ขอซื้อไก่
“อ่า ไปบ้านเดิมของหลานเอ๋อ ทั้งที่ต้องมีของฝากใช่หรือไม่ ของที่ซื้อมาก่อนหน้าก็พอมีบ้าง แต่ข้าต้องหาเพิ่มสักเล็กน้อย” เจียเหรินพึ่งแยกจากเหลียงซานออกมาเมื่อครู่ แต่เมื่อเขาตัดสินใจแวะไปเยี่ยมบ้านภรรยาในวันพรุ่งนี้ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีของเยี่ยมติดไม้ติดมือไปบ้างจะให้หลานเอ๋อของเขาเสียหน้าไม่ได้ เจียเหรินจึงเลี้ยวเข้าซ้ายตัดถนนอีกเส้นเพื่อเดินไปทางบ้านแม่เฒ่าหวัง จำได้ว่าบ้านนางเลี้ยงไก่ไว้หลายตัว น่าจะพอขายให้เขาได้
“แม่เฒ่าหวังอยู่หรือไม่” เจียเหรินร้องเรียกอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ไม่น้อย เรียกได้ว่านอกจากบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้วก็มีบ้านแม่เฒ่าหวังคนนี้นี่แหละที่ดูจะร่ำรวยกว่าคนในหมู่บ้านคนอื่นๆ
“ใคร่เรียกข้า อ่า เจียเหรินเองรึ เจ้ามีอะไรรึ” แม่เฒ่าหวังออกมาพบเจียเหรินที่ยื่นอยู่หน้าบ้าน ให้แปลกใจไม่น้อย
“พอดีข้าอยากจะขอซื้อไก่สักสองตัวน่ะขอรับ” เจียเหรินบอกความต้องการของเขาที่จะขอซื้อไก่ ที่บ้านแม่เฒ่าหวังเลี้ยงเอาไว้
“ไก่รึ ข้าพอมีอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก เจ้าจะเอาไปเลี้ยงรึ” แม่เฒ่าหวังขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนนี้ไก่ของบ้านนางเหลือเพียงสิบตัว เมื่อสามวันก่อนนางจำเป็นต้องเชือดไก่อีกหนึ่งตัวเพื่อใช้บำรุงลูกสะใภ้ของนาง ทำเช่นไรได้ แม่เฒ่าหวังมีบุตรชายคนเดียว ลูกสะใภ้นางกลับคลอดบุตรคนแรกเป็นหลานสาวทำให้นางเสียใจไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้รังเกียจหลานสาวแต่อย่างใด มาบัดนี้ผ่านมาสิบปีสะใภ้นางกลับตั้งครรภ์อีกครั้ง ทำให้นางมีความหวัง เที่ยวหาของทุกอย่างมาบำรุงนาง และแม่เฒ่าหวังก็สมดังใจเมื่อสามวันก่อนลูกสะใภ้นางคลอดหลานชายตัวอ้วนให้นาง
“ไม่ ข้าจะเอาไปบำรุงภรรยาข้าขอรับ” เจียเหรินเดิมจะซื้อไปเพียงแค่หนึ่งตัว แต่พอคิดว่าหลายวันมานี้กินแต่เนื้อหมูป่าแล้ว ซื้อไก่เพิ่มอีกสักตัวก็ดี จะได้ให้หลานเอ๋อกินซุปไก่อร่อยๆ
“อ่า เจ้าช่างดีกับภรรยาของเจ้ายิ่ง นางโชคดียิ่งนัก ได้ๆ ข้าจะขายให้เจ้า แต่ราคาอาจสูงเล็กน้อย” เเม่เฒ่าหวัง ก็เป็นหญิงผู้หนึ่งที่ได้รับความรักจากสามีของนางอย่างเต็มเปี่ยม หากเขาไม่ตายจากนางไปเสียก่อน นางคงมีความสุขมากกว่านี้ เมื่อเห็นเจียเหรินแสดงท่าทีรักใคร่ภรรยาเช่นนี้นางจึงถูกใจยิ่ง ทั้งเมื่อนึกถึงสภาพของหลานหงตอนอยู่ที่บ้านตระกูลสวีให้สงสารยิ่ง หากได้บำรุงบางทีนางอาจจะท้องขึ้นมาก็ได้เหมือนลูกสะใภ้ของนางที่นางบำรุงทุกเช้าค่ำแม้จะนานถึงสิบปีแต่ในที่สุดนางก็ได้เห็นหลานชายแม้ตายไปนางจะได้รู้สึกผิดต่อสามีแล้ว ถึงจะรู้สึกเสียดายไก่อยู่บ้าง แต่นางก็ยอมตัดใจขายให้เจียเหริน
“ข้ายินดีซื้อขอรับ”
“ตัวละยี่สิบอีแปะ สองตัวเป็นสี่สิบอีแปะ”
“ได้ นี่เงินขอรับ” เจียเหรินจ่ายเงินโดยไม่ต่อแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าไก่นี้แม่เฒ่าหวังหวงแหนยิ่งนัก ที่ยอมขายให้เขาตั้งสองตัวนี้นับว่าดีมากแล้ว
“เจ้ารอก่อนนะ ลู่เอ๋อ เจ้าไปจับไก่มาให้พี่เหรินสองตัว” แม่เฒ่ารับเงินมานับเสร็จก็เก็บทันที พร้อมร้องเรียกหลานสาววัยสิบขวบให้ไปจับไก่ที่หลังบ้านมาให้ เด็กอายุสิบขวบในสมัยนี้ถือว่าโตมากพอแล้ว สามารถทำงานช่วยครอบครัวได้แล้ว เพียงแค่จับไก่ไม่นับว่าเป็นการทารุณเด็กนัก
“รอสักครู่นะเจ้าคะ” หลานสาวแม่เฒ่ารีบวิ่งไปที่เล้าไก่หลังบ้านทันทีเมื่อย่าของนางร้องบอก
“เจียเหรินเจ้าเข้ามาในหมู่บ้านเจ้าได้ยินข่าวหรือไม่” ระหว่างรอด้วยนิสัยชอบนินทาของแม่เฒ่าหวัง หลังจากต้องเป็นแม่หม้ายสามีตาย ส่วนบุตรชายก็มีหน้าที่การงานดี งานบ้านลูกสะใภ้กับหลานสาวก็รับหน้าที่ไป ทำให้นางมีเวลาว่างยิ่ง นางเที่ยวสมาคมกับหญิงในหมู่บ้าน เรียกได้ว่าไม่มีเรื่องราวของบ้านใดไม่เคยผ่านหูนาง นางจึงถือโอกาสพูดคุยกับเจียเหริน
“ข่าวอะไรรึขอรับ” เจียเหรินถามกลับอย่างสงสัยเพราะเขายังไม่ได้ยินข่าวอะไรเลยตั้งแต่เดินเข้ามาในหมู่บ้าน
“ก็คนบ้านสวีน่ะสิ สองสามวันก่อนได้ยินข่าวว่าทะเลาะกันใหญ่โตเลยเชียว” เรื่องบ้านสวีกลายเป็นเรื่องขบขันในวงสนทนาของนางกับเหล่าสหายยิ่งนัก
“หึ คนบ้านนั้นจะทะเลาะอะไรกันคงไม่เกี่ยวกับข้า ต่างคนต่างอยู่เป็นพอ” เจียเหรินนึกว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เรื่องราวของบ้านสวีการละครนี่เอง เขาก็คาดไว้ตั้งแต่ออกจากบ้านนั้นมาอยู่แล้ว ก็เขาเป็นคนวางระเบิดไว้เอง เดิมคิดว่าคนบ้านสวีจะยังสามารถรักสมัครสมานไปได้นานอีกสักหน่อย ไม่คิดว่าจะผิดใจกันเร็วขนาดนี้
“จะว่าไม่เกี่ยวกับพวกเจ้าข้าก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก ได้ข่าวว่าเรื่องที่ทะเลาะกันเหตุเกิดจากที่พวกเจ้าซื้อของมากมายกลับมานั่นแหละ” เพื่อนในวงสนทนาของนางคนหนึ่งเป็นคนข้างบ้านของพวกคนตระกูลสวี ครั้งนี้คนตระกูลสวีโวยวายไม่เก็บเสียงเลยสักนิด จึงทำให้พวกนางรู้ว่าคนตระกูลสวีหน้าไม่อาย ไม่น้อยถึงกับอยากได้ของผู้อื่น และอีกหลายเรื่องที่พูดออกมาให้ผู้อื่นรับรู้ความน่าอายของพวกเขา ถึงกับเฒ่าสวีพูดว่าจะหย่าขาดกับนางเฒ่าเจียงนี่ คงสุดจะทนกันแล้วจริงๆ บ้านสวีนับว่าลุกเป็นไฟแล้ว
“ฮ่าๆ ข้าซื้อมาก็ของของข้าไม่ยักรู้จะทำให้เกิดปัญหาที่บ้านอื่นได้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ” เมื่อได้ฟังแม่เฒ่าหวังพูด เจียเหรินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังๆ ไม่คิดว่าคนบ้านนั้นจะยังสรรหาเรื่องราวมาทำให้เขาขบขันได้อีก อยากได้ของผู้อื่น ต้องถามก่อนว่าผู้อื่นเขาจะให้หรือไม่
“เจ้าก็น่าจะรู้ นางเฒ่าเจียงนางเป็นเช่นไร พวกเจ้าก็ระวังไว้ด้วย นิสัยเช่นนางข้าเกรงว่าจะไม่เลิกราง่ายๆ” เเม่เฒ่าหวังเตือนด้วยความหวังดี นางเป็นคนรุ่นเดียวกันกับนางเฒ่าเจียง และยังเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันนางรู้นิสัยของนางเฒ่าเจียงดีกว่าใคร ความโลภของนางดูถูกไม่ได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นในอดีตนางจะยอมทิ้งชายที่โตมาด้วยกัน เพราะเห็นว่าบ้านเฒ่าสวีร่ำรวยรึ
“ไก่มาแล้วเจ้าคะ” ไม่นานหลานสาวแม่เฒ่าหวัง ก็จับไก่ตัวเป็นๆสองตัวที่มัดเท้าของพวกมันไว้หิ้วออกมาให้กับเจียเหริน
“อืม ขอบใจมากแม่เฒ่าหวัง ท่านไม่ต้องห่วงข้าจะระวังตัวไว้” เจียเหรินรับไก่มาหิ้วไว้ เขาไม่กลัวพวกบ้านสวีอยู่แล้ว ขอให้มาเถอะ มีแต่คนบ้านสวีนั่นและจะต้องกระอักเลือดเอง แต่เจียเหรินก็ไม่บอกปัดความหวังดีของแม่เฒ่าหวัง
ก่อนเดินออกมาหาที่ลับตาคนก่อนโยนไก่ทั้งสองเข้าแหวนมิติไป และเดินกลับเรือนตีนเขาอย่างสบายใจ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 227
แสดงความคิดเห็น