข้าม

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ mlr คือ ได้ที่นี่ https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-3-คำศัพท์ดอกเบี้ยบ้าน/th