the end of world Chapter 2

the end of world (หายนะพลิกโลก)
คุณกำลังอ่าน: the end of world (หายนะพลิกโลก)

-A A +A

the end of world Chapter 2

เปิดขาย

                   Chapter 2 จุดสิ้นสุดคือจุดเริ่มต้น (ตอนจบ)

 

          “มันเกิดอะไรขึ้นนั่น?”

เสียงกล่าวออกมาอย่างตื่นตระหนก จากร่างที่อยู่ชิดหน้าต่าง ทำให้สายตาหลายคู่ต้องหันไปมองตามยังทิศทางของเสียงดังกล่าวในทันที

สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาก็คือ ไอหมอกสีดำสนิท

ที่ค่อยๆโรยตัวลงมาจากผืนฟ้า เข้าโอบล้อมไปทั่วทั้งบริเวณ

ให้ตกอยู่ภายใต้ความเย็นเยือกอันน่าขนลุก แสงอาทิตย์ยามเย็น

ที่เริ่มจะสลัวลงไปแต่เดิมมาในตอนนี้กลับถูกหมอกดังกล่าวเข้าบดบังไปจนหมดสิ้น

ทำให้สภาพรอบด้านราวกับตกอยู่ภายใต้อุ้งมือมหายักษ์อยู่ก็ไม่ปาน

“กรี๊ด!...คุณพ่อเป็นอะไรคะ?...ทำใจดีๆไว้นะคะคุณพ่อ...ใครก็ได้มาช่วยทางนี้หน่อย”

หญิงสาวผู้หนึ่งหวีดร้องอย่างเสียขวัญ เมื่อเห็นร่างของบิดาผู้บังเกิดเกล้าที่พิการมานานมีอาการแปลกไป

ร่างที่นั่งอยู่บนรถเข็น สูดเอาไอหมอกสีดำที่ลอยเอื่อยๆ เข้ามาภายในห้างสรรพสินค้าเข้าไป

จู่ๆร่างทั้งร่างก็แอ่นเกร็ง แขนขากระตุก ลมหายใจหอบถี่กระชั้น

ดวงตาเหลือกลาน น้ำลายไหลย้อยออกมาจากริมฝีปาก พร้อมกับร้องคำรามเสียงต่ำในลำคอ ราวกับสัตว์ร้าย

เหล่าพลเมืองดีที่ในทีแรกจะพุ่งเข้าไปดูอาการของชายชราต่างก็ต้องรีบ หยุดฝีเท้าลง

แล้วคอยเฝ้าดูอาการอย่างห่างๆแทน

ร่างที่กำลังชักกระตุกอยู่ ค่อยๆนิ่งลง พร้อมกับยันกายขึ้นจากรถเข็นอย่างเชื่องช้า

ในตาที่มีเพียงสีขาวแฝงไปด้วยความกระหายเลือด จับจ้องมองไปทางลูกสาวของตนอย่างหิวโหย

ก่อนที่เธอจะได้ทันขยับตัว ร่างชราตรงหน้าก็กระโจนโถมเข้าใส่หญิงสาวอย่างเต็มแรง

พร้อมกับริมฝีปากที่เปิดกว้างน้ำลายไหลย้อยเป็นทาง

ร่างบางถูกกระแทกล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมกับคมเขี้ยวของผู้เป็นพ่อจะขย้ำลงไปยังบริเวณคอหอยของลูกสาวอย่างโหดเหี้ยม

เธอหวีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวและความเจ็บปวดสุดที่จะกล่าว

หยาดหยดโลหิตสีแดงสาดกระจายย้อมพื้น เนื้อหนังของเธอถูกฉีกกระชากออกมาอย่างน่าสยดสยอง

ชายชราผู้บัตินี้กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วก็ไม่อาจทราบนั้น ไม่สนใจเสียงหวีดร้องและอาการดิ้นรนสุดชีวิต

ของร่างบางที่อยู่ใต้ร่างของมันเลยแม้แต่น้อย ปากยังฉีกกระชากเนื้อหนังเคี้ยวกินอย่างไร้สติ

มีเพียงความหิวโหยอย่างแรงกล้าดุจสัตว์ร้ายเท่านั้น ที่กำลังครอบงำร่างนี้อยู่

อาการดิ้นรนค่อยๆหยุดนิ่งลงพร้อมกับเสียงหวีดร้องที่แผ่วจางลง เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการลาลับจากโลกนี้ไปของหญิงสาว แต่ร่างที่ยับเยินด้วยรอยกัดแทะที่แน่นิ่งดังกล่าวนั้น

กลับนอนนิ่งอยู่ได้ไม่นานนัก มันกลับมาขยับได้อีกครั้งแขนขาของร่างบางเริ่มกระตุก

พร้อมกับมีเสียงคำรามต่ำๆในลำคอ ก่อนที่จะค่อยยักแย่ยักยันพาร่าง ที่เต็มไปด้วยบาดแผล

ขึ้นมายืนส่ายโงนเงน ดวงตาสีขาวทั้งดวงจ้องมองไปข้างหน้าอย่างหิวโหย

น้ำลายย้อยจากริมฝีปากหยดลงกับพื้นดังแหมะๆ

ร่างที่ราวกับซอมบี้ในหนังภาพยนตร์ ของคู่พ่อลูกเริ่มเดินตรงเข้าใส่กลุ่มผู้มุงดู อย่างกระหายหิว

ในทันที ที่เหตุการณ์นี้ได้ อุบัติขึ้น กลุ่มคนที่อยู่โดยรอบต่างก็แตกฮือออกไปอย่างขวัญบิน

ร้านขายของต่างถูกชนล้มกระจัดกระจาย ข้าวของตกเกลื่อนพื้น แต่ก็ไม่มีใครจะสนใจเรื่องกำไรขาดทุนอีกต่อไป

มีเพียงการเอาชีวิตรอดเท่านั้น ที่อยู่ในหัวของทุกคนในขณะนี้

เหตุการณ์ของคู่พ่อลูกเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความวินาศอีกมากมายที่จะตามมาเพียงเท่านั้น

ไม่ใช่มีเพียงชายชราที่อยู่บนรถเข็นเท่านั้น ที่เริ่มกลายเป็นสัตว์ประหลาด

พร้อมกันนั้นเอง เด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นแม่ก็แยกเขี้ยว แล้วขบขย้ำลงไปยังเนื้อหนังของผู้ที่อุ้มมันอยู่อย่างหิวกระหาย เสียงคำรามแหบต่ำของเหล่าอสูรกายที่เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

ปะปนไปกับเสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวและความเจ็บปวดของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เริ่มดังมาให้ได้ยินจากหลายทิศทาง

กลิ่นคาวเลือดฉุนกึกในอากาศ ทำเอาแทบสำลัก

มีหลายคนที่วิ่งหนีไปอย่างไม่รู้ทิศทาง แต่ก็มีอีกหลายคนที่อาศัยสถานการณ์นี้เพื่อเป็นฮีโร่อยู่เหมือนกัน

คุณลุงฝ่ายรักษาความปลอดภัยของห้างคนหนึ่ง กระชากกระบองเหล็กที่เหน็บข้างเอวขึ้นมากระชับไว้ในมือมั่น

“ย้ากกกก!”

เขาร้องปลุกขวัญ ก่อนที่จะวิ่งหวดกระบองเหล็ก เข้าใส่ร่างของอสูรกายตัวหนึ่ง

ที่เดินงุ่มง่ามแกว่งมือไม้ สะเปะสะปะอยู่อย่างสุดแรง

 

ผัวะ!

 

เสียงฟาดดังสนั่น เมื่อกระบองเหล็กในมือ หวดเข้ายังบริเวณแขนข้างหนึ่งของอสูรกายอย่างแม่นยำ

หากเป็นคนปกติถูกฟาดเข้าไปขนาดนี้ ต้องแสดงอาการว่าได้รับบาดเจ็บออกมาไม่มากก็น้อย

หรืออย่างน้อยก็ต้องเตรียมระวังตัวตั้งแต่แรกเมื่อเห็นถึงการโจมตีของอีกฝ่าย

แต่สำหรับร่างตรงหน้ามันกลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

มันไม่ระวังตัวกับการโจมตีที่พุ่งเข้าใส่มัน แถมยังไม่แสดงถึงความรู้สึกว่าได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีเลยแม้แต่น้อย

ไม่มีแม้แต่อาการหยุดชะงักสักเสี้ยววินาที มันยังเดินแยกเขี้ยวแกว่งมือไม้

ปล่อยให้น้ำลายหยดย้อย สาวเท้าเนิบนาบตรงทื่อเข้าใส่ลุงฝ่ายรักษาความปลอดภัย ด้วยความหิวกระหายไม่วเปลี่ยนแปลง แถมดูเหมือนมันจะกระตือรือร้นมากขึ้นอีกด้วย เมื่อเห็นเหยื่ออยู่ตรงหน้า

 

“เหวอ!”

 

คุณลุงฝ่ายรักษาความปลอดภัยส่งเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นปฏิกิริยาจากปีศาจตรงหน้า

เขารีบก้าวถอยหลังด้วยร่างกายที่สั่นกลัว แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป

เมื่อมือที่เริ่มฉับไวมากกว่าเดิมของอสูรกายคว้าหมับยังลำคอ ก่อนที่จะกระชากร่างนั้นเข้าหาคมเขี้ยวของมัน

 

“อย่าอย่า...ปล่อยฉันอ้า!”

 

ร่างของคุณลุงรักษาความปลอดภัยร้องสุดเสียงพร้อมกับดิ้นรนหาทางรอด

เนื้อหนังถูกฉีกกระชากออกมาทั้งเป็น เขาทำได้เพียงแผดร้องและดิ้นรนอย่างหมดหนทางก่อนที่จะขาดใจตายลงไปคาคมเขี้ยวของสัตว์ร้าย ที่ยังขบขย้ำอยู่บนร่างนั้นอย่างกระหายเลือด

ร่างที่กลายเป็นศพ นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไม่นานนัก ร่างกระรุ่งกระริ่งก็กลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

ด้วยสภาพที่กลายเป็นอสูรร้ายเดินโยกเยกออกหาเหยื่อต่อไป

          ภาพสยดสยองดังกล่าวไม่อาจหลุดรอดไปจากการสังเกตการของชายหนุ่มไปได้

อาชูร่าคิดถึงคำกล่าวของไอ้เจ้าหน้ากากประหลาดขึ้นมาในทันที

ถ้านี่คือมอนสเตอร์น่ารักในความหมายของมันแล้วละก็ สิ่งที่เขาต้องทำในขั้นตอนต่อไปก็คือ

การออกตามหากล่องยังชีพที่มันบอกว่าจะส่งลงมาให้ ดูจะเป็นทางเลือกเดียวที่จะช่วยให้เขาเอาชีวิตรอดต่อไปได้

ชายหนุ่มวิ่งมาหลบซ่อนอยู่ หลังเคาน์เตอร์ ของร้านไก่ร้านเดิม เขาย่อตัวลงให้ต่ำที่สุดไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายโผล่เลยออกไปเป็นจุดสนใจ ของเหล่าอสูรกายที่เดินหาเหยื่ออยู่ข้างนอก

ดูจากเหตุการณ์ที่กำลังวุ่นวายแล้วอาชูร่าคิดว่า เขาน่าจะยังคงปลอดภัยไปได้อีกพักใหญ่

เพราะฝูงสัตว์กระหายเลือดคงจะออกเดินไปตามเสียงหวีดร้องหรือเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งตึงตังอยู่ในตอนนี้มากกว่า ที่จะมาสนใจวัตถุที่อยู่นิ่งๆแบบเขา

แต่เขาก็คงจะอยู่นิ่งๆแบบนี้ได้อีกไม่นาน เพราะหากขืนยังอยู่ที่เดิมไม่ช้าก็เร็วอาจต้องตกเป็นอาหารของพวกมันเป็นแน่

สายตาสอดส่ายไปรอบข้างอย่างมีความหวัง หวังที่จะเห็นสิ่งของอะไรสักอย่างที่เป็นกล่องยังชีพตามคำบอกของหน้ากากประหลาด แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่เห็นอะไรที่จะดูเป็นกล่องยังชีพเลย

อาจจะเป็นความืดมิดที่โรยตัวปกคลุมพื้นที่ ที่ทำให้เขามองอะไรไม่ค่อยจะชัดเจนนัก

แต่ด้วยสายตาที่อยู่กับความมืดมาพักใหญ่ อาชูร่าก็พอแยกแยะสิ่งของได้อยู่บ้าง

 

‘เฮ้อ!นึกว่าเราจะโชคดีเจอกล่องอยู่แถวนี้แบบพระเอกในนิยาย ที่ได้ของเทพก่อนจะไปเจอมอนสเตอร์สุดแกร่งแล้วปราบมันลงได้แล้วนะเนี่ย...ชีวิตจริงมันไม่ง่ายแบบนั้นสินะ’

เขาถอนหายใจด้วยอารมณ์หดหู่ พลางคิดกับตัวเอง

สมองเริ่มประมวลผลข้อมูล ที่พอจะรู้ในขณะนี้ออกมาเพื่อวางแผนเอาตัวรอด จะได้ออกตามหากล่องต่อไปได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

******************************จบตอน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.