ตอนที่16:เธอคงเข้าใจอะไรผิด
“ คิดได้ยังไงค่ะ ถึงทำแบบนั้นไป ”
คำถามจากหญิงสาวดังขึ้นในห้องโทรมๆที่มีแสงไฟจากเปลวเทียนเท่านั้น คนสองคนนั่งอยู่บนโต๊ะไม้เก่าๆกลางห้อง เป็นห้องที่ไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่เลย
" เธอหมายความว่ายังไง? "
“ ก็เราแนะนำให้ท่านซีคช่วยเหลือผู้คน แล้วทำไมถึงไปให้ความร่วมมือกับกลุ่มอันธพาลแทน ”
สองคนที่นั่งคุยกันคือซีคกับลูเบลล่านั้นเอง และในห้องนั้นยังมีอัศวินผู้ติดตามของลูเบลล่ากำลังยืนอึ้งอยู่ด้วย
“ ก็เธอเป็นคนแนะนำว่าให้ช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่เห็นบอกสักหน่อยว่าห้ามช่วยคนนั้นคนนี่ ”
“ พวกนั้นก็ดูมีเรื่องให้ช่วยทำพอดี ”
“ แต่ปกติมันแล้วมันไม่ควรทำไงค่ะ การช่วยคนไม่ดีแบบนั้น ”
“ แล้วข้าจะไปรู้ได้ยังไง ข้าไม่รู้จักหรอกไอ้สามัญสำนึกอะไรนั้นหนะ ถึงต้องการคำแนะนำไง ”
ลูเบลล่าเอามือขึ้นกุมขมับตัวเอง เธอที่เคยอยู่แต่ในวิหารเป็นครั้งแรกเลยที่ได้เจอคนอย่างซีค
‘ หรือเพราะเรายังอ่อนประสบการณ์เกินไปหรือเปล่านะ ไม่-มันไม่ใช่ ’
ต่อให้คนที่น่าจะเข้าใจโลกมากกว่าเธอ ก็ไม่น่าจะได้เจอคนแบบซีคมาก่อน
‘ พอลองคิดดูแล้ว นี่อาจจะเป็นประสบการณ์ที่อันน่าเหลือเชื่อของเราก็ได้ ’
สมแล้วที่เธอมองด้านบวก ไม่งั้นสมองเธออาจจะแตกก็ได้เมื่อเจอตรรกะแบบซีค
“ เข้าใจแล้วค่ะ เช่นนั้นได้โปรดพยายามช่วยเหลือผู้อ่อนแอต่อไป ”
“ เธอไม่เห็นพูดเหมือนครั้งก่อนเลย นี่เธอกำลังเปลี่ยนเงื่อนไขหรอ ”
“ แล้วคิดว่าต้นเหตุมาจากใครล่ะค่ะ ”
ลูเบลล่าจ้องมองไปที่ซีคพยายามคิดว่าตรรกะที่แปลกประหลาดนั้นควรจะแก้ยังไงดี แต่มีความคิดนึงแวบขึ้นมาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากที่นั่ง
“ เอาตามนี้ก่อนค่ะ ยังไงพรุ่งนี้ท่านซีคไปขอโทษเขาด้วยกันนะคะ "
“ เขา ใคร? ”
“ ก็ชาวบ้านคนนั้นที่ท่านซีคพึ่งทำร้ายเขาไป ”
“ แต่ก่อนหน้านี่ข้าพูดไปแล้วนะ ที่บอกให้ข้าทำไง ”
ลูเบลล่าจ้องตาเขม็งทันที ซีคจึงได้แต่ยักไหล่รับทราบ
“ ตกลงๆ ข้าจะไปขอโทษ”
* * *
“ ไม่เป็นไรครับ ข้าหายดีแล้ว ”
ไบรอัน ซูเดะยอมรับคำขอโทษของลูเบลล่าและซีคอย่างสุภาพ ด้วยการรักษาจากลูเบลล่า เขามีรอยยิ้มที่เหมือนคนพึ่งได้รับโชค ช่างดูซื่อบื้อดี – ไม่ ดูดีละกัน
ซีคยิ้มอย่างพอใจและพยักหน้าก่อนหันไปทางลูเบลล่า
“ เขาบอกแล้วว่าไม่เป็นไร ”
“ นี่ท่านช่วยขอโทษจากใจ… ”
“ ไม่เป็นไรแล้วครับท่านหญิง ข้าสบายดีจริงๆ ”
ด้วยคำพูดของซูเดะ ซีคยกคางสูงขึ้นเหมือนจะบอกว่าเห็นไหม ลูเบลล่าที่ต้องการพูดมากกว่านี้จึงต้องพอก่อนเพราะคิดว่าที่พูดไปยังไม่เข้าหัวซีคแน่ๆ
“ ยังไงฉันต้องขอโทษจริงๆนะค่ะ ขอโทษแทนเขาด้วย ”
“ ไม่ มันไม่เป็นไรจริงๆครับ "
“ นอกจากนี้ ท่านหญิงก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านหญิงจะขอโทษข้าทำไมครับ ”
“ ส่วนหนึ่งก็ความผิดฉันเหมือนกันค่ะ เป็นเพราะคำแนะนำของฉันที่ทำให้ท่านต้องรับเคราะห์ ”
แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะคำแนะนำของลูเบลล่าไม่ดีหรอก ใครจะคิดว่าจะมีคนตีความไปในทางเลวร้ายขนาดนี้ แต่ยังไงลูเบลล่าคิดว่าตนมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย
“ ท่านหญิงช่างเป็นคนดีเหลือเกิน สมแล้วที่เป็นคนจากคารุวิมาน ”
“ ไม่หรอกค่ะ ฉันยังมีข้อผิดพลาดตั้งเยอะ ”
เหมือนว่าเธอจะดีใจที่ศาสนจักรของเธอได้รับคำชม จึงมีรอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นตรงมุมปาก
“ ว่าแต่เรื่องเกิดจากอะไรค่ะ พวกเขาถึงพุ่งเป้ามาทำร้ายท่านซูเดะ ”
ลูเบลล่ามองไปที่ทั้งซีคและซูเดะเพื่อค้นหาความจริง คนที่ตอบก่อนคือซีค
“ ข้าก็ไม่รู้สาเหตุทั้งหมดหรอก พวกนั้นแค่บอกว่าซูเดะมีของสำคัญที่ต้องได้มา ”
" ของสำคัญนั้นคืออะไรค่ะ?"
" ข้าก็ไม่รู้ "
" อะไรนะ! ท่านยังไม่รู้ ก็ลงมือกับเขาเลยเนี่ยนะ? "
“ ก็จุดสำคัญคือการได้ของสิ่งนั้นจากหมอนี่ เรื่องอื่นข้าก็เลยไม่ได้สนใจ ”
“ ทำไมท่านซีคทำตัวแย่แบบนี้ หรือท่านก็เป็นคนแบบพวกนั้นด้วย ”
“ ไม่ใช่ข้าบอกแล้วหรอ? ที่ผ่านมามีชีวิตอยู่อย่างโหดร้ายหนะ ”
ใบหน้าของซีคเหมือนกับเคลือบด้วยเหล็ก บอกเรื่องตัวเองทำไม่ดีได้อย่างภูมิใจ ในจุดนี้แม้แต่ฮานที่มาด้วยยังถอนหายใจ
‘ ท่านซีคหมายถึงอะไรใช้ชีวิตอย่างโหดร้าย ตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้ไปลำบากที่ไหนไม่ใช่หรอ ’
แต่พอฮานนึกถึงสภาพแวดล้อมที่ซีคโตมา
‘ เออจะว่าไป เหตุการณ์ที่สตีลวอลล์กับท่านซีคมันก็เลวร้ายจริงๆแหะ ’
ฮานยิ่งคิดเรื่องนี้ยิ่งเสียใจถ้าในอดีตเขารักษามารยาทไว้ไม่ปากหาเรื่อง ซีคคงไม่ลากเขาออกมาจากปราสาทแล้วต้องมาทนทุกข์แบบนี้
ลูเบลล่ารู้สึกว่าจะไม่ได้รู้อะไรเพิ่มจากซีคจึงหันไปมองด้านซูเดะแทน
“ ท่านซูเดะกรุณาบอกปัญหาให้เราฟังได้ไหมค่ะ "
" ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเปิดเผย แต่พวกเราอาจจะช่วยคิดหาทางออกได้ ”
ลูเบลล่าค่อยๆโน้มน้าวอย่างอย่างนุ่มนวล แต่ตัวซูเดะค่อนข้างลังเลจะเล่าดีหรือไม่
“… ก่อนอื่น ข้านั้นไม่ได้มีของสำคัญอย่างที่เขาบอก” ซูเดะพูดขณะชี้ไปที่ซีค
“ ไม่มีของที่พวกเขาพูดถึง? ”
“ ใช่ครับ พวกนั้นแค่อ้างเพื่อจะหาเรื่องรังควานและข่มขู่ผมครับ ”
“ งั้นก็หมายความว่าพวกนั้นมีเจตนาร้ายจากเรื่องอื่นนิค่ะ ”
“ ครับ เพราะพวกเขามีสิ่งที่ต้องการจากผมอยู่ ”
ซูเดะมองไปรอบๆพาให้ทุกคนในห้องหันมองตาม ที่พวกเขาอยู่คือร้านค้าเก่าๆ มีเสื้อผ้าม้วนผับเรียบร้อยอยู่ตามชั้นที่ผุผัง ใยแมงมุมแขวนอยู่มุมห้อง พื้นร้านมีร่องรอยคราบสนิมที่ดูแล้วพยายามขัดแต่ไม่ออก
เป็นร้านของซูเดะนั้นเอง ที่โครงนั้นสร้างจากไม้และตอนนี้พร้อมจะพังลงได้ทุกเมื่อ
“ มันเป็นร้านที่ย่ำแย่มากเลยใช่มั้ยครับ”
ซูเดะกล่าวชี้นำ แต่ลูเบลล่าสายหัวอย่างหนักแน่น
“ ไม่ค่ะ มันเป็นร้านค้าที่ดีค่ะ เราไม่สามารถตัดสินบางสิ่งจากแค่ตาเห็นได้ "
“ กระผมรู้สึกขอบคุณมากที่ท่านหญิงลูเบลล่าให้เกียรติ ”
“ ใช่ครับที่นี่พิเศษสำหรับเรามาก เพราะเปิดมาตั้งแต่สมัยคุณปู่เราอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้เพราะร้าน แต่มันไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดเลย ” ซูเดะกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยตัวเอง
“ น่าสังเวทดีนะครับเมื่อก่อนมันมีค่าแค่สำหรับพวกเรา คนอื่นยังแทบไม่ชายตามองเลย แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ”
“ ตอนนี้มันต่างกับเมื่อก่อนยังไงหรือค่ะ ”
“ ก่อนเข้ามาพวกท่านได้สังเกตุดูรอบๆไหมครับ ”
“ ใช่ค่ะ สถานที่ส่วนใหญ่กำลังถูกสร้างใหม่ ”
“ ก็เพราะว่าเมื่อไม่นาน พื้นที่แถวนี้ได้ถูกตัดสินแล้วว่าจะกลายเป็นเขตการค้าสำคัญ ”
“ และร้านของผมได้รวมอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีไหมครับ ”
ปอร์ติเป็นเมืองการค้าขนาดใหญ่ ด้วยความได้เปรียมทางภูมิศาสตร์ด้านการค้าและได้สิทธิพิเศษบริหารจัดการเมืองเองจากอาณาจักร ธุรกิจจึงมีความสำคัญมากจึงต้องมีการจัดพื้นที่ให้เหมาะสม
“ พวกนั้นพยายามเข้าซื้อร้านของคุณใช่มั้ยค่ะ ”
จากคำถามของลูเบลล่า ซูเดะพยักหน้าหนักๆ
“ คราวก่อนที่พวกเขามา พวกเขาขอให้ผมยกร้านนี้ให้ แต่ผมไม่คิดจะปล่อยสถานที่แห่งความทรงจำของปู่และพ่อให้กับคนอื่นเลย… ”
“ พวกอันธพาลคงเริ่มมาก่อกวนท่านซูเดะตั้งแต่ตอนนั้นสินะค่ะ ”
ซูเดะนิ่งไม่ตอบ แต่ทุกคนรู้ว่าหมายถึงอะไร
“ พวกเขาเป็นกันใครกัน ”
“ คนจากกลุ่มการค้าไซเรนครับ พวกเขากำลังสร้างอาคารอยู่ถัดจากร้านนี้ไป สิ่งที่ข้ารู้มาพวกเขาจะเปิดหอการค้าขนาดใหญ่เลยต้องการพื้นที่ร้านของข้าด้วย ”
“ แสดงว่าก็เป็นการใช้กำลังข่มขู่เพื่อยึดร้านนิค่ะ ” น้ำเสียงของลูเบลล่ามีความเศร้า
“ แล้วการขอความช่วยเหลือจากทางการละ ”
“ ไม่มีประโยชน์ครับท่านหญิงพวกเขามีการติดสินบนกับทางการแล้ว ที่สำคัญหัวหน้ากลุ่มการค้าไซเรนยังเป็นน้องชายคนสนิทของผู้ปกครองเมือง ”
“ อันที่จริง ผู้ปกครองเมืองปอร์ติมีข่าวลือไม่ดีเยอะมากครับท่านหญิง ”
หนึ่งในอัศวินศักดิ์สิทธิ์อธิบายเพิ่มแก่ลูเบลลล่า ทำเอาเธอยิ่งรู้สึกไม่ดีกว่าเดิมอีก
“…ตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะลองเข้าพบกับผู้ปกครองเมือง”
“ ว่ายังไงนะครับ?! ” ซูเดะถามด้วยความสับสน
“ ขอวิงวอนเทพการุณานำทางให้ฉันทำมันเพื่อชดใช้บาป ”
ลูเบลล่ายิ้มอย่างมั่นใจ
“ ท่านหญิงลูเบลล่าครับ สำหรับพวกเราศาสนจักร…”
" ฉันรู้ค่ะ ถึงเราจะได้รับความเคารพนับถือ แต่เราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง”
ลูเบลล่าพยักหน้าตอบให้กับคำเตือนของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ คารุวิมาณเป็นเหมือนศาสนาที่มีคนนับถือจำนวนมากซึ่งมันจบแค่นั้น แม้แต่ราชวงศ์หรือขุนนางบางคนที่เคยก้มหัวยินดีรับพร อาจจะลบรอยยิ้มแล้วแสดงความอาฆาตได้ หากพวกเธอพยายามล่วงเกินหรือทำลายผลประโยชน์ของพวกเขา
‘ แม้ว่าฉันไม่สามารถสั่งพวกเขาตรงตรงได้ แต่ก็พอมีน้ำหนักให้พวกเขาพิจารณา ’
แต่ถ้าในเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดก็จะส่งผลไปถึงศาสนจักร
“ ฉันรู้ดีว่าถ้าเราเข้าไปก้าวกายในทุกเรื่อง คารุวิมานจะถูกมองว่าไม่ใช่ศาสนาอีกต่อไป ”
" และจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีขั่วอำนาจอื่นมองว่าคารุวิมานเป็นอันตรายแทน "
“ แต่สำหรับฉันแล้วเราควรยึดมั่นในศรัทธาและช่วยเหลือผู้อ่อนแอ นี้แหละที่ทำให้ผู้คนรักและเคารพเราต่อไป ”
แม้จะมีอันตรายจากอิทธิพลภายนอกที่ต้องระวัง แต่ความดีเหล่านี่ทำให้ตลอดหลายทศวรรษคารุวิมานจึงยังเป็นที่รักและเคารพจนวันนี้
อัศวินศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะห้ามปรามหรือปล่อยผ่าน สิ่งที่ต้องการคือแนะนำเพื่อความปลอดภัยแก่ลูเบลล่าที่พวกเขาติดตาม
“ ท่านหญิง ไม่เห็นต้องทำให้เรื่องบานปลายเพื่อข้าเลยครับ ”
ซูเดะเองที่ห้ามลูเบลล่าด้วยความลำบากใจ
“ ไม่เป็นไรค่ะท่านซูเดะ ไม่ใช่แค่เพื่อท่านแต่เราในฐานะสาวกของเทพการุณา ไม่สามารถละเลยเรื่องอยุติธรรมได้ ”
“ ฉันจะทำให้ได้เพื่อท่านจะได้ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลนะค่ะ”
“…สำหรับคนดีอย่างท่านซูเดะ ฉันขอภาวนาให้อนาคตของท่านพบเจอแต่สิ่งดีๆสถิตอยู่กับท่านค่ะ ”
ซูเดะโค้งคำนับขอบคุณลูเบลล่า ส่วนซีคไร้ยางอายเหมือนเคยยืนหาวเหมือนบทสนทนาทำให้เขาเบื่อ
“ คุยกันถึงไหนแล้วนะ ? ”
"…ก็! เรื่องนี้ก็ถือว่าพวกเรามีส่วนผิด ฉันตั้งใจจะไถ่บาปด้วยการช่วยท่านซูเดะแก้ปัญหา "
“ และท่านซีคก็ไม่ได้โกหกว่าจะลองทำความดี ต่อไปอยากให้ท่านซีคระวังความรุนแรง คิดให้รอบคอบว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ ”
" เข้าใจแล้วๆ "
“ อย่าลืมสิ่งที่ฉันพึ่งแนะนำไปด้วยนะค่ะ ”
“ หมายถึงการช่วยคนอ่อนแอหรอ แต่ข้าไม่ชอบเรื่องนี้เลย ”
แต่ซีคก็ยักไหล่ “ แต่ถ้าเธอพูดมาฉันก็จะลองทำ ”
“ ขอบคุณค่ะ ”
หลังจากพูดคุยกันเสร็จลูเบลล่าก็กล่าวลาทั้งสอง และออกจากร้านไปพร้อมอัศวินผู้ติดตาม
“ ยังไง ก็ขอโทษละกัน ”
อาจเป็นเพราะคำแนะนำของลูเบลล่าที่ให้ช่วยคนอ่อนแอ หลังจากลูเบลล่าไปแล้วซีคก็ขอโทษซูเดะอย่างงุ่มง่าม
“ ไม่เป็นไรครับข้าไม่นึกถึงมันอีกแล้ว ถ้าท่านรู้สึกผิดก็อยากให้ช่วยเหลือคนอ่อนแอตามที่ท่านลูเบลล่าบอก ”
“ อาโอเค จะลองพยายาม ”
ซีคออกจากร้านพร้อมกับโบกมือลา
* * *
ไม่นานก็เที่ยงคืน ก้อนเมฆที่มืดมิดปกคลุมแสงจันทร์และดวงดาว จึงยากจะมองเห็นว่าพวกเขากำลังไปไหน ฮานที่เดินถือคบเพลิงให้แสงสว่างหันกลับมามองซีค
“ มีอะไรไม่พอใจหรือเปล่าครับท่านซีค ”
สักระยะหนึ่งแล้วที่ซีคกำลังคิดทบทวนอะไรบางอย่าง ถึงฮานจะกลัวที่ต้องปลุกหมาป่ากำลังหลับไหล แต่เขารู้สึกหนาวสั่นจริงๆที่ซีคเดินตามหลังเขาเหมือนผี จึงเลือกถามออกมาดีกว่า
“ ก็สิ่งที่ลูเบลล่าบอกข้ามา มันจะจริงงั้นหรอ ”
แม้ว่าซัคจะไม่ได้เติมคำว่า'ท่านหญิง'นำหน้าชื่อลูเบลล่า แต่ฮานมองว่ามันปกติ ถ้าซีคคนนี้พูดถึงใครอย่างเคารพคงน่าแปลกใจกว่า
“ ท่านซีคหมายถึงเรื่องอะไรหรือครับ ”
“ ที่เธอพูดเรื่องการช่วยเหลือคนอ่อนแอ ”
“ แล้วตรงไหนที่มันดูไม่ถูกครับ ”
“ ข้ารู้สึกว่ามันไม่ถูก ข้าต้องทำอะไรแบบนั้นจริงหรอ หรือเธอกำลังเข้าใจอะไรผิด ”
‘ ข้าว่าท่านนั้นแหละที่เข้าใจอะไรผิดๆ ’
ก่อนหน้านี้ฮานก็ผวากับตรรกะแบบซีคมาแล้ว ตอนที่รู้ว่าซีคช่วยพวกนักเลงทำร้ายซูเดะ จากคำแนะนำให้ช่วยเหลือผู้คน
“ ท่านซีคคิดว่าท่านลูเบลล่าต้องการให้ทำอะไรครับ ”
“ ข้าก็พอเข้าใจส่วนที่เกี่ยวกับการช่วยคนอ่อนแอ แต่เธอพูดเหมือนกับอยากให้ช่วยคนแบบซูเดะ "
“ ไม่ใช่'ดูเหมือน'ครับ แต่'ใช่'ครับ ท่านควรทำเช่นนั้น ”
“ งั้นหรอ ” ซีคเอียงหัวถาม
“ ยังไงข้าก็มองว่าเป็นวิธีที่ผิด แต่มันไม่มีตัวเลือกอื่นก็คงต้องลอง แต่ที่ลูเบลล่าพูด… ”
ฟึบบ!
ซีคหยุดเดินกระทันหัน ฮานจึงต้องหยุดเหมือนกัน
“ มีอะไรครับท่านซีค ”
“ ดูนั่นสิ ”
ซีคชี้ไปด้านหน้า พวกเขาได้เดินมาแถวที่ไม่มีคนอาศัยโดยไม่รู้ตัว ทางซ้ายเป็นลำน้ำไหลเป็นสาย ด้านขวาเป็นบ้านเก่าทรุดโทรมไม่มีแสงไฟ เพราะมันว่างเปล่าหรือคนหลับอยู่กันแน่นะ
ฮานเพ่งสายตาไปมองอยากรู้ว่าซีคชี้อะไร
“คือ… คนหรือครับ?” ฮานกำลังสับสน
ร่างที่เห็นลางๆรูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่ไม่รู้ว่าเป็นมนุษย์จริงไหม เพราะเงานั้นมีการขยับตัวที่แปลกประหลาด
“ มันไม่ใช่คน ”
" อะไรนะครับ แล้วมันคืออะไรครับท่านซีค”
ก่อนที่ฮานจะได้ยินคำตอบ ร่างเงานั้นก็เข้ามาในระยะของแสงไฟ แถมส่งกลิ่นเหม็นที่น่ารังเกียจ
“ แต่ว่ามันคือซอมบี้ ”
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 491
ความคิดเห็น
ซอมบี้ก็มา
แสดงความคิดเห็น