บทที่ 8 ต้องการ 1
ความหนาวเหน็บของยามขั้มคืนนั้นได้ปุกเด็กน้อยให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง คาออสมองร่างกายที่มีรอยแผลและรอยเท้าเพิ่มขึ้นมา ปากที่บวมเลือดที่ไหลไม่หยุด เขาไม่คิดเลยว่าแค่ออกมาขออาหารนั้นจะทำให้เขาต้องเจ็บตัวมากขนาดนี้ เขาพยายามจะเรียกคนแถวนั้นให้มาช่วย ทว่าความเจ็บปวดจากบาดแผลทั่วตัวทำให้เด็กน้อยไม่สามารถเอ่ยได้
คาออสตัดสินใจคลานออกไปเอาขนมปังที่อยู่เบื้องหน้า เขาใช้มืออันสั่นเทาหยิบขนมปังจากพื้นขึ้นมา เด็กน้อยค่อย ๆ ลอกขนมปังที่เปื้อนดินออกมาจนสามารถกินได้ เขาพิจารณาขนมปังตรงหน้าที่มีรูปร่างแปลกไป แต่ผ่านไปไม่นานเขาก็ส่ายหัวปฏิเสธความคิด เด็กน้อยจับเศษขนมปังที่เปื้อนดินยัดใส่ปากตนเอง พลางลุกขึ้นนำขนมปังที่เหลือเก็บใส่เสื้อ คาออสยันตัวลุกขึ้น เขาค่อยๆเดินกับเข้าไปยังตรอก เด็กน้อยมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่แสงตะวันไม่นานเด็กน้อยก็รู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ ที่ไหลลงจากดวงตา ของ คาออสเบ้หน้าอีกครั้ง คาออสตัดสินใจหยุดพักเขาเอนหลังพิงกำแพงในตรอกดวงตาของเด็กน้อยมีน้ำอุ่น ๆ ไหลออกมาจากตา ตาของเด็กน้อยแดงก่ำแต่กับไม่มีแม้แต่เสียงร้องจากเด็กน้อย คาออสเช็ดน้ำตา เขาใช้สายตามองไปยังที่ที่เขาโดนทำร้าย เด็กน้อยกัดฟันพลางกำหมัดแน่นในขณะที่น้ำตาของเด็กน้อยนั้นไหลออกมาไม่หยุด เขาตะเบ็งเสียงดังก้องด้วยความแค้นต่อเรื่องราวที่เขาได้พบเจอ
“คอยดูนะพวกแกสักวันหนึ่ง พวกแกจะต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกแกทำกับฉัน”
สิ้นเสียงตะโกนของเด็กน้อย จู่ ๆ ท้องฟ้าก็ร้ำร้องกัมปนาท สายลมอันรุนแรงได้พัดเข้ามายังตรอกที่เด็กน้อยยืนพิงร่างอยู่ เส้นผมเงินดำของคาออสปลิวตามแรงลม เขาจ้องมองท้องนะพาที่เคยมีแสงจันทรา ทว่าตอนนี้กับโดนเมฆาบดบังจนมิสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เมฆาบดบังดวงจันทราเพียงช่วยคู่ก็มีสายพิรุณ ตกลงมาใส่ร่างของเด็กน้อยผมดำเงิน ถึงแม้สายฝนจักเย็นเยือกสักเพียงใดแต่มันก็มิสามารถดับไฟแค้นที่อยู่ในใจของเด็กน้อยได้ ราวกับเทวาซาตานจะรู้ถึงความคิดคำนึงของเด็กน้อยผมเงิน มันส่งเสียงร้ำร้องอย่างมิมีหยุดคาออสกำหมัดชูขึ้นท้องฟ้าพลางร้ำรองแข่งกับเสียงสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาใส่ร่างกาย
“ข้าขอปะติยานกับเทวาและซาตาน ข้าจะต้องสังหารพวกชนชั้นสูงให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินนี้”
สิ้นวาจาของเขา เด็กน้อยผมสีเงินดำก็เร่งฝีเท้าอย่างรวจเร็ว เพื่อไปให้ถึงบ้านกระท่อมหลังหนึ่ง เพียงไม่นานคาออสก็มาถึงบ้านไม้เล็ก ๆ หลังหนึ่ง กระท่อมโกโรโกโส เขามองกระท่อมพลางถอนหายใจออกมา หากเป็นไปได้คาออสอยากจะล้างเนื้อล้างตัวและส้อนรอยแผลเสียก่อน แต่เขารู้ดีว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นไม่สามารถรอเข้าได้
เด็กน้อยผมเงินหยิบขนมปังที่อยู่ในเสื้อออกมามองอยู่ชั่วครู่ เขานำมือแบ่งขนมปังออกเป็นสองชิ้นพลางเดินเข้าไปในกระท่อมหลังนั้น มือของเด็กน้อยจับประตูที่แสนเย็นยะเยือก เขาค่อย ๆ แง้มประตูออกอย่างเชื่องช้าด้วยเกลงว่าเสียงจากประตูจะทำให้เด็กอีกคนนั้นตื่น
ความมืดข้างในบ้านทำให้คาออสต้องหลับตาลงเพื่อให้สายตาสามารถปรับกับความมืด ถึงแม้ว่าบางบ้านจะมีแสงไฟส่องสว่างในยามค่ำคืน แต่สำหรับพวกเขาการที่มีที่ซุกหัวนอนแต่ละวันมันก็เพียงพอแล้ว
พอคาออสเปิดประตูเขาก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ จากเด็กน้อยที่กำลังนั่งคอยเขาอยู่
“พี่กับมาแล้วหรอค่ะ”
เด็กน้อยฝืนยิ้มขึ้น หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะหาของกินให้กับเด็กน้อยทั้งสองให้มากกว่านี้ “จ้าหิวกันไหมพี่เอาอาหารมาให้แล้วล่ะ”
เด็กน้อยอายุประมาณแป็ดขวบ จ้องมองมายังเด็กน้อยผมสีเงินแววตาของเด็กสาวนั้นเต็มไปด้วยความหวังเมื่อได้พบว่าตอนนี้พี่ชายที่แสนใจดีได้กลับมายังบ้านแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นชายตรงหน้าแต่เด็กสาวก็ได้กลิ่นคลาวเลือดจากตัวของเขา
“นี่พี่บาดเจ็บหรอ”
คาออสส่ายหัวปฏิเสธพลางตอบเด็กสาวเบื่องหน้า “ไม่ใช่หรอก”
“แต่ว่าหนูได้กลิ่นเลือดนี่นา”
คาออสนำมือไปจับที่ปากของตนเองก่อนที่จะส่งเสียงออกมา “อย่าพูดเสียงดังสิมาเรียเดี๋ยวอานาสตาเซียก็ตื่นหรอก”
คาออสมองแววตาที่ว่างเปล่าของเด็กน้อยตรงหน้า ถึงแม้ว่ามาเรียจะมองไม่เห็นแต่เขาก็ไม่คิดจะทิ้งเธอไป เธอเอื้อมมือจะไปจับเด็กอีกคน แต่ก่อนที่มือเธอจะได้สัมผัสคาออสก็ส่งเสียงห้ามอีกครั้ง เด็กน้อยในตาสีช็อคโกแลตหันมาตามเสียง เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นและเดินตรงมายังคาออส
“พี่กินอะไรมาหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วล่ะ นี่อาหารนะอาจจะไม่ค่อยอร่อยเท่าไร”
เด็กน้อยผมน้ำตาลยื่นมืออันผอมแห้งมายังเบื่องหน้าของคาออส เมื่อเธอได้รับขนมปังจากมือของพี่ชายตรงหน้าเธอก็ค่อย ๆ นำเข้าปาก ถึงแม้ว่าขนมปังที่เด็กน้อยกินจะแห้งเหนียวสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่คิดจะบ้นแม้เพียงนิด เธอค่อย ๆ
กืนขนมปังเข้าไปอย่างยากลำบาก
คาออสเดินตรงมายังเด็กสาวอีกคนที่นอนไม่ได้สติ เขานำมือจับที่หัวของเด็กสาว
ทันทีที่คาออสนำมือไปจับที่ศีรษะ
อุณหภูมิที่เขาได้สัมผัสประกอบกับท่าทางของเด็กน้อยเบื้องหน้าทำให้คาออสต้องขมวดคิ้วแน่นด้วยความเป็นห่วง
เขาเหลือบตามองข้างบนหลังคาที่มีน้ำฝนหยดลงตามลูหลังคา
อากาศที่เริ่มหนาวทุกขณะจิตทำให้เด็กน้อยที่เป็นพิษไข้อยู่แล้วต้องตัวสั่นด้วยความหนาวเย็น
อานาสตาเซียนำมือที่มีแต่กระดูกกอดร่างกายของตนเองไว้ราวกับว่ามือของเด็กหญิงนั้นจะสามารถเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายของตน
อนาสตาเซียกัดฟันด้วยความหนาวเย็น
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้คาออสเกรงว่าเด็กหญิงตัวน้อยอาจจะมีชีวิตไม่ถึงพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ
ภาพเบื้องหน้าทำให้คาออสอดปวดใจไม่ได้หากเขาสามารถหาเงินชีวิตของเด็กทั้งสองก็คงดีกว่านี้เป็นแน่
ถึงแม้นว่าฝนข้างนอกจะตกหนักสักเพียงใดหรือต่อให้อากาศจะหนาวเหน็บมากแค่ไหน
แต่เมื่อคาออสได้เห็นเด็กหญิงตัวน้อยต้องทนทุกข์ทรมานเขาก็รู้สึกจุกที่ลำคอ น้ำอุ่น
ๆ เริ่มค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาของเด็กน้อยผมเงิน ทำให้เขาต้องละสายตาออกจาก
อนาสตาเซีย
คาออสนำมือออกจากศีรษะของเด็กหญิงตัวน้อย เขาจ้ำเอ้าไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ห่าง
คาออสเม้มปากด้วยความโกรธกับโชคชตาของตน
มือของเด็กน้อยกำแน่นในขณะที่สายตาของเขาทอดมองไปไกล เขาเหลือบหางตามามองยังมาเรียอีกครั้งก่อนที่เขาจะค่อย
ๆ กล่าวอย่างแผ่วเบากับเด็กน้อย
“นี่มาเรีย เดี๋ยวพี่มานะ
นอนได้เลยไม่ต้องรอพี่รู้ไหม
แล้วอีกอย่างถ้าอนาสตาเซียตื่นก็ให้อนาสตาเซียกินขนมปังด้วยนะ”
สิ้นคำกล่าวของคาออส
เด็กน้อยก็มองยังเด็กหญิงที่หลับไหลไม่ได้สติที่พื้น เขาค่อย ๆ
นำมือรูปหัวของอนาสตาเซียอีกครั้ง ‘ทนอีกหน่อยนะ
เดี๋ยวพี่จะต้องทำให้น้องหายให้ได้’
เขานำขนมปังไปให้มาเรียที่อยู่ใกล้
ๆอนาสตาเซีย ก่อนที่มาเรียจะกล่าวกับพี่ชายของเธอ มาเรียก็ได้ยินเสียงประตูที่ปิดลน
หลังจากที่คาออสเก้าเท้าออกมาจากบ้านที่ชำรุดผุพัง
เด็กน้อยก็เริ่มออกวิ่งด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 142
แสดงความคิดเห็น