ตอนที่ 2 : ข้าจะทำมันพรุ่งนี้
' นี่มันแปลกมาก '
หลังจากถอดเสื้อด้านบนออกแล้ว ซีคก็เริ่มสำรวจร่างกาย กล้ามเนื้อ,กระดูก และ โครงสร้างร่างกายทั้งหมดของเขา ทำไมมันดูห่างไกลกับร่างเดิมเขาในฐานะจอมมารเลย ที่ผ่านมานั้นเขาทำทุกอย่างผลักดันร่างกายของตัวเองให้ถึงขีดสุดแล้ว แม้แต่รอยแผลเป็นขนาดใหญ่เหมือนกับแผนที่โลกบนหลังเขาก็หายไป
ซีคกลับไปนั่งลงบนเตียง เขากำลังรวบรวมข้อมูล ทำความเข้าใจเรื่องของตัวเองในตอนนี้
‘ ในตอนนั้นข้าได้ต่อสู้ กับเกล็นพร้อมเหล่าวีรบุรุษพวกนั้น ข้าแพ้และใกล้ตาย '
ไม่มันคงตลกเกินไปที่จะบอกว่า 'ภาวะใกล้จะตาย' จริงจริงร่างกายของเขาต้องถูกผ่าแยกเป็นสองส่วน คอของเขาถูกตัดออก ความเป็นจริงคือเขาต้องตายไปแล้ว
' แต่เรายังมีชีวิตอยู่และยังสบายดีด้วย '
มากกว่านั้น มองดูร่างที่อายุน้อย ราวกับว่ารอบตัวเขาทุกอย่างถูกย้อนกลับ
' มันไม่ใช่ความฝัน' เขาตรวจสอบตัวเองหลายครั้งแล้ว ด้วยการต่อยการตบตัวเองตอนนี้แก้มเขาก็ยังคงบวมอยู่เลย ซีค พยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
' หลังจากข้าแพ้เกล็นและวีรบุรุษพวกนั้น ข้าต้องทนฟังเสียงไอ้โง่นั่นพูดแพล่มอยู่ จากนั้นก็…' และเขาก็นึกอะไรบางอย่างออก ดวงตาของเขาเป็นประกาย
' เราแทงไอโง่นั้นด้วย ‘กุญแจแห่งการพลิกผัน’ อ่าคงเป็นเพราะไอ้นี้ละมั้ง '
เขาคิดว่ามันเครื่องมือเวทย์มนตร์สำหรับเปลี่ยนอนาคตของคนที่เป็นเป้าหมาย แต่จากที่คิดแล้วนี้คือเรื่องเดียวที่สมเหตุสมผลที่สุด
' แล้วนี้ข้าไปได้มันมาจากไหนเนี่ย ' ตัวเขานิ่งทือไปสักพัก
' ข้าจำไม่ได้ ' ใช่ตัวเขาจำถึงที่มาของมันไม่ได้
ไม่ใช่แค่สถานที่ที่ได้มันมาเท่านั้น เขาจำช่วงเวลาหรือเหตุการณ์ที่พบของชิ้นนี้ไม่ได้ และ จำไม่ได้ด้วยว่าซ่อนมันไว้ที่นิ้วชี้ตัวเองตอนไหน ไม่มีอะไรเลยเกี่ยวกับ ‘กุญแจแห่งการพลิกผัน’ ในหัว ของสิ่งนี้เหมือนถูกซ่อนไว้ในนิ้วของเขาก่อนที่จะรู้ตัวด้วยซ้ำ
' ไม่ ใจเย็นไว้ ซิก มัวร์ บางทีแกแค่ลืมมันไป '
ซีค มักลืมรายละเอียดเล็กเล็กได้อย่างง่ายดาย คงเพราะเรื่องนี้ทำให้เขาจำมันไม่ได้
' แล้วแต่ถ้าเกิดว่ามีคนเปลี่ยนความทรงจำของข้าล่ะ '
ซีคมองไปที่นิ้วชี้ของเขา ที่เขาเคยซ่อน ‘กุญแจแห่งการพลิกผัน’ ไว้ ‘ งั้นสำหรับตอนนี้ ข้าควรจะต้องรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับกริชเล่มนี้ก่อน ' ตอนนี้เขามีเป้าหมายแล้ว
หลังการตัดสินใจได้ ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้น
‘ หืม แล้วอะไรที่จะทำต่อไปจากนี้ดีละ กับโอกาสที่ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า ’
ซีค ไม่ต้องการลงแรงทั้งหมดของเขาในการค้นหาร่องรอยของเครื่องมือชิ้นนี้โดยไม่มีเงื่อนงำใดๆ เขาต้องการทิศทางอื่นก่อน อย่างการเดินตามเส้นทางนองเลือดเหมือนเมื่อก่อนก็ดีเหมือนกัน แต่โอกาสครั้งใหม่ถ้าจบลงแบบเดิมมันก็น่าเสียดายเกินไป
' มันจะเสียของเกินไป ถ้าข้าไม่ทำให้มันบรรเทิงสักหน่อย'
ซีคใช้สมองอย่างหนัก เขาต้องคิดถึงสถานการณ์ตอนนี้ให้ออกก่อน
' จากสิ่งของรอบตัว ดูเหมือนช่วงเวลาที่เรายังอยู่ภายในตระกูล '
มันดูความขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่ผ่านมาของซีค ที่จริงแล้วเขามาจากตระกูลชั้นสูงและมีสถานะเป็นขุนนางด้วย ส่วน ‘มัวร์’ เป็นนามสกุลที่เขาตั้งให้กับตัวเองในภายหลัง นามสกุลเดิมของเขาคือ ‘สตีลวอลล์’ ตรงตามชื่อของพวกเลย ตระกูลสตีลวอลล์ เป็นเหมือนป้อมปราการเหล็กให้กับอาณาจักรแห่งนี้
โดยตัวเขานั้นเป็นถึงทายาทคนโต ‘ คงไม่เลวร้ายหรอกถ้าเราลองสืบทอดตระกูลต่อไป ’
ตัวเขาคนก่อนตั้งแต่เด็กออกจากตระกูลเพื่อไปเผชิญโลก แสวงหาอำนาจ จนต่อมาถูกเรียกว่า ‘จอมมาร’ แต่ว่าคราวนี้ ซีคคิดว่าก็คงไม่แย่เกินไปที่จะลองก้าวเดินในฐานะผู้นำตระกูลอย่างมีเกียรติ ทำตัวเป็นขุนนางดูบ้าง
‘ แล้วอะไรคือเหตุผลที่ข้าจากไป ’ ‘ อ่ามันเป็นช่วงเวลานั้น ’
แอดด!
ประตูถูกเปิดโดยไม่มีการเคาะ ซีคหงุดหงิดที่ถูกขัดความคิดและจ้องไปที่คนกำลังเดินเข้ามา
' ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ห้องทายาทคนโตตระกูลขุนนาง คิดอยากจะเข้าก็เข้า '
แม้ว่า ซีคได้ละทิ้งมารยาทและคุณสมบัติผู้ดีทั้งหมดตั้งแต่เขาจากตระกูลไป อย่างน้อยเขาก็มีความรู้เรื่องนี้
‘ หรือว่าเป็นท่านพ่อท่านแม่ ญาติพี่น้องของข้าหรือเปล่า’
แต่ว่าไม่ใช่ ทำเอาเขางุนงงเพราะคนที่เดินเข้ามานั้นคือคนรับใช้
ซีค คิดว่าเขากำลังเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่า แต่ชายคนนั้นสวมชุดเสื้อผ้าคนใช้แน่นอน บ่าวคนนั้นจ้องมองที่ซีค แปลกเกินไปคนใช้ทำหน้าบึ้งใส่เขา ซีคพูดไม่ออก
คนใช้หน้าบึ้งขณะมองดูขุนนาง “ เวลานี้ทำไมนายน้อยยังอยู่ในห้องละครับ”
' ก็ยังคงดีที่เขายังคงใช้คำพูดที่ให้เกียรติ '
แต่จากท่าทางที่ถือดีนั้น ซีคคิดว่าคนใช้จะพูดกับเขาอย่างหยาบคายด้วย ซีคคิดอยู่ว่าเขาควรจะยินดีด้วยมั้ยกับเรื่องนี้
“ ปกติคุณออกไปตั้งแต่เช้า เห้ยไม่ใช่ว่าคุณชายเริ่มถอดใจแล้วหรอกนะ กระผมไม่คิดว่าคุณชายอยู่ในฐานะที่จะขี้เกียจได้นะครับ”
‘…เขากำลังเยาะเย้ยข้าอยู่เหรอ? แล้วที่มันพูดมาต้องการจะสื่ออะไร ’ เรื่องที่เกิดมันดูตลกเกินไป จนซีคเริ่มคิดทบทวนใหม่กับสิ่งต่างๆตอนนี้
“ ฮาฮา.. ” ซีคปล่อยเสียงหัวเราะของตัวเองออกมา ขณะที่มือของเขาก็กวักเรียกให้ตัวคนใช้เดินเข้ามาหา
สีหน้าของคนรับใช้ก็แย่ลงทันที แต่ซีคก็ยังคงอยู่ในท่ายิ้มอารมณ์ดี
ดังนั้นคนรับใช้จึงเดินมาหาเขาด้วยความมึนงง “ มีอะไรหรอครับ ”
ทันใดนั้นรอยยิ้มของ ซีคก็กว้างขึ้นมาก จากนั้นเขาก็ลุกจากเตียง ราวกับว่าภูเขาสูง – นั่นคือขนาดร่างกายของซีคเขามีสัดส่วนร่างกายตั้งแต่เท้าสูงมากกว่าคนใช้ครึ่งต่อครึ่ง ในตอนนี้ที่คนใช้ถูกเขากดดันจากขนาดตัวแต่มันยังคงจ้องมองหน้าซีคอยู่
ซีค นิ่งเงียบซักพักและมองลงไปที่คนรับใช้
" คุณเรียกผมมา ทำไมคุณถึงไม่พูดอะไ….?” ก่อนที่คนรับใช้จะพูดได้จบประโยค
ปึงงง!
หมัดของซีค พุ่งออกไปโดยทันที สัมผัสไปที่แก้มของคนรับใช้ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น
อึกก!! ปัง!!
เหมือนกับว่าวที่ถูกตัดสายป่านโบยบินไปในสายลม ร่างของคนรับใช้พุ่งชนกับชั้นวางของในห้อง เสียงคนรับใช้ร้องดัง สุดท้ายล้มตัวลงเหมือนกองขยะ
“อ่าาาาาา!”คนรับใช้นอนดิ้นอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกมาจากปาก แก้มของเขาบวมขึ้นทันที
“คะอุณณ กะกำละ… ” น้ำตาเริ่มไหลออกจากดวงตาคนรับใช้มองไปที่ซีค พยายามดิ้นรนพูดออกมาให้ได้ เหมือนว่าเขากำลังจะพูดคำว่า ' คุณกำลังจะทำอะไร ' แต่การออกเสียงของเขาไม่ชัดเจน ทำให้สื่อสารไม่ได้เลย
ซีค เดินเข้าหาคนรับใช้ที่ล้มลงอยู่ ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ คนรับใช้ที่มองมาที่ซีค ด้วยความโกรธปนกลัวๆเหมือนเด็ก ไม่นานรอยยิ้มบนใบหน้าของซีคก็หายไป มันถูกแทนที่ด้วยจิตสังหารที่เยือกเย็นยิ่งกว่าลมหนาวทางเหนือ
ซีค ยกเท้าขึ้น
'' นะ นะนายหยะอิง มะไม่ปล่...!” คนรับใช้ร้อง แต่ กระทืบ! “อ๊ากกกกก!”
ซีค เหยียบคนใช้แบบไม่มีการผ่อนแรง คนใช้ก็ฃพยายามจะพูดอะไรทำนอง 'ถึงนายหญิง!' สักอย่าง แต่ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับซีค เขายังคงเหยียบคนรับใช้อย่างไร้ความปราณีต่อไป
คนใช้ที่พยายามตะโกนบอกเขาว่ามีคนสนับสนุนอยู่นะ ตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อหน้าซีค ตัวซีคในตอนนี้เหมือนเครื่องจักรสังหารไร้อารมณ์ ความต้องการอย่างเดียวคือการเหยียบกระทืบคนใช้
จากที่คนใช้เคยคิดว่า ' ซีคคงจะไม่ฆ่าเขาหรอก ' กลายเป็น ‘ ซีคจะต้องฆ่าเขาแน่ๆ ’ ด้วยเหตุการณ์ตอนนี้!
“ ขอโท โอด…!” คนรับใช้เริ่มอ้อนวอนด้วยริมฝีปากที่บวม
นิ่ง ! ซีคหยุดกระทืบเขาต่อ
ราวกับว่าเห็นทางรอดของหายนะตอนโลกกำลังแตกสลาย คนใช้รีบก้มกราบลงกับพื้น ตัวต่ำลงจนดูเหมือนติดอยู่กับดิน
“ ข-ขอโท..! ผม ผ-ผิดปะไปแล้ว!” คนใช้ร้องขอเมตตาอย่างสุดชีวิต ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกไหลอาบ ซีคยกเท้าที่กำลังเหยียบออก
“ รู้แล้วใช่มั้ยว่าแกต้องพูดยังไง! ”คนใช้พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และ ซีคก็หัวเราะอย่างพอใจ
' เห้ออ ในเมื่อวันนี้เป็นวันดี คนใช้นี้ก็อายุมากกว่าด้วย เอาเป็นว่าเท่านี้ก่อนก็พอ '
ซีค กำลังคิดว่าเขาจะยกโทษให้คนรับใช้ ณ ตอนนี้ แต่—
แอดดปัง!
" เกิดอะไรขึ้น?! "
คนที่กระแทกประตูเปิดเข้ามาเปลี่ยนอารมณ์ความคิดของซีคไปเลยทันที ซีคเห็นชายคนหนึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบ พร้อมมีดาบห้อยอยู่ที่เอว
‘ อัศวิน ? ’
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นทหารคุ้มกันประจำตระกูลเขา จากที่ดูแล้วอายุยังน้อย ซีคมองว่าอัศวินนี้ต้องเป็นอัจฉริยะที่ตระกูลเขาเลี้ยงดูไว้
' เขามาเพราะเสียงกรีดร้องเมื้อกี้เหรอ? '
อัศวินจ้องตาเขม็งไปมาระหว่าง ซีคกับคนรับใช้ พร้อมคิ้วที่ขมวดขึ้น
“ ท่านอัศวิน บะ-ไบเนอร์!” ราวกับว่าไบเนอร์เป็นผู้มาโปรดของเขา คนรับใช้รีบคลานเข้าไปหาอัศวินไบเนอร์
" กำลังมีเรื่องอะไรกันครับ " ไบเนอร์ ถามคนรับใช้ที่กำลังเกาะติดอยู่ที่ขาเขาราวกับปลิง
“ ไอ้ผู้ชายคนนั้น…!”
' ผู้ชายคนนั้น? '
คิ้วของซีคกระตุกขึ้น คนรับใช้ที่ขอความเมตตาเหมือนแมลงกับเขาอยู่เมื้อกี้ ย้อนกลับมาทำท่าอวดดีแล้วตอนมีคนมาให้พึ่งผิง
ซีคเดินไปหาคนใช้นั้นอีกครั้ง
“เห้ยย!” คนรับใช้รีบหลบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังอัศวินไบเนอร์
วืด! มือของไบเนอร์ ยกขึ้นขวางไม่ให้ซีคเดินก้าวเข้ามาอีก
" ท่านจะเดินเข้ามาทำไม ? "
' หะ อะไร? ไอ้บ้านี่กำลังพูดอะไร…’ หมอนี่เป็นอัศวินภายใต้ตระกูลเขา แต่ไม่ให้ความเคารพทายาทคนโตของตระกูล แล้วไอ้ท่าทีดูถูกเบาๆมาทางเขามันคืออะไร
" ถอยไป " “ ข้าถามว่าท่านเดินเข้ามาทำอะไร?”
“ เจ้ามาถามว่าข้าว่ากำลังจะทำอะไร! หูแกหนวกไม่ได้ยินที่ไอ้เวรนั่นมันพูดว่า 'ไอ้ผู้ชายคนนั้น' กับข้างั้นเหรอ "
เหตุผลของซีคนั้นชัดเจน ขุนนางหัวสูงบางคนคงตัดลิ้นคนรับใช้นั้นไปแล้ว
ไบเนอร์ก็สมควรรู้เรื่องนี้ดีเหมือนกัน แต่เขายังไม่ขยับตัวเพื่อทำอะไร
“ ปล่อยให้ข้าจัดการเรื่องนี้เอง” ไบเบอร์กล่าว
" ไม่จำเป็น! ข้าจะสั่งสอนเขาเป็นการส่วนตัวเอง”
" ก็ข้าบอกแล้วไง ว่าข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง ”
ซีค จ้องไปที่ไบเนอร์ ระหว่างที่เห็นคนใช้ลุกขึ้นไปหลบอยู่ข้างหลังมัน ด้วยสภาพเนื้อตัวเจ็บปวดคนใช้ก็ยังยิ้มเยาะเหมือนการกล่าวเยาะเย้ยซีคว่า 'ตอนนี้เจ้าจะทำอะไรข้าได้?'
“ ถึงไม่ต่างจากที่คิดไว้ แต่พวกแกนี้ทำตัวเหมือนกันจริงๆ”
ไบเนอร์ยิ้มเยาะพร้อมพูดว่า “ แล้วท่านคิดจะทำอะไรได้ ท่านจะทุบตีข้าด้วยหรือเปล่าละ”
“ ฮึ อะไรก็หยุดข้าไม่ได้ ลูกหมาที่จำเจ้านายตัวเองไม่ได้ต้องถูกสั่งสอน แค่ทุบตีมันให้มากพอ”
ไบเนอร์ มองซีคเหยียดๆพลางคิดในใจว่า ' ก่อนหน้านี้เขาดูรู้จักเจียมตัวเองไม่ตอบโต้ ที่ผ่านมาข้าก็มองข้ามเขามาตลอด แต่ตอนนี้เขาเริ่มอดกลั้นไม่ไหวแล้วงั้นหรอ แล้วการพูดจาหยาบคายนั้นเขาเอามาจากไหน? เขาไม่เหมาะที่จะเป็นนายท่านคนต่อไปจริงๆ'
“ ถ้าเช่นนั้นก็ลองเข้ามาดู” ไบเนอร์ ก้าวไปข้างหน้าราวกับว่าเขาท้าทายให้ซีค เริ่มชกเขาก่อน
ฝึดด!
ซีคเหวี่ยงหมัดทันที ไบเนอร์ถึงกับสะดุ้ง ถึงเขาไม่คิดว่าซีคจะกล้าจู่โจมเข้ามาจริงจริง แต่ไบเนอร์ก็ไม่ได้เป็นอัศวินได้เพราะโชคช่วย ด้วยประสบการณ์ของเขา ไบเนอร์งอหลังเพื่อหลบเลี่ยงการชกของซีค
' เป็นการเคลื่อนไหวที่ดี '
ไบเนอร์ รู้มาว่าซีคนั้นฝึกด้วยตัวเองดูแลร่างกายอยู่เสมอ แต่ยังไงหมัดของซีคมันดูรุนแรงเกินไป
' แต่มันยังไม่พอ '
ซีคยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะอัศวินอย่างเขา ' งั้นก็ใช้โอกาสนี้สอนเขาให้รู้จักที่ของตัวเอง '
เมื่อซีคออกหมัดไบเนอร์จึงใช้โอกาสนั้นเพื่อเล็งไปที่ท้องของซีค
ซีคก็ไม่ง่ายเขามองออกจึงบิดข้อเท้าและสามารถหลบการโจมตีของไบเนอร์ไปได้
แบม!
หลังจากกลิ้งหลบเป็นวงกลมแล้ว ซีคก็ได้ขยับร่างของตัวเองไปข้างเตียง ทำให้เกิดระยะห่างของพวกเขามากขึ้น ไบเนอร์ก็ก้าวตามเข้าหาซีค เขาออกหมัดเหวี่ยงไปที่ซีคอีกครั้งที่ตอนที่ซีคกำลังจะลุกขึึ้น ไบเนอร์ตั้งใจไว้ว่าหลังจากสั่งสอนซีคอีกสักหน่อยแล้วจะจบการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยการตบเบาๆ ที่หน้าของซีค
พึงงง!
ภาพด้านของ ไบเนอร์กลายเป็นสีขาว ‘ อะไรวะ?!’ ‘ผ้าห่ม’ ไบเนอร์สะบัดมือไปยังผ้าห่มที่กำลังจะคลุมตัวเขาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมองเห็นข้างหน้าได้ชัด ก็ไม่มีใครอยู่เลย
“ท่านไบเนอร์! ข้างหลัง…!”
ด้วยเสียงร้องตะโกนของคนรับใช้ ไบเนอร์รีบหันหลังกลับทันที
“ ฮึ! ”
ไบเนอร์ตั้งตัวไม่ทัน
ตุ๊บบ!
เสียงกระแทกดังเขาที่ด้านหลังศีรษะของไบเนอร์
ไบเนอร์ล้มลงกับพื้น พร้อมดอกไม้,น้ำ และเศษแจกันเกาะติดอยู่บนหัวของเขาที่มีเลือดออก
“ ทักษะไม่ใช่ทุกอย่างวะ เหอะไอ้หน้าโง่"
หลังจากฝากแจกันพร้อมดอกไม้ไว้บนหัวของไบเนอร์แล้ว ซีคก็ด่าเยาะเย้ยต่ออย่างผู้ชนะ
ยิ่งคู่ต่อสู้อายุน้อยเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งแพ้ทางต่อการโจมตีอย่างมีชั้นเชิง
‘ งี่เง่า แกคิดว่าฉันบ้าพอที่จะซัดกับแกตรงตรงหรือไง '
แม้ว่าเขาจะถูกเรียกว่า 'จอมมารแห่งการทำลายล้าง' แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันของเขา ยากเกินไปที่เขาจะสู้ตรงๆกับอัศวินได้ เขายังไม่ชินกับร่างกายปัจจุบันของเขาด้วยซ้ำ แต่เพราะความทรงจำประสบการณ์ที่เขาได้รับในฐานะ 'จอมมาร' ยังคงอยู่ในตัวเขา
ที่ผ่านมาเขาเคยเอาชนะการต่อสู้ ผ่านประการณ์เลวร้านมานับไม่ถ้วน แค่การต้องล้มอัศวินที่อ่อนประสบการณ์โดยปราศจากดาบ เรื่องนี้เขาทำได้สบายๆ
' ในเมื่อเขาล้มไปแล้ว ค่อยมาจัดการทีหลัง'
ซีค หันความสนใจกลับไปที่คนใช้ ใบหน้าบวมบวมของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ ทำไมตอนนี้แกดูไม่มีความสุขเหมือนเมื่อกี้เลย ดูเหมือนผู้มาโปรดแกตอนนี้จะไม่ไหวซะแล้ว ”
“ เอายังไงต่อดีละ ”
“ ดะ-ได้โปรด เมตตา…!”
" ไม่ต้องห่วง แกไม่ถึงตายหรอก” ซีคยกเท้าขึ้นอีกครั้ง แต่ตอนนั้นเขาก็นึกถึงสิ่งที่ ‘เกล็น เซนาร์ด’ พูดกับเขาไว้ [ ถ้าเจ้าได้เกิดใหม่ ข้าอธิษฐานให้เจ้าหมั่นทำความดีมีเมตตามากขึ้น!]
' ตกลง แต่ข้าคงจะทำมัน ในวันพรุ่งนี้ '
และหลังจากนั้น เสียงกรีดร้องของคนรับใช้ก็ดังขึ้นทั่วทั้งห้องของซีคอีกครั้ง จนในถึงตอนที่มีอัศวินอีกคนก็วิ่งเข้ามาในห้องหลังจากได้ยินเสียงร้องโหยหวนที่เกิดขึ้นมาแล้วซักพัก
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 706
ความคิดเห็น
โหดสมกับเป็นอดีตจอมมารจริงๆ 55
แสดงความคิดเห็น