บทที่ 3 สืบเสาะ 2
บทที่ 3 สืบเสาะ 2
สิ้นคำกล่าวเด็กหนุ่มพลันขมวดคิ้วมุ่น เขาไม่รู้เกี่ยบกับเรื่องที่สุริยะกล่าวมาก่อนทำให้ไบรท์ไม่รู้ว่าจะทำเช่นใดในสถานการณ์นี้ ไบรท์มองรอบ ๆ ก่อนที่จะไปเจอกับพี่สาวของตนที่ยืนอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ไอนำมือขึ้นมากอดอกของตน
หญิงสาวมองน้องชายที่กำลังส่งสายตาเป็นเชิงถามมาทางหล่อน หญิงสาวไม่ต้องคิดอะไรให้เปลืองสมองก็รู้ได้ในทันทีว่าน้องชายของตนต้องการอะไร
“ถ้าจะขอยืมเหรียญพี่ไม่ให้ยืม ไม่สิถ้าจะให้พี่พูดตรง ๆ พี่ให้ยืนไม่ได้เพราะวว่าครูไม่มีสิทธ์เข้าไปช่วยเหลือการประลองของนักเรียน”
ชายชราโบกมือ “ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะไปท้าประลองกับพวกนี้หรอกนะ”
สิ้นคำกล่าว ไบรท์พลันหันมาตามเสียงของสุริยะ เขามองสุริยะอย่างไม่ค่อยพอใจ “พูดแบบนี้หรือว่าคิดว่าผมจะแพ้หมอนั่นหรอครับ”
ชายชราสั่นศีรษะ “ไม่ใช่หรอกนะ แต่ว่าตอนนี้ไบรท์ยังไม่ได้ที่เก็บเหรียญเลยไม่ใช่หรอ”
“ไม่หรอก ไม่ได้คิดว่าจพะแพ้ แต่ยังไงเธอก็แพ้อยู่แล้ว พลังของสามสิบยอดยุทธกับฝีมือของเธอมันห่างกันเกินไป แต่ว่าถ้าเธอไม่คิดจะเชื่อคำพูดของฉันน่ะ ก็มีวิธีอยู่ อย่างแรกเธก็แค่ต้องไปหาเหรียญมาให้คบ เคลื่อนเก็บเหรียญมีให้กับนักเรียนใหม่ทุกคนอยู่แล้ว เธอสามารถไปขอจากครูประจำชั้นได้ทันที”
สิ้นเสียงของสุริยะไบรท์ก็มองหน้าพี่สาวของตน “พี่ไอ ผมขอเครื่องเก็บเหรียญหน่อยดิ”
“ถึงแกจะเอาไปตอนนี้แกก็ไม่มีทางต่อสู้ได้หรอกนะ เพราะว่าตอนนี้คะแนนของแกมันเท่ากับสูญ หมายความว่าแกไม่มีเหรียญแม่แต่เหรียญเดียว”
“ฉันว่านายอย่าเพิ่งท้าประลองดีกว่านะไบรท์”
เสียงของจอนห์ที่ดังขึ้นทำให้ทุกสายตาหันไปมอง ผู้คนที่อยู่ตรงนี้ต้องกืนน้ำลายเมื่อชายหนุ่มผู้นี้ปรากฏร่างขึ้น ดาบยาวที่ถูกสะพายไว้ด้านหลัง จิตสังหารที่ถูกเก็บกดเอาไว้แต่ผู้ที่เคยท้าทายชายคนนี้นั้นรู้ดี ชายหนุ่มว่าจบเขาก็กระโจนร่างเข้ามาหาไบรท์ ก่อนจะมองเสือตัวที่ไบรท์สามารถเอาชนะได้
“นี่ผลงานของนายใช่ไหม”
“เรื่องนั้นช่างมันก่อน ทำไมนายถึงไม่ให้ฉันประลองกับเจ้านั่น”
“เรื่องนั้น ฉันรู้นะสิว่าต่อให้นายจะประลองตอนนี้ยังไงนายก็แพ้ อย่าเพิ่งโกรธไป ฉันไม่ถึงว่าตอนนี้พลังเวทกับพลังกายของนายถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว ถ้านายต่อสู้ต่อนายก็เสียเปรียบอยู่ดี แล้วอีกอย่าง”
สิ้นคำกล่าว ชายหนุ่มพลันกระซิบกับไบรท์ พอไบรท์ได้ฟังคำกล่าวของจอนห์ เด็กหนุ่มพลันลดพลังเวทของตนเองลง เขาหันไปมองยังคู่อริก่อนที่จะกล่าว
“ฉันไม่สู้แล้ว เอาไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน นี่ครั้งนี้ฉันขอฝากเอาไว้ก่อน”
ก่อนที่ไบรท์จะเดินไปหาไอ เสียงของไอยราพลันดังขึ้น “ก่อนที่แกจะเข้าห้องเรีย ช่วยไปทำอะไรกับเลือดตามตัวด้วย ไปห้องพยาบาลที่อยู่ตรงตึกสอง ให้จอนห์พาไปก็แล้วกัน ส่วนจอนห์หลังจากที่ไบรท์ไปทำแผลแล้วเธอต้องมาคุยกับครู”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องเรียนเกรดสิบเอ็ด ทุก ๆ กำลังจับจ้องมองเด็กคนหนึ่งที่มีอายุน้อยที่สุดในห้อง เด็กคนนี้ได้สร้างชื่อตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เข้ามาเหยียบโรงเรียนเวทมนตร์แห่งนี้ เส้นผมสีนำของเขายาวประบ่าตีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ก็คงเป็นดวงตาสีแดงดุจทับทิมที่สาดส่องเป็นประกาย ใบหน้าที่ดูเยาว์วัยแต่ทว่าท่าทางกับองอาจหาผู้ใด ไม่สิต่อให้เป็นเด็กที่มีอายุอนามมากกว่านี้ก็ไม่มีใครเหมือน
ชื่อของเด็กหนุ่มถูกเขียนอยู่บนกระดานดำเบื้องหลังมีหญิงสาวที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นยืนจับจ้องอยู่ไม่ห่าง ระหว่างที่ทุกคนกำลังมองเด็กใหม่อยู่นั้น เสียงของอาจารย์ประจำชั้นพลันดังขึ้น
“เอล่ะ เริ่มแนะนำตัวเองได้แล้ว”
ไบรท์ละสายตาออกจากการจับจ้อง ก่อนที่จะค่อยๆ แผ่จิตสังหารเพื่อไปกดดันทุกคนที่อยู่โดยรอบ ๆ ผู้ที่สามารถทนไหวก็ยิ้มออกมาเนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าต่อจากนี้พวกเขาคงได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือเท่าเทียม ส่วนผู้ที่ทนไม่ไหวล้วนต้องหลั่งเหงื่อโทรมกาย
กระจกเริ่มมีรอยร้าว ก่อนที่ไบรท์จะเพิ่มจิตสังหารมากไปกว่านี้จู่ๆ เสียงโป๊กพลันดังขึ้นทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ห้องเปลี่ยนแปลงไป
“โอ้ย”
ไบรท์เบะปาก ก่อนที่จะกวาดตาไปพบกับก่องดินสอที่ถูกขว้างมาทางเขา ความรวดเร็วทำให้ไบรท์ไม่ทันที่จะเคลื่อนร่างหลบ เขาไม่ต้องคิดให้เสียเวลาไบรท์ก็รู้ได้ในทันทีว่าคนที่ทำคือ คาเสะ มินาโตะ นั่นเอง เด็กหนุ่มชี้หน้าหญิงสาว
“ทำบ้าอะไรของเธอ”
“อย่าเก็กมากดิ เริ่มแนะนำตัวได้แล้ว”
สิ้นคำสั่งของหญิงสาว ไบรท์พลันยักไหล่ก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัว
“ผมไบรท์ อายุ 13 ปี เป้าหมายในอนาคตคือการได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ ของที่ชอบคือหนังสือเวทมนตร์ สิ่งที่ไม่ชอบคือเทคโนโลยีทุกชนิด อาหารที่ชอบไม่มี เครื่องดื่มที่ชอบคือกาแฟดำ เป็นคนอัธยาศัยดีไม่มีพิษภัยชอบอยู่สันติรักสันโดษไม่ชอบการต่อสู้และวุ่นวายกับใคร ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
“ตอแหลเห็นๆ “
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ทุกสายตาหันไปมอง คนที่กล่าวคำพูดออกมาคือผู้ชายคนหนึ่งที่ดูจะเป็นหัวโจก ในห้อง ไบรท์ได้ยินเช่นนั้นเด็กหนุ่มจึงยักคิ้ว สำหรับเขาไม่คิดจะสนใจคำพูดพวกนี้อยู่แล้ว สิ่งที่ไบรท์ต้องากรจะปะทะร่างกายและประลองฝีมือคือสี่สิบคนเท่านั้นในโรงเรียนนี้ สองในสี่สิบไบรท์เคยปะทะร่างกายแล้ว ถึงแม้ว่าจอนห์กับเนกิจะไม่ได้ใช้ฝีมือที่แท้จริง แต่ว่าไบรท์ก็รู้ในทันทีว่าพลังฝีมือของไบรท์กั้บพวกเขานั้นห่างชั้นกันมากมายแค่ไหน
ระหว่างที่ไบรท์กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับคนที่กล่าวกับเขาแบบนี้ จู่ ๆ เสียงหวานใสของผู้หญิงคนหนึ่งพลันดังขึ้นทำให้ไบรท์ต้องเหลือบตาไปมอง
“เธอเป็นอะไรกับอาจารย์ไอหรอ”
“ใช่ๆ นายใช่ไหมที่เป็นน้องชายของอาจารย์ไอ” เสียงของเพื่อนอีกคนพลันดังขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะกล่าวอะไร ไบรท์ก็โบกมือ
“คำถามนี้เดี๋ยวผมจะตอบให้ ผมนี่แหละน้องชายของพี่ไอ แต่ว่าผมก็พี่สาวไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“แล้วสรุปอาจารย์ไอมีน้องชายกี่คน”
“สำหรับคำถามนี้ ผมจะบอกให้นะครับทุกคน อาจารย์ไอมีน้องชายทั้งหมดหนึ่งคน ส่วนน้องสาวมีอีกหนึ่งคน ส่วนลูกพี่ลูกน้องก็คือมินาโตะ คาเสะอีกหนึ่งคน”
“พลังเวทของนายล่ะ อยู่ในระดับไหน”
ก่อนที่ไบรท์จะกล่าวตอบ ไอพลันโบกมือห้าม “เอาล่ะจะถามอะไรก็ไว้ทีหลังก็แล้วกัน วันนี้ครูมีเรื่องจะแจ้ง ส่วนไบรท์ไปหาที่นั่งได้แล้ว”
หลังจากที่ไบรท์มองอยู่สักพักเด็กหนุ่มจึงเดินไปหลังห้อง ไบรท์มองเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่นั่งก้มหน้าไม่สนใจการมาของไบรท์ เขารู้สึกสนใจชายผู้นี้ตั้งแต่ที่ไบรท์ใช้พลังชายหนุ่มผมขาวผู้นี้ไม่คิดจะสนใจ ตาของชายผู้นี้ไม่ได้ขยับมาเหลือบมองด้วยซ้ำ
“ฉันขอนั่งข้าง ๆ ได้ไหม”
ชายหนุ่มผู้นั้นพยักหน้ารับ ทำให้ไบรท์นั่งข้าง ๆ ในทันที
มาแล้ว พอดีติดโควิดจ้าเลยไม่ได้มาเขียน ผมมีโรคประจำตัวเลยอาการหนัก ไปเรียนไม่ได้ทั้งสัปดาห์เลย ตามปั่นนงานหัวแตกแน่ ๆ ฮ่าๆๆๆ เครียดติวสอบอังกฤษนี่แหละ กลัวทำได้ไม่ดีเอาล่ะ จะไปเขียนนิยายต่อแล้วฮ่าๆๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 129
แสดงความคิดเห็น