บทที่ 49 มารยากวางน้อย
ฉันมองไปที่คนเจ้าเล่ห์ที่ทำสายตาหลุกหลิก เพราะน่าจะรู้ตัวเองดี ว่าบอกสิ่งที่ฉันอยากรู้ไม่หมด
“มีอะไรจะพูดอีกไหมคะ” ฉันเอ่ยย้ำ พร้อมส่งสายตาจับผิดไปให้
“ม่ะ..ไม่มีค่ะ” เขาตอบตะกุกตะกัก
“แน่นะ” ฉันเอ่ยเสียงเข้มเน้นคำ
“แหะๆ ....อ๋อนึกได้อีกอย่าง คือเอลิซอยากรู้ใช่ไหมคะว่าเฮียรู้ได้ยังไง” เขาแสร้งทำเป็นนึกออก ทำไมฉันจะดูไม่ออก
ฉันพยักหน้าตอบรับ
“คือว่า...เอ่อ...เฮียแอบเอากล้องวงจรจิ๋วไปติดในห้องน้ำ” พอเขาพูดจบก็รีบซุกหน้าเข้ามาที่หน้าอกฉันเพื่อหนีความผิดทันที
“เฮียยยย” ฉันตาโตขึ้นเสียงเรียกชื่อเขาทันที มันน่านัก โธ่เอ๊ย!!อายก็อาย โมโหก็โมโห อยากจะทุบให้แขนหักไปเลย แต่ก็ทำได้แค่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่รัดแน่นเท่านั้น
“อย่าโกรธเฮียเลยนะคะ คนดี ที่เฮียทำไปทุกอย่างก็เพื่อเอลิซเลยนะคะ เห็นใจผัวตาดำๆ คนนี้เถอะน๊าาา...” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉัน เมื่อเห็นว่าฉันหยุดดิ้นแล้ว ซ้ำยังมาทำหน้าทำตาอ้อนวอนขอร้องให้ฉันยกโทษให้อีก
ความจริงฉันก็ไม่ได้โกรธ หรือโมโหอะไรเขาแล้วแหละ เพราะรับรู้ถึงเจตนาที่ดี (หรือเปล่า) ของเขา และเมื่อรวมกับสิ่งที่เขากระทำกับฉันมาโดยตลอดตั้งแต่เขาขอโอกาสจากฉัน มันก็ยิ่งการันตีว่าเขาจริงใจกับฉันจริงๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ฉันต้องแสดงท่าทีแบบนั้นออกไปก็เพราะว่า ฉันต้องการกลบเกลื่อนความอายต่างหาก แล้วยิ่งเขาต้องมาเห็นฉันทำอะไรแบบนั้นด้วยแล้ว แล้วทีนี้ฉันจะมองหน้าเขาติดได้ยังไงกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะมุดแผ่นดินหนีหายไปซะเดี๋ยวนี้เลย...เฮ้ออออ
เมื่อเขายังไม่เห็นท่าทีที่อ่อนลงของฉัน เขาก็ยิ่งเอ่ยพรรณนาบอกเล่าความปรารถนาดีของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง
“หายโกรธเฮียเถอะนะคะ นะ นะ เนี้ยเฮียก็บอกหมดทุกอย่างไม่มีความลับกับเอลิซเลย เห็นไหมว่าเฮียจริงใจแค่ไหน...นะ นะ หรือว่าเอาอย่างนี้ไหมล๊าาา เดี๋ยววันนี้เฮียจะรีบเคลีย์งานให้เสร็จแล้วเดี๋ยวเฮียพาเอลิซเมียรักของเฮียไปผับไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อยดีไหม ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว เอาไหมคะ” และแล้วเขาก็เอ่ยบอกข้อเสนอที่ฉันรอคอยมานาน มีหรือที่ฉันจะไม่ตอบตกลง
ฉันยิ้มกริ่มขึ้นมาทันที ในที่สุดก็ไม่ต้องเหนื่อยออดอ้อนเอ่ยปากข้อร้องเขา เพราะรู้ดีว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาไม่มีทางให้อะไรฉันฟรีๆ แน่นอน แล้วสิ่งที่ฉันต้องแลกทุกครั้งก็ช่างล่อแหลมเสียเหลือเกิน
“คริคริ...เฮียบอกแล้วน๊าาา” ^-^ ฉันจัดการเอามือไปคล้องคอเขา แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอย่างผู้ชนะ ที่เขาตกหลุมพรางฉันจนได้
เขาได้แต่อึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะโดนแม่กวางน้อยใสซื่อหลอกเข้าจนได้
ฉันลุกจากตักเขาด้วยท่าทางร่าเริง นานๆ ทีจะเห็นสีหน้าเหวอของเขา มันช่างสะใจจริงๆ ฉันเดินด้วยท่าทางสบายๆ เพื่อมานั่งที่โซฟารับแขกที่อยู่ภายในห้องทำงานของเขา
ในระหว่างที่ฉันไม่ทันระวังตัวอยู่นั้น...
หมับ!!
“ว๊ายยย…อุ๊บ ~~ ” *o*
เขาเข้ามาจู่โจมฉันจากทางด้านหลังโดยที่ฉันไม่มีโอกาสได้ทันตั้งตัว
ร่างบางถูกทาบทับด้วยร่างที่แข็งแรงกว่า ปากหนาประกบเข้ากับปากอวบอิ่ม แทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากฉกฉวยหาความหวานอย่างหื่นกระหาย
“อ่อย เออิซ อ๊ะ...อืมม” ฉันได้แต่ทักท้วงอู้อี้อยู่ในลำคอ เพื่อให้เขาปล่อยฉัน
ข้อมือบางทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นไปอยู่เหนือหัว ด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา คนร่างโตคร่อมร่างของฉันทำให้แม้จะดิ้นยังไงก็ดูท่าจะเสียแรงเปล่า
มืออีกข้างของเขา ค่อยๆ แทรกเข้ามาภายในกระโปรงลูบขึ้นมายังต้นขาอ่อนของฉัน การสัมผัสที่สะเปะสะปะสาละวนไปทั่ว ทำฉันเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง มือแกร่งคล้ายจะแกล้งให้ใจฉันวาบหวิว โดยการลากผ่านจีสตริงไปมาระหว่างต้นขา เนื้ออวบอูมที่อยู่ตรงการออกอาการตอบสนองอีกครั้ง
น้ำใสหยาดเยิ้มปริ่มออกมาตามร่องสวย ปากหนาทรงเสน่ห์ละออกจากปากอิ่มแล้วมาคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอหอม
“แฮ่กๆๆ เฮีย หยุดนะ” ฉันหอบเอาอากาศเข้าให้เต็มปอดหลังจากเขายอมถอดลิ้นสวาทออกจากโพรงปากของฉัน
สายตาหื่นกระหายที่ส่งมา เป็นคำตอบได้ดีว่าเขาไม่มีทางหยุดการกระทำนี้แน่นอน
เขายังคงก้มหน้าลงสูดดมความหอมตามลำคอระหง จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนหน้ามาที่หน้าอกอวบใหญ่ที่เขารู้ดีว่าเมื่อไรได้กอบกุมไม่ว่าจะด้วยปากหรือมือ มันเหมือนของโปรดที่เขาไม่อยากหยุดดื่มด่ำได้เลย
แต่เป็นเพราะเสื้อตัวนี้ด้านหน้าค่อนข้างปกปิด ซึ่งต่างจากข้างหลังที่เขาเห็นว่ามันเปิดเผยมากแค่ไหน จนเขาหงุดหงิดขึ้นมาและอดไม่ได้ที่เอ่ยออกคำสั่ง
“ไอ้เสื้อตัวนี้กลับไปเผาทิ้งซะนะ ไม่มีประโยชน์ ทำเฮียอดดูดนมเมียเลย” เขามองมายังเสื้ออย่างนึกรำคาญ
พฤติกรรมของเขาทำฉันอดนึกขำในใจไม่ได้ คนอะไรจะหื่นกามหน้ามืดตามัวทะเลาะกับเสื้อผ้าได้
เมื่อเขาเห็นว่าไม่สามารถจัดการกับสองเต้าที่โปรดปรานได้แล้ว แม้จะเสียดายจนแทบคลั่ง ใจอยากจะเอามือมาฉีกเสื้อตัวนี้ทิ้งสะเดี๋ยวนี้ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้อย่างใจนึก เนื่องจากตอนนี้มือหนากำลังเมามันกับการหยอกล้อร่องสาวเรียกน้ำหวานให้ออกมาอยู่
มือหนากรีดกรายนิ้วเรียวละเลงร่องอวบผ่านจีสตริง จนหนำใจ ก่อนจะเลื่อนหน้าไปกระซิบที่ข้างหูสาว
“ให้เฮียช่วยเถอะ เฮียว่าเอลิซของเฮียจะไม่ไหวแล้วน๊าาา” เขาเอ่ยกระเซ้าเย้าแหย่ รอแค่ฉันเอ่ยปากเขาก็พร้อมจะบรรเลงเพลงสวาททันที
“มะ...ไม่...เอา...อืมมม” ฉันตอบอย่างไม่ได้ศัพท์
เขายกยิ้มด้วยความลำพองใจ ก่อนหน้านี้เขาอาจจะลังเลและกังวลเวลาที่ได้สัมผัสเธอ แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้รู้ความลับบางอย่างของเธอแล้ว มันทำให้เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นที่จะสัมผัสเธอ
“ร่างกายของเอลิซมันไม่บอกอย่างนั้นเลยนะ อย่าปฏิเสธความหวังดี (ประสงค์หื่น) ของเฮียเลยนะคะ” เขายังคงหลอกล่อให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปกับเขา
“เฮียต้องการเอลิซ เอลิซก็ต้องการเฮีย ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ในเมื่อเรารู้สึกดีต่อกัน เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนคบกันนะคะ” เขาพูดโน้มน้าวฉันต่อ เมื่อเห็นความหวั่นไหวลังเลในสายตากลมโตของฉัน
ฉันเกิดอาการลังเล ใช่!! ฉันไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขา และฉันก็ไม่ได้รังเกียจเขา สมองเริ่มเคลิบเคลิ้มไปตามคำพูดของเขา ในขณะที่ฉันกำลังจะหลงเข้าสู่สนามเกมสวาทกับเขาอีกครั้งนั้น....
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 144
แสดงความคิดเห็น