บทที่ 59 เสื้อคลุมสปอร์ 

“อย่างที่เจ้าเห็นว่าหมู่บ้านของของเราอ่อนแอมาก สัตว์ที่อยู่รอบ ๆ หมู่บ้านก็แข็งแกร่งมากจนเกินไป ข้าจึงหวังจะให้เจ้าช่วยหาดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์มาเพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับพวกเรา” ผู้ใหญ่บ้านสปอร์กล่าว

“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา” ลู่หยางตอบ

ระบบ: คุณรับคำขอจากผู้ใหญ่บ้านสปอร์ให้ไปหาดาร์คสไปเดอร์ซิลค์ 1 ชุด และลูมินัสเอเลเมนท์ 1 ชุด

ก่อนเดินทางมาที่นี่ลู่หยางได้เตรียมดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์มาเต็มกระเป๋าจำนวน 18 ชุดอยู่แล้ว เขาจึงหยิบพวกมันออกมาอย่างละชุดพร้อมกับทำการส่งมอบให้กับผู้ใหญ่บ้าน

“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”

ผู้ใหญ่บ้านยื่นมือออกไปรับไอเท็มมาด้วยความดีใจพร้อมกับกล่าวออกไปว่า

“ใช่ ๆ ของพวกนี้แหละขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม ข้าขอเป็นตัวแทนของหมู่บ้านในการขอบคุณเจ้าจริง ๆ”

ระบบ: คุณได้รับค่าชื่อเสียงในหมู่บ้านสปอร์ 60 หน่วย 

ค่าชื่อเสียงของคุณในหมู่บ้านสปอร์อยู่ในระดับเป็นมิตร

ลู่หยางเข้าใจสถานการณ์ของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี เพราะนักรบของหมู่บ้านมีเลเวลเพียงแค่ห้าเท่านั้น ขณะที่มอนสเตอร์ด้านนอกมีเลเวลมากกว่า 20 ในการต่อสู้พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องอาศัยการใช้ลูมินัสเอเลเมนท์และดาร์คสไปเดอร์ซิลค์เพื่อหลอกล่อมอนสเตอร์ในตอนกลางคืน

อย่างไรก็ตามแหล่งกำเนิดวัตถุดิบอย่างดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์ก็อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านมาก นอกจากนี้ด้านนอกยังมีมอนสเตอร์อันตรายอยู่อย่างมากมาย การพยายามจะออกไปสรรหาวัตถุดิบเหล่านั้นด้วยตัวเองจึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

“สหาย พวกเรายังต้องการดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์อีกมาก ข้าหวังว่าเจ้าจะไปนำพวกมันมาให้กับเราอีกเยอะ ๆ”

ลู่หยางนำดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์ที่เหลืออีก 17 ชุดออกมามอบให้กับผู้ใหญ่บ้านในทันที ก่อนที่เขาจะพูดออกไปว่า

“ผมขอมอบพวกมันให้กับหมู่บ้านสปอร์หมดเลย”

“เยอะมาก! พ่อหนุ่มข้าต้องขอขอบคุณในความมีน้ำใจของเจ้าจริง ๆ” ผู้ใหญ่บ้านสปอร์กล่าวด้วยความดีใจ

ระบบ: คุณได้รับค่าชื่อเสียงในหมู่บ้านสปอร์ 1,020 หน่วย

“หากคุณยังต้องการเพิ่ม ผมจะช่วยหาพวกมันมาให้อีกเพียงแต่ขนาดกระเป๋าของผมมันเป็นอุปสรรคอยู่สักหน่อย” ลู่หยางกล่าว

กระเป๋าของผู้เล่นสามารถบรรจุของได้เพียงแค่ 36 ช่อง และระบบก็อนุญาตให้ผู้เล่นพกกระเป๋าได้เพิ่มเติมอีกห้าใบ

ก่อนหน้านี้ลู่หยางยังไม่เคยซื้อกระเป๋ามาเพิ่มเลย เพราะอัตราการดรอปของไอเท็มภายในเซคคัลเวิลด์อยู่ในระดับที่ต่ำมาก ถึงแม้เขาจะซื้อกระเป๋ามาเพิ่มแต่กระเป๋าพวกนั้นก็ไม่ค่อยได้ใช้งาน แถมกระเป๋าที่ระบบขายก็มีเพียง 4 ช่องในราคา 30 ทองแดง ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ไม่ได้ใช้งาน

“หนุ่มน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณข้าอนุญาตให้เจ้าเติมเสบียงในหมู่บ้านของเราได้ หากเจ้าต้องการอะไรเจ้าสามารถไปที่ร้านขายของในหมู่บ้านได้เลย บางทีมันอาจจะมีของที่เจ้าต้องการอยู่ที่นั่นก็ได้” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว

“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลองไปดู” ลู่หยางตอบ

ตามการตั้งค่าของเซคคัลเวิลด์ทุกครั้งที่ค่าชื่อเสียงของผู้เล่นเพิ่มขึ้นไปจนถึงระดับที่กำหนด มันจะมีของชนิดพิเศษออกมาวางขายให้ผู้เล่นอยู่เสมอ สำหรับของพิเศษของหมู่บ้านสปอร์มีอยู่ทั้งหมด 3 อย่าง หนึ่งในนั้นคือกระเป๋าเก็บของที่มีช่องบรรจุส่งถึง 36 ช่องแถมราคาของมันก็ยังถือว่าถูกมากอีกด้วย

ไอเท็มพิเศษอีกสองชิ้นคือเสื้อคลุมนักเวทสปอร์ระดับเงินและหนังสือสกิลสคอร์ชิ่งสปีด แต่ของทั้งสองนี้จำเป็นจะต้องเพิ่มค่าชื่อเสียงให้ถึงระดับ "เคารพ" และ “เทิดทูน" ตามลำดับเสียก่อน และแน่นอนว่าในตอนนี้เขายังไม่สามารถซื้อหาพวกมันได้

ลู่หยางตามหาร้านขายของได้ไม่ยากนัก ก่อนที่เขาจะเริ่มทักกับคุณป้าชาวสปอร์ที่หน้าร้าน

“ขอซื้อของหน่อยครับ”

“ได้สิจ๊ะ” คุณป้าชาวสปอร์ตอบอย่างเป็นมิตร เพราะในตอนนี้ค่าชื่อเสียงของเขาในหมู่บ้านเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับเป็นมิตรแล้ว ทัศนคติของชาวสปอร์ที่มีต่อเขาจึงดีขึ้นจากเดิมด้วยเช่นกัน

“ขอบคุณครับ” ลู่หยางทำการเปิดหน้าต่างซื้อของ ก่อนที่เขาจะได้พบกับกระเป๋าสปอร์ที่มีราคาใบละ 10 เหรียญเงิน

ก่อนหน้านี้ลู่หยางได้ขายอุปกรณ์ระดับเงินที่ได้มาจากวอลกินออกไปจนได้เงินมา 67 เหรียญเงิน เขาจึงทำการซื้อกระเป๋าทั้งห้าใบจนทำให้พื้นที่เก็บของในกระเป๋าเพิ่มขึ้นมากลายเป็น 216 ช่อง

ถึงแม้พื้นที่เก็บของจะเพิ่มขึ้นมาเยอะขนาดนี้ เขาก็ยังจำเป็นจะต้องไปกลับหมู่บ้านสปอร์อีกถึง 6 รอบ กว่าจะขนดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์มาส่งมอบได้ทั้งหมด

ลู่หยางหยิบคัมภีร์ย้อนกลับออกมาเพื่อทำการเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์ จากนั้นเขาก็วิ่งไปยังธนาคารที่ถูกออกแบบมาได้ค่อนข้างสมจริง เพราะท้ายที่สุดธนาคารระหว่างเมืองต่าง ๆ และหมู่บ้านก็ไม่ได้เชื่อมต่อถึงกัน หากผู้เล่นต้องการจะขนย้ายสิ่งของจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง พวกเขาก็จำเป็นจะต้องเก็บเข้ากระเป๋าหรือไม่ก็ต้องใช้รถขนส่งสินค้าเท่านั้น

ถึงแม้การออกแบบระบบเกมมาแบบนี้จะค่อนข้างยุ่งยาก แต่มันก็เพิ่มความสนุกให้กับผู้เล่นได้อย่างมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงการตีป้อมปราการที่ทั้งสองฝ่ายสามารถวางแผนจู่โจมกองเสบียงของอีกฝ่ายในระหว่างการขนส่งได้

บางครั้งการทำลายเสบียงของศัตรูได้สักครั้งมันก็ทำให้กระแสสงครามพลิกกลับตาลปัตรไปได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ทำการปล้นยังจะได้รับอุปกรณ์และวัตถุดิบจากฝ่ายตรงข้ามอย่างมากมาย ซึ่งมันคุ้มค่ากว่าการพยายามปล้นสดมจากผู้เล่นตรง ๆ เสียอีก

ด้วยระบบขนส่งแบบนี้นี่เองมันจึงทำให้ภายในเกมมักจะมีโรบินฮู้ดที่มีชื่อเสียงปรากฏให้เห็นอยู่เป็นประจำ โดยคนพวกนี้จะไม่ได้เปิดเผยตัวตน แต่พวกเขาจะออกมาช่วยเหลือผู้เล่นธรรมดาที่โดนกิลด์ขนาดใหญ่รังแก จนทำให้โรบินฮู้ดบางคนถึงกับถูกเชิญไปออกรายการทางโทรทัศน์ แต่มันก็เป็นเพียงแค่การสัมภาษณ์ผ่านทางโลกเสมือน

ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่หยางก็กลับมาถึงหมู่บ้านสปอร์และทำการส่งมอบดาร์คสไปเดอร์ซิลค์และลูมินัสเอเลเมนท์อย่างละ 108 ชุด ให้กับผู้ใหญ่บ้าน

ระบบ: คุณได้รับค่าชื่อเสียงในหมู่บ้านสปอร์ 6,480 หน่วย 

ค่าชื่อเสียงของคุณในหมู่บ้านสปอร์อยู่ในระดับเคารพ

เมื่อค่าชื่อเสียงถึงระดับเคารพ ลู่หยางก็สามารถซื้อเสื้อคลุมสปอร์ได้แล้วเขาจึงกลับไปที่ร้านขายของพร้อมกับเอ่ยปากบอกคุณป้าที่คอยเฝ้าร้านว่า

“ขอซื้อของหน่อยครับ”

“เชิญเลือกได้ตามสบายเลยจ้ะผู้มีพระคุณ”

เมื่อค่าชื่อเสียงของลู่หยางเพิ่มขึ้นไปอีก ระดับทัศนคติของชาวสปอร์ที่มีต่อเขาก็เพิ่มขึ้นอีกระดับด้วยเช่นกัน

ลู่หยางทำการเปิดหน้าต่างซื้อขาย ก่อนที่เขาจะได้พบกับเสื้อคลุมสปอร์ที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นแล้ว

เสื้อคลุมสปอร์ (ระดับเงิน) 

เลเวล 10 

พลังกาย +4 

สติปัญญา +7 

พลังโจมตีเวท +11 

อัตราความแม่นยำทางเวทมนตร์ +5%

เอฟเฟกต์พิเศษ ลดโอกาสถูกตรวจพบโดยผู้อื่น

ในบรรดาอุปกรณ์เลเวล 10 คุณสมบัติของผ้าคลุมผืนนี้ถือว่าธรรมดามาก แต่ย้อนกลับไปในชาติก่อนลู่หยางถูกแบล็คบลัดไล่ล่าไปทั่วและเนื่องจากเขาไม่มีอุปกรณ์ชิ้นอื่น เขาจึงจำใจจะต้องสวมใส่เสื้อคลุมนี้เป็นการชั่วคราว

อย่างไรก็ตามในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้ค้นพบกับความจริงอะไรบางอย่างว่าถึงแม้คุณสมบัติของเสื้อคลุมจะดูแย่ แต่มันกลับมีความสามารถพิเศษในการลดความเกลียดชังของศัตรูลงไปได้

ในการเล่นโหมดอิสระอัตราการโจมตีติดคริติคอลของเขาจะสูงมาก ซึ่งมันก็จะเพิ่มค่าความเกลียดชังจะมอนสเตอร์มาที่เขาด้วยเช่นกัน ทำเอานักรบที่ต้องคอยดึงมอนสเตอร์เอาไว้รู้สึกหงุดหงิดใจ

อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับเสื้อคลุมนี้ไม่ว่าเขาจะสร้างความเสียหายเท่าไหร่ ค่าความเกลียดชังของมอนสเตอร์ที่มีต่อเขากลับไม่ขยับ ดังนั้นถึงแม้ในตอนที่เขามีเลเวล 50 และได้รับเสื้อคลุมระดับทองเลเวล 50 มา แต่เขาก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อคลุมนี้ออกไป

ก่อนหน้านี้ในตอนลงดันเจียนสิ่งที่ชายหนุ่มกังวลมากที่สุดคือการที่บอสเปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีเข้าใส่เขา เพราะในเวลานั้นมันจะทำให้การควบคุมบอสผิดไปจากแผนการเดิมทั้งหมด แต่เมื่อเขามีเสื้อคลุมชิ้นนี้แล้วเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องการดึงดูดโดยไม่ได้ตั้งใจอีกต่อไป