บทที่ 10...3/3
ในวินาทีที่กลุ่มเงาสีดำเคลื่อนมาใกล้ธามิณีในระยะหนึ่งเมตร ผลึกในร่างของเธอก็ส่งพลังที่เห็นเป็นแสงสีม่วงอ่อนออกไปต้านทานไว้ หญิงสาวจดจ่อพยายามมีสมาธิไม่วอกแวก ตอนนี้เธอต้องทำให้ตัวเองรอดให้ได้ ทว่าพลังจากผลึกกาลค่อยๆ ถอยร่นมาเรื่อยจนใกล้กับร่างของธามิณีเข้าไปทุกที หัวใจของธามิณีเต้นช้าลงจนรู้สึกได้ ตอนนี้ผลึกกาลพยายามช่วยเธอจนแรงสะเทือนนั้นทำให้เจ็บหน้าอก ความแน่นและบีบอัดนั้น ทำให้ร่างของหญิงสาวทรุดลงแล้วกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง แม้ผลึกกาลจะมีพลังมากมาย แต่พอมาอยู่ในร่างมนุษย์ที่อ่อนแอ ผลที่ได้คงเพียงแค่ซื้อเวลาไว้เพื่อให้เธอตายช้าลงอีกหน่อยแค่นั้นกระมัง
...ธามจะไม่ไหวแล้วนะคุณศนิ คราวนี้คุณคงหาธามไม่เจอใช่ไหม
ธามิณีกระอักเลือดออกมาอีกครั้งแล้วทรุดลงไปนอน อมรหลับตาลงเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามนุษย์ผู้นี้จะตายเพราะร่างกายรับพลังจากผลึกกาลไม่ไหวแล้ว ผลึกกาลของพระเสาร์จะตกมาเป็นของเขา แล้วเขาจะใช้มันเพื่อแก้แค้นเจ้าของเดิมของมัน
“โอ๊ะ!?!”
ฉับหลันนั้นร่างของอมรก็ถูกพลังที่เขายังมองไม่เห็นฟาดจนกระเด็นไปไกล!
ทำให้กลุ่มเงาดำทรงกลมขนาดใหญ่ค่อยๆ อ่อนแรงปั่นป่วนกำลังจะกระจายออก ศนิไม่รอช้าฟาดพลังใส่เงาดำนั้นจนมันสลายหายไปทั้งหมด แต่เขากลับถูกอมรโจมตีด้วยพลังที่ฟาดใส่จนเซ ธามิณีเห็นศนิพยายามใช้พลังฟาดใส่อีกฝั่งพร้อมๆ กับฟาดแสงสีม่วงมายังกำแพงที่เธอเพิ่งเห็นว่ามันมีอยู่ ทว่ากำแพงกลับดูเหมือนดูดซับพลังนั้นไว้ไม่ถูกทำลายลงได้ง่ายๆ
ศนิรู้อยู่แล้วตั้งแต่เข้ามาในที่แห่งนี้ อมรเตรียมทุกอย่างเอาไว้สำหรับลดทอนพลังของเขาและผลึกกาล กับดักนี้ช่างเหมือนกับในหนังสือของเวฬา จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าผู้ที่ช่วยเวฬาสร้างเมืองในหนังสือคงเป็นอมรนั่นเอง ซึ่งหากยืดเยื้อต่อไปพลังของเขาจะถูกลดทอนลงเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่รีบจัดการอมรหรือนำตัวธามิณีออกไป ธามิณีคงไม่รอดแน่ๆ เธอบาดเจ็บจากการใช้พลังจากผลึกจนร่างกายกำลังรับไม่ไหว เพราะฉะนั้นศนิจึงสร้างกำแพงจากพลังของเขาเองเพื่อสกัดกั้นอมรไว้ เป็นการช่วยถ่วงเวลาในระหว่างที่เขาใช้พลังที่เหลือไม่มากทำให้กำแพงระหว่างเขากับธามิณีค่อยๆ เป็นช่องโหว่ที่ใหญ่ขึ้นๆ จนกว้างพอที่เขาจะผ่านเข้าไปได้
“ถอยไปก่อนธาม” ศนิบอกธามิณี
ธามิณีขยับถอยหลังไปตามที่ศนิสั่งจึงเห็นว่าเขากำลังใช้พลังปิดกำแพงที่เป็นช่องโหว่ แต่กลับถูกเงาสีดำฟาดใส่อย่างแรงยังผลให้เขาตัวงอพร้อมกับกุมอก ศนิมองไปที่อมรซึ่งฝ่ากำแพงพลังของเขามาได้แล้ว
“เก่งกว่าที่คิด ทั้งที่เหลือพลังเพียงครึ่งเดียวก็ยังยืนหยัดได้อยู่” อมรเอ่ย ทว่ารอยยิ้มนั้นเย้ยหยัน หากยังประมือกันต่อ เขาจะเป็นฝ่ายชนะ การใช้ธามิณีเป็นเหยื่อล่อพระเสาร์ให้มายังที่แห่งนี้ ทำให้เขาได้ทั้งผลึกกาลและเป็นผู้ที่ทำให้พระเสาร์ดับขันธ์ในวันนี้เอง
“ลอบกัดมาเสียนาน พึ่งมาเผยตัวตนตอนนี้เองหรืออมร”
ธามิณีมองศนิเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เทพกึ่งมนุษย์ก็มีแค้นต้องชำระแบบมนุษย์เหมือนกันหรือ
อมรเลิกคิ้วเมื่อถึงเวลาได้ลงมือชำระแค้นเสียที เวลา 212 ปี ช่างเนิ่นนาน แต่ไม่มีสักครั้งที่อมรจะลืมว่าเจ้านั่นทำให้เขาอยากตายมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ตายไม่ได้ จนเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เวลาที่เป็นนิรันดร์มีเป้าหมาย เพียงแต่เขาอยากจบเป้าหมายนี้แล้วหาทางดับขันธ์ในอีกสักร้อยปีข้างหน้า
“พบกันครั้งนี้แล้ว เราคงไม่ต้องพบกันอีก ข้าจะทำให้เจ้าได้ดับขันธ์เสียที”
เพียงจบคำนั้นของอมรก็เกิดคลื่นพลังที่สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวจนทำให้ธามิณีล้มลงไป สายตาของเธอมองศนิที่กำลังใช้พลังของเขาต้านพลังจากอมรเอาไว้ เธอตั้งสมาธิพยายามใช้ผลึกกาลในร่างช่วยศนิอีกทาง
“อย่าทำแบบนั้น เธอจะตายเพราะผลึกกาล” ศนิสั่งเสียงเฉียบ เมื่อหันมาเห็นในเสี้ยววินาทีว่าพลังอีกแหล่งมาจากธามิณี
“แต่ถ้าธามไม่ทำอะไรสักอย่าง คุณอาจจะตายเหมือนกัน”
ศนิรู้มาตลอดว่าชีวิตของมนุษย์นั้นเปราะบางและตายได้ทุกเวลา แต่การที่มนุษย์ธรรมดาๆ พยายามปกป้องเทพกึ่งมนุษย์ที่มีชีวิตมายาวนาน เขาเพิ่งเคยพบ ธามิณีคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้คิดว่าจะมาแลกชีวิตปกป้องเขาได้
อมรเห็นชัยชนะอยู่อีกไม่ไกล เขาคิดไม่ผิดอย่างไรเสียพระเสาร์ก็ต้องช่วยธามิณีจนทำให้พะว้าพะวังต่อต้านเขาไม่ถนัด ศนิเห็นสายตาของอมรแล้วทำให้เขารู้ว่าต้องเลือก ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เลือกอีก เขาแบ่งพลังจากฝ่ามืออีกข้างมาแล้วฟาดขึ้นไปด้านบนของโดมใสซึ่งอมรใช้พลังสร้างเป็นโดมกักขังธามิณีไว้ ตอนนี้โดมนั้นมีรอยแตกที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันปริออกเป็นช่องกว้าง
“คิดว่าจะหนีเอาตัวรอดงั้นหรือ ไม่ง่ายหรอกนะ”
ศนิยิ้มเหี้ยมแล้วหลับตาลงเพื่อดึงพลังจากผลึกกาลในร่างของธามิณี แล้วฟาดพลังใส่อมรด้วยความแรงมหาศาล ทำให้อมรเซถลาไปกระแทกกับกำแพงที่ตัวเองสร้างขึ้น ศนิไม่รอช้าใช้พลังที่เหลืออยู่อีกไม่มากของเขาโอบล้อมร่างของธามิณีให้ลอยขึ้นๆ ธามิณีกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง สายตาของเธอมองไปที่ศนิ เขากำลังช่วยให้เธอออกไปจากที่นี่ใช่ไหม แล้วตัวเขาล่ะ
“อย่าทำแบบนี้นะ ถ้าคุณอาจตายที่นี่เพียงลำพัง เราสองคนสู้จนรอดหรือตายไปพร้อมกันเสียดีกว่า”
ศนิได้ยินทุกคำพูดนั้น แต่เขาได้เลือกหนทางให้ตนเองและธามิณีไปแล้ว อมรฟาดพลังใส่กำแพงที่เขาสร้างขึ้นและใส่ศนิพร้อมๆ กัน ศนิเซไปเล็กน้อยยังคงต้านพลังได้พร้อมๆ กับใช้พลังฟาดแรงเพื่อให้ธามิณีหลุดออกไปจากโดมของอมรได้ในที่สุด
“ไม่! อย่าทำแบบนี้ ศนิ...อย่าเป็นอะไรนะ” ธามิณีตะโกนลั่นเมื่อเห็นเงาสีดำฟาดเข้าใส่ศนิจนเขากระเด็นไปกระแทกกับบางอย่างที่ใสจนมองไม่เห็น
ทว่าพอธามิณีลืมตาหลังจากผ่านความมืดมิดของอุโมงค์เดิมที่ถูกดูดเข้ามาในตอนแรก เธอกลับตกใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นร่างของตัวเองกำลังดิ่งลงที่พื้นด้านล่าง ร่างกายของเธอเจ็บร้าว เลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูก หัวใจของเธอเต้นแรงจนเจ็บหน้าอก นี่เองใช่ไหมวาระสุดท้ายของตัวเองที่เธอเห็นจากนิมิต เธอกำลังจะตาย ช่างเป็นความรู้สึกกลัวและโล่งอกในคราวเดียวกัน อย่างน้อยเธอก็ได้รู้จุดจบของตัวเอง ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆ เสียดายแต่ว่าศนิจะต้องมาตายเพราะช่วยเธอไปด้วย หญิงสาวกอดอกแน่นและหลับตาลงเพื่อเข้าสู่วินาทีสุดท้ายของชีวิต!
เทพกึ่งมนุษย์สองคนเข้าสู่การเผชิญหน้ากันอย่างแท้จริง สีหน้าของศนิยังคงเรียบเฉยทำให้อมรคาดเดาได้ยากว่าตอนนี้อีกฝ่ายบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน บางทีเขาอาจประเมิณพลังของพระเสาร์ผิดพลาดไป ทั้งที่เตรียมทุกอย่างไว้รอรับเพื่อให้อีกฝ่ายถูกลดทอนพลังลงจนต้านทานพลังของเขาไม่ได้
แต่พระเสาร์กลับเปิดโดมแล้วส่งธามิณีออกไป ทำให้ตอนนี้เขาเหลือทางเลือกเดียวนั่นคือทำให้พระเสาร์บาดเจ็บสาหัส เพื่อที่จะได้ชิงผลึกกาลนั้นมา หากสู้กันจนหวังผลแพ้ชนะให้ได้ในตอนนี้ เขาเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่าจะชนะพระเสาร์ได้หรือเปล่า
“หลังจากวันนั้น เจ้าได้ติดตามต่อหรือไม่ว่าภรรยาและลูกของเจ้าไปเกิดในภพภูมิใด” ศนิถาม แม้เรื่องจะผ่านมานานถึง 212 ปี แต่เพิ่งได้รู้คำตอบว่าทำไมอมรถึงได้แค้นเขาถึงเพียงนี้
หลังการตายของหญิงอันเป็นที่รักกับลูกที่ยังไม่ทันได้เกิดมีหรือที่อมรจะไม่ติดตามหาว่าเธอกับลูกไปอยู่ที่ภพภูมิใด แต่กลับไร้ซึ่งคำตอบ หากไม่เกิดการตายในวันนั้น เขาจะมีวันนี้ได้อย่างไร
“ถามผิดแล้ว ใครต่างหากที่ทำให้เจดากับลูกไม่มีโอกาสได้เลือก เจ้าสามารถหยุดมันได้ แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นั้น ไม่ฆ่าก็เหมือนฆ่า ทั้งที่เจ้าบอกข้าได้ แต่เจ้าก็ไม่ทำ คนทรยศ”
อมรคิดว่าตนเองช่างโชคดีได้พบเทพกึ่งมนุษย์ที่หวังดีอย่างเพื่อนสนิท เพียงเขาขอร้อง พระเสาร์ก็ช่วยให้ภรรยาของเขาพ้นจากความตายพร้อมลูกในท้อง แต่เพียงแค่ 3วันต่อมา เหตุการณ์เลวร้ายกลับเกิดขึ้น เจดาถูกรถชนทำให้กลายเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป ระบบภายในร่างกายล้มเหลวไปทีละอย่าง ลูกในท้องตาย ทำให้เจดาตรอมใจจนร้องขอให้เขาฆ่าเธอเสีย
ในระหว่างนั้นพระเสาร์กลับหายไป!
อมรคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าที่ผ่านมามันเป็นแค่ความสนุกขบขันของเทพที่ถูกลงทัณฑ์เท่านั้น ชีวิตของเจดากับลูกเป็นเพียงสิ่งแก้เบื่อสำหรับพระเสาร์ เทพกึ่งมนุษย์ที่ไม่ยี่หระต่อชีวิตของผู้ใดมีหรือจะมาใยดีกับใครอย่างจริงใจ
ศนิเพิ่งเข้าใจว่าทำไมอมรถึงเก็บความแค้นไว้นานถึงเพียงนี้ การดูดซับกิเลสของมนุษย์มาเป็นเวลานานทำให้พลังของอมรแก่กล้า จนกระทั่งลอบทำร้ายเขาในคืนเดือบดับ ป่วยการจะบอกว่าเขาเองก็ได้รับผลของการไปเปลี่ยนชะตากรรมของมนุษย์เช่นกัน
“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าหากขัดขวางการสิ้นอายุขัยของมนุษย์จะตามมาด้วยโศกนาฏกรรม”
อมรแสยะยิ้มหยัน “อย่ามาแก้ตัวเลย เทพที่ป่วนทั้งสวรรค์และนรกมีหรือจะไม่รู้ในเรื่องนี้ เจ้าแค่เห็นเจดาเป็นเรื่องสนุกๆ ที่จะได้ไม่เบื่อกับการลงโทษเท่านั้น ที่ผ่านมาเจ้าไม่เคยสนใจความเป็นไปของมนุษย์คนใด แล้วทำไมถึงเลือกทำตามคำขอร้องของข้า เพราะมันน่าขบขันมากสินะที่เทพกึ่งมนุษย์อย่างข้าไม่มีปัญญาแม้กระทั่งช่วยชีวิตภรรยาและลูก”
“เพราะเจ้าเคยช่วยข้าครั้งหนึ่ง ข้าจึงตอบแทนกลับไปก็เท่านั้น”
ในช่วง 10 ปีแรกของการเป็นเทพกึ่งมนุษย์ ศนิมีพลังเพียงน้อยนิด แทบจะปกป้องตัวเองไม่ได้ เขาถูกทำร้ายจากวิญญาณที่ถูกสั่งให้ล่าและต้องต่อสู้จนชนะมามากมาย แต่ก็บาดเจ็บเจียนตาย แต่ให้อย่างไรเขาก็ไม่มีวันตาย มีครั้งหนึ่งหลังจากเป็นเทพกึ่งมนุษย์มา 25 ปี ศนิถูกกลุ่มมนุษย์ทำร้ายเพราะคิดว่าเขาเป็นปีศาจเนื่องจากไม่แก่ลงเลย ในคราวนั้นอมรได้เข้ามาช่วยเขาไว้ ฉะนั้นการตอบแทนจึงเกิดขึ้นใน 517 ปีต่อมา เขาต้องการช่วยอมรกับภรรยาจากใจจริง โดยที่ไม่รู้เลยว่าการเปลี่ยนชะตากรรมของมนุษย์มีราคาที่เขาต้องจ่าย เขาพลังลดลงเหลือส่วนเดียวในคืนเดือนดับ หลั่งเลือดเพราะอาวุธที่เขาต้องการให้เป็นความลับ แต่อมรคงรู้แล้ว มนตราที่ลบความจำของมนุษย์ของเขาจะเสื่อมลงหลังจากผ่านไป 10 ปี เขานึกแค้นสวรรค์ว่าทำไมการช่วยถึงจบลงแบบนี้ แต่อมรกลับแค้นเขา ช่างน่าขันสิ้นดี
ตอนที่ภรรยากับลูกของอมรตาย เหตุผลที่พระเสาร์หายไปไม่ใช่เพราะเขาหนีหน้า แต่เป็นเพราะถูกพระสูรยะนำตัวไปคุมขังอยู่ในคุกสวรรค์ถึง 5 ปีเต็มๆ บุตรนอกคอกอย่างเขาไม่เคยทำอะไรที่ดีพอในสายตาของบิดา ไม่เคยถามเหตุผล แต่ลงโทษอย่างสาสมทุกครั้งเพื่อให้สมกับเป็นเทพที่พิทักษ์ความยุติธรรม ช่างน่าขันสิ้นดี
“แต่การช่วยที่แฝงจุดประสงค์ร้ายของเจ้าทำให้เจดากับลูกยิ่งกว่าตายทั้งเป็น จนการร้องขอความตายออกมาจากปาก เจ้าเคยคิดไหมว่าข้าเหมือนตายทั้งเป็นไปด้วย การต้องดูคนที่รักจากไปอย่างทรมานพร้อมลูกที่ยังอยู่ในท้องมันยิ่งกว่าตายเสียเอง” น้ำเสียงของอมรสั่นเทา เขายังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี จนเก็บเป็นแรงแค้น แสร้งทำเหมือนแก่นวิญญาณสลาย ยอมรอมาแสนนาน เพื่อมาแก้แค้นในวันนี้
“ข้าบอกทุกอย่างจนสิ้นแล้ว หากเจ้ายังคิดเช่นเดิม ข้าก็หมดคำจะพูดอีก”
ป่านนี้ธามิณีคงปลอดภัยแล้วกระมัง ผลึกกาลมีพลังมากพอจะช่วยชีวิตเธอไว้ ศนิไม่เห็นประโยชน์ในการอธิบายหากอีกฝ่ายเชื่อหมดใจไปแล้วว่าเขามีเจตนาร้าย
“ดับขันธ์ไปเสีย ดวงจิตของเจ้าจะหายสิ้น ข้าต้องการเพียงเท่านี้”
อมรฟาดอาวุธที่เขาซ่อนไว้ข้างหลังเข้าใส่ศนิในวินาทีนั้น!
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 161
แสดงความคิดเห็น