โบท็อกซ์ คืออะไร มีผลข้างเคียงไหม ข้อควรรู้ก่อนฉีด เหมาะกับใคร?

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งเป็นสารที่ได้มาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่า Clostridium Botulinum ที่มีทั้งหมด 7 ชนิด โดยสารที่นำมาใช้ในวงการแพทย์และความงามคือ Botulinum Toxin Type A ซึ่งได้รับการรับรองความปลอดภัยและใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

โบท็อกซ์ มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

โบทูลินัมท็อกซินมีคุณสมบัติในการยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว เมื่อฉีดโบท็อกซ์ไปยังบริเวณที่ต้องการจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นผ่อนคลายและหยุดการหดเกร็ง ซึ่งช่วยให้ริ้วรอยลดลงหรือปรับรูปร่างหน้าตาให้ดูเรียวขึ้น โดยโบท็อกซ์ยังสามารถนำมาใช้ลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อ หรือยกกระชับใบหน้าได้ด้วย

กระบวนการทำงานของโบท็อกซ์

หลัง ฉีดโบท็อกซ์ เข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ สารโบทูลินัม ท็อกซินจะถูกดูดซึมโดยเซลล์ประสาทและเริ่มออกฤทธิ์โดยยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า Acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ เมื่อสารนี้ถูกยับยั้ง กล้ามเนื้อจะคลายตัวและริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อจะลดลง ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น รอยย่นที่หน้าผาก, รอยตีนกา หรือรอยข้างตา รวมถึงสามารถใช้ในการปรับรูปหน้าได้ เช่น ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามหรือทำให้ใบหน้าเรียวขึ้น หากคุณต้องการเพิ่มความเรียบเนียนและยกกระชับใบหน้า การฉีดโบท็อกซ์ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถทำได้ในเวลาไม่นาน

แต่ผลลัพธ์จากโบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ, ปัญหาผิว และความต้องการของแต่ละคน โดยทั่วไปผลลัพธ์จะเริ่มเห็นใน 3-7 วันหลังการฉีด และจะคงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพของผิวและการดูแลตัวเองหลังการฉีด

การฉีดโบท็อกซ์ปลอดภัยหรือไม่?

การฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) มักมีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม หากเลือกใช้บริการจากสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ปลอม อาจเกิดปัญหาต่างๆ เช่น การแพ้, การฉีดผิดตำแหน่ง, หรือการเกิดผลข้างเคียงเช่นกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว

เพื่อให้การฉีดโบท็อกซ์ปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกซ์โดยตรง นอกจากนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบท็อกซ์ที่ใช้เป็นของแท้และได้มาตรฐาน

การฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณต่างๆ

โบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งตามความต้องการ เช่น

1. ใบหน้า: เช่น หน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, หางตา, ปีกจมูก และโหนกแก้ม เพื่อปรับริ้วรอยให้เรียบเนียนและลดริ้วรอย
2. กราม: ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
3. ลิฟต์กรอบหน้า: ช่วยยกกระชับกรอบหน้าและลดความหย่อนคล้อยของผิว
4. ลดเหงื่อ: เช่น บริเวณรักแร้ หรือฝ่ามือ เพื่อช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัว
5. บ่าและแขน: สำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อในบริเวณบ่าหรือแขน

ผลลัพธ์และการดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์

หลังการฉีดโบท็อกซ์ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด เช่น หลีกเลี่ยงการนอนราบหรือก้มหน้าใน 4 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด รวมถึงไม่ควรนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการกระจายของตัวยาไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ

การฉีดโบท็อกซ์จะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและสภาพผิวของแต่ละคน

การเลือกโบท็อกซ์จากแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน

ในตลาดปัจจุบันมีโบท็อกซ์หลากหลายแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น

• Allergan: โบท็อกซ์จากอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงและมีความปลอดภัยในการใช้ซ้ำหลายครั้ง
• Aestox: โบท็อกซ์จากเกาหลี มีประสิทธิภาพสูงและเห็นผลเร็ว
• Xeomin: ผลิตจากเยอรมัน มีความบริสุทธิ์สูงและลดโอกาสการดื้อยา
• Dysport: โบท็อกซ์จากอังกฤษ เหมาะสำหรับการฉีดลดเหงื่อและยกกระชับผิว

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมถึงตรวจสอบโบท็อกซ์ที่ใช้ว่ามีคุณภาพและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนฉีด และหยุดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดประมาณ 7-14 วัน

โบท็อกซ์เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า หากเลือกใช้บริการจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โบท็อกซ์สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นและเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน โดย โบท็อก ราคา แต่ละตำแหน่งก็แตกต่างกันไป   สำหรับใครที่ต้องการดูแลผิวพรรรและปรับรูปหน้า แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์มากประสบการณ์ของ Vincent Clinic ได้เลย