วาฬโต้คลื่น 1 ว่าด้วยเรื่องพีค ๆ
วาฬโต้คลื่น 1 ว่าด้วยเรื่องพีค ๆ
บรื้น! บรื้น! บรื้น! บรื้น!
เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังสนั่นเมื่อย่างเท้าเข้ามาภายในตัวสนามแข่งที่ถูกเพื่อนทั้งสองมันลากให้มาด้วยกันหลังโซ้ยข้าวเย็นเมนูซุปดูกแซ่บมาอิ่มหมาด ๆ
วาฬโดนเพื่อนมันหลอกมาอีกแล้วแม่
"เสียงดังฉิบหาย พากูมาทำไมวะเนี่ย"
หันไปโวยใส่เพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะยกมือขึ้นปิดหูเพราะรำคาญเสียงดังของเครื่องยนต์ที่เหล่านักแข่งต่างแข่งกันเร่งเครื่องยนต์อยู่ในตอนนี้
รถคันหรูสองคันขับทะยานอยู่ในสนาม ปาดซ้ายขวาไปมาอย่างน่าหวาดเสียวจนคนที่ไม่ชอบความเร็วแบบฉันต้องเบือนหน้าหนี
อดทนดูไม่ได้ว่ะ
แหกโค้งตายทำไง กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาให้โตขนาดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยปะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนหนังสือน่าจะเจริญกว่าเป็นไหน ๆ
นี่ก็เพิ่งด่าผู้ชายสองคนที่เจอตอนรอให้นิลมารับที่หน้าตึกคณิตฯ ไปหยก ๆ ยังจะพากูมาให้ด่าคนอื่นเล่นอีกเหรอ
ไม่ได้ปากเสียนะ แต่ความคิดมันไปเองอัตโนมัติ
เขาเรียกว่าอะไรนะ
ด่าเพราะสัญชาตญาณปะ ประมาณนั้นแหละมั้ง
"มึง วันนี้พี่คลื่นแข่งเลยนะเว้ยจะไม่ให้กูพามาได้ไง"
คลื่น...
ทำไมชื่อนี้คุ้น ๆ วะ
แล้วคนอะไรแม่งชื่อคลื่น
"คลื่นไหนก็ช่างแม่งเหอะ กูไม่ชอบ"
ถึงแม้จะรู้สึกคุ้นกับชื่อคนที่เพื่อนบอกแต่ฉันก็เลือกจะไม่สนใจและเตรียมหันหลังกลับทางเดิม
"มึงจะไปไหนวาฬ"
นิลรั้งแขนฉันเอาไว้แล้วตะโกนเอ่ยถาม ในขณะที่เสียงกรี๊ดและโห่ร้องจากคนบนอัฒจันทร์เริ่มดังขึ้นจนหนวกหู
"จะไปเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วจะไปรอที่รถเคป้ะ? ดูเสร็จเมื่อไหร่ก็ตามมาแล้วกัน"
หลังเอ่ยประโยคนั้นจบเพื่อนมันก็ยอมปล่อยมือฉันแต่โดยดี ฉันเลยทั้งวิ่งทั้งเดินเพื่อรีบออกมาจากสนามแข่งโดยเร็ว
จะบอกว่าชีวิตนี้ไม่ชอบเสียงดังเลยก็คงไม่ใช่หรอก เพราะเสียงพลุในวันขึ้นปีใหม่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะเห็นในทุก ๆ ปี แต่ว่ากับเสียงแข่งรถที่ดังขนาดนี้ฉันไม่อยากฟัง...
ไม่ได้จะบอกว่าคนที่รักความเร็วมันผิดหรอก แต่มันจะคุ้มกันไหมถ้าวันหนึ่งต้องมาบาดเจ็บสาหัสหรือตายห่าเพราะความเร็วที่ว่า
กิจกรรมสร้างสรรค์อย่างอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่หาทำวะ
ปลูกต้นไม้ เก็บขยะ ร้องเพลง เล่นเปียโน
หาทำไปดิ
บ่นอะไรในใจคนเดียวอยู่นานสุดท้ายก็เดินมาหยุดอยู่บริเวณห้องน้ำหญิงที่ไกลจากสนามพอสมควรแต่ก็ยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์อยู่แว่ว ๆ ให้รำคาญ
ที่นี่กว้างขวางมากกว่าที่คิดเยอะ เล่นเอาหอบเหมือนกันกว่าจะเดินมาถึง
ฉันรีบเดินตรงไปยังอ่างล้างหน้าซึ่งอยู่ด้านนอกทันที ก่อนจะเปิดน้ำเย็น ๆ วักน้ำใส่หน้าเพื่อหวังให้ความรู้สึกโกรธเคืองเพื่อนทั้งสอง และความกลัวลึก ๆ จางหายออกไป
ตุบ!
ทว่าไม่ทันได้ปรับอารมณ์ที่ว่าให้เป็นปกติกลับต้องรีบหันสายตาไปยังกำแพงสูงที่เป็นเหมือนรั้วกั้นของสนาม ตอนนี้มันมีกระเป๋าสีดำใบใหญ่ถูกโยนข้ามมาด้วยฝีมือใครบางคนที่อยู่อีกฝั่งของกำแพง
ห่า
คนดีรึเปล่าวะ แล้วประตูมีทำไมไม่เข้า
"เชี่ย! "
ทันใดนั้นฉันตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเห็นผู้ชายหัวสีเขียวกำลังปีนข้ามรั้วกำแพงข้ามา
เขาวาดขาข้ามผ่านกำแพงสูงเกือบสามเมตรอย่างคล่องแคล่ว
ตุบ!
ไม่ทันไรสองเท้าใหญ่ ๆ ก็กระโดดลงมากระทบกับพื้นตรงฝั่งของฉันก่อนยกนิ้วชี้ขึ้นมาจรดริมฝีปากพร้อมออกคำสั่ง
"เงียบ ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว"
"ยังไม่ทันได้เสียงดังปะ"
ปากมันตอบไปอย่างที่ใจคิดโดยที่ลืมคิดอะไรให้มาก คนตัวสูงผมเขียวตรงหน้าเลยเลิกคิ้วหนาขึ้นเหมือนกำลังไม่พอใจ...
หรือไม่งั้นก็คงกวนประสาทอยู่
แต่เขาจะกลัวคนอื่นเห็นทำไม แม่งย้อมผมเขียวขนาดนี้คนเขาคงเห็นตั้งแต่800เมตรแรกแล้วมั้ง
ไหนจะการแต่งตัวนั่นอีก สาบานเหอะนี่เหรอแฟชั่นสนามแข่ง กะจะแค่มาดูเขาแข่งหรือลงเองล่ะ
"ปากเก่ง"
"ไม่ได้ปากเก่ง พูดความจริง"
นอกจากหน้าตาจะดูอันธพาลนิสัยก็ยังอันธพาล
ใช้ไม่ได้เลย
สงสัยต้องพาไปฝากให้ป๊ากับม้าที่บ้านสั่งสอนสักหน่อย
แล้วนั่นมั่นหน้ามากนะที่กล้าย้อมผมสีเขียวอะ
เหอะ! ถ้าหน้าไม่หล่อจริงอย่าหาทำดีกว่า
ฉันคิดขณะที่สายตายังแอบลอบสำรวจโครงหน้าคมชัดและดวงตาสีดำลึกลับของคนเบื้องหน้า
จะว่าไป...
ก็หล่ออยู่เหมือนกันแหละ แต่นิดเดียว
"รำคาญว่ะ"
เขาทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าสีดำขึ้นมาพาดบ่าแล้วเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้
ใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็
ตุบ!
"ไอ้ห่า! "
สบถด่าเขาไปเสียงดังเมื่อถูกคนตัวใหญ่หัวเขียวใช้ลำตัวบึกบึนของเขาชนไหล่เข้าอย่างจัง
นี่มันสันดานอันธพาลชัด ๆ เหอะ
ไม่มีอะไรมาปกปิดความทรามได้เลย
"ปากดี อยากโดนดีเหรอวะ"
"ดีห่าไร ขอโทษเดี๋ยวนี้เลยนะ"
คิดว่ากลัวเหรอ คิดว่าคำขู่แค่นั้นคนอย่างวาฬจะกลัวรึไง
"อยากได้คำขอโทษ? "
"เออ! "
ฉันเอ่ยตอบไปอย่างห้วน ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะเดินเข้าไปใกล้เขามากกว่านี้
"ตามมาเอาที่ห้องดิ เดี๋ยวจัดให้ชุดใหญ่ ๆ เลย"
ไอ้ห่า
ไอ้เลว
ไอ้หัวเขียว
ไอ้อันธพาล
ไอ้ใจทราม!!!
ในหัวฉันวนเวียนคิดอยู่แค่คำพวกนี้ในขณะที่มือยังบิดมอเตอร์ไซต์ระดับคงที่โดยมีเพื่อนทรยศสองคนซ้อนด้านหลังและเกาะเอวไว้แน่น
"อีวาฬ มึงขับเร็ว ๆ หน่อยเหอะ"
เสียงของนุ่นตะโกนผ่านเสียงลมเพื่อเอ่ยเร่งแต่มีเหรอที่วาฬจะสน ถึงแม้ตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีแต่ความปลอดภัยจะอยู่คู่กับคนที่ไม่ประมาท
และคนที่ไม่เอาความโกรธแค้นมาลงกับยานพาหนะขับขี่
มักปลอดภัยกับการเดินทางเสมอ
วาฬเป็นตัวอย่างที่ดีเว่อร์ ๆ ของเด็กและเยาวชน
ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างมากของมากที่สุด
"พวกมึงอย่าบ่น ถ้าไม่ทันใจก็กระโดดลงรถกูไปซะ"
บอกเท่านั้นพวกมันก็เงียบกริบลงทันที
เออ ดี
นอกจากวันนี้จะไม่ได้เที่ยวแล้ว พรุ่งนี้กูยังต้องกลับไปปั่นงานค้างต่ออีก
อยู่ ๆ ก็นึกเสียใจที่มาหาพวกมันว่ะ
แม่ง...
ไม่ได้ให้ประสบการณ์ที่ดีกับกูเลย ไหนล่ะที่เที่ยวสวย ๆ ของวาฬ
อยู่ไหน...
23.36 น.
หลังจากที่กลับมาถึงห้องในเวลาประมาณเกือบสี่ทุ่ม พวกเราที่ตอนแรกดูเหมือนจะทะเลาะกันตายให้ได้กลับมานั่งก๊งโซจูรสพีชที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อหนึ่งขวดด้วยกันหน้าตาเฉย
ฉันกินไม่ค่อยเก่งเลยล่อผสมสไปร์ทไปเกือบครึ่งแก้ว ส่วนนุ่นมันไปตี้ที่ร้านเหล้าบ่อยคอแข็งแล้ว (มั้ง) หันมาที่นิล...มันทำเก่งไปงั้นแต่ที่จริงก็กลัวโรคกระเพาะจะกำเริบเหมือนกัน
มีแต่คนกาก ๆ อะแก๊งเรา
ต้องทำใจ
"เชี่ยยย อีวาฬมึงเทให้กูเยอะไปละ"
นุ่นโวยวายใหญ่เมื่อเห็นฉันเทโซจูให้เกือบหมดขวด แต่มีเหรอวาฬจะสนแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเอ่ยปากหาข้ออ้างสารพัดทันที
"กูเวียนหัวแล้ว ช่วยแดกหน่อยเดี๋ยวก็ไปหาแฟนแล้วนี่"
ถือโอกาสแซวคนมีความรักไปด้วย ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับ...
"แฟนที่ไหน เขาเรียกรูมเมต"
ผิดคาด
"จ้ะ ๆ เอาที่มึงสบายใจ"
ปากบอกรูมเมตใจนี่คงไม่เหลือแม้กระทั่งเศษหัวใจไว้รักตัวเองแล้วมั้ง
"ว่าแต่นาฬิกามึงสวยดีเนอะ"
ตาเหลือบมองเห็นนาฬิกาเรือนสีดำบนข้อมือของมันเลยเอ่ยปากชม
ทว่ามันก็รีบตอบกลับมาทันทีโดยที่ไม่ต้องให้ถามต่อ
"โอไม่ได้ซื้อให้"
โอ...
โอที่ว่าคือรูมเมตมันนั่นแหละ อยู่ปี 4 สถาปัตย์ ส่วนนุ่นมันเรียนคหกรรมเหมือนจะชอบทำอาหารแบบเว่อร์ ๆ นะแต่ที่จริงไม่ใช่หรอก ตอนมอหกมันยังหาตัวเองไม่เจอแอดติดอะไรเลยแม่งเอาอันนั้นแหละ
"กูยังไม่ได้ถามสักคำว่าใครซื้อให้เหอะ"
"นี่พี่ที่ทำพาร์ตไทม์ด้วยกันซื้อให้ตอนวันเกิด มันบอกว่าถ้ามีเมียคงไม่ได้ซื้อให้หรอกงี้"
ไม่ต้องให้ถามต่อนุ่นมันก็เล่ารายละเอียดมาซะถี่ยิบ
อืม
แต่ไอ้พี่ที่ร้านพาร์ตไทม์ดูเข้าท่ากว่าไอ้พี่โออะไรนั่นนะ
"เลิกไปเลยดีปะรูมเมตมึงอะ ดูแม่งไม่สนใจมึงเลย ไม่ใส่ใจเพื่อนกูอะ ไม่ชอบ"
ฉันพูดไปตามที่หัวใจคิดก่อนจะหันมองไปยังนิลที่นั่งทำตาปรือเกาะขอบเตียงอยู่
"เออ ๆ เห็นด้วย รูมเมตประสาไรวะของขวัญไม่เคยได้จากมันสักชิ้น"
"ก็บอกแล้วไงแค่รูมเมต เป็นแค่รูมเมต"
นุ่นเอ่ยบอกย้ำ ๆ ก่อนจะยกแก้วในมือของมันขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมด
อ่อ
ได้หัวข้อการก๊งเหล้าวันนี้แล้วแหละ
'ย้อมใจนุ่นจากรูมเมต'
"คืนนี้ไม่ต้องไปก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวกูนอนพื้นเองสบายมากขอแค่หมอนก็พอ"
เพราะเห็นเพื่อนเศร้าเลยไม่อยากให้มันต้องไปเป็นรูมเมตกับไอ้คนเหี้ย ๆ อีกน่ะ เลยพูดไปแบบนั้น แล้วจริง ๆ ก็สามารถนอนพื้นได้ด้วยแม้จะปวดหลังไปหน่อยก็ตาม
"ไม่เป็นไร กูชินแล้วมึงนอนพื้นเดี๋ยวได้เจ็บหลังตายพอดี"
ปากดี...
จู่ ๆ ก็อยากด่าเพื่อนมันแบบนี้แต่แล้วประโยคของผู้ชายหัวเขียวเมื่อตอนเย็นกลับทับซ้อนขึ้นมาในความทรงจำ...
เวรเอ๊ย...อย่าไปคิดถึงคนพรรค์นั้นเหอะวาฬ
เสียสมองเปล่า ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น ก็เพิ่งนึกอะไรขึ้นได้บางอย่างในเวลาเกือบจะเที่ยงคืนซึ่งนุ่นมันก็ยังไม่ได้ออกไปหารูมเมตมันหรอก เห็นบอกว่าจะไปสักตอนเที่ยงคืนสิบห้า
คิดถึงเพลงอยากจะลองของMusketeers เลยว่ะ
เที่ยงคืนสิบห้านาที ฉันนั้นแค่อยากขอ ~ ~
"นิล กูแย่ละ กูลืมเอาแปรงฟันมา"
วาฬเตรียมมาทุกอย่างจริง ๆ มีทั้งหมวกไว้ใส่เที่ยว กระเป๋าสะพายใส่เที่ยว เสื้อเที่ยว กางเกงเที่ยว
ยกเว้นก็แต่แปรงฟันที่ลืม พอมาค้นกระเป๋าตอนอยากจะอาบน้ำถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้นี่แหละ
"รังเกียจกูปะ ใช้ของกูดิ"
"ไม่เอา กูรังเกียจ"
พอได้ยินคำตอบจากปากนิลมันก็ทำหน้าเหม็นเบื่อทันที
"ไป ๆ เดี๋ยวส่งซื้อที่สะดวกซื้อข้างหอ"
พอเพื่อนบอกจะไปส่งก็รีบคว้ากระเป๋าตังค์สีน้ำเงินลายวาฬใบเล็กเดินตามก้นเพื่อนต้อย ๆ ทันที ส่วนนุ่นมันก็บอกเดี๋ยวอยู่เฝ้าห้องให้
หอในกำกับที่เพื่อนมันอยู่ต้องสแกนนิ้วเข้าออกน่ะ แถมเวลาจะออกจากหอหลังสี่ทุ่มยังต้องเซ็นชื่อออกซะด้วย วาฬก็เลยลงมาซื้อเองไม่ได้
แต่ว่า
ตอนที่กำลังก้มลงไปเซ็นชื่อหลังเพื่อนเซ็นเสร็จแล้วกลับถึงทางตันขึ้นมาเมื่อพบกับช่องใส่รหัสนักศึกษา
"อะไรวะ..."
หันไปถามนิลเสียงเบา แต่มันกลับขยุบขยิบตาเลิกลักจนฉันรู้สึกได้ว่ากำลังถูกป้าที่เฝ้าเวรอยู่มองอย่างสงสัย
ตายห่า!
มองแบบนี้
ส่งสายตาแบบนี้
มีช่องรหัสนักศึกษาให้ใส่แบบนี้แสดงว่าไม่ให้คนนอกเข้ามานอนหอในด้วยสินะ
เจริญล่ะกู
60141201
ฉันรีบใส่เลขมั่ว ๆ ไปทันที ซึ่งไอ้ที่ว่ามั่ว ๆ ก็คือเอาเป็นรหัสต่อท้ายของนิลนั่นแหละ นิลมันลงท้าย 200
วาฬเลยแม่งใส่ 201 ไปเลย
ป้าจะได้มองว่าสนิทกันเพราะอยู่สาขาเดียวกัน เป็นเพื่อนกันไรงี้
"ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนวะว่าเขาห้ามให้คนนอกมานอนด้วย"
"วาฬ กูบอกมึงเป็นรอบที่ล้านแล้วเหอะเคยฟังกูที่ไหน แล้วเมื่อกี้มึงใส่ชื่อนุ่นไปใช่ปะ"
"หือ? ใส่ชื่อนุ่นทำไม ใส่ชื่อกูดิ"
พอได้ยินฉันตอบแบบนั้นจากที่เคยเดินไปด้วยกันตามทางเดินช้า ๆ เพื่อนมันกลับหยุดชะงักลงทันที
"กูสะกิดแขนมึงแล้วไง ที่กูบอกว่าชื่อนุ่น ๆ อะ"
"สะกิดตอนไหน กูไม่รู้"
เอาจริงเมื่อกี้ตอนอยู่หน้าป้าคือวาฬคิดอะไรไม่ออกแล้วเหอะ ใส่ชื่อตัวเองไปอย่างมั่นใจด้วย
"อีวาฬ เดี๋ยวป้าเขามาเคาะห้องทำไงวะ"
"กูก็แค่ต้องกลับหอกูคืนนี้ไง ไม่ต้องเครียดหรอกมึงเมื่อกี้กูก็ใส่รหัสต่อท้ายมึงไปป้าไม่สงสัยหรอก"
"ฮะ? ระ รหัสต่อท้ายกู"
นิลทำปากสั่น มันเริ่มลุกลี้ลุกลนจนต้องใช้มือสองข้างจับไหล่มันไว้แน่นเพื่อเอ่ยบอกประโยคถัดไปซึ่งอาจทำให้เพื่อนเบาใจลงเพราะความฉลาดของวาฬ
"อือดิ รหัสต่อท้ายมึง เป็นไงกูฉลาดใช่ปะ"
ถามเพื่อนพร้อมกับยืดอกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงภาคภูมิใจ ทว่า...
วันนี้ทว่าบ่อยจังวะ
"รหัส 201 ซิ่วไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วอีวาฬ อีโง่!!! "
"เชี่ย! "
……………………..
พีคมั้ยไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ หวังว่าวาฬจะได้นอนฝันดีนะคืนนี้ 5555
#คนเถื่อนหัวใจมุ้งมิ้ง
เพจ: นางฟ้าดาวตก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 502
ความคิดเห็น
พีค 555555 สนุกๆๆ
แสดงความคิดเห็น