Realm of Tales 2 : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 1 หมู่บ้านใหญ่

Realm of Tales 2 : Road To Fantasy Warfare (AU)
คุณกำลังอ่าน: Realm of Tales 2 : Road To Fantasy Warfare (AU)

-A A +A

Realm of Tales 2 : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 1 หมู่บ้านใหญ่

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่หนึ่ง : ปฐมบท

 

“ช่วงนี้ผมปวดตามากเลยครับหมอ”

“อืม...หมอเดาว่า เราคงจ้องหน้าจอคอมพ์นานไปนะ”

“เอ่อ...ไม่ใช่ครับ ผมปวดแบบนี้สมัยผมยังเด็กแล้วครับ”

“คุณจะบอกหมอว่าคุณมีปัญหาด้านสายตาตั้งแต่เด็กงั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่ครับ”

“แล้วคุณจะสื่อถึงอะไร?”

“ผมรู้สึกว่าผมก้าวร้าวขึ้น และไม่ปรกติ”

“หมอคิดว่าเราน่าจะห่างจากคอมพิวเตอร์สักพักนะ”

“ไม่ได้ครับ จนกว่าผม...จะได้ล้างแค้น”

 

            และแล้ว นิมิตทับซ้อนหลายอย่างก็ได้ปรากฏให้เห็น ทั้งภาพของชายผู้ที่สามารถเอาชนะมังกรได้ ภาพของไก่และมนุษย์ที่แยกทางกัน ทุกอย่างดูจะซับซ้อนเกินกว่าที่ผู้เป็นพระเอกของเรื่องนี้จะรับไหว จนกระทั่งเขาลืมตาตื่นขึ้นมา

            ดวงตาข้างขวาของเขาเป็นดวงตาเรืองแสงสีขาว แต่รูปลักษณ์ภายนอกนั้นก็ยังเหมือนกับลี พาเกอร์ (Lee Paker) จากเรียลลิตี้เมกะเวิร์ส (Reality Megaverse) แต่ในวินาทีหลังจากฟื้นขึ้นมานั้น เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าตนเองเป็นใครเลยด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าอยู่ในห้องห้องหนึ่งที่กว้างใหญ่ และข้าง ๆ ก็คือชายที่อายุก้ำกึ่งระหว่างวัยกลางคนกับวัยทอง ซึ่งทันทีที่พระเอกของเล่มนี้หันไปพบก็สะดุ้ง

            “ทำเป็นตกใจไปได้ ฟื้นแล้วสินะ” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองพูด “โชคดีนะเนี่ยที่ทหารของเราไปเจอเธอแถวดินแดนที่ถูกลืมเข้าให้”

            “นั่นสินะ ผมจำอะไรไม่ได้เลย” พระเอกพูด

            “ก็นั่นน่ะสิ ดินแดนที่ถูกลืม ใครไปอยู่ที่นั่นนาน ๆ แล้วออกมาได้ก็จะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดน่ะสิ” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองพูด

            “โอย ผมจำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ” พระเอกบอก

            “พ่อกับแม่ชื่ออะไร?” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองลองภูมิ

            “ก็ผมสูญเสียความทรงจำแล้วจะให้รู้ชื่อพ่อแม่ได้ยังไง” พระเอกพูด

            “เป็นแค่การลองภูมิเท่านั้นเองน่า เอาล่ะ เธอมีชื่อไหม?” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองถาม

            “ก็ผมสูญเสียความทรงจำ ผมก็จำชื่อตัวเองไม่ได้หรอก” พระเอกตอบ

            “เออใช่ ลืมไป” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองพูด “งั้นฉันตั้งให้เธอแล้วกันนะ เอาเป็นว่าชื่อว่ายังแล้วกัน” (Young)

            “ทาทายัง??” พระเอกที่ได้ชื่อว่ายังถามชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทอง

            “ไม่ใช่!!” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองตอบ “ยัง เป็นภาษาอังกฤษที่แปลว่า ไม่แก่ ยังเด็ก หนุ่มแน่นอยู่”

            “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” ยังพูด

            “ผู้ใหญ่บ้านครับ!! เกิดเรื่องแล้วครับ มีใครอยู่ไหมครับ!” เสียงจากข้างนอกบ้านดังขึ้น

            “มีคนเรียกผู้ใหญ่บ้านน่ะครับ” ยังพูด

            “ฉันนี่แหละเป็นผู้ใหญ่บ้าน” ชายกึ่งวัยกลางคนกึ่งวัยทองตอบ

            “คุณเองเหรอ?” ยังร้อง

            “โอเค ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผู้ใหญ่บ้านบอกคนข้างนอก

            “ให้ผมออกไปด้วยไหมครับ?” ยังถาม

            “ก็ดี” ผู้ใหญ่บ้านตอบ

 

            เมื่อยังเดินออกมาข้างนอกบ้าน ก็มีเหล่าทหารมากหน้าหลายตาเต็มไปหมด นำโดยทหารชราสวมผ้าปิดตาข้างหนึ่ง

            “ฟื้นแล้วเหรอ?” ทหารชราถาม

            “รู้จักผมด้วยเหรอครับ?” ยังถาม

            “ก็ฉันเป็นคนช่วยเธอนี่นา” ทหารชราตอบ

            “จะให้แนะนำให้รู้จักนะ” ผู้ใหญ่บ้านที่ตามมาพูด “นี่คือทหารเลียม (General Liam of Drago Village)”

            “พอดีว่าเรามีเรื่องเหตุด่วนเหตุร้าย” เลียมพูด “คือ เอกสารลับถูกขโมยไปครับ”

            “เอกสารลับถูกขโมยไป???” ผู้ใหญ่บ้านอุทาน

            “ใช่ครับ เอกสารลับถูกขโมยไป” เลียมตอบ

            “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?” ผู้ใหญ่บ้านถาม

            “มีข่าวลือมาว่า พวกโจรได้ขโมยไปอยู่บนหุบเขาน่ะครับ” เลียมรายงาน “ทหารของพวกเราก็ไม่เคยกล้าเข้าไป ไปแล้วตายหมดเลยครับ”

            “ถ้าไม่ว่าอะไรงั้นให้ผมไปช่วยเลยไหมครับ?” ยังถาม

            “อย่าเสี่ยงเลยนะ” ผู้ใหญ่บ้านเตือน

            “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้สึกว่าผมมีความกล้าอยู่ในตัว” ยังตอบ “ผมจะช่วยเอาเอกสารลับกลับมาให้ได้”

            “เป็นหนุ่มที่แปลกจริง ๆ ไปช่วยกู้เอกสารคืนมา ถ้าเกิดความทรงจำกลับคืนมาได้ ดีไม่ดี แท้จริงเธออาจจะเป็นผู้กล้าดี ๆ นี่เอง” ผู้ใหญ่บ้านบอก

            “ใช่ มาร่วมกับพวกเราสิ” เลียมพูด

            “ไว้ทีหลังดีกว่าครับ” ยังพูด “ว่าแต่ ก่อนอื่นผมจะทำยังไงดีครับ?”

            “อย่างแรกเลย ต้องไปคุยกับช่างตีเหล็กสมิธก่อน” (Smith The Weaponsmith) ผู้ใหญ่บ้านพูด “เขาอยู่บ้านใกล้ ๆ กับบ้านฉันนี่แหละ”

            “ได้ครับ” ยังตอบ จากนั้นก็เดินไปยังโรงตีเหล็ก และทันทีที่เขาก้าวเข้ามา สมิธก็มาต้อนรับเป็นอย่างดี

            “สวัสดีครับ” ยังพูด

            “ว่าไง?” สมิธถาม

            “ผมชื่อว่ายังครับ” ยังตอบ

            “เห็นแล้วล่ะ เธอเป็นคนที่รอดชีวิตจากดินแดนที่ถูกลืมใช่ไหม?” สมิธถาม

            “ไม่รู้สิครับ ผมก็จำอะไรไม่ได้เลย” ยังตอบ

            “ไม่เป็นไรน่า ว่าแต่ ผู้ใหญ่บ้านให้เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ?" สมิธถาม

            “ผู้ใหญ่บ้านให้ผมไปชิงเอาเอกสารลับกลับคืนมาน่ะครับ” ยังตอบ

            “งั้น เธอต้องมีอาวุธนะ มันอยู่ใกล้ ๆ เธอ เลือกได้ตามสบายเลย” สมิธพูด

            และใกล้ ๆ กับยังนั้นก็มีรางอาวุธให้เลือกระหว่างกริช กระบองไม้ และดาบด้วย

            “ผมหยิบได้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ยังถามสมิธ

            “อันใดอันหนึ่ง” สมิธตอบ

            “เอ้า ถ้าผมหยิบอย่างละอันล่ะ?” ยังถามต่อ

            “เอาไปแค่อันเดียวพอ” สมิธตอบ

            ยังจึงคิดว่าจะหยิบดาบขึ้นมา พอได้มาแล้ว สมิธจึงให้ความเห็นว่า “ตาถึงนะเนี่ย” แต่ก่อนที่ยังจะไป เขาได้ฝากหน้าที่บางอย่างให้ยังว่า “ตอนไปบนหุบเขา ถ้าเกิดเธอเจอดอกทิวลิป ให้เด็ดมาสักสองสามดอกให้แม่ฉันหน่อยนะ”

            “ได้ครับ” ยังตกลง จากนั้นก็ไปหาพวกทหารแล้วถามว่า “แล้วจะทำยังไงต่อครับ?”

            “รู้สึกว่าพวกโจรจะอยู่ข้างบนหุบเขาน่ะนะ” ผู้ใหญ่บ้านตอบ

            “แล้วมีใครไปด้วยไหมครับ ขอทหารสักคนไปคุ้มกันผมด้วยได้ไหม” ยังถาม

            “ไม่ได้หรอก ทหารพวกนี้เป็นทหารของฉัน” เลียมตอบ “เธอต้องหาเอาเองนะ”

            “สรุปคือให้ผมหาผู้ช่วยเองใช่ไหม?” ยังถาม

            “ใช่แล้วล่ะ ที่หมู่บ้านนี้ ถ้าเธอต้องการคนช่วย เธอต้องช่วยพวกเขาก่อนนะ” เลียมตอบ

            “ได้ครับ งั้นผมไม่กวนละครับ” ยังพูด จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปยังหุบเขา

            “อะไรกันเนี่ย ลืมตาขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ แต่ต้องไปเอาเอกสารลับอีก” ยังพึมพำระหว่างขึ้นไปบนหุบเขา “มาคนเดียวซะด้วยแฮะ”

            แต่ในที่สุด ยังก็มาถึงจนได้ มันคือฐานทัพที่พวกโจรชอบชุกชุมอยู่แถวนั้น ดังนั้น เขาจึงเข้าไปจัดการกับโจรพวกนี้อย่างรวดเร็ว และจากนั้นเขาก็เก็บดอกทิวลิปตามคำขอของสมิธ จากนั้นก็เก็บเอกสารลับขึ้นมา แต่ก่อนจะกลับเขาสังเกตว่าตนเองมีหนังสือติดตัวมาด้วย ดังนั้น เขาจึงคิดว่าจะเขียน แต่เขาไม่มีเวลาเยอะขนาดนั้น เพราะไม่อย่างนั้นโจรก็ฟื้นขึ้นมาพอดี ดังนั้น ยังจึงรีบกลับไปหาผู้ใหญ่บ้านอย่างรวดเร็ว

            “สุดยอดจริง ๆ!” เลียมชม

            “เก่งนะเนี่ยยังเนี่ย” ผู้ใหญ่บ้านชม “เอาเอกสารนี้ไปเก็บไว้ข้างในบ้านเลยนะ”

            ยังจึงทำตามด้วยการเข้าไปข้างในบ้านและไปเก็บไว้ในกล่อง จากนั้นไปที่โรงตีเหล็กเพื่อทำตามคำขอของสมิธ

            “ผมได้ดอกทิวลิปมาแล้ว แล้วยังไงต่อครับ?” ยังถาม

            “เอาไปให้แม่ฉันเลยนะ” สมิธพูด “อยู่ข้างในบ้านแหละ”

            เมื่อยังเข้าไปข้างใน เขาก็พบกับแม่ของสมิธที่สภาพดูแก่ชราผิดสังเกต

            “มาแล้วสินะ กำลังรออยู่เลย” แม่ของสมิธพูด “เธอคือคนที่รอดชีวิตจากดินแดนที่ถูกลืมใช่ไหมล่ะ?”

            “รู้ได้ยังไงครับเนี่ย?” ยังถาม

            “ใครบ้างจะไม่รู้ล่ะ?” แม่ของสมิธตอบ “เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครใช่ไหม?”

            “ใช่ครับ ผมไม่รู้ตัวตนของผม ผมจำอะไรไม่ได้เลย” ยังตอบ

            “เธอจะจำได้ก็ต่อเมื่อเธอพบกับเขา” แม่ของสมิธบอก

            “เขา? เขาไหนครับ?” ยังถาม

            “เดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง” แม่ของสมิธบอก

            “แล้วผมจะวางดอกทิวลิปไว้ที่ไหนครับ?” ยังถาม

            “วางในกล่องใกล้ ๆ เลย” แม่ของสมิธตอบ

            ยังก็ได้เก็บดอกทิวลิปไว้ในกล่องใกล้ ๆ แต่เมื่อยังจะออกไป แม่ของสมิธกลับรั้งยังไว้ และก็ได้ท่องคาถาบางอย่างทำให้ยังเจ็บหัวอยู่ครู่หนึ่ง พอหายดีแล้ว เขาก็รีบหนีกลับไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านทันที แต่ว่า...

            “พอดีว่าพ่อบ้านคนเก่าของฉันเพิ่งลาออกไป เขาทำความสะอาดยังไม่หมด อยู่ใต้หลังคา ไปช่วยทำความสะอาดให้หน่อยได้ไหม?” ผู้ใหญ่บ้านถาม

            “โอเค เดี๋ยวผมทำให้แล้วกันนะครับ” ยังตอบ จากนั้นก็ได้เดินเข้าไปยังจุดที่เขาจะกระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้านของผู้ใหญ่บ้านได้ แล้วก็ขึ้นไปชมวิวของหมู่บ้านที่สวยงามยามดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า

            แต่พอยังจะเข้าไปในห้องใต้หลังคา เขากลับพบกับใครก็ไม่รู้อยู่ข้างในนั้น เขาผวาอย่างหนัก แต่ก็อยากรู้ให้ได้ว่านั่นคือใคร จึงเข้าไปอีกครั้งแต่ทว่าคนที่อยู่ข้างในกลับหายไปแล้ว ดังนั้น ยังจึงใช้ดาบตัดหยากไย่และเถาวัลย์ใต้หลังคาให้หมด ซึ่งห้องใต้หลังคานั้นก็ลึกมาก ถ้าใครตกไปคงมีโอกาสรอดน้อยมาก

            แต่ตอนยังจะกลับไป เขาก็ได้จ๊ะเอ๋กับคนที่อยู่ในห้องโถงเมื่อกี๊แบบจมูกจะชนกัน เขาหน้าตาเหมือนยังมาก แต่ตาทั้งสองข้างของเขายังคงเป็นนัยน์ตาสีดำ

            “ทำไมแกยังไม่ตาย” บุรุษไม่ทราบชื่อตะโกน “ฉันฆ่าแกไปแล้ว ทำไมแกถึงยังไม่ตาย! ฮีโร่บรายน์!

            “ฉันไม่รู้ว่าแกพูดถึงเรื่องอะไร” ยังร้อง

            “อย่าทำเป็นเสแสร้งไปหน่อยเลยน่า!” บุรุษไม่ทราบชื่อตวาดไฟแลบ

            “ทำไมแกเหมือนฉันจังเลย??” ยังถาม

            “ตัวจริง ๆ ของแกอยู่ที่ไหน!” บุรุษไม่ทราบชื่อถาม

            “ฉันไม่รู้จริง ๆ!” ยังตอบ

            “ไม่รู้ใช่ไหม?” บุรุษไม่ทราบชื่อพูด จากนั้นก็ถีบยังด้วยท่าแบบ... ที่นี่คือสปาร์ต้า ...ตกลงมาจากขอบทันที

 

“นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาตามหาฉันเจอ...เขาต้องการอะไร?”

“เขาจับนายยังไงล่ะ...”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.