ตอนที่ 670 ตามหาคน
ตอนที่ 670 ตามหาคน
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังพูดคุยอยู่กับโอโร่ เซธก็กำลังมองไปยังชายหนุ่มด้วยความไม่สบายใจ ราวกับว่าเขากำลังรอคำตัดสินที่จะชี้ชะตาชีวิตของตัวเอง
บางครั้งโชคชะตาก็ชอบเล่นตลกกับชีวิต เพราะเซธเห็นเซี่ยเฟยเป็นความหวังสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ได้ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มมีพลังอยู่ในระดับไหน, ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครและมีอายุที่แท้จริงเท่าไหร่กันแน่
สิ่งเดียวที่เขารู้คือเซี่ยเฟยสามารถทำลายการป้องกันของศิลาพิทักษ์ของเขาเข้ามาได้ง่าย ๆ ราวกับว่าการป้องกันที่เขารู้สึกภาคภูมิใจกลายเป็นเพียงกระดาษแผ่นบาง ๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าของชายหนุ่ม
การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยเพียงแค่ครั้งเดียวสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเซธได้อย่างรวดเร็ว และถึงแม้ว่าในตอนนี้ทั่วทั้งใบหน้าของชายฉกรรจ์จะบวมเป่ง แต่เขาก็ยังคงส่งรอยยิ้มไปให้เซี่ยเฟยอยู่เสมอ
“ดาวเคราะห์ที่นายได้พบกับนักรบไลอ้อนฮาร์ทคนนั้นอยู่ไกลจากที่นี่หรือเปล่า?” เซี่ยเฟยถาม
“มันอยู่บริเวณขอบนอกของดินแดนเนรเทศใกล้ที่จะเข้าไปในเขตแดนของฝั่งเทพแล้ว การจะเข้าถึงที่นั่นจำเป็นจะต้องขับยานผ่านแนวอุกกาบาตค่อนข้างไกล ทำให้มันเป็นการเดินทางที่ถือว่าอันตรายมากพอสมควร” เซธตอบ
“นายเต็มใจที่จะเดินทางกลับไปที่ดาวดวงนั้นพร้อมกับฉันไหม?” เซี่ยเฟยถามอีกครั้ง
“กลับไป?! ไม่! ผมไม่มีทางกลับไปที่นั่นอย่างเด็ดขาด!! เขาคนนั้นแข็งแกร่งเกินไปและถ้าหากว่าผมได้พบกับเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาก็คงจะลงมือสังหารผมอย่างไม่ลังเล” เซธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ฉันไม่สนใจหรอกว่านายจะคิดยังไง แต่ถ้าหากว่านายเป็นทาสของฉัน นายก็จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ลุกยืนขึ้นเดินไปเปิดประตูพร้อมกับหันไปพูดกับพ่อค้าตระกูลหลิวที่รออยู่ด้านนอก
“ฉันต้องการทำสัญญากับทาสคนนี้”
พ่อค้าตระกูลหลิวดีใจมากจนแทบจะกระโดดตัวลอย เขาจึงเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนสัญญาทาสของเซธให้กลายเป็นของชายหนุ่มในทันที
แต่ในขณะที่เขากำลังจะวิ่งออกไปอยู่นั่นเอง เซี่ยเฟยก็ยื่นมือออกมาให้กับเขาซะก่อน
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ากำลังทำอะไรครับ?”
“ไหนล่ะเงิน” เซี่ยเฟยพูดออกไปง่าย ๆ เพราะเงินที่อีกฝ่ายเสนอมันก็มากพอที่เขาจะเอาไปเป็นของว่างให้กับขนอุยได้
“ได้ครับ ๆ ผมจะรีบเอาเงินมาให้คุณลูกค้าทันที” พ่อค้าตระกูลหลิวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะเมื่อเขานึกถึงเงินจำนวน 10,000 คริสตัลเหลืองที่เขาจะต้องจ่ายออกไป มันก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจอยู่มากพอสมควร
—
ผลธอร์นเบอร์รี่มีขนาดเล็กมาก โดยมันมีลักษณะเป็นลูกปัดสีดำขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่เซี่ยเฟยถ่ายเทกระแสพลังของเขาเข้าไปไว้ในผลไม้ชนิดนี้แล้ว เขาก็นำผลไม้ชนิดนี้ยัดใส่ปากเซธในทันที ถือว่าเป็นการเปลี่ยนนายทาสคนใหม่อย่างสมบูรณ์ และตราบใดก็ตามที่ชายหนุ่มเริ่มส่งกระแสพลังออกไป ผลธอร์นเบอร์รี่ก็จะเริ่มเติบโตจากภายในร่างกายและทรมานเซธจนตาย
เซี่ยเฟยมีข้อกำหนดให้เซธเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้นคือ เรื่องแรกอีกฝ่ายจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และเรื่องที่ 2 คืออีกฝ่ายห้ามพูดอะไรเว้นแต่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่จำเป็นจริง ๆ
หลังจากได้รับคริสตัลต้นกำเนิดจากพ่อค้าตระกูลหลิวแล้ว เซี่ยเฟยก็เดินทางออกมาจากอาคารพร้อมกับเซธและสโตนนี่
เหล่าบรรดาทาสสาว ๆ รู้สึกผิดหวังมากที่เซี่ยเฟยไม่ได้ซื้อตัวพวกเธอไป ส่วนเหล่าบรรดาพนักงานภายในร้านก็กำลังมองไปทางชายหนุ่มด้วยความอิจฉาเช่นเดียวกัน เพราะเซี่ยเฟยได้ทั้งคริสตัลต้นกำเนิดกลับไปเป็นจำนวนมาก และยังได้นักรบระดับราชากฎกลับไปเป็นทาสที่เชื่อฟังอีกด้วย
“ไอ้หมอนั่นได้เงินไปเยอะมากจริง ๆ ฉันคิดว่าตระกูลของฉันทั้ง 10 ชั่วอายุคนก็คงจะหาเงิน 10,000 คริสตัลเหลืองมาไม่ได้”
“นายไม่ต้องไปอิจฉาเขาหรอก ฉันถามจริง ๆ เถอะว่านายมีพลังมากพอที่จะควบคุมเซธเอาไว้ได้ไหม?”
“ฉันไม่มีทางทำอย่างเขาคนนั้นได้แน่ ๆ ดูหน้าบวม ๆ ของเซธสิ ไอ้หนุ่มนั่นมันจะโหดเหี้ยมจนเกินไปแล้ว”
เหล่าบรรดาพนักงานในร้านต่างก็เริ่มพูดคุยกันถึงความโชคดีที่เซี่ยเฟยได้รับเงินเป็นจำนวนมากกลับไปพร้อมกับเซธ
—
เมื่อเซี่ยเฟยเดินทางกลับมาจนถึงโรงแรม เขาก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 3 มามอบให้กับสโตนนี่เป็นจำนวน 2 ชิ้น ซึ่งสำหรับเด็กหนุ่มกำพร้าคนนี้แล้ว เงินจำนวนนี้ก็มากพอที่จะต่อชีวิตให้กับเขาไปเป็นเวลานานนับปี
เมื่อถึงเวลาพลบค่ำพวกแขกที่เป็นพ่อค้าก็กลับมาที่โรงแรม แล้วพวกเขาก็เริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลอันมีค่าพร้อมกับเจรจาเรื่องการซื้อขายทาสโดยมีส่วนลดมากเป็นพิเศษ
เมื่อเซี่ยเฟยกับเซธเปิดประตูเข้ามาในห้องอาหาร แขกทุกคนก็เงียบเสียงลงในทันที ซึ่งหลังจากที่เซธได้สวมใส่หน้ากากที่เซี่ยเฟยได้ให้เขามาแล้วท่าทางของเขามันก็ดูดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
“ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว” เด็กสาวรีบเข้ามาหาเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะเชิญชายหนุ่มเข้าไปนั่งบนโต๊ะอาหาร
“ฉันต้องขอบคุณสำหรับผ้าคลุมของเธอด้วย มันช่วยฉันได้เยอะเลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับถอดผ้าคลุมสีสันสดใสคืนให้กับเด็กสาว
เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กสาวรู้สึกอึดอัดมาก เพราะท้ายที่สุดเธอก็เป็นคนทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้บนตัวของเซี่ยเฟย และเป็นคนส่งเขาไปที่ร้านของตระกูลหลิว แต่ในตอนนี้ข่าวที่เซี่ยเฟยได้รับเซธมาเป็นทาสพร้อมกับเงินจำนวนมหาศาลได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว การปรากฏตัวของเซธจึงทำให้พ่อค้าทุกคนต่างก็รู้สึกหวาดกลัว
“นั่งลงเดี๋ยวนี้! ห้ามใครออกไปเว้นแต่ว่าพวกแกจะได้รับอนุญาตจากนายท่านของฉัน” เซธส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับเอามือทุบลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง เมื่อได้เห็นว่าพวกพ่อค้าเริ่มจะพยายามลุกหนีออกไป
เพล้ง!
เด็กสาวที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยน้ำชาตกใจเสียงของเซธในทันที จนทำให้เธอเผลอปล่อยมือพร้อมกับล้มลงไปนั่งบนพื้นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
—
“นายท่านทำไมคุณถึงไม่ให้ผมทำลายโรงแรมนี้ทิ้งไปเลยล่ะ? ไอ้เด็กผู้หญิงคนนั้นมันทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้บนชุดของนายท่านนะ ทำให้พวกพ่อค้ามองมาที่นายท่านเป็นเหมือนเหยื่อที่รอให้พวกมันเชือด” เมื่อกลับมาจนถึงห้องเซธก็ร้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ โดยเขาพยายามแสดงความภักดีต่อเซี่ยเฟยจนถึงที่สุด เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็คงจะต้องอยู่กับชายหนุ่มคนนี้ไปอีกนาน
“ช่างมันเถอะ แค่เรื่องในวันนี้มันก็พอจะทำให้เธอรู้สำนึกมากพอแล้ว ถ้าหากว่าเรากดดันพวกเขามากเกินไปบางทีมันก็คงจะไม่ได้ส่งผลดีต่อสโตนนี่ด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ
เซธพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรอีก
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็พยายามถามถึงเรื่องราวภายในดินแดนเนรเทศ และเนื่องมาจากว่าเซธเคยออกไปจับทาสมาจากเผ่าพันธุ์อื่น ๆ อย่างมากมาย ข้อมูลที่เขามีจึงมีประโยชน์กับชายหนุ่มมากพอสมควร
…
“กองกำลังหลักของดินแดนนี้คือพวกทหารรับจ้างสินะ?” เซี่ยเฟยถาม
“ใช่ครับ ยกตัวอย่างเหมือนกับตัวผมในอดีตที่ถึงแม้ผมจะทำอาชีพหลักเป็นนักล่าทาส แต่ผมก็สามารถเปลี่ยนอาชีพมาเป็นทหารรับจ้างได้ ดินแดนเนรเทศเป็นดินแดนที่แร้นแค้นมาก ไม่ว่างานอะไรที่ทำแล้วได้เงินคนในดินแดนนี้ก็มักที่จะรับงานโดยไม่เกี่ยงอะไร”
“ในอดีตการจัดการเรื่องทหารรับจ้างค่อนข้างที่จะหลวมมากจนทำให้มันมีการผิดข้อตกลงกันหลายครั้ง ต่อมากลุ่มทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงบางกลุ่มก็ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมทหารรับจ้างขึ้นมา โดยพวกเขาทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างทหารรับจ้างและนายจ้าง จนทำให้อาชีพทหารรับจ้างกลับมามีความนิยมเหมือนกับในปัจจุบัน” เซธกล่าวอธิบาย
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามว่า
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็สามารถจ้างงานพวกสายลับผ่านทางสมาคมทหารรับจ้างได้ใช่ไหม?”
“พวกสายลับ!? คนพวกนี้เป็นพวกมีฝีมือมากและราคาที่พวกเขาเรียกเก็บมันก็สูงมากด้วยเหมือนกัน ดังนั้นถ้าหากว่ามันไม่ได้มีความจำเป็นจริง ๆ พวกเราชาวแดนเนรเทศจะไม่ทำการว่าจ้างคนพวกนี้อย่างเด็ดขาด” เซธกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องค่าจ้างแต่ฉันมีปัญหาที่ต้องการสายลับที่เก่งกาจที่สุดมาทำงานให้ แต่เงื่อนไขของฉันคือไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องเก่งกาจเท่านั้น พวกเขายังจะต้องมีความภักดีต่อฉันมากพอด้วย” เซี่ยเฟยกล่าว
“เผ่าพันธุ์ที่โดดเด่นเรื่องการแฝงตัวในดินแดนเนรเทศมี 2 เผ่าพันธุ์คือพวกเชพเพิร์ดกับพวกมุราซากิ”
“พวกเชพเพิร์ดมีประชากรอยู่เป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาก็มีนิสัยดุร้ายชอบกลืนกินร่างกายของชนเผ่าอื่น ๆ คนในดินแดนเนรเทศถึงไม่ติดต่อไปหาพวกเชพเพิร์ดเว้นแต่ว่ามันจะมีความจำเป็นมากจริง ๆ”
เมื่อเซธอธิบายมาจนถึงจุดนี้เซี่ยเฟยก็นึกถึงเชพเพิร์ดคนหนึ่งที่เขาได้พบในระหว่างงานชุมนุมมังกรฟ้า และความบาดหมางที่เขาเคยพบเจอมามันจึงทำให้เขาแอบตัดพวกเชพเพิร์ดออกจากตัวเลือกภายในใจ
“นอกจากพวกเชพเพิร์ดแล้วอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งที่โดดเด่นเรื่องการสืบข่าวมากคือพวกมุราซากิ ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการปลอมตัว ในยุคสมัยที่เทพกับมารไม่ลงรอยกันพวกเขาก็มักที่จะจ้างนักรบชาวมุราซากิเข้าไปแอบทำลายความสามัคคีในดินแดนศัตรูของตัวเอง”
“น่าเสียดายที่พวกมุราซากิไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนกับพวกเชพเพิร์ด เพราะพวกเขาชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ ไม่แสดงผลงานออกมาต่อหน้าคนอื่นมากนัก คนนอกเลยไม่ค่อยรู้จักชื่อเสียงของพวกเขาอย่างที่ควรจะเป็น”
“พวกมุราซากิมีกฎเกณฑ์เป็นของตัวเอง ซึ่งถ้าหากว่าพวกเขาทำภารกิจล้มเหลวพวกเขาจะต้องตัดนิ้วของตัวเองทิ้ง ดังนั้นถ้าหากว่าคุณต้องการจะรู้ว่ามุราซากิคนไหนเก่งหรือไม่เก่ง สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องพิจารณามีเพียงแค่อายุของพวกเขาและจำนวนนิ้วของพวกเขาเท่านั้น ถ้าหากว่านายท่านไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน พวกมุราซากิถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน”
เซี่ยเฟยคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากที่เซธจะยอมรับใครสักคน และการที่เขายกย่องพวกมุราซากิมากขนาดนี้ เขาก็แอบตัดสินใจว่างานสืบข่าวในครั้งนี้เขาจะยกหน้าที่ให้กับพวกมุราซากิตามคำแนะนำของเซธ
ดินแดนเนรเทศเป็นดินแดนที่แยกออกมาอย่างอิสระจากเผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสองในจักรวาล และการที่พวกเขาสามารถปลอมตัวเข้าไปในดินแดนสูงสุดของทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้ มันก็แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขามีความสามารถมากแค่ไหน
เซี่ยเฟยมีแผนการภายในใจอยู่แล้วแต่ถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะดำเนินแผนการครั้งนี้ให้สำเร็จ เขาก็จำเป็นจะต้องมีคนที่ไว้ใจแฝงตัวเข้าไปภายในกลุ่มดาวม้าขาวให้ได้เสียก่อน
“สายลับที่นายท่านต้องการทำให้ผมนึกถึงคนคนหนึ่ง คนคนนี้เคยแอบเข้าไปในดินแดนของสองเผ่าพันธุ์สูงสุดมาแล้วเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน แล้วถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในวงการนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่เขาก็ทำงานพลาดไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นคือตั้งแต่สมัยเมื่อ 25 ปีที่แล้ว และเขาก็ไม่เคยทำงานผิดพลาดอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” เซธกล่าว
“ไม่เคยทำงานผิดพลาดในรอบ 25 ปีเลยงั้นเหรอ? นายพอจะมีช่องทางติดต่อกับเขาไหม?” เซี่ยเฟยถามอย่างตกใจเล็กน้อย
“การหาตัวเขาไม่ยากมากเท่าไหร่แต่เขามีบุคลิกแปลก ๆ ที่จะรับงานหรือไม่รับงานแล้วแต่อารมณ์ สิ่งที่ผมช่วยนายท่านได้มีเพียงแค่การอาศัยสายสัมพันธ์เก่า ๆ เท่านั้น ส่วนเขาจะรับงานนายท่านหรือไม่เรื่องนี้มันก็ขึ้นอยู่กับโชคของนายท่านเอง ที่สำคัญเขายังคิดค่าจ้างสูงถึง 300 คริสตัลเหลือง” เซธกล่าวด้วยความลำบากใจเล็กน้อย
“เงินค่าจ้างแค่นี้ไม่มีปัญหา” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ผมคงจะอธิบายไม่ชัด มันต้องบอกว่าเขาไม่ได้คิดค่าจ้างทั้งงานแค่ 300 คริสตัลเหลืองเท่านั้น แต่เขาคิดค่าจ้างวันละ 300 คริสตัลเหลือง โดยเขาจะเริ่มคิดค่าจ้างตั้งแต่วินาทีแรกที่เขารับงาน ส่วนเขาจะกลับมาเมื่อไหร่นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาเอง” เซธกล่าวด้วยใบหน้าที่เหยเก
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 232
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น