บทที่ 587: เจ้าดูเหมือนไม่ใช่คนดี เจ้าอย่าพยายามโกหกข้าจะดีกว่า
“ปล่อยนางไป แล้วข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ” หยินชางเขม็งมองชายตรงหน้าและพูดเสียงเย็นชา
เมื่อหยินซางได้ยินสิ่งนี้ เขาก็หายจากอาการบ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่า ๆๆๆ! ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว เจ้าคิดว่าเจ้ายังมีสิทธิ์ที่จะมาพูดต่อรองกับข้าได้อีกงั้นหรือ?” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไป๋ผีพูดดูถูกเด็กหนุ่ม
“ตอนนี้พวกเจ้าทั้งคู่ตกอยู่ในมือของข้าแล้ว ไม่มีใครจะได้ออกไปจากที่นี่อีก”
หลังจากชายหนุ่มพูดจบ ราวกับว่าเขากลัวจะทำให้หลงหลิงเอ๋อหวาดกลัว เขาจึงแสดงรอยยิ้มใจดีและโน้มตัวลงไปพูดกับนางว่า
“แม่หมอ ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่เจ้าเชื่อฟังข้า ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอย่างแน่นอน”
วินาทีนั้นใบหน้าของหยินชางซีดเผือดลงพลางกัดฟันกรามของตัวเองแน่น
“ปล่อยนางไป ไม่งั้นข้าจะฆ่าตัวตายให้ดู ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าได้สิ่งที่เจ้าต้องการแน่”
“หยินชาง!” หลงหลิงเอ๋อขมวดคิ้วพร้อมส่ายหัวให้เขาน้อย ๆ เป็นสัญญาณบอกเขาว่าอย่าทำอะไรโง่ ๆ
เด็กหญิงมองออกว่าคนพวกนี้ไม่ได้ต้องการจะทำร้ายพวกนาง
แต่ชายที่เป็นเหมือนหัวหน้าต้องการบางสิ่งบางอย่างจากหยินชางเพียงเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หมอผีก็นับว่าเป็นสิ่งที่เลอค่า อีกฝ่ายจะไม่มีทางปล่อยให้หมอผีต้องมีแม้แต่รอยแผลขีดข่วน
อย่างน้อยในตอนนี้พวกนางก็จะยังปลอดภัย
ภายในเวลาสั้น ๆ หลงหลิงเอ๋อสามารถวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของตัวเองได้อย่างชัดเจน
ช่วงเวลานี้ท่านพ่อท่านแม่น่าจะรู้แล้วว่าตนกับหยินชางหายตัวไป ทั้ง 2 คนจะต้องรีบออกมาตามหาพวกนางแน่นอน
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าตายหรอก” หยินซางเหยียดยิ้มมุมปาก “ตราบใดที่ข้ามีหมอผีตัวน้อยอยู่ในมือ เจ้าก็จะตายไม่ได้”
เขาเห็นแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเด็ก 2 คนนี้มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดา
ถ้าแม่หมอยังอยู่ในกำมือของเขา แม้ว่าหยินชางจะฆ่าตัวตาย แต่นางก็ยังสามารถช่วยเขาเอาไว้ได้ทันท่วงทีอยู่ดี
จากนั้นจู่ ๆ หยินซางก็เปลี่ยนน้ำเสียงพูด
“แต่... ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟัง ข้าจะทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานแบบคาดไม่ถึงเลยล่ะ”
หลังจากพูดจบเขาก็ยกมือขึ้น
ต่อมา ภูตที่อยู่ข้างหลังเขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับกุมหยินชางทันที
“พวกเจ้าจะทำอะไร! อย่าทำร้ายหยินชางนะ!” ใบหน้าของหลงหลิงเอ๋อเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แล้วนางก็พยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นยืนไปช่วยเด็กหนุ่ม
แต่ในตอนนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งมากดไหล่ของนางให้นั่งลงบนพื้นดังเดิม
คนเป็นหัวหน้าเผ่าไป๋ผียิ้มเยาะ แล้วเขาก็ใช้นิ้วลากผ่านแขนที่บาดเจ็บของหยินชาง
ถึงแม้ว่าบาดแผลจะได้รับการรักษาจากหลงหลิงเอ๋อไปก่อนหน้านี้ แต่มันยังไม่ทันหายสนิท ดังนั้นมันจึงเหลือแผลตกสะเก็ดทิ้งไว้
หยินซางใช้นิ้วถูสะเก็ดเลือดแห้งแล้วเอาเข้าปากพร้อมกับแลบลิ้นออกมาเลียมัน
ต่อมา เขาหลับตาพริ้มเพื่อเพลิดเพลินความพิเศษของเลือดภูตอสูร เขาตกอยู่ในภวังค์สักพักก่อนจะลืมตามองหยินชางอีกครั้ง
“มันดีมากจริง ๆ ถึงรสชาติเลือดของเจ้าจะแย่กว่าแม่เจ้านิดหน่อยก็เถอะ แต่อย่างน้อยเจ้าก็ยังมีสายเลือดของนางอีกครึ่งหนึ่งในร่างกาย”
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าพึงพอใจ
นับตั้งแต่นี้ไป หยินชางจะกลายเป็นคลังเลือดที่ไม่มีวันหมดของเขา
เมื่อหลงหลิงเอ๋อมองดูการกระทำของหยินซาง นางก็รู้สึกขนลุกขนพอง
ผู้ชายคนนี้กำลังทำอะไรอยู่?
เขาเลียเลือดของหยินชางทำไม!
นี่คือคนวิปริตที่ท่านแม่พูดถึงหรือเปล่า?
มันจะน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!
พอหยินชางได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็ปูดออกมา ในขณะที่ดวงตาสีดำสนิทวาวโรจน์ด้วยความโกรธ
“หุบปาก! เจ้ายังมีหน้ามาพูดถึงแม่ข้าอีกรึ!”
ภูตที่อยู่ตรงหน้าเขาต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับการตายของแม่เขาแน่ ๆ
ขณะนั้นหยินซางทำเพียงเหยียดยิ้มดูถูกเด็กหนุ่มและไม่ได้สนใจฟังคำพูดของเขา
“ท่านหัวหน้า พวกเราพาตัวท่านผู้อาวุโสมาแล้ว”
ในเวลาเดียวกัน เสียงของภูตคนหนึ่งดังมาจากด้านนอก
“เอาตัวเขาวางไว้ข้างนอก” หยินซางโบกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องวางคนป่วยไว้บริเวณหน้าบ้าน เพราะเขาไม่อาจทนอยู่ในห้องเดียวกับคนที่เป็นโรคระบาดได้
“รับทราบ” ภูตที่อยู่นอกประตูตอบกลับ
ทางด้านหลงหลิงเอ๋อเห็นเพียงว่ามีคนถูกอุ้มมาแล้วถูกวางลงบนพื้นแบบลวก ๆ
คนที่ถูกอุ้มมีหนังสัตว์ห่อหุ้มเอาไว้จนอากาศแทบจะเข้าไปไม่ได้ แล้วพวกเขาก็เจาะรูที่จมูก 2 รูให้คนคนนั้นได้หายใจ
ทันทีที่พวกเขาวางห่อหนังสัตว์ลง กลุ่มภูตที่อยู่ใกล้เคียงก็รีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว
พวกเขาทำท่ารังเกียจเหมือนกับว่าอีกฝ่ายเป็นโรคระบาด
ขณะเดียวกัน หลงหลิงเอ๋อมองดูท่าทางของคนพวกนั้นและรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจ
ก่อนที่เด็กหญิงจะคิดถึงเรื่องนี้ได้อย่างถี่ถ้วน หยินซางก็พูดกับนางขึ้นมาก่อนว่า
“เจ้ารักษาโรคระบาดได้ไหม?”
ภูตคนนี้เป็นโรคระบาดจริง ๆ ด้วย!
หลงหลิงเอ๋อสะดุ้งโหยง จากนั้นชายหนุ่มก็พูดโดยไม่รอให้นางตอบ
“เจ้าไปรักษาคนที่อยู่ข้างนอกนั้นซะ ข้าสัญญาว่าจะให้พวกเจ้าได้มีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าเลยแม้แต่น้อย”
ถุย! ก่อนถูกจับได้พวกข้าก็ไม่เคยต้องกังวลเรื่องอาหารหรือเสื้อผ้า!
ข้อเสนอแบบนี้มันน่าสนใจตรงไหนกัน?
หลงหลิงเอ๋อพยายามกักเก็บอารมณ์ที่อยากจะถ่มน้ำลายใส่หน้าหยินซางลงไปให้ลึกสุดใจ
ไม่ได้ ข้าจะใจร้อนไม่ได้...
แม้ว่าคนพวกนั้นจะไม่ฆ่าพวกนางให้ตาย แต่พวกมันก็ยังคิดที่จะทรมานหยินชางและตัวนางให้ต้องทุกข์ระทมแสนสาหัส
“ข้ารักษาได้ แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อข้าได้พักผ่อนแล้ว 1 คืนเท่านั้น” เด็กหญิงตอบด้วยใบหน้าเย็นชา
“เจ้ารักษาเขาตอนนี้ไม่ได้หรือ?” หยินซางแสดงสีหน้าสงสัย “ไม่ พรุ่งนี้ไม่ได้ เจ้าจะต้องรีบรักษาเขาภายในวันนี้ ข้าอยากจะเห็นเขาหายจากโรคระบาดด้วยตาของข้าเอง”
ชายหนุ่มมองว่าหมอผีคนนี้ยังเด็กมาก ถ้านางไม่สามารถรักษาโรคได้จริง ๆ แล้วทั้งหมดที่ผ่านมานางโกหกเขาล่ะ เขาจะทำอย่างไร?
ตามที่หยินเสวี่ยกล่าว แม่หมอตัวน้อยเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของนางอย่างแน่นอน
ถ้าตัวนางรักษาโรคระบาดไม่ได้จริง ๆ การที่จะเก็บเด็กผู้หญิงคนนี้เอาไว้ก็คงไม่สำคัญอีก
“หลิงเอ๋อ อย่าทำนะ!” หยินชางส่ายหัวให้คนตัวเล็ก
วันนี้นางเหนื่อยมามากพอแล้ว แถมโรคที่กำลังระบาดอยู่ก็เป็นโรคร้ายแรง นางไม่สามารถใช้พลังได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว มิฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของนาง
อีกทั้งโรคระบาดอันตรายมาก หากนางติดเชื้อเข้า นางจะทำอย่างไร!?
“หุบปากของเจ้าไปซะ” หยินซางพูดเสียงลอดไรฟัน
“แม่หมอตัวน้อย เจ้ารีบรักษาเขาให้หายเร็ว ๆ เข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดลิ้นไอ้เด็กนี่ซะ จากนั้นค่อยสับมือสับเท้าของมันออก ข้าไม่ปล่อยให้มันตายหรอก แต่ข้าไม่รู้ว่าแบบนั้นมันจะเจ็บปวดมากแค่ไหน…”
หัวหน้าเผ่าไป๋ผีพูดขู่ด้วยสีหน้าเย็นชา
“ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดหรอกใช่ไหม?”
ทันใดนั้นแววตาของหลงหลิงเอ๋อก็เปลี่ยนเป็นคมดุ “เจ้ากล้ารึ!”
แม้ว่าตัวนางจะเป็นเพียงเด็กผู้หญิง แต่ความกล้าหาญที่นางมีก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายคนอื่น
หลงหลิงเอ๋อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมให้หยินชางตาย ดังนั้นนางจึงตะคอกใส่เขาอย่างอาจหาญ
“ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายเขาแม้แต่ปลายเล็บ ข้าจะฆ่าตัวตายให้เจ้าเห็น หลังจากที่ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหาตัวเจ้าพบ แล้วเห็นว่าข้าตายไปแล้ว พวกเขาจะต้องทำให้เจ้าได้ตายกลายเป็นผีไม่มีโลงแน่นอน”
จิตสังหารที่แผ่ออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มทำให้หยินซางตัวสั่นแบบอธิบายไม่ถูก
นังเด็กนี่...
หลังจากที่ชายหนุ่มตั้งสติได้ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
นางเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวกะเปี๊ยกแท้ ๆ แต่นางกล้ามาข่มขู่ข้างั้นรึ!
แม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่นางก็ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ
ตัวเขาเป็นถึงหัวหน้าเผ่าไป๋ผี ไม่มีทางที่เขาจะทนกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้หรอก
“นี่เจ้า!!” ชายหนุ่มจ้องตาหมอผีตัวน้อยด้วยความโกรธ
ในขณะที่อารมณ์ของเขากำลังพุ่งขึ้นสูง จู่ ๆ หลงหลิงเอ๋อก็กลอกตาเหมือนเพิ่งคิดอะไรออก จากนั้นนางก็พูดว่า
“เอาล่ะ ถึงยังไงวันนี้ข้าก็คงรักษาเขาไม่ได้ งั้นข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“!!” นังเด็กผู้หญิงคนนี้ยังกล้าที่จะมาเจรจาเงื่อนไขกับเขาอยู่อีกหรือ!
หยินซางโมโหมาก เขากำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่หลงหลิงเอ๋อก็พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า
“เจ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นเราก็มาตายไปด้วยกันเถอะ”
คำพูดของหมอผีตัวน้อยทำให้เส้นความอดทนของชายหนุ่มขาดผึง
นี่มันเป็นความรู้สึกของคนที่จนตรอกแล้ว ตอนนี้นางไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น
“นี่เจ้า! เจ้า…” หยินซางโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
เขาไม่เคยพบเจอเด็กที่กล้าหาญเช่นนี้มาก่อนเลย
บอกว่าจะตายไปด้วยกันอย่างนั้นหรือ?
ใครจะไปตายกับเจ้ากัน!
ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าอยากจะพ่นถ้อยคำรุนแรงออกมา แต่ไม่ว่าจะเค้นสมองเท่าไหร่เขาก็คิดหาทางไม่ออกว่าจะต่อกรกับคนจนตรอกแบบนี้อย่างไรดี ดังนั้นเขาจึงหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงก่อน
“ก็ได้ บอกมาสิว่าเจ้ามีเงื่อนไขอะไร”
หยินซางมองหลงหลิงเอ๋อด้วยสายตาเป็นกังวล ในขณะที่เขาตั้งท่าจะห้ามไม่ให้อีกฝ่ายทำอะไรโง่ ๆ
แต่เขาก็ถูกดวงตาของนางปรามเอาไว้เสียก่อน
“ข้าแค่อยากรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของหยินชางในตอนนั้น”
บัดนี้หลงหลิงเอ๋อหันหน้าไปเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามนิ่ง
“นี่…”
ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้ตอบอะไรออกมา เขาก็ถูกเด็กหญิงตัวน้อยพูดขัดอีกครั้ง
“เจ้าดูเหมือนไม่ใช่คนดี ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องเป็น 1 ในคนที่ฆ่าพ่อแม่ของหยินชาง เจ้าอย่าพยายามโกหกเราเลยจะดีกว่า ข้าเป็นถึงหมอผี แค่มองดูข้าก็รู้แล้วว่าเจ้ากำลังโกหก”
“...”
แค่เด็กคนนี้เปิดปาก มันก็ทำให้หยินซางโกรธจนเลือดขึ้นหน้าแล้ว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 153
แสดงความคิดเห็น