บทที่ 205: หวงเยว่อับจนหนทาง

-A A +A

บทที่ 205: หวงเยว่อับจนหนทาง

“ไม่ ข้าแค่จะไปเดินเล่นเฉย ๆ เจ้าทำงานมาทั้งวันแล้ว ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเหนื่อยอีกเพราะข้า” หวงเยว่ปฏิเสธอย่างสุภาพ

 

คำพูดทั้งหมดนี้ผ่านการคิดไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้ว ใครฟังก็สามารถบอกได้ว่านางคิดถึงตัวเป้าเฟิงมากแค่ไหน

 

ทันทีที่เสือดาวหนุ่มได้ยินคำพูดของภรรยาสาว เขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา

 

ภรรยาที่ทั้งสวยและใจดีเกรงใจข้ามากจริง ๆ!

 

ไม่สิ ข้าต้องดูแลนางให้ดีกว่านี้ ข้าจะไม่ทำให้นางผิดหวัง!

 

“ข้าไม่เหนื่อย ไม่เหนื่อยเลยสักนิด การทำให้เจ้ามีความสุขคืองานที่สำคัญที่สุดของข้า”

 

ครู่ต่อมา เป้าเฟิงกลายร่างเป็นสัตว์แล้วหมอบลงตรงหน้าหวงเยว่ก่อนจะเรียกนางให้ขึ้นมานั่งบนหลังตน

 

“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่ที่เจ้าอยากไป”

 

คำพูดและการกระทำของสามีหนุ่มทำให้รอยยิ้มของหงส์สาวชะงักค้างอยู่บนใบหน้า

 

เจ้าเสือดาวโง่นี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่านางไม่อยากให้เขาตามไป?

 

หากไม่ใช่เพราะสิ่งนั้นที่ไอ้แก่อูหลิวมอบให้นางสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว นางคงควบคุมเสือดาวฉลาดน้อยตัวนี้ไปนานแล้ว

 

ปัจจุบันนางจึงสามารถรับส่งข่าวได้โดยการออกไปนอกเผ่าเท่านั้น

 

หวงเยว่คิดพร้อมกับกัดกรามแน่น ก่อนจะปีนขึ้นไปบนหลังของภูตเสือดาว ในขณะที่นางพยายามสุดชีวิตเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้สบถด่าคนโง่ตรงหน้า

 

ไม่กี่อึดใจถัดมา นางพูดช้า ๆ ว่า “ข้าอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกเผ่า”

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าเสือดาวตัวนี้โง่เขลาเบาปัญญามาก นางคิดวางแผนเอาไว้ว่าจะหาเหตุผลล่อเขาให้แยกตัวไปอีกทางหลังออกจากเผ่าแล้ว

 

เมื่อหงส์สาวกำลังปลอบโยนตัวเองและเพิ่งปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้สำเร็จ นางก็ได้ยินเสียงไร้เดียงสาของคู่ครอง

 

“การที่จะออกไปนอกเผ่ามันอันตรายเกินไป ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวรอบ ๆ เผ่าแทนดีกว่า บรรยากาศในเผ่าของเราค่อนข้างดีเลยทีเดียว”

 

ในขณะที่เขาพูดนั้น เขาไม่สนใจหวงเยว่ที่นั่งหน้าเข้มอยู่บนหลังของตนเองและพานางไปเที่ยวในเผ่าแทน

 

“...” หญิงสาวถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง 

 

ไอ้เสือดาวโง่เง่าเอ๊ย!

 

หลังจากที่ภูตเสือดาวพาภรรยาสาวเดินวนไปทั่วเผ่า หวงเยว่ก็กลับมาพร้อมกับใบหน้าที่เย็นชา

 

ในช่วงเวลาต่อมา ไม่ว่าหญิงสาวจะไปที่ไหน เป้าเฟิงจะตามนางไปทุกย่างก้าว ดังนั้นนางจึงต้องแอบออกจากเผ่าในขณะที่อีกฝ่ายออกไปล่าสัตว์

 

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าพอนางมาถึงทางออกของเผ่า ตรงนั้นกลับมีภูต 2 คนเฝ้าอยู่

 

นั่นทำให้หวงเยว่เดินไปอย่างกระวนกระวาย ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าพวกเขา

 

“ตอนนี้เรามีกฎใหม่ว่าผู้หญิงไม่สามารถออกจากเผ่าได้ เว้นแต่จะมีคู่ไปด้วย” ภูตชายที่เฝ้าทางเข้าออกเผ่าพูดด้วยใบหน้าจริงจัง

 

“คู่ของข้าออกไปล่าสัตว์ ข้าอยากจะรอเขากลับมา เจ้าให้ข้าออกไปเถอะ”

 

หงส์สาวกัดปากมองภูตร่างสูง 2 คนด้วยสีหน้าอ้อนวอน

 

ตราบใดที่นางก้าวออกจากเผ่านี้ไปได้ นางก็หาทางส่งข่าวได้...

 

ปกติภูตชายที่ยืนเฝ้าประตูก็ทำหน้าเข้มอยู่แล้ว เพียงแค่เขาขมวดคิ้ว เขาก็ดูเหมือนนายทวารผู้โหดเหี้ยม แล้วยังพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดอีก

 

“งั้นรอจนกว่าคู่ของเจ้าจะกลับมาก่อนแล้วเจ้าค่อยออกไป”

 

“ก่อนหน้านี้ยังออกไปได้เลย ทำไมตอนนี้ข้าจะออกไปไม่ได้” หวงเยว่ยังคงไม่ยอมแพ้

 

ถ้าไอ้เสือดาวโง่นั่นกลับมา เขาคงไม่พานางออกไปแน่

 

ภูตชายทั้ง 2 มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า

 

“ช่วงนี้นอกเผ่าไม่ปลอดภัย ท่านผู้เฒ่าออกคำสั่งไม่ให้ผู้หญิงออกไปจากเผ่า มิฉะนั้นจะไม่มีใครออกไปค้นหาหรือช่วยเหลือหากมีอะไรเกิดขึ้น”

 

“เจ้ารีบกลับไปซะ! อย่าสร้างปัญหาให้เผ่า!”

 

ทั้ง ๆ ที่พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับภูตหญิงร่างบอบบางที่ทำหน้าน่าสงสาร แต่คนเฝ้าประตูกลับไม่มีความเมตตาต่อนางเลยแม้แต่น้อย

 

เสียงตะคอกนั้นทำให้หูของหวงเยว่ชาไปเลยทีเดียว และสีหน้าของนางก็ค่อย ๆ แข็งกระด้าง

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมภูตทุกคนในเผ่าดูเหมือนจะต่อต้านข้าทุกอย่าง?

 

ข้าตาฝาดไปเองหรือเปล่า...

 

หรือว่าพวกเขาค้นพบตัวตนของข้าแล้ว?

 

เป็นไปไม่ได้ ถ้าพวกเขารู้ พวกเขาก็ควรจะขับไล่ข้าออกไปจากเผ่าสิ!

 

“ก็ได้ ข้าจะไม่ออกไปไหนแล้ว”

 

หวงเยว่ก้มหน้าลงอย่างสลดใจพลางเหลือบตามองไปที่ทางออกของเผ่าที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ก่อนจะกัดฟันแล้วเดินกลับเข้าไปในเผ่า

 

เมื่อหงส์สาวเดินออกไป ภูตชายทั้ง 2 ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที และภูตคนหนึ่งก็วิ่งออกไปด้านนอกพร้อมกับตะโกนว่า

 

“หวงเยว่ไปแล้ว ลงมือต่อได้!”

 

ขณะนี้มีภูตกลุ่มหนึ่งยืนเฝ้าอยู่นอกกำแพงของเผ่า พอพวกเขาได้ยินเสียงตะโกน ทุกคนก็ทำตัวเหมือนเครื่องจักรที่ถูกเปิดสวิตช์ แล้วขุดหลุมที่ต้องหยุดมือเมื่อสักครู่ต่อไป

 

ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีห่อสีเหลืองกองอยู่รอบ ๆ คนที่กำลังทำงานอยู่

 

เหล่าภูตฝังห่อนั้นไว้ในหลุมดินที่ขุดขึ้น และลากชนวนเชื่อมต่อหลุมทั้งหมดเอาไว้ จากนั้นก็ลากมันไปจนถึงข้างในเผ่า

 

“เจ้าบอกว่าสิ่งนี้สามารถต้านทานการรุกรานของภูตหมาป่าได้งั้นรึ ข้าคิดว่ามันมีกลิ่นฉุนแปลก ๆ มันจะสามารถฆ่าภูตหมาป่าได้จริงหรือ?”

 

ภูตคนหนึ่งถามขึ้นมาอย่างสงสัย

 

ในสายตาของพวกภูต ห่อสีเหลืองเหล่านี้ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากมีกลิ่นที่ฉุนมาก

 

แม้ว่าพวกเขาจะมีท่าทีสงสัย แต่ก็ไม่มีภูตคนไหนกล้าแอบเปิดดูของที่อยู่ข้างในเพราะตนกลัวว่าจะทำให้สิ่งของของหูเจียวเจียวเสียหาย

 

“นี่คือสิ่งที่เทพอสูรมอบให้กับหูเจียวเจียว ถ้านางบอกว่ามันมีประโยชน์ มันก็จะมีประโยชน์!”

 

“ถูกต้อง ทำตามที่หูเจียวเจียวพูดเถอะ”

 

“ถ้าไม่ทำ เจ้าจะเอาชนะภูตหมาป่าได้เองไหมล่ะ?”

 

เมื่อสิ้นเสียงของชายคนนั้น ภูตหลายคนก็โต้แย้งเขาทันที

 

นั่นทำให้ภูตเจ้าของคำถามยกมือขึ้นเกาหู แต่เขาก็ไม่พูดขัดอะไรต่อ

 

ในตอนนั้นเอง ภูตชายวัยกลางคนแตะคางตัวเองพลางพูดอย่างมีชัยว่า

 

“พวกเจ้าไม่รู้จักมันกันสินะ เจียวเจียวของข้าบอกว่านี่คือระเบิด ตราบใดที่มันถูกจุด มันก็สามารถฆ่าพวกภูตได้ทั้งหมด พวกเจ้าก็ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ”

 

ทันทีที่เขาพูดจบ ภูตรุ่นราวคราวเดียวกันก็ตอบว่า

 

“ถูกต้อง! หูเฉียงพูดถูก ข้าเห็นด้วยตาตัวเองตอนที่ไปเก็บดอกเกลือ หลงโม่ช่วยเราได้ด้วยสิ่งนี้ เขาโยนไปแค่ห่อเดียว ฝูงหมาป่าก็ตามเราไม่ทันแล้ว!”

 

พอสิ้นเสียงของภูตวัยกลางคน การเคลื่อนไหวของภูตคนอื่น ๆ ก็เริ่มระมัดระวังตัวขึ้นทันควัน

 

“เจ้าสิ่งนี้ทรงพลังมาก! ถ้าอย่างนั้นข้าต้องระวัง...”

 

“นี่เป็นของที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เมื่อถึงเวลานั้น เราจะจัดการฝูงภูตหมาป่าให้พวกมันไม่กล้ามาแหยมกับเผ่าเราอีก!”

 

ปัจจุบันภูตที่กำลังทำภารกิจลับทั้งรู้สึกหวาดกลัวและตื่นเต้น

 

สำหรับคนเหล่านี้ สิ่งที่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้นั้นเป็นสิ่งที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย 

 

...

 

ยามนี้หวงเยว่ไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกจับได้แล้ว

 

ทางเผ่าได้เริ่มเตรียมการเพื่อป้องกันฝูงภูตหมาป่าบุกจู่โจม

 

หงส์สาวยังคงมัวกังวลว่าจะออกจากเผ่าเพื่อไปส่งข่าวได้อย่างไร

 

ไม่นานหลังจากหญิงสาวกลับเข้ามาในเผ่า นางก็เห็นผู้หญิงหลายคนกลับมาจากนอกเผ่า

 

ภูตหญิงเหล่านั้นถือผลไม้ไว้ในมือ ตามมาด้วยภูตชายแข็งแรง 2 คนที่ถือถุงหนังสัตว์ใบใหญ่

 

ทันใดนั้นหวงเยว่ก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้

 

“จริงสิ ยังมีกลุ่มเก็บเกี่ยวอยู่! ตราบใดที่ข้าเข้าร่วมกลุ่มเก็บเกี่ยว ข้าก็จะออกจากเผ่าได้!”

 

แล้วนางก็เร่งรีบเดินไปหาหัวหน้าเผ่าไม่หยุดก่อนจะเอ่ยขอในสิ่งที่ตนต้องการ

 

“โอ้ หวงเยว่ ข้าต้องขอโทษด้วย ปีนี้เราไม่จำเป็นต้องออกไปเก็บผลไม้แล้ว เจ้ารอจนถึงปีหน้าดีไหม?” ชายชราปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม ทว่าดวงตาของเขาไม่ได้แสดงออกเช่นนั้นเลยสักนิด

 

คำตอบที่หวงเยว่ได้รับจากผู้นำสูงสุดประหนึ่งว่านางโดนสาดด้วยน้ำเย็น

 

แล้วนางก็กำหมัดแน่นพร้อมพูดอย่างกระวนกระวาย

 

“แต่ข้าเพิ่งเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเก็บผลไม้กลับมา…”

 

“นั่นเป็นการออกไปเก็บผลไม้ครั้งสุดท้ายของปีนี้”

 

เมื่อหงส์สาวได้ยินคำพูดของหัวหน้าเผ่าก็ตกตะลึงไปในทันที นางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับบ้านไปแบบผิดหวัง

 

ในวันต่อ ๆ มา หวงเยว่ใช้สมองทุกส่วนเพื่อหาทางออกจากเผ่าทุกวัน แต่สิ่งที่น่าแปลกคือไม่ว่านางจะไปที่ใด ก็มักจะมีภูตอยู่ทุกที่ที่ตนไปเสมอ และนางไม่สามารถหาโอกาสได้เลย

 

แล้วเวลาครึ่งเดือนก็ผ่านไปในพริบตา

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา หงส์สาวรู้สึกกังวลมากจนกินนอนอย่างไม่เป็นสุข 

 

ในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งของเผ่าก็มีข่าวดีเกิดขึ้น

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.