บทที่ 220: ตัดหัวแมว
ก่อนแม่ทัพหลี่จะทันได้เห็นว่าสิ่งที่ตกลงมาจากฟ้าคืออะไร เขาก็รู้สึกแสบร้อนบริเวณหน้าพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามา
“อ๊ากกกกก!” ชายชรากรีดร้องพร้อมกับยกมือขึ้นกุมใบหน้าตัวเอง “โอ๊ย! ใครกล้ามาทำร้ายข้า!”
“ตาแก่ตัวเหม็น บังอาจนักนะที่มาลักพาตัวมู่ไป๋ไป่!” เจ้าส้มกางกรงเล็บตะกุยบนใบหน้าของแม่ทัพหลี่ไม่ยั้ง พอเห็นว่ามีใครบางคนวิ่งเข้ามา มันก็รีบสะบัดก้นหนีไป โดยผายลมใส่หน้าชายแก่เป็นการทิ้งท้าย
ฝ่ายถูกโจมตีที่ตั้งตัวไม่ทันยังคงรู้สึกแสบร้อนผิวหน้า แล้วเขาก็ต้องมาเวียนหัวเพราะกลิ่นเหม็นที่รุนแรงจนทำให้ไม่สามารถยืนตัวตรงได้
ในเวลาเดียวกัน ทหารลาดตระเวนที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็รีบวิ่งเข้ามา ก่อนที่เขาจะเห็นแม่ทัพหลี่กำลังทรุดตัวอยู่บนพื้นขณะยกมือปิดหน้าปิดตาพร้อมกับร้องโอดโอย
“ท่านแม่ทัพ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?” ทหารไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เขาจึงตื่นตระหนกมากและวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว “มีมือสังหารมาลอบโจมตีท่านหรือ?”
“ไม่ใช่!” แม่ทัพหลี่ที่นั่งกุมหน้าตัวเองใช้เวลานานกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ ก่อนจะตะคอกออกมาว่า “มันคือแมว! แมวของมู่ไป๋ไป่! พวกเจ้ารีบไปจับแมวของนางมาให้ข้า ข้าจะตัดหัวมันซะ!”
เมื่อกี้เขาได้ยินเสียงแมวร้อง!
ปัจจุบันทั่วทั้งค่ายทหารมีเพียงเด็กผู้หญิงคนนั้นที่อุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนอยู่ตลอดเวลา
มู่ไป๋ไป่คงรู้ว่าเขาตามนางมา นางจึงได้สั่งให้แมวมาลอบทำร้ายเขา!
“หา?” ทหารคนนั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เนื่องจากนี่เป็นคำสั่ง เขาจึงไม่กล้าขัดแม่ทัพหลี่ ก่อนที่เขาจะพาคนวิ่งไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายชี้
ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าส้มวิ่งหนีไปพร้อมกับมู่ไป๋ไป่หลังจากที่ถูกชายชราจับได้
แล้ว 1 คนกับ 1 แมวก็รีบวิ่งกลับไปที่กระโจมของตัวเอง
“ฮ่า ๆๆ เจ้าส้ม เจ้าทำได้ดีมาก!” คนตัวเล็กกุมท้องหัวเราะเสียงดัง “เมื่อกี้เจ้าเห็นสีหน้าของตาแก่คนนั้นหรือไม่?”
“คงจะดีไม่น้อยถ้าหากข้าสามารถถ่ายรูปเขาเก็บเอาไว้ได้!”
“ฮึ! ถ้าแมวตัวนี้ต้องลงมือ มันย่อมสำเร็จอย่างแน่นอน” แมวส้มสะบัดตัวอย่างเย่อหยิ่งจนทำให้ไขมันทั่วตัวของมันสั่นเทา “ว่าแต่ ‘ถ่ายรูป’ ที่เจ้าพูดหมายความว่าอย่างไร?”
มู่ไป๋ไป่ที่ถูกตั้งคำถามเช่นนั้นก็ตอบอ้อมแอ้มออกมาว่า “อ๋อ เอ่อ… ข้าแค่ดีใจจนอยากจะเก็บภาพนั้นเอาไว้ชื่นชมน่ะ”
เธอกลอกตาไปมาแล้วคิดว่าเจ้าส้มคงยังไม่เข้าใจ ดังนั้นเธอจึงหาคำมาอธิบายแบบลวก ๆ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อคุย “ในอีกไม่ช้าแม่ทัพหลี่คงจะมาเอาเรื่องเจ้าถึงที่นี่ เจ้าส้ม เจ้าหนีไปซ่อนก่อนเถอะ”
ทั้งกองทัพรู้ดีว่าไม่นานมานี้มีแมวอยู่ข้างกายเธอตลอด แม่ทัพหลี่ที่ถูกแมวข่วนย่อมจะต้องพาคนมาจัดการถึงที่นี่แน่นอน
“ถ้าข้าไปซ่อนแล้วเจ้าจะทำอย่างไร?” เจ้าส้มกระโดดขึ้นไปที่ขอบหน้าต่างแล้วหันกลับมาถามเด็กหญิงอย่างลังเล “ถ้าตาแก่นั่นหาเรื่องเจ้า เจ้าจะทำเช่นไร?”
“อิอิ เจ้าไม่ต้องกังวล” มู่ไป๋ไป่ยืดอกเชิดหน้าในขณะที่ตอบ “เจ้าคงเคยเห็นมาบ้างแล้วว่าข้าสนิทกับฮ่องเต้หนานซวนแค่ไหน”
“ขอเพียงเราทำให้เรื่องนี้ไปถึงหูฮ่องเต้หนานซวน แม่ทัพหลี่ก็ไม่สามารถทำอะไรข้าได้”
หลังจากแมวส้มนิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง มันก็รู้สึกว่าเป็นไปตามที่อีกฝ่ายบอก จากนั้นมันจึงแอบหนีออกไปทางหน้าต่างตามคำแนะนำของคนตัวเล็กเพื่อไปหาที่ซ่อนตัว
เวลาผ่านไปไม่นาน ทหารลาดตระเวนก็เข้ามาในกระโจมพร้อมกับทหารคนอื่น โดยรายงานเธอว่าแมวของเธอทำร้ายแม่ทัพหลี่ เขาจึงอยากจะให้เธอส่งตัวแมวไปให้เขา
“อะไรนะ?” ยามนี้มู่ไป๋ไป่กำลังนั่งกินขนมที่สั่งให้คนไปซื้อที่เมืองชายแดนในวันนี้อยู่บนตั่ง พอได้ยินสิ่งที่ทหารรายงาน เธอก็เลิกคิ้วถามด้วยความฉงน “แมวของข้าทำร้ายแม่ทัพหลี่เช่นนั้นหรือ?”
“เป็นไปได้อย่างไร! แมวของข้ามีนิสัยน่ารักมาก แม้กระทั่งหนูมันก็ยังไม่เคยไล่ แล้วมันจะไปทำร้ายคนได้อย่างไร!?”
“แม่ทัพหลี่จำผิดหรือไม่?” เด็กหญิงทำหน้าไม่เชื่อและตั้งคำถามกลับไป
“เอ่อ…” นายทหารที่ได้รับคำสั่งจากท่านแม่ทัพเพียงแค่ให้มาจับแมว แต่เขาก็รู้ด้วยว่าสถานะขององค์หญิงแคว้นศัตรูนั้นพิเศษมากเพียงใด ทหารธรรมดาเช่นเขาคงไม่สามารถทำอะไรอุกอาจได้ มิฉะนั้นเขาอาจจะถูกฮ่องเต้หนานซวนลงโทษ
“นั่นหมายความว่าตอนนี้แม่ทัพหลี่กำลังตำหนิแมวของข้าโดยไม่มีหลักฐาน แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยไม่ใช่หรือ?” จากนั้นมู่ไป๋ไป่ก็พูดยิ้ม ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวลลง “ข้ารู้ว่าท่านเพียงแค่ทำตามคำสั่ง ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องลำบากใจ”
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นเช่นนี้ ท่านก็กลับไปบอกแม่ทัพหลี่ว่า หากต้องการให้ข้าส่งตัวแมวไปให้เขา นอกจากจะได้รับราชโองการจากฮ่องเต้หนานซวน ข้าจะไม่มีวันมอบให้อย่างแน่นอน”
นายทหารถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่เขาจะทำความเคารพองค์หญิงตัวน้อยแล้วรีบพาคนของตัวเองกลับไปรายงานแม่ทัพหลี่
ปัจจุบันชายชรากำลังรักษาบาดแผลอยู่ในกระโจมพยาบาล หลังจากได้ยินสิ่งที่ทหารคนนั้นพูด เขาก็ทุบโต๊ะเสียงดัง “เหิมเกริมยิ่งนัก!”
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะเอาตัวรอดไปได้อีกครั้ง!”
“คราวนี้ข้าจะต้องทำให้ฝ่าบาทประหารนางให้ได้!”
ต่อมา แม่ทัพหลี่เดินจ้ำอ้าวไปที่กระโจมหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของฝ่าบาททั้งที่ยังรู้สึกเจ็บปวดบริเวณใบหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน ฮ่องเต้หนานซวนก็ส่งคนไปเชิญมู่ไป๋ไป่มา
มู่ไป๋ไป่ที่รออยู่นานแล้ว ทันทีที่ได้รับรายงานเธอก็กระโดดลงจากตั่ง ก่อนจะยืนเอามือไพล่หลังแล้วค่อย ๆ เดินตามสาวใช้ไปพบฝ่าบาท
ในตอนที่เด็กหญิงเดินเข้าไปในกระโจม เธอเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นรอยข่วนที่ยังมีเลือดไหลซิบบนใบหน้าของแม่ทัพหลี่
โชคดีที่คนลงมือเป็นเจ้าส้มของเธอ มันลงมือได้โหดเหี้ยมสมใจเธอเสียจริง!
“ตายแล้ว! แม่ทัพหลี่ ใบหน้าของท่านไปโดนอะไรมา?” มู่ไป๋ไป่กลั้นยิ้มในใจและแสร้งทำสีหน้าแปลกใจในขณะที่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านหกล้มหรือ?”
“เฮ้อ ทุกคนก็คอยเตือนแล้วว่าพออายุมากขึ้นจะเดินเหินไปไหนก็ต้องระวังให้มาก ดูสิ ท่านล้มจนมีสภาพเป็นเช่นนี้เลย”
“หุบปาก!!” ชายสูงวัยตะคอกใส่เด็กหญิงจอมโป้ปดเสียงดัง “พระองค์ไม่รู้หรือว่าเหตุใดกระหม่อมถึงมีสภาพเป็นเช่นนี้ มู่ไป๋ไป่ ที่ฝ่าบาททรงยอมให้พระองค์ก็เป็นเพราะพระองค์ยังเด็ก แต่ตัวพระองค์นั้นนอกจากจะทำตัวหยิ่งผยองแล้ว ยังอาจหาญอีกด้วย ถึงขั้นกล้าสั่งให้แมวมาทำร้ายกระหม่อม!”
“วันนี้แมวของพระองค์แค่ข่วนหน้ากระหม่อม ไม่รู้ว่าต่อไปแมวของพระองค์จะข่วนคอให้กระหม่อมตายเลยหรือไม่”
“ฝ่าบาท เราไม่ควรให้มู่ไป๋ไป่อยู่ที่นี่อีกต่อไป!”
“กระหม่อมขอใช้ตำแหน่งแม่ทัพ ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประหารนางเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กองทัพของเรา!”
ตาแก่นี่โหดชะมัด!
มู่ไป๋ไป่หรี่ตาลงพลางนึกเสียใจที่เธอไม่ได้สั่งให้เจ้าส้มข่วนหน้าของเขาให้ยับเยินกว่านี้
“องค์หญิงหก” ฮ่องเต้หนานซวนขมวดคิ้วมองแม่ทัพหลี่ แต่แทนที่เขาจะตอบรับคำพูดของอีกฝ่าย เขากลับหันไปหาคนตัวเล็ก “สิ่งที่แม่ทัพหลี่พูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
เมื่อเด็กหนุ่มถามเช่นนี้ มู่ไป๋ไป่ก็รีบตอบว่า “หม่อมฉันเองก็ไม่ทราบเพคะ”
“หมายความว่าอย่างไรที่พระองค์บอกว่าไม่ทราบ?” ชายสูงวัยถามขึ้นมา “ตอนนี้ทั่วทั้งค่ายทหารรู้ดีว่าพระองค์กำลังเลี้ยงแมวป่าตัวหนึ่ง อย่าคิดว่าพระองค์จะบ่ายเบี่ยงไปได้ง่าย ๆ”
“แม่ทัพหลี่ ท่านช่วยมีเหตุผลหน่อยได้หรือไม่?” เด็กหญิงถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ท่านก็พูดเองว่ามันคือแมวป่า ข้าเพียงแค่ให้อาหารมันกินเพียงเท่านั้น ดังนั้นมันจึงชอบมาเล่นกับข้า”
“แล้วอีกอย่าง สัญชาตญาณของแมวป่าแน่นอนว่าทั้งดุร้ายและรักสันโดษ จะมีใครบ้างที่เลี้ยงมันให้เชื่องได้?”
“และแม้ว่ามันจะไปทำร้ายท่าน แต่ใครจะบอกได้ว่าข้าเป็นคนสั่งมัน บางทีท่านอาจจะไปยั่วโมโหมันเข้า…”
“ไร้สาระ!” ใบหน้าเหี่ยวย่นของแม่ทัพหลี่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะความโกรธ “ตอนนั้นกระหม่อมแค่สะกดรอยตามพระองค์…”
“หา?” ดวงตาของมู่ไป๋ไป่เป็นประกายเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด “แม่ทัพหลี่ ท่านกำลังพูดว่าอะไรนะ ท่านสะกดรอยตามข้ามาหรือ แล้วท่านจะสะกดรอยตามข้ามาทำไมกัน?”
และแล้วชายชราก็เพิ่งรู้ตัวว่าตนพูดผิดไป สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด
ทันทีที่ฮ่องเต้หนานซวนได้ยินคำพูดของแม่ทัพหลี่ เขาก็เข้าใจคร่าว ๆ แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 69
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น