วาฬโต้คลื่น 3 หัวเขียวเป็นพี่เปอร์
วาฬโต้คลื่น 3 หัวเขียวเป็นพี่เปอร์
โชคชะตา หรือชะตากรรม...
เอาให้แน่ ๆ เหอะ
"อย่าเอาโชคชะตามาอ้างหน่อยเลย สระนี้เขาไม่ให้ว่ายน้ำหลังหกโมงเย็น"
ยังคงจะยืนกรานย้ำถึงกฎของสระที่ได้ตั้งไว้ ทว่าคนตรงหน้าเหมือนจะไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดอะไรเลย เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างกวน ๆ พลางใช้สายตาไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
ไอ้โรคจิตบ้ากาม!
ไอ้เฮงซวย!
"ชุดดีนะ อยากได้สักตัวต้องไปซื้อไหน"
โรคจิตแน่ ๆ เขาอยากได้ชุดนอนลายวาฬ
ไอ้ผมเขียวนี่อยากได้ชุดนอนลายเดียวกับฉัน แถมยังไม่สนคำเตือนของฉันซะด้วย
"ไม่มีขายแล้ว"
นี่ม๊าซื้อมาฝากตอนแอบหนีไปเที่ยวที่เกาหลีกับป๊า แต่ถึงรู้ว่าซื้อมาจากร้านไหนวาฬก็ไม่บอกหรอก
เป็นผู้ชายใส่แค่บอกเซอร์นอนก็พอปะ เรื่องมาก...
"หึ...งั้นไปยืมที่ห้อง"
เขาหัวเราะในลำคอและสาวเท้าเข้ามาใกล้จนฉันต้องรีบขยับถอยหลังออกห่าง
"ไม่ให้ยืม นายใส่ไม่ได้ ชุดมันเล็ก"
นี่กำลังเถียงกับผู้ชายตัวใหญ่ที่น่าจะบรรลุนิติภาวะอยู่ใช่ปะวะ สาบานสิว่าไม่ได้กำลังคุยอยู่กับเด็ก 5 ขวบ
"เหรอ? แล้วมาที่นี่ทำไม"
เขาเลิกคิ้วถาม แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนคำถามเอาซะดื้อ ๆ
"มาหาของ"
ไม่บอกหรอกนะว่ามาหาสร้อยรูปฉลาม ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่หัวเขียวก็อยากจะขอความช่วยเหลืออยู่หรอกแต่คนนี้ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด จิตใต้สำนึกมันร้องเตือนดังก้องว่าอยู่ให้ห่างจากไอ้หัวเขียวนี่ให้มาก ๆ
"ของอะไร"
"ทำไมต้องบอก"
"ตามใจ เก็บของหายได้ถ้าไม่มีเจ้าของก็ดีเหมือนกัน"
พอได้ยินว่าเก็บของหายได้ คนหัวเขียวก็ชูมือขึ้นก่อนจะปล่อยสร้อยรูปฉลามที่คุ้นเคยลงมาตรงหน้าให้ฉันดู
มันแกว่งไปมาและมีแสงระยิบระยับเมื่อถูกแสงไฟดวงเล็ก ๆ สาดส่อง
"เอามานะ! "
เตรียมจะเอื้อมมือไปคว้าแย่งสร้อยจากมือของเขา ทว่ากลับคว้าได้เพียงอากาศเมื่อมือหนาชักกลับพร้อมกับเอาสร้อยของฉันไปซ่อนไว้ที่ด้านหลัง
"ไม่ใช่ของเธอแล้ว"
"ของฉัน อย่ามาหน้าด้านเอาของคนอื่นดิวะนาย"
"ก็เมื่อกี้ถามทำไมไม่บอกล่ะว่าอะไรหาย แบบนี้จะแน่ใจได้ไงว่าเป็นของเธอจริง ๆ "
ไอ้หัวเขียวนี่! ทำมาเป็นหัวหมอเหรอ
"ก็ของฉันจริง ๆ ไง มันจะเป็นของคนอื่นได้ไงในเมื่อตอนเย็นฉันมาว่ายน้ำที่นี่คนเดียว"
"มันอาจตกวันอื่นแล้ว"
"โอ๊ย! อะไรนักหนาวะก็บอกของฉันไง ของฉันอะ"
มันน่าโมโหนะที่ต้องมาเถียงอยากจะได้ของที่อยู่กับคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นของเราตั้งแต่แรกอะ
มันโคตรน่าโมโหเลยว่ะ อยากข่วนหน้าให้เลือดซิบไปข้างเลยแม่ง!
"พูดกับผู้ใหญ่ให้มันดี ๆ หน่อย"
"ใหญ่แต่ตัวอะดิ ทำไมต้องพูดดีด้วย"
ตอบกลับเสียงฉุน ในขณะที่หัวก็กำลังคิดหาวิธีจะเอาสร้อยคืนจากไอ้คนหัวเขียวให้ได้
"อายุ 25 เมื่อวาน ทีนี้เป็นผู้ใหญ่ได้ยัง"
"ใครถาม ไม่ได้อยากรู้"
นี่ถ้าไม่โง่ดักดาน ก็คงเป็นคนที่ไม่เอาการเอางานจริง ๆ ถึงปล่อยให้ตัวเองเรียนไม่จบจนถึงทุกวันนี้
"เอาสร้อยคืนมาได้แล้ว เดี๋ยวลุงยามออกจากห้องน้ำมาเจอได้ซวยกันหมด"
ฉันเลี่ยงที่จะหยุดคิดเรื่องของเขาต่อ พร้อมกับแบมือไปตรงหน้าคนร่างสูงที่ยังคงเอามือข้างขวาที่ถือสร้อยของฉันอยู่ไขว้หลังไว้
"อยากได้มาก? "
"เออดิ ของตัวเองทำไมจะไม่อยากได้"
"อยากได้ก็ตามมาเอาที่ห้อง"
"เฮ๊ย! จะไปไหนวะ"
หลังจบประโยคนั้นไอ้คนหัวเขียวที่มีน้ำหยดไหลติ๋ง ๆ ก็หมุนตัวเดินไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เดือดร้อนให้ฉันต้องวิ่งตามพร้อมกับตะโกนเรียก...
ลืมไปสนิทว่าก่อนจะเข้ามาที่สระนี่ได้ต้องย่องเบาจนแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนแมวเดิน แต่ตอนนี้ดันมาแหกปากเสียงดังเรียกไอ้ผู้ชายหัวเขียวจนลุงยามที่คาดว่าคงออกจากห้องน้ำมาได้สักพักเดินตึกตักส่องไฟฉายมาจากที่ไกล ๆ
"ใครน่ะ!? "
"เชี่ย เวรแล้วไงวาฬ"
ฉัยสบถหยาบก่อนจะรีบวิ่งแซงไอ้หัวเขียวไปซ่อนที่หลังเสา ในขณะที่ไอ้ตัวต้นเหตุไม่แม้แต่จะสะทกสะท้านแสดงสีหน้าหวาดกลัวเลยด้วยซ้ำ
"มานี่"
ฉันทำท่ากวักมือเรียกเขา แต่ไม่นานกลับถูกฉุดรั้งมือให้วิ่งตามคนตัวใหญ่เข้ามาภายในห้องอาบน้ำฝั่งผู้ชาย
"พามาทำไม หลบอยู่หลังเสาลุงก็ไม่เห็นแล้วปะ"
โวยวายเขาเสียงเบาเมื่อยังไม่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระง่าย ๆ มือใหญ่ข้างซ้ายลากฉันเร็วมากจนต้องรีบวิ่งตามไม่งั้นคงมีถูไปกับพื้นแน่ ๆ
"คิดไรตื้น ๆ วะ หุบปากเหอะถ้าไม่อยากโดนจับได้"
เขาผลักตัวฉันเข้ามาในห้องอาบน้ำห้องในสุด ก่อนจะแทรกตัวตามเข้ามาแล้วปิดประตูลงกลอนอย่างเบามือ
"นักศึกษา! ถ้าไม่อยากให้ลุงดูกล้องวงจรแล้วเอาเรื่องนี้ไปแจ้งกับมหา'ลัยก็รีบออกมา"
เสียงตะโกนขู่ของลุงดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จากที่คาดคะเนน่าจะอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าห้องอาบน้ำ แต่ลุงจะเล่นกันแบบนี้เลยจริงเหรอ แล้วถ้าออกไปสารภาพบาปตอนนี้มันจะทันใช่ปะ
"นี่ ออกไปสารภาพกับลุงแกเหอะ ลุงแกใจดีครั้งแรกคงไม่เอาความ"
เพราะตอนนี้มีกันอยู่สองคน ฉันเลยจำใจต้องหันไปบอกเขาก่อนแม้จะไม่ได้อยากปรึกษากับคนหัวเขียวเลยสักนิดก็ตาม
"อยู่เฉย ๆ น่า"
ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ไอ้หัวเขียวนี่ไม่กลัวอะไรเลยเหรอวะ
ถึงว่า...ไม่งั้นคงเรียนจบตั้งนานสินะ
ไม่มาเป็นพี่เปอร์*แก่คร่ำครึอยู่ในมอแบบนี้หรอก
"ไม่ไปก็ตามใจ จะไปเอง ถอยหน่อย"
ในเมื่อเขาปอดแหกวาฬเลยจะไม่สนแม่ง เบียดตัวกับเขาตั้งใจว่าจะเปิดประตูออกไปสารภาพกับลุงตรง ๆ ทว่ามือยังไม่ทันปลดล็อกกลอนด้วยซ้ำก็ถูกคนตัวใหญ่ดันตัวเข้ามาจนชิดแนบติดกับผนัง
ปึก...!
มันไม่ได้แรงมาก แต่มันก็เจ็บอยู่พอสมควร
"ทำห่าไรวะ จะออกไป! "
ฉันนิ่วหน้าอย่างโกรธจัด พยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากพันธนาการของเขาแต่ก็สู้แรงไม่ได้
ไอ้หัวเขียวนี่แรงเยอะจัดเลย
"อยู่เงียบ ๆ เหอะ ถ้าไม่อยากซวย"
"ใครน่ะ! ออกมานะอย่าให้ลุงต้องใช้กำลัง "
"ผมเอง"
หลังจากได้ยินคำขู่สุดจะห้าวจัดของลุง ไอ้หัวเขียวก็รีบตะโกนตอบกลับไปทันที
"อ้าว? คุณคลื่นเองเหรอครับ"
คลื่น....
คลื่น....ใช่คนเดียวกับที่นิลกับนุ่นมันกรี๊ดแล้วลากฉันไปที่สนามแข่งรถเมื่อวานปะวะ
"ครับ ผมจะกลับแล้ว ลุงไปเถอะ"
ทำไม ทำไมหัวเขียวถึงดูมีอำนาจแล้วสั่งลุงยามได้ล่ะ
ทำไม....
"ครับ ๆ เอ....แต่เมื่อกี้ลุงได้ยินเสียงเหมือนเป็นผู้หญิง"
"ผมดูคลิปในโทรศัพท์ลุง ไม่มีอะไรหรอก"
"อ๋อออ โอเคครับลุงเข้าใจ งั้นลุงไปก่อนครับ"
"ครับ"
หลังเขาตอบรับกลับ เสียงเดินตึกตักของลุงก็เริ่มห่างไกลออกไปจนเสียงเงียบลง แต่ฉัน...ฉันนี่ดิ
งงเป็นไก่ตาแตกเลยเว้ย
"นายเป็นใครวะ มีอภิสิทธิ์อะไรทำไมถึงมาใช้สระว่ายน้ำมอตอนกลางคืนแบบนี้ได้"
"ไม่จำเป็นต้องบอกมั้ง"
ทว่าแทนที่เขาจะตอบคำถามของฉันให้หายคับข้องใจกลับเลิกคิ้วหนานั้นขึ้นสูงและยอมผละตัวออกห่างจากฉันก่อนจะเปิดประตูเดินออกจากห้องอาบน้ำด้วยท่าทีไม่ยี่หระ
ไอ้ห่านี่...
เอาอีกแล้วนะ ทำไมยอกย้อนเก่ง
"เออ ไม่จำเป็นต้องรู้เหมือนกัน จะกลับแล้วเอาสร้อยคืนมาได้แล้ว"
"ก็บอกให้ไปเอาที่ห้อง"
เป็นอีกครั้งที่ฉันแบมือไปขอสร้อยจากเขาและได้รับเพียงความว่างเปล่า กับคำพูดที่....
น่าโมโห!
"ใครมันจะไปวะ เอาคืนมาได้แล้ว สร้อยมันไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอก เอาไปขายต่อก็ไม่ได้ราคาสูงด้วย"
"ไม่ได้จะขาย จะใส่เอง"
"ห้ามใส่นะ! "
พอเห็นว่าเขาทำท่าจะหยิบสร้อยของฉันขึ้นมาใส่จริง ๆ จึงรีบตะโกนห้ามไว้แทบไม่ทัน
"หึ...หวง? "
"หวงดิ ของของใครก็หวงทั้งนั้นแหละ"
ปกติฉันไม่ได้หวงของขนาดนั้นหรอก หายก็แค่ซื้อใหม่แต่สำหรับของบางอย่างที่มีคุณค่าทางจิตใจมันก็เป็นข้อยกเว้นสำหรับทุกอย่าง
จำได้ว่าตอนมอสองเคยซื้อกำไลแขนถักมือคู่กับเพื่อนที่สนิทกันมาก แล้ววันหนึ่งเสือกทำหายเห็นเพื่อนร้องไห้เพราะความสะเพร่าและความเลินเล่อของเรามันก็รู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ
สุดท้ายแม่งวาฬบอกทุกคนในบ้านให้ช่วยหา แล้วก็เจอมันในที่สุด ถึงแม้ตอนนี้จะเก่ามาก ๆ แล้วแต่ก็ยังเก็บใส่ไว้ในตู้ที่บ้านเป็นอย่างดีเพราะมันคือของที่แสดงถึงมิตรภาพที่ดีของเรากับเพื่อน
มันเป็นเหมือนตู้เก็บความทรงจำที่มีค่ากับคนสำคัญในชีวิตของเราเลยนะ
สร้อยนี่ก็เหมือนกัน
มันคือความรู้สึกดี ๆ เพียงสิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ของฉันกับคนคนหนึ่ง
แล้วอยู่ ๆ ไอ้คนแปลกหน้าหัวเขียวคิดจะหยิบมาใส่หน้าด้าน ๆ งี้เหรอ
ทนไม่ได้ว่ะ
"ขอร้องล่ะ คืนสร้อยฉลามมาให้เถอะนะ แล้วถ้านายอยากจะได้เงิน อยากได้ของกิน หรืออยากได้อะไรก็บอกมาจะหามาให้หมดเลย"
หมายเหตุ :
พี่เปอร์* คือ คนที่เรียนเกินตามระยะเวลาที่หลักสูตรกำหนด เช่น ระบุระยะเวลาเรียนตามหลักสูตร 4 ปี แต่เรียนจบเกินระยะเวลาที่หลักสูตรกำหนด เราจึงจะเรียกคนเหล่านี้ว่าเด็กเปอร์ หรือ พี่เปอร์
สร้อยฉลามคงสำคัญกับวาฬมากจริง ๆ นะ พี่หัวเขียวก็คืนน้องมันไปหน่อยเถอะ
#คนเถื่อนหัวใจมุ้งมิ้ง
เพจ: นางฟ้าดาวตก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 369
แสดงความคิดเห็น