บทที่ 30: สังหารหมาป่าสีเทา
“งั่ม แจ่บๆๆๆ~”
ในทุ่งหญ้าที่แห้งแล้ง มังกรน้อยหลงเหยากระดิกหางกินเนื้ออย่างมีความสุข โดยไม่สนใจถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานมาถึงตน
แต่จู่ ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามา
ส่งผลให้ต้นหญ้ารอบ ๆ ปลิวสะบัดเสียดสีกันจนเกิดเสียงดังกรอบแกรบ
ทว่าหลงเหยายังคงง่วนอยู่กับการส่งเนื้อชิ้นนั้นลงท้องของตัวเองจนป่อง หลังจากกินเสร็จเขาก็เอนตัวตั้งท่าจะนอนพักผ่อนสักพักหนึ่งก่อนค่อยกลับบ้าน
ทันทีที่เขานอนลงและเงยหน้าขึ้น เขาก็ประสานสายตากับดวงตาสีเขียวคู่หนึ่ง
“!!”
สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าทำให้เจ้ามังกรตัวน้อยรู้สึกหวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว อีกทั้งสัญชาตญาณทำให้เขาไม่สามารถพลิกตัวได้ดั่งใจนึก เขาจึงทำได้เพียงมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง
1 คู่, 2 คู่, 3 คู่...
ณ ตอนนี้มังกรตัวน้อยสังเกตเห็นว่ามีดวงตาสีเขียวจำนวนมากล้อมรอบเขาเอาไว้!
นี่คือฝูงหมาป่า!
เนื่องจากเสียงลมที่เสียดสีกับต้นหญ้าทำให้หลงเหยาไม่ทันสังเกตว่ามีภัยร้ายกำลังย่องเข้ามาหาตนอย่างเงียบเชียบ หากเขาไม่เอนตัวนอนลงแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เขาคงหาหมาป่าพวกนั้นไม่เจอ
ก่อนหน้านี้เด็กน้อยเคยกินแต่เนื้อหมาป่า ทว่าเขาไม่เคยเห็นหมาป่าตัวเป็น ๆ มากมายขนาดนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้หัวใจดวงน้อยของเขาเต้นระรัว
แซ่ก…
บัดนี้สายลมหยุดลงแล้ว ในวินาทีถัดมา หมาป่าที่แอบซุ่มอยู่อย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนจะได้รับสัญญาณบางอย่างก่อนจะพุ่งเข้าหาหลงเหยาราวกับสายฟ้าฟาด!
ฝ่ายที่ถูกไล่ล่าออกแรงทั้งหมดบินขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับส่งเสียงข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม แต่ฝูงหมาป่าที่หิวโหยจะปล่อยอาหารของพวกมันหลุดมือไปได้อย่างไร พวกมันพยายามไล่ตามมังกรน้อยไปอย่างไม่ลดละ
ทว่าเจ้าตัวเล็กที่กินอาหารเพียงพอมา 2 วันยังเคลื่อนไหวได้ไม่เร็วเท่าฝูงนักล่าโตเต็มวัยกลุ่มนี้
ทันใดนั้น หัวหน้าฝูงหมาป่าก็เข้ามาข้างหลังหลงเหยาพร้อมกับน้ำลายที่หยดลงจากเขี้ยว ก่อนที่มันจะอ้าปากกว้างราวกับว่ามันสามารถขย้ำเหยื่อให้ตายคาที่ได้ภายในการจู่โจมเพียงครั้งเดียว
หลังจากที่มังกรน้อยบินด้วยความเร็วสูงสุดเป็นเวลานาน ความเร็วของเขาก็ค่อย ๆ ช้าลง...
“โบร๋ววววว!”
เสียงหมาป่าหอนดังขึ้นใกล้กับร่างมังกรตัวน้อย
ยามนี้หลงเหยารู้สึกหนาวสุดขั้วหัวใจ มันจบลงแล้ว! เขากำลังจะถูกหมาป่ากิน! จากนี้ไปเขาจะไม่ได้เจอพี่น้องและแม่ของเขาอีก และเขาจะไม่มีโอกาสได้กินอาหารอร่อย ๆ ที่แม่ทำให้อีกแล้ว!
ถ้ารู้แต่เนิ่น ๆ ว่ามันจะลงเอยแบบนี้ เขาจะไม่ตะกละตะกลามกินเนื้อชิ้นนั้นสักคำ เขาควรจะกินแค่อาหารที่แม่ทำให้ แต่มานึกเสียใจตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์...
ระหว่างที่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง เจ้าตัวเล็กรู้สึกว่ามีน้ำหยดหนึ่งหยดลงบนตัวเขา ซึ่งมันทั้งเหนียวเหนอะหนะและมีกลิ่นเหม็น
นี่คือน้ำลายของจ่าฝูงหมาป่า เมื่อเด็กน้อยหันไปมองก็ได้รู้ว่ามันคือคมเขี้ยวสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม
“ระวัง!”
ขณะที่หลงเหยาเลิกดิ้นรนและกำลังจะยอมรับความตาย จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้างก่อนจะฉวยตัวเขาจากปากหมาป่าอย่างกะทันหัน
“ไอ้เด็กเหลือขอ อย่าเพิ่งมาตายตรงนี้ นี่มันฝูงหมาป่า ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่!”
โหวเสี่ยวเตียวที่อยู่ในร่างลิงกอดหลงเหยาด้วยมือทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับสับขาวิ่งไปในทุ่งหญ้าแห้งแล้ง
ชายหนุ่มเพิ่งกลับมาจากการล่าสัตว์ แล้วเลือกใช้เส้นทางนี้เป็นทางลัดกลับบ้าน แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ ฝูงหมาป่าก็ปรากฏตัวขึ้นในทุ่งหญ้าที่แห้งแล้งแห่งนี้ ในตอนที่เขากำลังจะอ้อมไปอีกทาง เขาก็เห็นหมาป่ากลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งไล่เด็กคนนี้มา
“ฮ่าาา~” หลงเหยาส่งเสียงโอดครวญอยู่ในอ้อมแขนของโหวเสี่ยวเตียว
จากนั้นเขาก็โผล่หัวมองผ่านไหล่ของคนที่อุ้มตนไปข้างหลัง
ในตอนนั้นเอง อุ้งเท้าของหมาป่ากำลังพุ่งเข้ามาตะปบชายที่มาช่วยชีวิตตัวเอง เขาจึงอ้าปากงับแขนของโหวเสี่ยวเตียวจนสะดุ้งหลบไปด้านข้าง
“โอ๊ย! ไอ้เด็กนี่ เจ้านี่มันเนรคุณจริง ๆ ข้ามาช่วยชีวิตเจ้านะ เจ้ายังกล้ามากัดข้าอีก...”
ฝ่ายที่ถูกกัดสบถด่าเด็กในอ้อมแขนด้วยความโกรธ แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เห็นกรงเล็บหมาป่าเฉียดตัวไปแบบระยะเผาขน นั่นทำให้เขายั้งปากตัวเองไว้ทันที
จากนั้นชายหนุ่มก็แอบรู้สึกดีใจ เพราะโชคดีที่เป็นเจ้าตัวเล็กกัดเขาแทนที่จะเป็นหมาป่าตัวโต
“แฮ่! แฮ่!”
ก่อนที่เขาจะทันได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลงเหยาในอ้อมแขนของเขาก็ตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
โหวเสี่ยวเตียวมองย้อนกลับไป แล้วก็ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ
เนื่องจากด้านหลังเขามีหมาป่าหิวโหยหลาย 10 ตัวกำลังไล่ตามมา บางตัวถึงขั้นอ้าปากค้างจ้องไปที่บั้นท้ายของเขาพร้อมที่จะกัดเขาได้ตลอดเวลา
“โถ่เว้ยยย! เจ้านี่มันหาเรื่องให้ข้าจริง ๆ เดี๋ยวเจ้ารีบบินข้ามแม่น้ำไปเลยนะ แล้วก็รีบกลับบ้านไปซะ ถ้าได้ยินอะไรอย่าหันกลับมามอง เข้าใจไหม...”
โหวเสี่ยวเตียวอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหลับตาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ขณะที่ออกคำสั่งมังกรในอ้อมแขน
อย่างน้อยเจ้าเด็กนี่ก็บินได้ ถ้าเขาข้ามแม่น้ำไปแล้วเขาจะปลอดภัย แต่สำหรับตัวของลิงหนุ่ม เขาต้องว่ายน้ำข้ามไปซึ่งมันใช้เวลามากกว่าเจ้าตัวเล็กแน่นอน
แล้วตอนอยู่ในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก ชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าเขาจะรอดพ้นไปได้ไหม…
ในเมื่อเขารู้สึกว่าตนควบคุมสถานการณ์อะไรไม่ได้อีกแล้ว การที่เด็กคนนี้ชีวิตรอดไปได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าใครก็มีชีวิตเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น
หลงเหยาพยักหน้ารับคำของอีกฝ่ายทันที
จังหวะนั้นเอง หมาป่าสีเทาตัวหนึ่งย่องมาจากด้านข้างแล้วมาขวางทางทั้งคู่อย่างเงียบเชียบ
“อ๊ะ!”
โหวเสี่ยวเตียวไม่คิดที่จะหยุดวิ่ง ในเวลาเดียวกัน นักล่าขนสีเทาก็วิ่งปรี่ไปหาเหยื่อ เขาจึงรีบหักหลบไปด้านข้าง และเมื่อเขามองย้อนกลับไปก็เห็นว่าหมาป่าตัวนั้นกำลังจะไล่ตามทัน
“ไอ้ตัวเล็ก หนีเร็ว!”
ชายหนุ่มใช้แรงเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงมังกรตัวเล็กออกไปอีกทาง
เนื่องจากหลงเหยายังอายุน้อย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงบินในระดับความสูงที่ต่ำประกอบกับตกหลุมอากาศเป็นครั้งคราวก่อนจะหันไปมองโหวเสี่ยวเตียวที่กำลังต่อสู้กับหมาป่าสีเทา แล้วเขาก็หันกลับมามองข้างหน้าอย่างกระวนกระวาย
ดวงตาสีทับทิมนั้นเต็มไปด้วยความกังวล อีกทั้งเขายังลังเลไม่กล้าทิ้งอีกคนที่มาช่วยชีวิตตนไว้
“หนีไปเร็วเข้า จะมัวชักช้าอยู่อีกทำไม!” โหวเสี่ยวเตียวตะโกนใส่เด็กที่ยังมัวรีรอ และในวินาทีถัดมา หมาป่าดุดันอีกตัวก็กระโจนเข้ามาจากด้านข้างกำลังจะตะครุบหลงเหยาด้วยเขี้ยวสีเงินวาววับ
ลิงหนุ่มที่เห็นภาพนั้นใช้แรงฮึดสุดท้ายต่อสู้เพื่อช่วยมังกรน้อยลากหมาป่าสีเทาตัวนั้นออกมา ทว่าตอนที่เขาไม่ทันระวังตัวก็ถูกหมาป่าอีกตัวพุ่งเข้ามากัดที่ต้นขา!
มันจบแล้ว!
พวกเขาทั้ง 2 คงจะต้องมาตายอยู่ที่นี่!
เป็นเพราะฝูงนักล่าที่หิวโหยนั้นเคลื่อนไหวได้เร็วมาก หลงเหยาจึงบินหนีไปไม่ทัน เขาจะต้องถูกคมเขี้ยวหมาป่ากัดทะลุเกล็ดมังกรเข้าไปแน่
ในตอนที่เขากำลังรู้สึกสิ้นหวัง แสงเย็นวาบก็พุ่งผ่านหน้าเขาไป
ฟึ่บ!
เอ๊ะ!?
ความเจ็บปวดที่คาดว่าจะได้รับกลับไม่เกิดขึ้น กลายเป็นหมาป่าสีเทาที่อยู่ข้างหลังเขาล้มลงกับพื้นไปแทน
จากนั้นผู้หญิงรูปร่างผอมบางก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังหมาป่าตัวใหญ่ หลงเหยาเบิกตากว้างจากนั้นก็กระโจนเข้าใส่นางด้วยสภาพน้ำตาคลอเบ้า
“เหยาเอ๋อ เจ้าเจ็บตรงไหนไหม? ไม่ต้องกลัวนะ แม่จะพาเจ้าไปจากที่นี่เอง ต้องโทษแม่ที่ดูแลเจ้าไม่ดีทำให้เจ้าต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้...”
หูเจียวเจียวถือมีดพร้าที่เปื้อนเลือดในมือข้างหนึ่ง แล้วใช้อีกมือหนึ่งลูบหัวลูกชายคนเล็กเบา ๆ ท่าทางอ่อนโยนของเธอดูราวกับว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เพิ่งฟันหมาป่าสีเทาจนตาย
“แฮ่! แฮ่!”
มังกรน้อยส่งเสียงครวญคราง 2 ครั้ง และทันใดนั้นก็บิดตัวพยายามบินขึ้น
จิ้งจอกสาวถูกเจ้าเด็กน้อยคาบชายเสื้อเหมือนต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง เธอจึงรีบตามอีกฝ่ายไป ก่อนจะพบโหวเสี่ยวเตียวกำลังต่อสู้กับหมาป่าสีเทาอยู่อีกด้านหนึ่ง
เธอรีบพุ่งเข้าไปพร้อมกับมีดพร้าในมือแล้วฟันหัวหมาป่าจนสมองไหลออกมา
ฉัวะ!
หลังจากที่นักล่าตัวใหญ่ล้มลง โหวเสี่ยวเตียวก็เตะมันออกไปให้พ้นทางและกล่าวขอบคุณผู้ที่มาช่วยชีวิตตนเองซ้ำ ๆ “ขอบคุณ ขอบคุณที่ช่วยข้า...เอ๊ะ ทำไมถึงเป็นเจ้า!”
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือหูเจียวเจียว ผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในเผ่า!
จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมองหมาป่า 2 ตัวที่ถูกฆ่าบนพื้นด้วยความตกใจ
ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของหูเจียวเจียวงั้นหรือ?
นางมีพลังมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“อย่าเพิ่งถามให้มากความ รีบหนีกันก่อนเถอะ” หูเจียวเจียวเหลือบไปมองข้างหลัง พอเห็นว่าฝูงหมาป่าอยู่ห่างจากพวกเธอเพียงไม่กี่เมตร เธอก็รีบคว้าตัวพวกเขาทั้ง 2 เพื่อวิ่งหนี
เนื่องด้วยโหวเสี่ยวเตียวถูกกัดเข้าที่ต้นขา ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนตัวของเขาช้าลงมาก
“ข้า…ข้าวิ่งไม่ไหวแล้ว พวกเจ้าข้ามแม่น้ำไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วงข้า...” ลิงหนุ่มรู้ว่าตัวเองเป็นภาระของทั้งคู่จึงคิดที่จะช่วยหูเจียวเจียวขวางฝูงหมาป่าไว้
ตามสิ่งที่ถูกปลูกฝังกันมาช้านาน ผู้ชายจะต้องปกป้องดูแลผู้หญิงและเด็กให้ปลอดภัย
แต่แม่จิ้งจอกไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำเช่นนั้น เธอรีบพาทั้ง 2 คนไปที่แม่น้ำก่อนที่ฝูงนักล่าผู้หิวโหยจะตามมาทัน
น้ำที่ไหลเชี่ยวจนเหมือนจะสามารถพัดพาก้อนหินก้อนใหญ่ไปได้มีต้นไม้ใหญ่อยู่ริมน้ำ หญิงสาวก้าวไปคว้าแขนของโหวเสี่ยวเตียว แล้วยัดเยียดบางอย่างใส่มือของเขา
“อย่ามาพูดอะไรไร้สาระ จับเชือกไว้!”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ใจหายใจคว่ำหมด ขวัญเอ๊ยขวัญมานะเหยาเอ๋อ T_T ใด ๆ ก็คือ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 251
แสดงความคิดเห็น