ตอนที่ 8 เข้าแล้วออกยาก
[อ้อนแอ้น] “นี่นาย!! ฟังฉันอธิบายก่อนนะ นายกำลังเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวอย่างที่นายเข้าใจนะ และนายไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้กับฉันด้วยลูกน้องของนายฉุดกระชากลากตัวของฉันมาให้กับนายเข้าใจไหม ฉันไม่ได้เต็มใจมาด้วยเลย”
[ปาร์ค ซอง มิน] “คุณพูดจริงหรือ??”
[อ้อนแอ้น] “ฉันพูดจริงๆ นะ ฉันไม่ได้แจ้งตำรวจเลยนายก็เห็นนี่ ปล่อยฉันเข้าบ้านเถอะนะ นายช่วยปลดล็อคประตูให้ฉันได้ไหม ฉันเป็นคนรักษาคำพูดขอเพียงทุกอย่างจบลงตรงนี้ นายไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับฉันอีกก็พอ นะ..”
เมื่อปาร์ค ซอง มินยกแขนพาดไปที่เบาะตรงที่เธอนั่งอ้อนแอ้นถึงกับตกใจหดไหล่ลงเล็กน้อยด้วยกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอแต่เปล่าเลยปาร์ค ซอง มินแค่หรี่ตามองเธออย่าวิเคราะห์และใช้ความคิดอยู่เพียงเท่านั้น สุดท้ายเขาก็ยอมปลดล็อคประตูอัตโนมัติให้กับเธอ พอได้ยินเสียงคลายล็อคปุ๊บอ้อนแอ้นจึงยิ้มออกมาทันทีด้วยความดีใจสุดๆ จากนั้นก็รีบเปิดประตูรถออกไปอย่างไว เธอต้องรีบก้าวลงจากรถให้เร็วที่สุด อยู่ให้ห่างจากนายเพี้ยนคนนี้ให้มากที่สุด อย่าได้ไปท้าทายเขาอีกเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง อ้อนแอ้นแทบจะเดินแกมวิ่งไปที่ประตูรั้วแล้วรีบไขกุญแจด้วยมือที่สั่น ด้วยความตื่นเต้นระคนตื่นกลัวจนเปิดประตูรั้วไม่ได้สักที ส่วนปาร์ค ซอง มินนั้นไม่ได้ขับรถออกไปเลยแถมยังเดินตามหลังของอ้อนแอ้นมาติดๆ แล้วยังแย่งกุญแจรั้วไปจากมือของเธอเฉยเลย ทำให้อ้อนแอ้นถึงกับงงในงงอะไรของอีตาบ้านี่อีกล่ะเนี่ยยย
[อ้อนแอ้น] “นี่นายทำไมยังไม่ไปอีกล่ะ แล้วนั่นกุญแจรั้วของฉันนะ เอาคืนมานี่ เอามาสิ”
เมื่อเห็นว่าใครมาแย่งกุญแจรั้วไปจากมืออ้อนแอ้นถึงกลับโมโห แล้วพยายามเอื้อมมือคว้ากุญแจรั้วจากมือของเขาที่โชว์เอาไว้สูงเหนือหัวของเธอคืน กระโดดก็แล้ว เขย่งขาก็แล้วแต่ก็เอื้อมไม่ค่อยจะถึงก็ใช่น่ะสิย่ะก็ฉันมันตัวเตี้ยไงจะอะไรล่ะ นายนี่ก็ตัวสูงใหญ่ชะมัดบ้าจริงจะแกล้งกันไปถึงไหน
[ปาร์ค ซอง มิน] “ผมก็แค่อยากจะช่วยคุณเปิดประตูรั้วให้ก็เท่านั้นเอง ผมเป็นคนดีมีมารยาทนะคุณ”
[อ้อนแอ้น] “อย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย นายคิดอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ นายรีบกลับไปเถอะ ฉันเข้าบ้านเองได้”
เธอหมิ่นแคลนเขาอีกทั้งยังไม่ยอมแพ้พยายามกระโดดแย่งกุญแจรั้วจากมือของปาร์ค ซอง มินที่ไม่ยอมส่งคืนมาให้กับเธอสักที
[ปาร์ค ซอง มิน] “ผมอยากจะเข้าไปข้างในบ้านกับคุณด้วย”
[อ้อนแอ้น] “ห๊ะ!!..อะไรนะ!!..นี่ถ้าขืนนายยังไม่กลับไปอีกล่ะก็ ฉันจะร้องเรียกให้คนช่วยจริงๆ ด้วยนะ”
[ปาร์ค ซอง มิน] “เอาเลย เชิญตามสบาย ถ้าคุณไม่อาย ผมก็ไม่อายเหมือนกัน”
[อ้อนแอ้น] “นี่นาย..ก็ได้..นายนี่มันหน้าด้านหน้าทนจริงๆ เลยนะ เชอะ..”
อยากจะด่าเขาให้แรงกว่านี้อีกหลายร้อยเท่าแต่อ้อนแอ้นก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ พยายามพูดจาไม่ดูร้ายจนเกินไปด้วยกลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอ อ้อนแอ้นจ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อพร้อมทั้งหายใจแรงๆ ออกมาแล้วสบัดหน้าหนีเดินจากเขาไปส่วนปาร์ค ซอง มินไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยเขาทำแค่ยักไหล่ไม่แคร์ด้วยซ้ำ ไม่สนด้วยว่าอ้อนแอ้นจะด่าว่าเขาอย่างไรความดื้อรั้นเอาแต่ใจมีอยู่เต็มร้อย เขาเดินตามหลังของอ้อนแอ้นเข้าไปในบ้านของเธออย่างสบายอารมณ์
[ป้ามุกดา] “อ้าววว อ้อนแอ้นกลับมาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้เลิกงานเร็วจัง งั้นป้าขอตัวกลับก่อนนะ”
[อ้อนแอ้น] “เอ่อออ คุณป้าค่ะ เดี๋ยวก่อนค่ะ คืนนี้คุณป้านอนค้างที่นี่ได้ไหมคะ”
[ป้ามุกดา “คืนนี้ป้าไม่ค่อยสะดวกนะ พอดีมีญาติเดินทางมาจากต่างจังหวัดมาค้างคืนที่บ้านของป้าน่ะ นี่ป้าก็รอให้อ้อนแอ้นกลับมาก่อนแล้วค่อยไปดูพวกเขาจ้ะ”
ขณะที่ป้ามุกดากำลังจะเดินกลับบ้านไปอ้อนแอ้นก็ได้ร้องขอให้ป้ามุกดาช่วยอยู่ค้างที่บ้านสักคืนแต่ป้ามุกดาก็ปฏิเสธและขอตัวกลับบ้านไป เธอยืนมองด้วยใจที่ว้าวุ่นสับสนก่อนจะหันกลับไปมองปาร์ค ซอง มินที่เดิมเข้าไปหายัยหนูเฌอเบลที่นอนอยู่ในเปลอย่างสนอกสนใจ
[อ้อนแอ้น] “อ๋อออ งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้า ขอบคุณคุณป้ามากนะคะ”
พูดจบป้าก็กลับบ้านไปเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะ หึหึ อยู่ในลำคอของปาร์ค ซอง มินคงได้ยินสิ่งที่เธอพูดคุยกับป้ามุกดาสินะ ทำเป็นหัวเราะเยาะเขาชิ
[ปาร์ค ซอง มิน] “แค่ป้าแก่ๆ คนนึงคงช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกนะ ผมแค่ผลักเขาเบาๆ ก็กระเด็นไปไกลแล้วล่ะ หึหึ เด็กน้อยนี่ลูกของใครกัน”
ปาร์ค ซอง มินรู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้เป็นอย่างมากทั้งๆ ที่เจอกันครั้งแรกเขาใช้ปลายนิ้วมือลูบหัวเล็กๆ นั้นอย่างเบามือด้วยความเอ็นดูแต่กลับถูกอ้อนแอ้นตำหนิเอาเสียยกใหญ่
[อ้อนแอ้น] “นั่นนายจะทำอะไรน่ะ อย่ามาแตะต้องลูกของฉันนะ ช่วยเอามือสกปรกของนายออกไปด้วย”
[ปาร์ค ซอง มิน] “ไม่ต้องอุ้มลูกหรอกเดี๋ยวตกใจตื่น ลูกกำลังนอนหลับสบายอยู่ อย่าบอกนะ ว่านี่ลูกของคุณ”
[อ้อนแอ้น] “ใช่แล้วจะทำไม่ ไม่ใช่แล้วจะทำไมไม่ มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยล่ะ มองพอรึยัง ช่วยออกไปจากบ้านของฉันได้แล้ว โน้นประตูไปสิ เชิญ”
[ปาร์ค ซอง มิน] “ผมยังไม่ได้รีบกลับบ้านขนาดนั้นหรอก ที่รัก ผมอยากคุยกับคุณก่อน”
[อ้อนแอ้น] “อย่ามาเรียกฉันว่า ที่รักนะ และฉันก็ไม่มีธุระอะไรจะคุยกับแกด้วย กลับไปได้แล้ว”
[ปาร์ค ซอง มิน] “ทำไมคุณถึงไปเดินอยู่ในที่แบบนั้นล่ะ”
[อ้อนแอ้น] “เพิ่งเลิกงาน จะถามทำไม”
[ปาร์ค ซอง มิน] “ทำงานอะไรดึกขนาดนั้น”
[อ้อนแอ้น] “เป็นนักสืบหรือไง ถามอยู่ได้”
ด้วยความโมโหบวกกับรำคาญเขาจนลืมตัวเผลอพูดจาไม่เพราะออกไป แต่พอเห็นสายตาดุดันที่เอาจริงมองจ้องมา และรอคอยคำตอบทำให้อ้อนแอ้นเริ่มกลัวขึ้นมาพยายามตอบกลับดีๆ ไปก่อนก็แล้วกันได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจแล้วเดี๋ยวเขาก็คงกลับไปเอง
[อ้อนแอ้น] “ก็..ก็ทำงานร้านอาหารที่อยู่ติดริมแม่น้ำแถวนั้นแหละ เป็นพนักงานแคชเชียร์”
[ปาร์ค ซอง มิน] “ช่วงเช้าเธออยู่เลี้ยงลูก พอกลางคืนก็ออกไปทำงานอย่างนั้นเหรอ”
[อ้อนแอ้น] “ถามมากไปเพื่อออ..”
[ปาร์ค ซอง มิน] “ที่รัก ระวังคำพูดหน่อย ถ้าฉลาดก็ตอบมาดีๆ”
[อ้อนแอ้น] “ช่วงเช้าไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแผนกกระเป๋าแบรนด์เนม มีอะไรจะถามอีกมะ”
[ปาร์ค ซอง มิน] “แล้วพ่อกับแม่ของเด็กคนนี้ไปไหน ในบ้านนี้ผมเห็นคุณกับลูกอยู่กันสองคนเท่านั้น”
เมื่ออ้อนแอ้นทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่ยอมตอบอะไรกลับมาปาร์ค ซอง มินก็ยืดตัวตรงยืนกอดอกมองเธอได้ผลทำให้ฝ่ายตรงข้ามหวาดหวั่นกลัวเขาขึ้นมาและรีบตอบกลับไปอย่างอารมณ์เสีย กระแทกเสียงใส่
[อ้อนแอ้น] “ตายแล้วทั้งคู่ เด็กคนนี้เป็นลูกของฉัน พอใจรึยัง นายกลับไปเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะ”
เธอพูดไปด้วยก็อ้อนวอนขอร้องให้เขากลับไปสักทีซึ่งปาร์ค ซอง มินก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจแต่สุดท้ายตีเนียนเปลี่ยนเรื่องคุยไปซะอย่างนั้น เฮ่อออ อ้อนแอ้นรู้สึกเหนื่อยใจกับปาร์ค ซอง มินจะด่าจะไล่ก็ไม่ได้กลัวภัยจะมาถึงตัว..ฮือออ..ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยย..อ้อนแอ้นกรีดร้องอยู่ในใจ
โปรดติดตามตอนต่อไปรอหน่อยนะคะ นักเขียนพิมพ์พัณณิตากำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ ฝากกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไปและนิยายเรื่องใหม่ ฝากกดถูกใจส่งข้อความเป็นกำลังใจหรือติชมผลงานกันเข้ามาได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 193
แสดงความคิดเห็น