193 สงครามมนุษย์ ปีศาจ 6

-A A +A

193 สงครามมนุษย์ ปีศาจ 6

193 สงครามมนุษย์ ปีศาจ 6

“มานี่ ทากัตซูกิ-คุง!”

“ได้เลย เข้าใจแล้ว” (มาโกโตะ)

ที่ที่โยโกยามะ ซากิ-ซัง (ภรรยาของซากุไร-คุง) ชี้ไปแล้เรามุ่งหน้าไป -โดมสีดำ

ยิ่งเราเข้าใกล้ผมยิ่งรู้สึกท่วมท้นโดยขนาดของมัน

ผมคิดว่ามันใหญ่เท่าโตเกียวโดม แต่มันอาจจะใหญ่กว่านั้นอีก

แล้วก็ ผมเห็นมนุษย์และปีศาจสูกันโดยมีโดมสีดำเป็นแกนกลาง แต่บางอย่างนั้นเปลกไป

ประเทศพันฒมิตรทั้งหก ประกอบไปด้วยอัศวินแห่งแสงสู้เหมือนพวกเขาพยายามจะ {ปกป้องโดมสีดำนั้น}

“โยโกยามะ-ซัง ทำไมทุกคนปกป้องดำๆนั่น?” (มาโกโตะ)

ถ้าซากุไร-คุงติดอยู่ในมัน ไม่ใช่ว่ามันดีกว่าที่จะทำลายมันเหรอ?

เมื่อผมถามสิ่งนี้ โยโกยามะพูดด้วยสีหน้าที่เดือดดาล

“โดมสีดำเป็นบาเรียที่ {ขังแค่ฮีโร่แห่งแสง} มันมันบาเรียทางเดียวที่ไม่อนุญาติให้มนุษย์เข้าไปจากข้างนอก และส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือปีศาจและมอนสเตตอร์ {เข้าไปได้}... นั่นทำไม” (ซากิ)

“เข้าใจแล้ว บาเรียมีเงื่อนไขนั้นเหรอ หือห์ แม้อย่างนั้น… ‘แค่ฮีโร่แห่งแสงคนเดียว’ มันค่อนข้างเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน พวกเค้าประดิษฐ์สูตรเวย์เพื่อเหตุผลนั้นอย่างเดียว หือห์” (มาโกโตะ)

ได้ยินสิ่งที่โยโกยามะ-ซังพูด ผมคิดถึงความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว

มีบางอย่างที่ผมได้เรียนจากวิหารแห่งน้ำเมื่อนานมาแล้ว

เกี่ยวกับเวทมตร์บาเรีย

เวทมนตร์บาเรียนั้นถูกใช้เพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรู และเพื่อกักขังศัตรู เพราะที่จะกันเวทมนตร์รุกที่ทรงพลัง หรือขังศัตรูที่แข็งแกร่ง ต้องมีมานาจำนวนมหาศาล

แต่มันไม่ได้คุ้มค่า ดังนั้นเพื่อที่จะทำบาเรียที่ทรงพลังที่คุ้มค่า มีวิธีที่เรียกว่า ‘ใส่เงื่อนไข’

พูดมันง่ายๆ คุณทำบาเรียที่แข็งแกร่งกับเวทมนตร์ไฟแต่อ่อนแอกับเวทมนตร์น้ำได้

โดยการทำอย่างนั้น ถ้าการต้องการมานานั้นเหมือนกัน คุณทำบาเรียที่แข็งแกร่งกว่ากับเวทมนตร์ไฟได้

แต่สิ่งที่ศัตรูเตรียมมาคือ:

– ขังแค่ฮีโร่แห่งแสง

– หยุดการเข้าไปของมนุษย์

– ปีศาจและมอนสเตอร์เข้าได้อย่างอิสระ

นั่นคือคร่าวๆของมัน

“แต่บาเรียทำให้พังได้ด้วยการโจมตีที่มากพอ ที่นักเวทย์ที่มีทักษะมากมายในอัศวินแห่งแสง ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

“เราทำอย่างนั้นไม่ได้ นักเวทย์ของอัศวินแห่งแสงพูดว่ามันจะใช้เวลา 2 วันเพื่อทำลายบาเรีย! บาเรียนี้เห็นว่าเป็นระดับเทพเจ้า คนที่ทำมันพังได้ควรจะเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะ หรือฮีโร่แห่งแสงเมื่อเค้าอยู่ภายใต้แสงแดด…” (ซากิ)

“เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง…” (มาโกโตะ)

ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะได้กลับไปที่ซิมโฟเนีย ดังนั้นเธออยู่ระหว่างการเดินทางมา

ฮีโร่แห่งแสงได้ติดกับดัก

มากกว่านั้น เมฆที่ดำสนิดได้ปิดแสงแดด

นี่มันแย่แน่นอน

“มีแค่ซากุไร-คุงคนเดียวข้างในเหรอ?” (มาโกโตะ)

“ไม่ มีทีมประมาณ 100 คนที่ปกป้องเรียวซูเกะตลอด นั้นทำไมเค้าไม่สมควรจะอยู่คนเดียว แต่…มันเป็นทั้งวันแล้วตั้งแต่ที่พวกเค้าติดอยู่ในนั้น ชั้นไม่รู้ว่าทุกคนจะโอเคมั้ย…” (ซากิ)

“เข้าใจแล้ว…” (มาโกโตะ)

มันเป็นสถานการณ์คร่าวๆ

ผมพูดอะไรแง่บวกกับเรื่องนั้นไม่ได้

ระหว่างที่เราคุยกัน เราได้มาใกล้กับโดมสีดำ…พูดให้ถูก บาเรียสีดำสนิท

ผิวของบาเรียดำอย่างสมบูรณ์ และผมไม่เห็นข้างในมัน

มาลองยิงเวทมนตร์ใส่มันเถอะ คือที่ผมคิด แต่โยโกยามะ-ซังเคลื่อนไหวก่อน

“วิชาดาบศักดิ์สิทธิ์: [การฟันแห่งแสง]!” (ซากิ)

โยโกยามะ-ซังยิงแสงที่ใหญ่กว่าครั้งนั้นที่เธอกำจัดมังกรไฟเล็กสองตัว

แสงขนาดยักษ์ได้เข้าหาบาเรีย

ในทันทีที่มันสัมผัสกับบาเรีย… มันหายไป

“มันถูกดูดเหรอ…?” (มาโกโตะ)

“ชั้นไม่รู้…นี่เป็นครั้งแรกที่นักเวทย์เห็นบาเรียแบบนี้ ดังนั้นพวกเค้าต้องเริ่มจากการวิเคราะห์…” (ซากิ)

ไม่ใช่ว่ามันดีที่ผมไม่โจมตีมันอย่างไม่ระวังเหรอ?

แต่หน้าของโยโกยามะ-ซัง ไกลจากอะไรที่คุณจะเรียกว่าสงบ ผู้รู้สึกถึงความสิ้นหวังของเธอจากมัน

แต่มีจุดหนึ่งที่กวนใจผม

“ชั้นตกใจที่บอกลักษณะของบาเรียได้แม้ว่าการวิเคราะห์มันยังไม่เสร็จ เหมือนความจริงที่ว่ามันขังได้แค่ฮีโร่แห่งแสง” (มาโกโตะ)

“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…มันเป็นอาร์คบิชอปไอแซคที่ออกมาหัวเราะ และอธิบายกับเราถึงบาเรียที่จับเรียวซูเกะ ‘บาเรียได้ถูกสร้างจากศูนย์เพื่อที่จะผนึกฮีโร่แห่งแสง! พวกนายจะทำลายมันไม่ได้ตลอดไป!’ …เวรเอ้ย!” (ซากิ)

“คนนั้นอีกแล้ว หือห์…” (มาโกโตะ)

ผมรักการอธิบายจริงๆ

แต่ผมยังไม่เห็นหน้าเขาจริงๆนะ

“เฮ้ ทากัตซูกิ-คุง! นายเป็นนักเวทย์ ใช่มั้ย…? นายทำ…อะไรบางอย่างได้มั้ย?” (ซากิ)

ด้วยเสียงที่เหมือนว่าเกือบจะร้องไห้ และด้วยตาที่มีถุงใต้ตาใต้มัน

เธอน่าจะไม่ได้นอนซักพริบตาตั้งแต่ซากุไร-คุงได้ติดอยู่

“ที่ชั้นทำได้คงจะเป็น…” (มาโกโตะ)

ผมนำมีดของโนอาห์ซามามาจากเอวของผม และเข้าหาบาเรีย

ถ้ามันเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้

ในทันทีนั้น ปีกของฟีนิกซ์น้ำได้แตะบาเรียสีดำ…และในทันทีต่อมา ฟีนิกซ์น้ำได้หายไปกระทันหัน

มันเป็นบาเรียที่ดูดซับมานาจริงๆเหรอ?!

“อะ!” (มาโกโตะ)

“นายโอเคมั้ย?!” (ซากิ)

เมื่อผมกำลังจะล้ม โยโกยามะ-ซังจับผม

เธอจับผมที่คอเสีย ผมเลยลอยอยู่กลางอากาศ

นั่นมันอันตราย

“ขอบคุณ โยโกยามะ-ซัง รอซักแป้ปนึง โอเคมั้ย?” (มาโกโตะ)

พูดสิ่งนั้น ผมดันมีดเข้าไปที่บาเรีย

ผมไม่รู้สึกถึง {แรงต้านจากมัน}

ใบมีดของมีดได้แทงเข้าไปในบาเรียอย่างง่ายๆ เหมือนมันจะถูกดูดเข้าไป

“เอ๋?” (มาโกโตะ)

“ว-ว้าว! ไม่ใช่ว่าอาวุธนั่นทำลายบาเรียได้เหรอ?!” (ซากิ)

“เดี๋ยว การตอบสนองนี้…” (มาโกโตะ)

ผมหยุดโยโกยามะที่ส่งเสียงเชียร์ และพยายามจะจับมาเรียด้วยมือที่ไม่ได้ถือมีด

มือซ้ายของผมผ่านไปได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ส่งเสียง

“หือห์?” (มาโกโตะ)

“เออออออ๋?!” (ซากิ)

บาเรียไม่ได้่กันผมถ้าให้เริ่มพูด?

“เฮ้ โยโกยามะ-ซัง” (มาโกโตะ)

“ช-ใช่ มีอะไร?” (ซากิ)

ผมได้กระวนกระวายเล็กน้อยและเสียงของผมแตกนิดหน่อย

“ไม่ใช่ว่าเธอพูดว่ามนุษย์เข้าไปที่บาเรียนี้ไม่ได้เหรอ?” (มาโกโตะ)

“อ-อืม…ถ้าชั้นจำมันไม่ผิด เค้าพูดว่าบาเรียที่มนุษย์และกึ่งมนุษย์ที่เป็น {นักรบและนักเวทย์} เข้าไปไม่ได้…” (ซากิ)

“ชั้นเข้าไปได้เพราะชั้นเป็นนักเวทย์ฝึกหัดเหรอ…?” (มาโกโตะ)

นั่นคือสิ่งที่เขียนอยู่ในโซลบุคของผมในอาชีพของผม

ผมไม่ใช่แม้แต่นักเวทย์

“แต่ไม่ใช่ว่านาย…เป็นฮีโร่นะ?” (ซากิ)

“มันเป็นงานที่ชั้นถูกมอบโดยราชวงศ์ของโรเซส อาชีพของชั้นในโลกนี้คือนักเวทย์ฝึกหัด” (มาโกโตะ)

“ข-เข้าใจแล้ว…น-นั่นลำบากนะ

โยโกยามะ-ซังมองผมด้วยตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร

มันลำบากแน่นอน

(นักเวทย์ที่ทำบาเรียนี้ คงจะไม่คาดว่าฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศเป็นนักเวทย์ฝึกหัด) (โนอาห์)

เสียงของโนอาห์-ซามะสะท้อนอยู่ในหัวของผม

เออ๋ แต่ผมเป็นฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศด้วย…

งานของผมไม่นับเหรอ?

คุณควรจะคาดหวังกับอะไรบางอย่างแบบนั้นด้วย

(ไม่ใช่ว่านั่นโอเคเหรอ? ขอบคุณเรื่องนั้น เธอเข้าไปที่บาเรียได้ ใช่มั้ย?) (โนอาห์)

ยังไงซะ นั่นก็จริง

“งั้น โยโกยามะ-ซัง ชั้นจะไปแล้ว เธอปล่อยได้แล้วตอนนี้” (มาโกโตะ)

ผมยังถูกจับที่คอเสื้อและลอยอยู่กลางอากาศ

“เอ๋ อ-โอเค…ชั้นหวังพึ่งนายกับเรียวซูเกะนะ” (ซากิ)

“ได้ ชั้นจะไปช่วย ซากุไร-คุง” (มาโกโตะ)

“ระวังตัวนะ” (ซากิ)

ผมโบกมือให้โยโกยามะ-ซังที่มองผมอย่างจริงจัง

เธอปล่อยคอเสื้อของผม

ผมได้ถูกโยนไปในอากาศ และถูกกลืนโดยบาเรียที่ดำสนิท

◇◇

(...มืด แทบจะมองไม่เห็นเลยที่นี่…) (มาโกโตะ)

[มองกลางคืน]

ข้างในบาเรียมืดเหมือนฟ้ายามค่ำคืนที่ไม่มีพระจันทร์

แต่มีบางอย่างอยู่

ขยับอยู่

[ตรวจจับ]

มีศัตรูอยู่มากมาย

พวกมันทั้นหมดเป็นปีศาจที่ดุร้ายและมอนสเตอร์ที่กำหนดภัยพิบัติ

มีมากกว่าพันคืบคลานอยู่ข้างในบาเรีย

[ซ่อน]

ผมลบตัวตนของผม

ผมไม่มีเจตนาที่จะสู้ปีศาจที่นี่

ผมต้องหาซากุไร-คุงก่อน

[เงี่ยหู]

ผมได้ยินมันได้

เสียงของการต่อสู้

ผมไม่รู้ว่าใครสู้อยู่ แต่อย่างน้อย มันควรจะเป็นมิตรของซากุไร-คุง

ผมเคลื่อนที่ไปที่ที่เสียงมาอย่างเงียบๆ

[โล่งจิต] 100%

ผมผ่านมอนสเตอร์ที่แออัดที่นี่

ไม่มีความรู้สึกที่จะมารู้สึกกลัว

ผมเลี่ยงศัตรูโดยไม่คิดถึงอะไรและมุ่งหน้าไปที่เสียง

ผมได้ใกล้และใกล้เสียงเข้าไป

ผมเห็นมัน!

{มีนักดาบคนเดียว สู้อยู่ตามลำพัง}

ชุดเกราะสีแอช

ดาบสีดำ

คนนั้นคือใคร…?

มีมอนสเตอร์เป็นตันอยู่รอบๆ

พวกเขาสู้มอนสเตอร์เหล่านั้นตามลำพัง

ต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีทักษะ

ผมเห็นตัวของนักดาบชัดเจนขึ้น…และสังเกต…

{มันเป็นซากุไรคุง ด้วยทั้งตัวที่ปกคลุมไปด้วยเลือด}

“ซากุไร-คุง!” (มาโกโตะ)

ผมตะโกนอย่างดังโดยไม่สนใจมอนสเตอร์รอบๆ

“...”

ไม่มีการตอบสนองจากซากุไร-คุง

ตาของเขาว่างเปล่าเหมือนคนละเมอ

เกราะของเขา ที่ผมคิดว่าสีแอชจริงๆแล้วเป็นเกราะสีขาวที่มีเลือดแห้งอยู่บนมัน

ดาบเวทมนตร์ที่เค้าเคยเอาให้ผมดูมาก่อนเหมือนเดิม

มันได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด

แม้ว่าด้วยนั่นทั้งหมด เขาเหวี่ยงดาบของเขา

เอาสู้ทั้งหมดตามลำพังกับฝูงปีศาจและมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าไป

“เวทย์น้ำ: [วาฬยักษ์]!” (มาโกโตะ)

ผมใช้แขนสปิริตของผม สร้างวาฬยักษมโหฬาร และเป่ามอนสเตอร์ไป

มันไม่ใช่เวทมนตร์โจมตี

มันเป็นเวทมนตร์เพื่อซื้อเวลาและสร้างระยะ

“ซากุไร-คุง!” (มาโกโตะ)

ผมตะโกนอีกครั้ง

“......ทากัต…ซูกิ-คุง?” (ซากุไร)

มีการตอบสนองครั้งนี้

โอเค!

“ซากุไร-คุง นายบาดเจ็บมั้ย?!” (มาโกโตะ)

ผมวิ่งไปตรวจดูว่าเขาบาดเจ็บมากขนาดไหน

แต่ตัวซากุไร-คุงเองไม่บาดเจ็บ

เลือดที่อยู่บนตัวของซากุไร-คุง ทั้งหมดเป็นเลือดจากคนอื่น

“...นายเข้ามา…ที่นี่ได้ยังไง?” (ซากุไร)

“ใครสนเรื่องนั้นกันล่ะ! พวกของนายที่เหลืออยู่ไหน?!” (มาโกโตะ)

ผมได้ยินจากโยโกยามะ-ซัง ว่าเขาติดอยู่ที่นี่กับคนคุ้มกัน

ไม่มีทางที่ซากุไร-คุงจะอยู่ตามลำพัง

“………..พวกเค้าทั้งหมด…ตายแล้ว” (ซากุไร)

“อะ?” (มาโกโตะ)

ที่กลับมาเป็นการตอบที่แห้งๆ

“กองพลที่ 7 ที่ก่อตั้งทั้งหมดโดยอัศวินหนุ่ม… หน้าที่ของพวกเค้าคือ…ตายแทนชั้น แต่แม้ว่าชั้นบอกพวกเค้าว่าชั้นจะไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น… ว่าพวกเราจะมีชีวิตรอดไปด้วยกัน… พวกเค้าทั้งหมดได้เป็นโล่ของชั้น…” (ซากุไร)

“...”

ผมหมดคำพูด

เขารอดชีวิตมาภายในทั้งหมดนั้น?

ผผมได้ยินเสียงฝีเท้า

มันเป็นมอนสเตอร์ที่ผมเป่ากระเด็นไปก่อนหน้า

มีมากกว่าเดิมอีกตอนนี้

มอนสเตอร์และปีศาจเข้ามาที่บาเรียนี้ได้อย่างอิสระ

พวกมันอาจจะเพิ่มจำนวน แต่ไม่ลดลงไป

“มานาของชั้นกำลังจะหมด โดยที่ไม่ได้รู้สึกแสงแดด นี่เป็นทั้งหมดที่ชั้นเป็น แม้ว่าชั้นถูกชื่นชมว่าเป็นการเกิดใหม่ของผู้กอบกู้ ถ้านายออกไปจากบาเรียนี้ได้ ได้โปรด…หนีไป…ถ้านายอยู่ด้วยกันกับชั้น นายจะไม่สามารถที่จะวิ—หึนกุห์!” (ซากุไร)

“ดื่มนี่ก่อนตอนนี้!” (มาโกโตะ)

เข้าอยู่ระหว่างพูด แต่เมื่อผมได้ยินว่ามานาของเข้ากำลังจะหมด ผมดันอีลิกเซอร์ที่ผมได้จากฟูจิ-ยังเข้าปากเขาทันที

“...กุห์! ทากัตซูกิ-คุง นายทำอะไรกระทันห…เอ๋?” (ซากุไร)

รอบตัวของซากุไรคุ่งส่องแสงสีฟ้ากระทันหัน และมานาได้เริ่มเติมเต็มที่นี่

อย่างที่คาดกับยาที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งหมด อีลิกเซอร์

“แรงกายและมานาได้ฟื้นมาอย่างเต็มที่?!” (ซากุไร)

“นายคิดว่านายอยู่มากกว่านี้ได้อีกวันมั้ย?!” (มาโกโตะ)

“ช-ชั้นไม่รู้ แต่น่าจะ” (ซากุไร)

“ได้เลย!” (มาโกโตะ)

เวทมนตร์น้ำ: [วาฬยักษ์]!

อีกครั้งที่ผมน็อคมอนสเตอร์ที่เข้าหาไปด้วยเวทมนตร์น้ำ

แต่บางที่เพราะมันเป็นครั้งที่สอง และมพวกมันได้เรียนรู้จากมัน บางคนหลบได้ และยังมีพวกนั้นที่ทนเวทมนตร์น้ำโดยไม่ขยับได้ด้วย

“วิชาดาบศักดิ์สิทธิ์: [การฟันแห่งแสง]!” (ซากุไร)

และซากุไร-คุงตัดพวกมันลงด้วยคลื่นแสงของเขา

มันเป็นเทคนิคเดียวกันกับโยโกยามะ-ซัง

มีสไตล์เดียวกันกับภรรยาค่อนข้างมีสไตล์เลย

“ทากัตซูกิ-คุง มานาชั้นได้ฟื้นมาซึ่งมันยอดเยี่ยม แต่มันยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าชั้นออกจากบาเรียไม่ได้!” (ซากุไร)

ผมรู้สึกถึงพลังงานเล็กน้อยได้กลับมาที่เสียงของซากุไร-คุง

ใช่

จากโยโกยามะ-ซัง บาเรียนี้เป็นระดับพระเจ้า

มันไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี

ผมจำการสนทนาที่ผมมีกับโนอาห์-ซามะ และจำสิ่งที่ผมเรียนมาจากชั้นเรียนเรื่องเวทมนตร์ในวิหารแห่งน้ำในอดีต

มีชั้นเรียนสำหรับสำหรับการทำลายบาเรียอยู่ในนั้น

แต่มันค่อนข้างใช้กำลังนะ

(ยังไงซะ ไม่มีทางเลือกนอกจากลอง…) (มาโกโตะ)

ผม {แก้} โล่งจิต และถอนหายใจ

“XXXXXXXXX (สปิริต-ซัง สปิริต-ซัง…มา)” (มาโกโตะ)

ผมพูดในภาษาสปิริต

สปิริตน้ำได้เชียร์ด้วย ‘ว้ายยย’ ดั่งพวกเขาได้รอตาของพวกเขาอยู่

ผมยกแขนสปิริตที่ส่องแสงสีฟ้าไปข้างห้น และสปิริตมากขึ้น และมากขึ้นรวมตัวกัน

“สำหรับตอนนี้ มาทำบางอย่างเกี่ยวกับบาเรียนี่กันเถอะ” (มาโกโตะ)

ผมหันไปหาซากุไร-คุงและเสนอสิ่งนี้

 

เป้าหมายเดือน 4/66
ค่าเน็ต 200/200
กาแฟ 180/300
ค่าไฟ 20/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: "wayuwayu แปล"
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.