บทที่ 574: ภูตผมแดงที่ทำตัวน่าสงสัย
หลังจากแม่ลูกทั้ง 7 คนทานอาหารเย็นเสร็จ หูเจียวเจียวก็บอกให้ลูก ๆ กลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเองให้เร็วหน่อย
ตัวเธอเองไม่ได้รู้สึกง่วงนอนจึงเดินไปเก็บอาหารที่เหลือไว้ในหม้อ และนั่งรอหลงโม่อยู่ในห้องนั่งเล่น
พอเวลาผ่านไปสักพัก หญิงสาวก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อถึงยามเที่ยงคืน…
หูเจียวเจียวสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงเปิดประตู ก่อนจะพบว่าตอนนี้เทียนบนโต๊ะดับไปแล้วทำให้ห้องนั่งเล่นมืดสนิท
แสงจันทร์สีซีดส่องผ่านรอยแยกประตูที่เปิดอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามาข้างใน
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นเลือดโชยมาตามสายลมด้วย
“หลงโม่ เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” จิ้งจอกสาวรู้สึกปวดหนึบในใจขึ้นมา จากที่เธอกำลังรู้สึกมึนงงจากการพึ่งตื่นนอนก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาทันที เธอรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหามังกรหนุ่มอย่างเป็นห่วง
ก่อนที่เธอจะเข้าไปใกล้ ร่างสูงก็ถอยหลังไป 2 ก้าว
“เจ้าไม่ต้องกังวล เลือดพวกนี้ไม่ใช่เลือดของข้า มันเป็นของศัตรูทั้งหมด” ชายหนุ่มอธิบาย “ตอนนี้เนื้อตัวข้าสกปรก เจ้าอย่าเพิ่งเข้ามาใกล้ข้าเลย”
ขณะนี้ใบหน้าหล่อเหลายังคงเปื้อนเลือด ทันทีที่เขาสบสายตากับหูเจียวเจียว แววตาคมดุของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความอ่อนโยน
เขากลัวว่าเลือดที่อยู่บนตัวจะไปแปดเปื้อนร่างกายของภรรยาสาว
“สกปรกตรงไหน ก็แค่เลือดไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยสัมผัสมันมาก่อนสักหน่อย” หูเจียวเจียวเม้มริมฝีปาก เธอไม่ใช่คนขี้กลัวขนาดนั้น
เมื่อเธอได้ยินหลงโม่บอกว่าเลือดบนร่างกายเขาเป็นเลือดของคนอื่นทั้งหมด เธอก็รู้สึกโล่งใจ
จากนั้นหญิงสาวก็รีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวออกมา
“ถอดเสื้อผ้าสกปรกออกก่อน ข้าจะรีบเอาไปซัก”
จิ้งจอกสาวพูดพลางเดินไปที่สวนหลังบ้านพร้อมกับเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวในมือ
ปัจจุบันถังเก็บน้ำตั้งอยู่ในสวนหลังบ้าน โดยที่มังกรหนุ่มได้สร้างห้องอาบน้ำเอาไว้ที่นี่ก่อนแล้ว ซึ่งแบบนี้มันทำให้ทุกคนสะดวกแถมยังช่วยประหยัดน้ำอีก มิหนำซ้ำ น้ำที่ถูกใช้แล้วก็สามารถเก็บไว้รดต้นไม้ได้ด้วย
พอหูเจียวเจียวเดินออกจากประตูบ้านไป เธอก็ไม่ได้เดินไปที่ห้องน้ำทันที เธอหันกลับไปมองหลงโม่แล้วพบว่าอีกฝ่ายยังคงสวมเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดอยู่ ดังนั้นเธอจึงพูดเร่งเขาอีกครั้ง
“รีบถอดเสื้อผ้าเร็วเข้า ข้าจะได้เอาไปซัก ถ้าทิ้งเอาไว้นานคราบเลือดมันจะซักออกยาก” เนื่องจากที่นี่ไม่มีน้ำยาซักผ้า การใช้น้ำซักผ้าเพียงอย่างเดียวมันไม่มีทางสะอาดแน่นอน หญิงสาวเลยวางแผนว่าจะเอาเสื้อผ้าไปซักในที่ที่ไม่มีใครเห็น
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ขาดแคลนเสื้อผ้า แต่ผ้าป่านเป็นสิ่งที่ผู้หญิงในเผ่าเฟิงโชวค่อย ๆ ทอมันเส้นต่อเส้น เธอจึงทำใจใช้ทิ้งใช้ขว้างแบบไม่ไยดีไม่ลง
“ไม่ต้องหรอก เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ ข้าอาบน้ำเดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว” มังกรหนุ่มพูดโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมถอดเสื้อผ้าออก
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นท่าทางยืนกรานของผู้เป็นสามี เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยื่นเสื้อผ้าให้เขาไปจัดการตัวเอง
“งั้นข้าจะหาอะไรให้เจ้ากิน วันนี้เจ้ายุ่งมาทั้งวัน เจ้าคงจะหิวแล้ว” หญิงสาวหันกลับมาบอกคนรักแล้วก็เดินไปที่ห้องครัว
“อืม” ดวงตาสีทองที่ลึกล้ำเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขามองดูภรรยาสาวของตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ทางด้านหูเจียวเจียวมองตามหลังชายร่างสูงพลางพึมพำในใจว่า
ผู้ชายคนนี้ เขาอายที่จะถอดเสื้อผ้าต่อหน้าฉันหรือ?
เขาเป็นคนขี้อายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ด้วยความกลัวว่าหลงโม่จะไม่พอกิน หูเจียวเจียวจึงตักอาหารมาเป็นจำนวนมาก และเมื่อเธอหยิบมันออกมาจากห้องครัว เขาก็ไม่อยู่ในห้องน้ำแล้ว
หลังจากหญิงสาวรออยู่พักหนึ่ง ชายหนุ่มก็กลับมาจากข้างนอก
เขายังคงถือเสื้อผ้าเปียกซึ่งถูกบิดจนไม่มีน้ำหยด
ขณะนั้นจิ้งจอกสาวไม่ได้สนใจเสื้อผ้าของอีกคน แต่เหลือบไปมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
“ทำไมตอนที่เจ้าออกไปซักผ้าเจ้าถึงสวมเสื้ออยู่ตลอดเวลา ปกติอากาศร้อน ๆ แบบนี้เจ้าชอบถอดเสื้อเดินไปไหนต่อไหนตลอด”
ตามปกติในฤดูร้อนผู้ชายเวลาอยู่บ้านจะไม่สวมเสื้อ แล้วเวลาที่ลูกไม่อยู่บ้าน หลงโม่ก็ชอบถอดเสื้อเดินไปทั่ว เขาบอกว่าทำแบบนี้เสื้อผ้าจะได้ไม่เปื้อนเหงื่อ
“ไม่มีอะไรหรอก วันนี้ลมแรง ข้าไม่ร้อน” มังกรหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูด “ข้าจะไปตากผ้าก่อน”
คำพูดของเขาทำให้หูเจียวเจียวเกิดความสงสัยในใจ
วันนี้เธอรู้สึกว่าหลงโม่ทำตัวแปลก ๆ
แต่เมื่อหญิงสาวเห็นความเหนื่อยล้าที่ฉายชัดบนใบหน้าของสามี เธอก็ไม่ได้ถามซักไซร้ให้มากความ
ขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว หูเจียวเจียวได้ฟังหลงโม่พูดถึงสถานการณ์ภายนอกเผ่า
เขาบอกว่าหูหลินได้นำกำลังไปปราบปรามพวกภูตที่เป็นตัวการในการสร้างปัญหาแล้วจัดการเชือดไก่ให้ลิงดูเป็นตัวอย่าง ตอนนี้จึงเหลือเพียงกลุ่มคนที่หวาดกลัว ซึ่งคนพวกนี้ที่เคยเป็นเหมือนคลื่นขนาดใหญ่ไม่สามารถสร้างผลกระทบต่อเผ่าได้เลย
เมื่อผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูพิจารณาถึงปัญหาในปัจจุบันที่ทำให้ผู้คนโกรธ เขาจึงตัดสินใจไม่ยอมรับภูตเข้ามาเพิ่มสัก 2-3 วัน จากเดิมที่เขาเคยส่งคนไปลาดตระเวนปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นให้อีกฝ่ายดูแลตัวเอง
แล้วคนที่ก่อปัญหาก็รู้สึกเสียใจทีหลัง แต่ทุกคนก็ยังเดินเตร็ดเตร่กันอยู่ข้างนอกไม่ยอมไปไหนอยู่ดี
พอหลงโม่เล่าเรื่องทั้งหมดจบ หูเจียวเจียวก็ไม่ได้เห็นอกเห็นใจคนเหล่านั้นเลย เธอรู้สึกโล่งใจเสียมากกว่า
สำหรับภูตที่ประพฤติตัวแย่ การที่พวกเขาต้องลงเอยแบบนี้มันก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
เพราะถ้าทางเผ่าเยว่หูใจดีกับอีกฝ่าย มันก็มีแต่ยิ่งจะทำให้คนที่ไม่สำนึกผิดได้ใจไปเท่านั้น
“แต่ข้าก็ยังสงสัยว่าในเผ่าเพิ่งมีเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นได้ไม่นาน พวกภูตข้างนอกจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ได้ยังไง” นี่เป็นสิ่งเดียวที่จิ้งจอกสาวยังไม่เข้าใจ
หลังจากที่มังกรหนุ่มกินเนื้อคำสุดท้ายเสร็จ เขาก็วางชามและตะเกียบลง
“หัวหน้าหลินจับกุมภูต 2 คนที่เป็นหัวโจกมาสอบปากคำพวกมันแล้วได้ยินมาว่ามีภูตผมแดงแจ้งข่าวในเผ่าให้พวกมันทราบ” เสียงทุ้มต่ำตอบอย่างไม่เร่งรีบ
“ภูตผมแดง?!” หูเจียวเจียวสะดุ้งตกใจ คนคนนั้นอาจเป็นภูตผมแดงที่เดินชนหลงเหยาในวันนี้!
มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม?
“ภูตผมแดงส่งข้อความถึงพวกมันงั้นหรือ แล้วเจ้าจับภูตผมแดงคนนั้นได้หรือไม่?” หญิงสาวขมวดคิ้วถาม
เขาจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า แล้วการที่ผู้ชายคนนั้นไปแจ้งข่าวให้คนข้างนอกรู้ เขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
เขาต้องการสร้างปัญหาให้กับเผ่างั้นหรือ?
ทั้งที่เผ่าเยว่หูได้มอบสถานที่ที่ปลอดภัยให้เขาได้อยู่อาศัย ทำไมอีกฝ่ายถึงตอบแทนเผ่าแบบนี้?
หลงโม่ส่ายหัวตอบว่า “ยัง ภูตผมแดงคนนั้นหายตัวไปแล้ว ภูตที่เฝ้าประตูไม่เห็นแม้แต่ตอนที่เขาออกไป ในวันพรุ่งนี้ข้าจะออกไปตามหาเขาพร้อมกับหัวหน้าหลินอีกครั้ง”
หากจับภูตผมแดงไม่ได้ เผ่าเยว่หูจะไม่มีทางปลอดภัยอีก
มิหนำซ้ำ ช่วงใกล้ปลายฤดูร้อนอากาศจะยิ่งร้อนขึ้นกว่าตอนนี้ ดังนั้นมังกรหนุ่มจึงอยากจะจัดการปัญหาให้รวดเร็วที่สุด เพราะเขาอยากให้ภรรยาสาวได้พักร้อนอยู่ที่นี่ด้วยความสบายใจ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วย” จิ้งจอกสาวพยักหน้า หลังจากไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนแล้ว เธอก็เล่าให้ผู้เป็นสามีฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
“ข้าสงสัยว่าเด็กที่ถูกไฟคลอกตายนั้นมันแปลก ๆ แล้วยังมีสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ที่ไม่สามารถอธิบายต้นสายปลายเหตุได้ และยังมีเรื่องของภูตผมแดงคนนี้อีก หากเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเขาเป็นคนทำจริง ๆ เราก็ไม่ควรประมาทคนคนนี้ เจ้าเองก็ระวังตัวด้วย”
“อืม” หลงโม่พยักหน้ารับทันที แน่นอนว่าเขาเชื่อฟังคำพูดของภรรยาสาวเสมอ
หลังจากหญิงสาวได้ยินชายหนุ่มตอบรับ ในที่สุดเธอก็รู้สึกโล่งใจ
กว่าที่ทั้งคู่จะพูดคุยกันเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว
2 สามีภรรยาจึงรีบกลับไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง
เช้าวันต่อมา หลงโม่ออกไปตามหาภูตผมแดงกับหูหลิน
ส่วนพวกหลงอวี้เองก็อยู่ที่บ้านไม่ออกไปไหนตามที่รับปากไว้กับแม่จิ้งจอก
แต่หลงหลิงเอ๋อเป็นกรณียกเว้น เพราะเมื่อคืนมีพูดภูตหลายคนได้รับบาดเจ็บ
วันนี้จึงมีคนบาดเจ็บสาหัสหลายคนที่รอรับการรักษาจากนางอยู่
หมอผีตัวน้อยที่ได้พักผ่อนเต็มที่มาทั้งคืน ร่างกายของนางก็กลับมาเป็นปกติโดยไม่หลงเหลืออาการเหนื่อยล้าแม้แต่นิดเดียว นางได้กลับมาเป็นเด็กผู้หญิงที่มีชีวิตชีวาดังเดิม
เนื่องจากหูหลินกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนางขณะที่ตัวเองกำลังยุ่งอยู่ เขาจึงส่งคนที่มีร่างกายกำยำหลายคนไปคุ้มกันหลานสาวระหว่างการเดินทางไปรักษาคนอื่นที่โรงหมอเพื่อให้หูเจียวเจียวได้พักผ่อน
และในฐานะที่หยินชางเป็นผู้พิทักษ์ตัวน้อยของหลงหลิงเอ๋อ เขาก็ตามอีกฝ่ายไปด้วย
จากนั้นพอแม่จิ้งจอกเห็นว่าเจ้าพวกเด็กน้อยไม่อาจอยู่เฉย ๆ รอที่บ้านได้ เธอจึงพาพวกเขาไปให้อาหารกระต่ายที่คอกกระต่ายที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ของเผ่าเยว่หู
ทว่าวันนี้อากาศข้างนอกมันร้อนเกินไป ทำให้กระต่ายในคอกรู้สึกกระสับกระส่าย
ในขณะที่ลูก ๆ ไม่ได้สนใจตนเอง หูเจียวเจียวได้แอบเอาแคร์รอตออกมาจากในมิติแล้วโยนลงไปในกองหญ้าที่ขึ้นรกครึ้ม
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 153
แสดงความคิดเห็น