ตอนที่ 247 เกมแมวไล่จับหนู

-A A +A

ตอนที่ 247 เกมแมวไล่จับหนู

เปิดขาย

ตอนที่ 247 เกมแมวไล่จับหนู

ภาพที่เซี่ยเฟยได้ปรากฏตัวต่อหน้าฟางหยวนทำให้ศิษย์ของสำนักทุกคนประหลาดใจ เพราะศิษย์หลาย ๆ คนยังไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยเป็นศิษย์ของสำนักพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับได้เป็นตัวแทนในการต่อสู้นัดตัดสิน

เหตุการณ์นี้ทำให้ตงเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาเช่นเดียวกัน เพราะออร่าที่เซี่ยเฟยปล่อยออกมามีความรุนแรงกว่าศิษย์ของเขาอย่างชัดเจน

จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของฟางหยวนคือเขายังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้ ซึ่งตงเทียนรู้ปัญหาในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะท้ายที่สุดในก่อนหน้านี้ฟางหยวนก็เก็บตัวฝึกฝนอยู่ในสำนักตลอดเวลา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสทำการต่อสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน

สำหรับนักสู้ทุกคนแล้วประสบการณ์เสี่ยงตายย่อมดีกว่าการฝึกฝนแบบปลอดภัยในทุก ๆ ด้าน และด้วยการที่ฟางหยวนมีประสบการณ์ในการต่อสู้น้อยกว่าเซี่ยเฟย มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ออร่าของชายอ้วนคนนี้จะไม่สามารถเทียบกับชายหนุ่มจากสำนักเงาสังหารได้

อย่างไรก็ตามตงเทียนก็สะบัดความคิดทุกอย่างออกไปอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังรู้สึกว่าตัวเขาเองคิดมากจนเกินไป

ด้วยวัยของทั้งคู่ไม่มีทางที่ใครจะสามารถหาทางรับมือกับพลังพิเศษของฟางหยวนได้ และถึงแม้ว่าชายอ้วนคนนี้จะไม่เคยผ่านประสบการณ์เสี่ยงตายมาก่อน แต่พลังที่เขาได้ครอบครองก็สามารถชดเชยประสบการณ์ที่ขาดหายไปของเขาได้

เซี่ยเฟยขึ้นไปยืนอยู่กลางเวทีก่อนที่จะหยิบดาบอีวีสเซอเรทออกมาจากแหวนมิติ โดยสายตาของเขายังคงจับจ้องมองไปยังฟางหยวนตลอดเวลา แต่ภายในแววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความสงบ

สายตาจากเซี่ยเฟยทำให้ฟางหยวนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก และถึงแม้ว่าเขาจะพยายามยั่วยุชายหนุ่มคนนี้มากแค่ไหน แต่เซี่ยเฟยกลับมองข้ามทุกการกระทำของเขาไปราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่เศษหินที่อยู่ข้างถนน

“นายชื่อเงาโลหิตสินะ” ฟางหยวนถามขึ้นมาอย่างประหม่า

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเป็นคำตอบโดยไม่ได้พูดอะไร อันที่จริงเขาชอบชื่อเซี่ยเฟยที่ใช้มาตั้งแต่เกิดมากกว่าและเขาก็คิดว่าชื่อเงาโลหิตฟังดูไม่เหมาะกับตัวเขาเลย

“หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง ช่วยแสดงพลังของนายออกมาให้ฉันได้เห็นที” ฟางหยวนตะโกนออกไปเสียงดังราวกับพยายามครอบงำจิตใจของศัตรู

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับด้วยท่าทางอันเฉยเมยอีกครั้ง และแม้แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย

เหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้ฟางหยวนรู้สึกหดหู่ใจมากขึ้นกว่าเดิม และท่าทางของเซี่ยเฟยก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่ามันกำลังมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับลงมาบนหน้าอก จนทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ค่อยออก

สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกแบบนั้นไม่ใช่ดาบขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในมือของเซี่ยเฟย แต่เป็นปฏิกิริยาที่ชายหนุ่มคนนี้ได้แสดงออกมา

ไม่ว่าอาวุธจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนมันก็จำเป็นจะต้องมีใครสักคนแสดงพลังของมันออกมา แต่ถึงแม้ว่าในมือของเซี่ยเฟยจะไม่มีอาวุธ แต่ออร่าที่เขาปล่อยออกมาก็มีความดุดันเกินกว่าทุกคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน

‘ดูเหมือนฉันจะต้องรีบจู่โจมให้เร็วที่สุด แผนจิตวิทยาไม่สามารถใช้กับคนคนนี้ได้ ฉันจะต้องใช้กำลังเพื่อชิงความได้เปรียบของตัวเองกลับคืนมา’ ฟางหยวนคิดภายในใจ

หลังจากคิดได้ดังนั้นฟางหยวนก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับเรียกประกายแสงสีน้ำเงินขึ้นมาภายในมือ

“ระวังด้วย! เขาอาจจะปล่อยการโจมตีด้วยสายฟ้า” อันธกล่าวเตือน

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับจับจ้องมองไปยังฟางหยวนอย่างไม่วางตา ขณะที่ทุกเซลล์ภายในร่างกายของเขากำลังปล่อยพลังงานออกมาอย่างท่วมท้น เพื่อให้เขาพร้อมจะทำการโต้ตอบได้ตลอดเวลา

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยสามารถอาศัยความเร็วในการเปิดการจู่โจมก่อนได้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะตั้งรับเพื่อดูท่าทีของศัตรู ท้ายที่สุดมันก็เคยมีสำนวนกล่าวเอาไว้ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ดังนั้นการดูท่าทีของศัตรูก่อนมันก็จะทำให้เขาสามารถลงมืออย่างได้เปรียบมากที่สุด

ฟุบ!

จู่ ๆ ร่างของฟางหยวนก็พุ่งตัวออกไปด้านหน้า ส่วนสายฟ้าที่เขาได้เรียกออกมาก็ถูกเปลี่ยนเป็นถุงมือไฟฟ้าที่มีกรงเล็บอันแหลมคม

ฟางหยวนเลือกที่จะจู่โจมอย่างระมัดระวังเช่นเดียวกัน เขาจึงได้ใช้ความสามารถออกมาเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะเขาก็มีความคิดเช่นเดียวกันกับเซี่ยเฟยคือการพยายามจู่โจมเพื่อทดสอบความสามารถของศัตรูก่อน

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเคลื่อนที่ไปปรากฏตัวทางด้านหลังของฟางหยวนด้วยความเร็วสูง

‘ความเร็ว!?’ ฟางหยวนคิดในใจ เพราะมันเห็นได้ชัดเลยว่าความเร็วของเซี่ยเฟยเหนือกว่าความเร็วของเขามาก แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวความเร็วของเซี่ยเฟยเลยแม้แต่น้อย 

ในทางตรงกันข้ามเขากลับต้องการให้เซี่ยเฟยลงมือจู่โจมเขาเข้ามา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเซี่ยเฟยสัมผัสกับร่างของเขา กระแสไฟฟ้าก็จะไหลไปยังร่างของอีกฝ่ายและทำให้เซี่ยเฟยได้รับบาดเจ็บ

แต่อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ได้อาศัยเทคนิคเล่ห์กายาเพื่อคอยหลบหลีกการโจมตีของฟางหยวนเท่านั้น แต่ไม่ได้เลือกที่จะทำการจู่โจมโต้ตอบกลับไปเลย

หลังจากที่ฟางหยวนได้จู่โจมนับสิบครั้งไปแล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถทำอันตรายเซี่ยเฟยได้เท่านั้น แต่เซี่ยเฟยกลับค่อย ๆ คุ้นเคยกับการจู่โจมของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับนักสู้การหลบหลีกเพียงอย่างเดียวถือว่าเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรี แต่เซี่ยเฟยไม่เคยคิดเรื่องศักดิ์ศรีภายในหัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยที่เขาต้องต่อสู้กับเฉินตงเขาก็อาศัยเทคนิคเล่ห์กายาและความเร็วในการหลบหลีกอยู่ตลอดเวลา และตราบใดก็ตามที่เขามีโอกาสเขาก็จะไม่ลังเลที่จะโต้ตอบกลับไป

ฟุบ! ฟุบ!

ฟางหยวนจู่โจมด้วยความรวดเร็วแต่เซี่ยเฟยหลบหลีกการโจมตีด้วยความเร็วที่มากยิ่งกว่า เหล่าผู้ชมบนอัฒจันทร์จึงมองเห็นได้เพียงแค่เงา 2 เงาที่กำลังวิ่งไปมาบนลานประลอง

ตงเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะในตอนนี้ลูกศิษย์ของเขากำลังเคลื่อนไหวไปตามเกมที่เซี่ยเฟยได้เป็นคนตั้งกฎขึ้นมา!

“ช่างเป็นกลยุทธ์ที่น่าเกลียดจริง ๆ” ตงเทียนกล่าว

เซี่ยเฟยได้เริ่มแผนการต่อสู้ตั้งแต่ที่เขาได้ปล่อยออร่าเพื่อท้าทายฟางหยวนแล้ว โดยเขาพยายามทำให้ชายอ้วนคนนี้ระมัดระวังตัวตลอดเวลา เพราะถ้าหากว่าฟางหยวนได้ใช้กำลังทั้งหมดตั้งแต่แรกเซี่ยเฟยก็คงจะไม่สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูได้

การที่เซี่ยเฟยคอยหลบหลีกเพียงอย่างเดียวทำให้ฟางหยวนรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดเขาก็เริ่มเพิ่มพลังเพื่อใช้ในการจู่โจม

การเคลื่อนไหวของชายอ้วนเป็นไปตามแผนการของเซี่ยเฟยทุกอย่าง เพราะท้ายที่สุดความเร็วของเขาก็ไม่เหมาะกับการต่อสู้ที่ยืดเยื้ออยู่แล้ว

สิ่งที่เขากำลังทำอยู่คือการทำตามทฤษฎีกบต้ม ซึ่งจะค่อย ๆ บั่นทอนพลังของฟางหยวนลงไปเรื่อย ๆ กว่าที่กบตัวอ้วนตัวนี้จะรู้ตัวน้ำก็ร้อนมากพอที่จะทำให้มันไม่สามารถปีนออกมาจากหม้อต้มได้แล้ว!

วิธีการแบบนี้เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูงมากเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากว่าการโจมตีของฟางหยวนเกินกว่าขีดจำกัดที่เซี่ยเฟยจะรับได้ มันก็อาจจะทำให้แผนการทั้งหมดถูกทำลายอย่างไม่เป็นท่า

กาลเวลาค่อย ๆ ผ่านพ้นไปและไม่ว่าฟางหยวนจะพยายามจู่โจมมากเท่าไหร่ แต่เซี่ยเฟยก็ยังสามารถหลบหลีกการโจมตีได้ทุกครั้ง

สภาพจิตใจของชายอ้วนถูกบั่นทอนลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ตอนแรกที่เขาถูกออร่าของเซี่ยเฟยข่มก่อนการต่อสู้ และในตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถทำการจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยได้ จึงทำให้ความมั่นใจของเขาลดน้อยถอยลงมากขึ้นเรื่อย ๆ

‘ฉันควรจะทดสอบเขาต่อไปหรือจู่โจมอย่างสุดกำลังเลยดี?’ ฟางหยวนคิดในใจอย่างลังเล

ความอดทนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของนักสู้ที่ดี แต่ถึงแม้ว่าเวลาจะได้ผ่านพ้นมานานนับ 10 นาทีแล้ว แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงสงบนิ่งได้เช่นเดิม

ในทางกลับกันสีหน้าของฟางหยวนเริ่มซีดเซียวลงไปเรื่อย ๆ ขณะที่ภายในใจของเขามีไฟสุมอยู่เต็มอก แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะระบายความโกรธของตัวเองออกไปได้

เซี่ยเฟยเริ่มรู้สึกว่าความอดทนของฟางหยวนน่าจะใกล้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งช่วงเวลานี้ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเซี่ยเฟยเช่นเดียวกัน เพราะเขาจะต้องหลบเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของศัตรูไปให้ได้

ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ตัดสินใจใช้กลยุทธ์นี้แล้วและเขาก็จะไม่เปลี่ยนกลยุทธ์จนวินาทีสุดท้าย

การต่อสู้ระหว่างฟางหยวนกับเงาควันและเงานิลกาฬเป็นการต่อสู้ท่ามกลางสิ่งกีดขวางทั้งกลุ่มควันและโดมความมืด ทำให้เซี่ยเฟยยังไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฟางหยวนด้วยตาของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามหลอกล่อให้อีกฝ่ายเปิดเผยการโจมตีออกมา จากนั้นเขาก็จะหาจุดอ่อนในการโจมตีเพื่อทำการจู่โจมโต้ตอบกลับไป

สำหรับนักสู้ที่มีความแข็งแกร่งมากพอ ๆ กัน หากใครได้เปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาออกมาก่อน มันก็ไม่ต่างไปจากการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเอง

เซี่ยเฟยคำนวณแผนการทุกอย่างเอาไว้ภายในใจหมดแล้ว เขาจึงรอคอยการจู่โจมจากฟางหยวนอย่างอดทนและถึงแม้ว่าความอดทนของผู้คนจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่เซี่ยเฟยไม่มีวันหมดความอดทนก่อนชายอ้วนคนนี้อย่างแน่นอน

เปรี๊ยะ!

จู่ ๆ ฟางหยวนก็ทำการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาจากนิ้ว เซี่ยเฟยจึงโน้มตัวไปด้านหลังเพื่อหลบการโจมตีจนทำให้กระแสไฟฟ้าเส้นนี้เคลื่อนที่ผ่านปลายจมูกของเขาไปเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็พลิกตัวด้วยท่าทางที่เหนือธรรมชาติ ก่อนที่เขาจะเคลื่อนที่หนีออกไปด้วยท่าทางโซซัดโซเซราวกับว่าเขารู้สึกเหนื่อยที่ต้องคอยหลบหลีกการโจมตีตลอดเวลา

‘เกือบไปแล้ว!’ ฟางหยวนตะโกนลุ้นอยู่ภายในใจ

ชายอ้วนคนนี้ไม่รู้ตัวเลยว่าเซี่ยเฟยจงใจเปิดเผยจุดอ่อนเพื่อยั่วยุให้เขาทำการปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมา

ฟุบ!

ร่างของฟางหยวนปรากฏตัวห่างจากเซี่ยเฟยประมาณ 20 เมตรอย่างกะทันหัน พร้อมกับมองไปยังร่างของชายตรงหน้าด้วยแววตาที่ไร้ปรานีราวกับว่าเขาเบื่อจะเล่นเกมแมวไล่จับหนูนี้เต็มทน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เซี่ยเฟยทำกับกลายเป็นการหยิบบุหรี่ออกมาจากแหวนมิติ ก่อนที่เขาจะทำการพ่นควันสีขาวไปทางฟางหยวน

‘นี่มันตั้งใจจะยั่วยุกันชัด ๆ!’

ควันสีขาวลอยออกจากปากของเซี่ยเฟยอย่างช้า ๆ แต่เนื่องมาจากว่าฟางหยวนไม่เคยเห็นบุหรี่มาก่อนเขาจึงคิดว่าควันที่เซี่ยเฟยได้พ่นออกมานี้อาจจะเป็นควันพิษที่ชายหนุ่มได้ใช้ในการจู่โจม

หากเซี่ยเฟยได้ยินความคิดของฟางหยวนเขาคงจะหัวเราะออกมาจนท้องแข็ง และถึงแม้ว่าควันบุหรี่จะเป็นควันพิษจริง ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะหยุดสูดดมควันพวกนี้เข้าไปได้

ฟุบ!

ฟางหยวนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมกับนำมือทั้งสองมาไขว้กันตรงหน้าอกเป็นรูปกากบาท

พริบตาต่อมากระแสไฟฟ้าสีน้ำเงินก็ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเขา จนทำให้มันมีแสงส่องสว่างไปทั่วทั้งสนามประลอง

‘มาแล้ว!’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจ

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.