แค่อยากบอก ความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง
เราตื่นขึ้นมาในวันใหม่ วันนี้เป็นอีกวันนึงที่มันหน้าเบื่อหน่ายสำหรับเรา เสียงภาษาอังกฤษที่ดังข้าง ๆ หูทำให้เรารู้ว่าเราหลับโดยที่ไม่ได้ไปปิด audiobook เรื่องที่เราเปิดทิ้งไว้ก็คือเรื่อง Alice in Wonderland by Lewis Carroll นั่นเอง ถึงแม้ว่าเราจะฟังออกบ้างฟังไม่ออกบ้าง เราก็ฟังมัน เราเพิ่งเรียนภาษาอังกฤษแบบจริง ๆ จัง ๆ ก่อนเราจบ ม. 5 แล้วได้สอบเข้าเป็นครูภาษาอังกฤษพอดี
เมื่อก่อนเราอยากเป็นโปรแกรมเมอร์แต่เพราะว่าเวลาเราใช้คอมพิวเตอร์ เราชอบปวดตาเราเลยต้องพักความฝันไป ถ้าหากถามว่าเราชอบภาษาอังกฤษไหม เราบอกได้เลยว่าเราชอบมาก เพราะนอกจากเราจะได้อ่านนิยายภาษาอังกฤษแล้ว เรายังได้รู้จักนิยายแปลของภาษาอื่นด้วย เช่น นิยายของญี่ปุ่น และนิยายของเกาหลี อ่อนิยายจีนด้วยนะ ที่เคยอ่านเป็นอังกฤษ แต่ว่าอ่านของจีนแล้วรู้สึกว่าเราอ่านไม่ออกเลย ฮ่าๆๆๆๆ
เมื่อเราอยู่ ม. 1เราเคยเอาอักษรเบลล์ของภาษาอังกฤษที่อยู่ในห้องสมุดคนตาบอดมาอ่านแล้วเคยโดนทั้งผู้ใหญ่ว่าด้วยว่าเราฝึกภาษาอังกฤษตอนนี้มันก็สายไปแล้ว แถมโดนรุ่นพี่ที่สนิทรกันว่าด้วย ตอนอยู่ ม. 2 เรามองเห็นมากกว่าตอนที่เรากำลังเขียนนี้อยู่มาก มองเห็นจนสามารถวิ่งเล่นได้สบาย เอาจริง ๆ มันก็น่ากลัวเหมือนกันนะที่เราต้องสูญเสียการมองเห็นไป
โดยเฉพาะตอนที่เราเป็นต้อหินเป็นต้นมา เราก็เริ่มมองไม่เห็น ตอน ม. 2 เป็นอีกครั้งที่เราพยายามพูดภาษาอังกฤษแต่เราก็โดนว่าอีก คือตอนนั้นครูที่เป็นพี่ตาบอดให้เราลองเขียนตัวเลขภาษาอังกฤษแล้วเราเขียนไม่ได้เลย ครูคนนั้นที่เป็นรุ่นพี่เราก็เลยเดินมาให้กำลังใจเรา แล้วบอกว่าง
“มา เดี๋ยวพี่จะบอกให้ว่ามันเขียนยังไง”
เราดีใจมากก เลย หลังจากนั้นพอเราตั้งใจเอาไปอ่าน เราก็โดนว่าอีก คือเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องโดนว่าด้วย พอตอน ม. 4 หรือ ม. 5 เราเลยไปเรียนพิเศษ เราจำได้ว่าครูที่สอนพิเศษถามเราว่า
“ทำไมหนูถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษ”
เราตอบอาจารย์ไปว่า “ผมอยากอ่านนิยายภาษาอังกฤษครับ”
อาจารย์พยักหน้าแล้วถามกับเราต่อว่า “ครูอยากรู้ ความฝันของหนูคืออะไรหรอ ”
แล้วนี่คือข้อความที่เราตอบอาจารย์ไปวันนั้น เพิ่งหาเจอเลยคัดมาเลย
ผมไม่ได้ชอบภาษาอังกฤษเพราะว่าผมอยากพูดได้ ความฝันจริงแล้วผมอยากมองเห็นครับ ผมอยากมองเห็นโลกใบนี้เหมือนคนปกติ
สิ่งที่ผมอยากได้ที่สุดคือการมองเห็น ผมก็แค่อยากมองเห็นเหมือนคนปกติ มองเห็นตัวอักษรของภาษาต่าง ๆ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ในต่างจังหวัด อยากไปกินข้าวคนเดียวก็สามารถเดินไปได้ อยากไปเที่ยวห้างคนเดียวก็เดินไปได้ อ่านนิยายผ่านตาของตนเองได้แค่นั้น ส่วนที่ผมชอบคอมพิเตอร์ก็แค่ ในอนาคตคอมพิวเตอร์อาจจะทำให้ผมสามารถอ่านนิยายได้ครับ
เป็นสิ่งที่เราเขียนเอาไว้ ตอนม. 5 มั้ง พอมาดูในที่สุดความฝันเราก็เริ่มเป็นจริงบ้งแล้ว เราสามารถอ่านนิยายได้ เราสามารถใช้ ocr ( OCR หรือ Optical Character Recognition คือกระบวนการในการเปลี่ยนข้อความที่อยู่ในรูป ให้อยู่ในรูปแบบของข้อความ หรือกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างข้อความ หรือไฟล์เอกสารจากไฟล์สแกนเอกสารทั้งในรูปแบบการพิมพ์ หรือลายมือ
( OCR หรือ Optical Character Recognition คือกระบวนการในการเปลี่ยนข้อความที่อยู่ในรูป ให้อยู่ในรูปแบบของข้อความ หรือกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างข้อความ หรือไฟล์เอกสารจากไฟล์สแกนเอกสารทั้งในรูปแบบการพิมพ์ หรือลายมือ )
ในวันนี้ ocr สามารถแปลงรูปภาพได้แล้ว ภาษาอังกฤษแปลงได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ถึงม้ว่ามันจะมีข้อจำกัดเช่นแปลงตารางหรือรูปภาพที่ไม่ได้เรียงจากซ้ายไปขวาหรือแปลงจากหนังสือนิยายไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม เราสามารถอ่านเอกสารที่อาจารย์ให้ได้ ถึงจะใช้อ่านแบบฝึกหัดหรือข้อสอบไม่ได้ก็ตาม แต่ก็โชคดีที่เราได้อยู่ถึงวันนี้ วันที่เราสามารถดูการ์ตูนได้จาก netfix หรือ iqiyi
ถึงแม้ว่าวันนี้เทคโนโลยีสำหรับคนพิการจะทำให้เราไม่สามารถอยู่ได้เหมือนคนปกติก็ไม่เป็นไร ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ถึงแม้ว่ท้ายที่สุดแล้วเราจะเสียดวงตาดวงนี้ไปก็ตาม
เราหวังว่าบรรทึกครังนี้จะทำให้เราในอนาคตที่กลับมาอ่านหรือคนที่กำลังสิ้นหวัง ซึ่งอาจจะเป็นเราในวันที่เรามองไม่เห็น ได้รู้ว่า เราในอดีตคิดแบบนี้ สู้ ๆ นะ ทุกคน
ถ้าอ่านจบก็แสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ
แสดงความคิดเห็น