บทที่ 131: เขาน่าเกลียดมากจนแม่จำไม่ได้
หลงจงที่ได้ยินคำพูดของหลงหลิงเอ๋อก็ปล่อยมือออก และทันใดนั้น ลู่หลีก็เงยหน้าขึ้นจากแม่น้ำก่อนจะตะเกียกตะกายคลานไปที่ริมฝั่งเพราะกลัวว่าไอ้เด็กเหลือขอจะทำร้ายตนอีกครั้ง
หลังจากที่กวางหนุ่มขึ้นฝั่งมาได้ เขาก็ไม่สนใจอะไรอีก เขาคุกเข่าลงกับพื้นพลางใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นไว้ ส่วนอีกข้างใช้ปิดคอปิดปากอย่างสิ้นหวัง
“แอวะ…”
ในน้ำมีโคลนเต็มไปหมดเลย น่าขยะแขยงชะมัด!
ไอ้เด็กสารเลวพวกนี้มันกล้ากดข้าลงน้ำ คอยดูเถอะ ข้าจะไปเรียกคนมาช่วย แล้วส่งพวกมันไปลงนรกซะ!
ลู่หลีรู้สึกเพียงว่าท้องของเขาแน่นขึ้น แล้วเขาก็สำรอกน้ำโคลนสีเหลืองออกมาเต็มพื้น ไม่นานเขาก็หมดเรี่ยวแรงล้มลงบนพื้นโดยไม่ได้สนใจแม้แต่ความเจ็บปวดทั่วร่างกายของตัวเอง
ทันทีที่เขาล้มตัวลงนอน เขาเห็นเด็กผู้หญิงยิ้มหวานยืนอยู่ข้าง ๆ หัวของตน ยามนี้นางถือวัตถุมีคมขนาดเล็กที่สะท้อนแสงกับดวงอาทิตย์ในขณะที่นางก้มลงมองเขา
“เจ้า…เจ้าจะทำอะไร?”
“อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้า” หลงหลิงเอ๋อยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวสะอาด เผยให้เห็นเขี้ยวเล็ก ๆ น่ารัก 2 ซี่
ฝ่ายที่ถูกคุกคามตกใจและกำลังจะลุกขึ้นวิ่งหนี แต่เด็กอีก 4 คนที่อยู่ใกล้ ๆ เข้ามาจับมือและเท้าของเขาเอาไว้เสียก่อน และแม้แต่หลงเหยาก็ขดตัวอยู่บนขา จนร่างกายของเด็กหนุ่มถูกมัดเหมือนเชือก
บัดนี้ลู่หลีที่ถึงแม้ว่าจะหมดแรงไปแล้วก็ยังพยายามดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตรอด พร้อมกับเบิกตากว้างมองหลงหลิงเอ๋อที่กำลังย่อตัวลงมาหาตนเองช้า ๆ...
...
ในเวลาเดียวกัน ลูกสมุนหลายคนที่หนีออกไปไกลจากที่เกิดเหตุตอนนี้หยุดวิ่งแล้วกุมเข่าพากันหอบหายใจ
“เราทิ้งลู่หลีไว้แบบนั้น ถ้าเขาโกรธล่ะ...” เด็กเกเรคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความกังวล
หากเป็นเช่นนี้ ลู่หลีจะต้องเล่นงานพวกเขาแน่นอน
แต่ทุกคนก็ไม่อยากจะยื่นมือไปช่วยเจ้าหัวโจกอันธพาลเช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าใครก็ตามไม่เชื่อฟังอีกฝ่าย พวกเขาก็จะถูกทำร้าย นอกจากนี้กวางหนุ่มยังมีอิงหยวนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเป็นพี่เขย ก่อนหน้านี้พวกเขาจึงไม่กล้าขัดขืนลู่หลี
ครู่ต่อมา เด็กคนหนึ่งในกลุ่มยกมือขึ้นกุมหัวของตัวเองแล้วสูดปากเสียงดัง “ยังไงก็ตามแต่ พวกมันกล้าโต้กลับแล้ว ถ้าเจ้าอยากกลับไปช่วย เจ้าก็ไปคนเดียวเถอะ ข้าไม่ไป!”
เจ้าเด็กตระกูลหลงพวกนั้นแปลกประหลาดมาก
การเอาหินโจมตีใครสักคนมันเจ็บมาก เจ็บยิ่งกว่าตอนที่ถูกพ่อแม่ตีเสียอีก!
ทันทีที่เด็กหนุ่มพูดเช่นนี้ เด็กเกเรคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
“ทำไมเราไม่ไปบอกแม่ของลู่หลีล่ะ ถ้าลู่หลีตาย แม่ของลู่หลีจะต้องมาหาเรื่องแม่ของข้าแน่ ๆ...”
เห็นได้ชัดเจนว่าภาพลักษณ์ของแม่กวางเฒ่าในฐานะอันธพาลฝังลึกในใจของเด็กหลายคน
พ่อแม่ของพวกเขาไม่อยากมีเรื่องกับลู่มู่ และทุกครั้งที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางได้รับบาดเจ็บ นางจะบุกไปบ้านเด็กคนอื่นเพื่อเรียกร้องให้อีกฝ่ายชดเชย
เมื่อแม่กวางเฒ่าจากไป พวกเขาย่อมได้รับ ‘สัมผัสรัก’ จากนาง บางครั้งหากยามใดที่พ่อกวางมาที่บ้านด้วย ครอบครัวนั้นก็จะยิ่งได้รับ ‘สัมผัสรัก’ แบบทวีคูณ
พอเด็กหลายคนได้ยินคำพูดของเด็กหนุ่มในกลุ่ม ทุกคนก็ตัวสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้
“ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”
ในตอนที่เหล่าเด็กเกเรวิ่งไปตามหาลู่มู่ที่บ้าน ไม่นานนางก็พุ่งออกจากบ้านไปทันที
ในเวลาเดียวกัน มีเด็กคนหนึ่งซึ่งอยู่ด้านหลังสุดแยกตัวออกจากกลุ่มไปเพียงคนเดียว แล้วทันใดนั้นเขาก็หันหลังกลับวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างรวดเร็ว
…
อีกด้านหนึ่งของเผ่า
หูเจียวเจียวจำขั้นตอนการเผาถ่านจนขึ้นใจ และเมื่อเธอออกมาจากมิติ เธอก็เห็นเด็กตัวน้อยอายุประมาณ 10 ขวบแอบอยู่นอกบ้าน
“เจ้าเป็นลูกใคร เจ้ามาหาใครหรือ มีอะไรหรือเปล่า?”
หญิงสาวเดินออกไปที่ประตูก่อนจะถามเด็กคนนั้นอย่างสงสัย
พอเด็กหนุ่มเห็นจิ้งจอกสาว เขาก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเขาถอยหลังไปหลายก้าว กัดฟันแน่น หลับตาปี๋แล้วพูดว่า
“ลูก ๆ ของท่านกับลู่หลีกำลังทะเลาะกัน!”
ทันทีที่เด็กชายพูดจบ เขาก็หันหลังวิ่งหนีไปเพราะว่ากลัวหูเจียวเจียวจะตามมาทันแล้วทุบตีตนเอง
เนื่องจากเด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งด้วยความกระวนกระวายเกินไป เท้าซ้ายจึงเหยียบเท้าขวาของตัวเอง ทำให้เขาสะดุดล้มลงกับพื้น ทว่าเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องออกมา ไม่นานเขาก็ลนลานรีบลุกขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเผ่นหนีไปโดยไม่หันกลับมามองข้างหลังอีก
“...”
นี่เธอน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?
เธอควรจะรู้สึกยังไงที่เจ้าเด็กนั่นเห็นเธอเป็นเหมือนมัจจุราชที่หมายจะเอาชีวิตของตน
ในไม่ช้า หูเจียวเจียวก็ขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงสิ่งที่เด็กพูดเมื่อกี้
ลูกของเธอกำลังทะเลาะกับลู่หลีหรือ?
ไม่ได้การล่ะ! ฉันต้องรีบไปดู!
เนื่องจากเด็กทั้ง 5 ในครอบครัวของเธอผอมแห้งและยังเด็ก ทำให้พวกเขาถูกคนอื่นรังแกได้ง่าย
ในขณะที่ลู่หลีทั้งตัวโตและแข็งแรง ถ้าลูกของเธอถูกทำร้ายจนบาดเจ็บหนักล่ะ!
การทะเลาะกับลู่หลีก็เท่ากับว่าพวกหลงอวี้ถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้นไม่ใช่หรือ!
เมื่อแม่จิ้งจอกคิดว่าเหล่าเด็กน้อยจะได้รับบาดเจ็บ เธอจึงรีบออกจากบ้านไปตามหาลูก ๆ อย่างร้อนรน
ในเวลาเดียวกัน ตอนที่แม่กวางเฒ่ารู้ว่าลูกชายถูกทำร้าย นางเลยรีบมุ่งหน้ามาที่ริมแม่น้ำ ก่อนที่นางจะเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ นางเห็นลู่หลีถูกเด็กหลายคนตรึงไว้กับพื้น โดยที่เขากำลังส่งเสียงร้องอย่างความเจ็บปวด
ลู่มู่ตกใจรีบวิ่งไปหาลูกของตนด้วยความทุกข์ใจพลางตะโกนว่า
“ลู่หลี ลูกแม่... ไอ้สารเลว ปล่อยลู่หลีเดี๋ยวนี้นะ! วันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าซะ! ไอ้เด็กสวะ ไอ้ตัวหายนะ!”
แม่กวางสบถด่าเด็กที่มาทำร้ายลูกตัวเอง ขณะที่กัดฟัน กางมือพร้อมกับพุ่งเข้าไปหมายจะจัดการพวกเด็กตระกูลหลง
“อ๊าาา~”
ยัยแก่ชั่วร้ายมา พี่ ๆ วิ่งหนีเร็ว!
เมื่อหลงเหยาหันกลับไปมองทางต้นเสียง เขาก็ปล่อยหางออกจากตัวลู่หลีทันที ก่อนจะบินขึ้นไปในอากาศ กระดิกหางเพื่อเตือนพี่น้องทั้ง 4 คน
หลังจากที่หลงอวี้ได้ยินน้องชายส่งเสียง เขาก็ลุกยืนขึ้นและพูดด้วยเสียงทุ้ม
“วิ่ง!”
ก่อนที่แม่กวางเฒ่าจะเข้าไปใกล้ เด็กทั้ง 5 คนก็พากันหนีไปแล้ว ขณะที่ทุกคนกำลังวิ่งอยู่ เจ้ามังกรน้อยก็หันหัวไปแลบลิ้นใส่หญิงชราที่ทำหน้าตาบูดบึ้ง
“แบร่~ แบร่~”
แบร่ ๆ ยัยแก่นิสัยไม่ดี เจ้าจับเราไม่ได้หรอก~
“ไอ้เด็กเวร กล้ารังแกลู่หลีของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!” ลู่มู่โกรธมากจนใบหน้าแดงก่ำ แล้วนางก็กำลังจะรีบวิ่งไปจับหลงเหยามาสั่งสอน
ในขณะนั้นเอง ลู่หลีที่อยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นมาร้องไห้และคว้าตัวนางเอาไว้
“ท่านแม่! โฮ ๆๆ…”
แม่กวางเฒ่าหันกลับมามองลูกชายของตน แล้วต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จากนั้นนางเอามือปัดคนที่มากอดออกจากเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัว พลางพูดตะกุกตะกักว่า
“เจ้า… เจ้าคือลู่หลีงั้นหรือ ลูกแม่ เจ้ากลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง!?”
บัดนี้ผมสีดำของกวางหนุ่มหายเกลี้ยงไปจนหมด โดยเหลือเพียงศีรษะล้านที่กลมเหมือนไข่
แม้แต่ขนคิ้วและขนตาก็ถูกโกนออก ปัจจุบันทั้งใบหน้าและบนหัวของเด็กชายไม่มีขนเหลืออยู่เลยสักเส้น ประกอบกับใบหน้าที่บวมเป่งเต็มไปด้วยโคลนสกปรก พอทั้ง 2 อย่างนี้มารวมกันแล้วมันดูน่าเกลียดมาก
ขนาดผู้เป็นแม่ก็ยังรู้สึกรับไม่ได้กับสภาพของลูกชาย
ถัดมา ลู่หลีจับใบหน้าของตัวเองด้วยท่าทางเจ็บปวด “ท่านแม่ ข้าคือลู่หลี...”
ยามนี้บนพื้นรอบตัวของเด็กหนุ่มมีเศษผมกระจายเต็มไปหมด
“ลูกเอ๋ย เจ้าเป็นอะไรไป...” ลู่มู่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นางรู้สึกทุกข์ใจที่ได้เห็นลูกชายสุดที่รักของตนมีสภาพเป็นอย่างนี้
แต่ท้ายที่สุดแล้ว รูปร่างหน้าตาของกวางหนุ่มนั้นน่าเกลียดเกินไป
ภูตที่ไม่มีผมก็เปรียบได้กับสัตว์ร้ายหัวล้านที่ดูอัปลักษณ์
ในเวลาเดียวกัน เด็กตระกูลหลง 5 คนวิ่งไปที่ใต้ต้นไม้ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล พอพวกเขาหันหน้าไปเห็นฉากนี้ต่างก็พากันหัวเราะเสียงดัง
หลงหลิงเอ๋อกุมท้องที่เจ็บเพราะหัวเราะมากเกินไป “มันน่าเกลียดสุด ๆ น่าเกลียดมากจนแม้แต่แม่ของมันก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
ดวงตาของหลงจงมืดมน และเขาพูดอย่างเย็นชาว่า “สมน้ำหน้ามัน ถ้าข้าไม่กลัวที่จะสร้างปัญหาให้กับท่านพ่อ ข้าคงตัดลิ้นของมันออก ทำให้มันไม่มีวันได้เรียกข้าว่าอัปลักษณ์อีก”
ส่วนหลงเหยาซึ่งอยู่ด้านข้างไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ พลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นถังหินที่วางทิ้งไว้ริมฝั่ง
“หือ? ฮว่า!”
เอ๊ะ~ ข้าลืมเอาถังมา! นั่นคือถังใบเล็กที่ท่านแม่ทำเพื่อพวกเราโดยเฉพาะ ข้าจะทำมันหายไม่ได้!
แล้วมังกรตัวน้อยก็ย่องไปที่ริมฝั่งแม่น้ำอย่างเงียบ ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 222
แสดงความคิดเห็น