ภูพิง-อิงธารา บทที่ 8 nc

ภูพิง-อิงธารา
คุณกำลังอ่าน: ภูพิง-อิงธารา

-A A +A

ภูพิง-อิงธารา บทที่ 8 nc

หมวดหนังสือ: 

 

เมฆดำก่อตัวขึ้นทางทิศตะวันออกบดบังแดดยามสายทำให้บริเวณที่อิงธารายืนรดน้ำต้นไม้จากสายยางไม่ร้อนจนเกินไป ยามร่างยักษ์ที่เธอมารู้จักชื่อภายหลังว่าชื่อนายไผ่ ลากสายยางมาให้ก่อนจะไปยืนประจำตำแหน่งของตัวเอง ทำให้การรดน้ำต้นไม้ในสวนสะดวกสบายมากกว่าที่คิด

 

เหตุที่อิงธาราได้เปลี่ยนมาดูแลสวนอย่างกระทันหันแทนการดูแลเจ้าของบ้านจอมหื่นนั้นก็เพราะว่า มันเริ่มจากเมื่อเช้าวานเธอตื่นสายเพราะนอนน้อย ทั้งยังไม่มีเสียงนาฬิกาปลุก กว่าที่เธอจะตื่นก็ปาไปเก้าโมงกว่านั่นแล้ว พอวิ่งหัวซุกหัวซุนลงมาก็เจอกับเจ้าของบ้านยืนทำหน้าถมึงทึงรออยู่ เขาไม่พูดอะไรแต่เดินไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าว

 

หญิงสาวได้แต่ยืนอยู่หน้าตู้เย็นไม่รู้ว่าจะเริ่มทำอะไรก่อนหลัง ภายในตู้เย็นมีแต่ของสดอัดแน่นจนเต็ม เธอได้แต่ยืนบื้อใบ้ นึกเมนูที่จะทำนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก จึงคว้าไข่จากแผงมาสี่ห้าใบตอกใส่ชามใช้ส้อมตีๆ ให้เข้ากัน แล้วหันไปติดเตา ตั้งกระทะอุ่นน้ำมัน โดยลืมปรุงรสชาติ จากนั้นก็รีบเทไข่ทั้งชามลงกระทะทั้งที่น้ำมันยังไม่ร้อนเลยด้วยซ้ำ

 

เสียงฉ่าจากกระทะดังเบาจนเธอกังวล แต่หญิงสาวก็ไม่นำพา ปล่อยไข่ให้อยู่ในกระทะเพราะคิดว่าอีกนานกว่าไข่จะสุก แล้วหันหาหม้อหุงข้าวเพื่อเตรียมหุงข้าวต่อไป ขณะที่เธอกำลังง่วนอยู่กับการหุงข้าวอยู่นั้น กลิ่นไหม้จากกระทะก็อวลเต็มห้องอาหาร สุดท้ายอาหารมื้อนั้นเป็นเจ้าของบ้านหนุ่มจัดการเอง โดยอิงธาราได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆ อยู่ห่างๆ ส่วนที่หญิงสาวทำเสียหายไว้นั้น เขาให้เธอรับผิดชอบ โดยเป็นอาหารส่วนในมื้อของเธอ ดังนั้นอิงธาราจึงต้องกินไข่เจียวไหม้ปิ๊ดปี๋และข้าวหุงสุกๆ ดิบๆ จากฝีมือของตัวเองอย่างกล้ำกลืนฝืนทน

 

หลังจากที่อิงธาราจัดการกับอาหารมื้อเช้าเรียบร้อย ชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็พาเธอไปยังหน้าห้องนอนของเขาที่มีตะกร้าผ้าใบเขื่องตั้งอยู่สองใบ ภายในบรรจุเสื้อผ้าใช้แล้วจนเต็มหญิงสาวได้แต่ก่นด่าสาปแช่งเขาในใจก่อนจะลำเลียงตะกร้าทั้งสองลงลิฟท์ไปยังห้องซักล้างที่เขาแนะนำเธอไว้ก่อนหน้านั้น โชคร้ายยังไม่หมด เมื่อเครื่องซักผ้าดันมาเสียพอดิบพอดี ร่างบางจึงต้องลากตะกร้าผ้า ออกไปยังลานด้านหลังอย่างทุลักทุเลตามคำแนะนำของเขา แต่ที่น่าเจ็บใจ คือกะละมังซักผ้าใบใหญ่สองสามใบที่วางรอพร้อมสายยาง นั่นหมายความว่าเขามั่นใจว่ามันจะต้องได้ใช้แน่ๆ และอิงธารามั่นใจเลยว่าการที่เครื่องซักผ้าใช้งานไม่ได้นั้น เกิดจากความตั้งใจของชายชื่อภูพิงล้วนๆ

 

เมื่อเธอไม่มีแรงมากพอที่จะจัดการภูพิงได้ ก็ขอเอาคืนเขาสักเล็กน้อยก็ยังดี หญิงสาวเริ่มลงมือซักผ้าโดยเปิดน้ำใส่กะละมังทุกใบ เลือกเทผงซักฟอกลงในกะละมังใบหนึ่ง ใช้มือตีฟองจนเอ่อออกจากปากกะละมัง โยนกางเกงและเสื้อในตะกร้าลงในกะละมังสองสามตัว โชคยังดีที่ไม่มีชั้นในของเขา ไม่งั้นเธอคงแย่ จากนั้นเธอก็ก้าวเท้าลงมาย่ำในกะละมังอย่างถูกใจ นี่เป็นวิธีการซักผ้าแบบโบราณที่เธออยากจะทดลองมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสสักครั้ง

 

ซักผ้าด้วยมือใครว่าเธอทำไม่เป็น เธอเริ่มซักเป็นตั้งแต่อายุสิบสามโน่นแล้ว ซักเป็นตั้งแต่ที่พ่อย้ายเธอกับป้ามะลิมาอยู่เรือนหลังเล็ก เรือนที่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เธอแม้แต่ชิ้นเดียว ส่วนเสื้อผ้านายภูพิง คนบ้าที่จับเธอมาเพื่อจะแก้แค้นพ่อของเธอนั่นน่ะเหรอ เธอไม่ใช้มือขยี้ให้เสียมือหรอก

 

'คิดจะใช้ฉันเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นพ่อ...นายคงต้องไปทำการบ้านมาใหม่เสียแล้ว...เพราะมันเปล่าประโยชน์' หญิงสาวคิดอย่างขมขื่น แล้วย่ำเท้าลงบนเสื้อผ้าของตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่อย่างสะใจ

 

ไม่นานเลย...ไม่นานจริงๆ เสียงโหวกเหวกโวยวายแสดงถึงอารมณ์โกรธจัดของชายเจ้าของบ้านก็ดังขัดจังหวะอารมณ์สุนทรีของเธอจนหมด

 

'ผิดที่คาดไว้เสียที่ไหนกัน' เธอคิดอย่างขำๆ แล้วเตรียมตัวรับสถานการณ์

 

"อิงธารา...เธอกำลังทำอาร้าย"

 

เสียงตวาดไม่เบาพร้อมกับร่างใหญ่วิ่งเต็มฝีเท้ามาทางเธอ ทำให้หญิงสาวต้องรีบกระโดดออกจากกะละมังเจ้าปัญหาก่อนที่ชายหนุ่มจะเข้าประชิดตัว แต่ก็ต้องตกใจหน้าซีดเมื่อเสื้อเชิร์ตแบรนด์หรูของเขาดั๊นติดเท้าออกมากองกับพื้น จากสีหน้าของเขาที่หน้ากลัวอยู่แล้วกลับยิ่งแย่กว่าเดิมหลายเท่า

 

"เธอทำอะไรกับเสื้อผ้าของฉัน" เสียงถามลอดไรฟันสร้างบรรยากาศกดดันให้เธอไม่น้อย

 

"ก็กำลังซักผ้าให้นายอยู่เนี่ยไง้เล่า ไม่เห็นรึไง" เธอตวาดกลับ เพื่อกลบเกลื่อนอาการหวาดกลัว

 

นี่คือวิธีการซักผ้าของเธอรึไง" เขาคาดคั้นพลางเดินเข้าหาเธอช้าๆ หญิงสาวเองก็ถอยหลังตามจังหวะก้าวเดินของเขา กะว่าเมื่อพ้นรัศมีก็จะวิ่งหนีเอาตัวรอด

 

"ก็ฉันซักผ้าด้วยมือไม่เป็น" เธอปด

 

"พ่อเธอสอนเธอซักผ้าด้วยเท้ารึไง" เขาตวาดอย่างโมโห

 

"ยุคโบราณเขาก็ทำกัน นายไม่เคยเรียนรึไงเล่า" อิงธาราย้อนกลับ หวังว่าการโต้เถียงจะซื้อเวลาให้ได้บ้าง

 

"เธอนี่มันโง่...โง่ยิ่งกว่าคนรับใช้อีก นี่คงเป็นคุณหนูสมองกรวงที่ไม่รู้จักอะไรเลยสินะ"

 

"นายอย่ามาว่าฉันนะ นายมันผิดตั้งแต่ที่จับฉันมาแล้ว และยังให้ฉันทำงานบ้าบอพวกนี้อีก ฉันรู้นะว่านายตั้งใจแกล้งฉัน เชอะ...เครื่องซักผ้าพังพอดี มันบังเอิญเกินไปไหม เด็กอนุบาลยังคิดได้เล้ย" อิงธาราสวนกลับอย่างเดือดดาล

 

ภูพิงไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่กระโดดข้ามกะละมังที่กลั้นกลางตรงไปหาหญิงสาวทันที อิงธาราตัดสินใจก้มหยิบเชิ้ร์ตที่ติดเท้าเธอออกมาโยนใส่เขาเต็มแรง และแน่นอนว่ามันพลาดเป้าเสียที่ไหน แถมยังปะทะใบหน้าเขาเต็มๆ

 

"อิงธารา..." ภูพิงกัดฟันกรอด พร้อมกับกระโจนใส่หญิงสาวที่ตั้งท่าจะวิ่งหนีจนคว้าได้ชายเสื้อของเธอ

 

"โอ๊ย! อิงธาราอุทานอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกกระชากเสื้อเต็มแรงจนเธอเสียหลักล้มหงายหลังลง แต่โชคยังดีที่ร่างของเธอไม่ได้กระแทกพื้น เพราะล้มทับชายหนุ่มแทน

 

หญิงสาวนอนงงอยู่อึดใจ ชายที่รองรับร่างเธอเบื้องล่างก็ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว คงจะมึนจากการล้มกระแทกพื้นเป็นแน่ เธอจึงลุกจากร่างเขาแล้วกระถดตัวออกห่างทันที ท่าเขามีท่าทีคุกคามอีกเธอก็จะได้วิ่งหนีทัน แต่ทว่าเขายังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น อิงธาราเริ่มใจเสีย กลัวว่าเขาจะสลบเพราะหัวกระแทกพื้น เธอจึงตัดสินใจเรียก

 

"นะ...นาย...ตายรึยังน่ะ" เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับจากเจ้าของร่าง หญิงสาวจึงกระถดตัวเข้าใกล้อีกนิด

 

"นายภูพิง..." เธอตัดสินใจเรียกเขาอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีอาการตอบสนองจากคนร่างใหญ่

 

"เฮ้ย! เป็นอะไรมากไหมเนี่ย" เธอเริ่มใจเสีย เมื่อเขายังคงนอนนิ่ง

 

อิงธาราจึงตัดสินใจเข้าใกล้ชายหนุ่มแล้วเอื้อมมือไปอังที่จมูก จังหวะนั้นลำแขนของชายหนุ่มก็ตวัดร่างบางเข้าปะทะอกแกร่ง ก่อนจะโน้มหน้าขึ้นมาประทับจูบปากอิ่ม หญิงสาวตระหนกแต่ก็หลบเลี่ยงไม่ทันการณ์เสียแล้ว

 

เสียงหวานครางอึกอักในลำคอ พยายามดิ้นรนสุดกำลังเพื่อให้หลุดจากลำแขนที่รัดร่างเธอไว้ แต่หญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเขาพลิกร่างเธอลงแล้วเป็นฝ่ายขึ้นคร่อม รวบมือทั้งสองของเธอไว้เหนือศีรษะ และเธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย

 

"ปล่อยฉันนะไอ้บ้า" เมื่อปากเป็นอิสระจากการถอนจูบ อิงธาราไม่รอที่จะผรุสวาทคนที่ดีแต่ใช้กำลังอย่างเขา

 

“ฤทธิ์มากจริงนะแม่คุณ" รอยยิ้มอย่างผู้เหนือกว่าของภูพิงสร้างความกรุ่นโกรธให้กับเธอมากเป็นกำลัง

 

"นายมันเจ้าเล่ห์ ฉันไม่น่าใจดีกับคนอย่างนายเลย"

 

"ช่วยไม่ได้ เธอมันโง่เอง" คำพูดของเขาดั่งราดน้ำมันลงในกองไฟ อิงธาราดิ้นรนสุดกำลังเพื่อจะได้เป็นอิสระ

 

ชายหนุ่มใช้ร่างที่ใหญ่กว่าตรึงร่างบางไว้ แต่ก็ต้องใจหายวาบเมื่อหญิงสาวยกเข่าขึ้นมากระแทก เป้าหมายคือจุดยุทธศาสตร์ของเขา แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะเห็นใจตระกูลพชรวกรที่จะต้องขาดทายาทจากการกระทำในครั้งนี้ จึงดลให้การกระทำของเธอพลาดไปโดนที่หน้าขาแทน

 

ยิ่งล้มเหลวอิงธาราก็ยิ่งดิ้นรนหนักกว่าเดิม ภูพิงจึงเผด็จศึกโดยการก้มลงประทับริมฝีปากหนาลงบนปากอิ่มเพื่อหยุดการดิ้นรนขัดขืนของเธออีกครั้ง จูบครั้งนี้ของภูพิงเนิบนาบเชื่องช้า ขยับลิ้นแผ่วพลิ้วละเลียดวาดลีลาไล้เลียไปให้ทั่วริมฝีปากของอีกฝ่าย ตอดริมฝีปากอวบอิ่มถ้วนทั่ว หยอกเย้าอย่างนุ่มนวล กระทั่งร่างบางอ่อนระทวยราวกับต้องมนตร์ ทั้งยังปลุกความรู้สึกบางอย่างที่หญิงสาวไม่รู้จักให้ค่อยๆ ตื่นขึ้น

 

ทันทีที่คนใต้ร่างเผลอเผยอปาก ปลายลิ้นของชายหนุ่มก็แทรกเข้าไปในโพลงปากอุ่น เข้าไปสำรวจหยอกเอินลิ้นเล็กๆ ที่พยายามหลีกหนีจากการรุกไล่ได้ปลุกอารมณ์หนุ่มให้เดือดพล่านขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ จากแรกเริ่มที่คิดจะปราบพยศแม่เจ้าพระคุณ กลับกลายเป็นว่าเขาถูกเธอดึงลงไปในห้วงเสน่หาอันหอมหวานของโพรงปากนุ่มอย่างถอนตัวไม่ได้

 

"อืม..." ภูพิงครางอย่างพึงใจ

 

ลิ้นร้อนที่รุกไล่ราวกับหิวกระหายมายาวนานกวาดต้อนเอาทุกอย่างในโพรงปากหอมหวานอย่างหนักหน่วง ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ได้จูบเธอไปแล้ว แต่ภูพิงกลับไม่รู้เบื่อ เขาต้องการจูบเธอและสัมผัสร่างกายของเธอทุกครั้งที่มีโอกาส นี่คงไม่ใช่เขาเสพย์ติดเธอไปแล้วหรอกนะ

 

ลิ้นร้ายสำรวจแทะเล็มฟันซี่เล็กเรียงรายจนครบ ยิ่งสำรวจก็ยิ่งหอมหวาน ยิ่งกวาดต้อนก็ยิ่งต้องการมากกว่าที่มีอยู่จนเขาไม่อยากจะหยุดอยู่เพียงแค่นี้แล้ว

 

เมื่อคนใต้ร่างไม่มีอาการต่อต้าน ทั้งยังโอนอ่อนผ่อนตามในทุกการสัมผัสของเขา ภูพิงจึงย่ามใจ เขาถอนริมฝีปากจากปากอิ่ม แล้วเคลื่อนลงมาขบครูดตามลำคอระหง พลางสูดดมกลิ่นกายสาวที่แสนเย้ายวน ก่อนจะฝังรอยจูบหนักๆ ลงตำแหน่งชีพจรที่เต้นแรง

 

มือใหญ่ปล่อยมือเรียวบางให้เป็นอิสระ ก่อนจะแทรกหายไปตามรอยสาบเสื้อที่เปิดอ้าจากแรงกระชากจนกระดุมขาดไปหลายเม็ด เข้ากอบกุมคลึงเค้นอกอวบใต้บราเซียสีหวาน อีกข้างเลื้อยไล้ลงไปตามเรือนร่างเย้ายวนละมุนสอดเข้าในกางเกงวอร์มเอวยืดที่เจ้าตัวสวมใส่ เคล้าคลึงต้นขาเนียนละมุน จนอิงธาราสะดุ้งเฮือกเมื่อมือใหญ่ลูบไล้เบาๆ ต้องเผลอบิดตัวด้วยความเสียวซ่าน ดั่งถูกของร้อนที่นาบลงบนส่วนไหนก็แทบไหม้เป็นจุล

 

อารมณ์พิศวาสที่ปะทุจวนเตลิดเต็มทีพลันสะดุดลง เมื่ออิงธาราสัมผัสถึงสิ่งแปลกปลอมยามเมื่อเขาทิ้งสะโพกให้แนบชิดติดตัวเธอหญิงสาวพลันตื่นตระหนก เบิกตาโพลง สติกลับคืนมาแทบจะทันที เกือบแล้ว...เธอเกือบพลาดท่าเสียทีให้กับรสสัมผัสของเขาเสียแล้ว ขืนปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาเห็นทีคงตกเป็นของเขาสักวันแน่ๆ

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.