รักษาหินปูนเต้านมชนิดอันตรายอย่างไร? ฟังจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หินปูนเต้านมชนิดอันตรายเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากหินปูนเต้านมบางชนิดอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งเต้านมหรือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในเนื้อเยื่อเต้านม การรักษาหินปูนเต้านมชนิดอันตรายจึงต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บทความนี้จะกล่าวถึงแนวทางการรักษาหินปูนเต้านมชนิดอันตรายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้

การตรวจวินิจฉัย

1.การทำแมมโมแกรม (Mammogram): เป็นการตรวจเอกซเรย์เต้านมเพื่อดูการสะสมของแคลเซียมและลักษณะของหินปูน แมมโมแกรมสามารถบอกได้ว่าหินปูนมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไปหรือมีลักษณะเป็นกลุ่ม ซึ่งจะช่วยในการประเมินความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม

2.การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound): ใช้เพื่อตรวจดูรายละเอียดเพิ่มเติมของหินปูนที่พบจากแมมโมแกรม การตรวจอัลตราซาวด์จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าหินปูนมีลักษณะอย่างไร และอยู่ในตำแหน่งไหนของเต้านม

3.การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy): หากผลการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์บ่งชี้ว่าหินปูนมีลักษณะผิดปกติ แพทย์อาจทำการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม การตรวจชิ้นเนื้อจะทำให้ทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในเต้านมหรือไม่

แนวทางการรักษา

1.การผ่าตัด (Surgery): หากพบว่าหินปูนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อที่มีหินปูนออก การผ่าตัดอาจแบ่งเป็นการผ่าตัดเพียงบางส่วน (Lumpectomy) หรือการผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้งเต้า (Mastectomy) ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของหินปูน

2.การฉายรังสี (Radiation Therapy): หากพบว่าหินปูนเป็นมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น การฉายรังสีอาจเป็นทางเลือกในการรักษา การฉายรังสีจะช่วยทำลายเซลล์มะเร็งที่ยังคงเหลืออยู่หลังการผ่าตัด

3.การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy): ในบางกรณีที่หินปูนมีลักษณะของมะเร็งเต้านมในระยะลุกลาม แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาเคมีบำบัดเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง การใช้ยาเคมีบำบัดอาจใช้ร่วมกับการผ่าตัดและการฉายรังสี

4.การติดตามและดูแลต่อเนื่อง (Follow-up Care): การรักษาหินปูนเต้านมชนิดอันตรายไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่การผ่าตัดหรือการฉายรังสี แพทย์จะต้องติดตามอาการและทำการตรวจแมมโมแกรมเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการกลับมาเกิดใหม่ของหินปูนหรือมะเร็งเต้านม

สรุป

หินปูนเต้านมชนิดอันตรายเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการดูแลและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ การดูแลต่อเนื่องและการติดตามผลการรักษาเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะจะช่วยป้องกันการเกิดใหม่ของหินปูนและการลุกลามของมะเร็งเต้านม หมั่นตรวจเต้านมอย่างสม่ำเสมอและพบแพทย์ทันทีหากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพเต้านมของคุณ

ขอบคุณข้อมูลจาก; https://praew.com/praew-special/534189.html
https://www.dailynews.co.th/articles/3473188/
https://medthai.com/breast-screening/