บทที่ 10 ลักพาตัว 2/2
บทที่ 10 ลักพาตัว 2/2
ไอยราพยายามข่มตาหลับให้เร็วที่สุด แต่ทว่าหญิงสาวก็รับรู้ได้ทันทีว่าตนเองไม่สามารถทำสิ่งที่ตนเองคิดได้อย่างง่ายดาย ในใจของเธอคิดถึงลูกศิษย์ที่หายตัวไปอย่างปริศนา รวมไปถึงน้องของเธอที่เพิ่งพบกันได้ไม่นาน ทั้งนี้ถึงเธอคิดว่าเธอจะไม่รักน้องชายของเธอเท่าไหร่แต่มันก็คงหลีกเลี่ยงความเป็นจริงเรื่องที่ว่าพวกเธอคงมีความผูกพันกันอยู่อย่างแน่นอน
หญิงสาวมองฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราที่ทอแสงพร่างพราว เสียงนกการ่ำร้องอากาศที่เริ่มเย็นขึ้นทำให้หญิงสาวไปมองน้องสาวตัวน้อยที่พริ้มตาหลับ
ในอดีตที่หญิงสาวเคยเข้าหน่วยลับ ได้รับภารกิจมากมายทำให้เธอได้ฉายาว่าไอยรา แม้ว่าจะเจอภารกิจที่ยากลำบากแค่ไหนหญิงสาวก็สามารถฝ่าฟันมันมาได้ แต่ว่ามันไม่เหมือนกันครั้งนี้คนที่เธอต้องตามหาคือ น้องชายและลูกศิษย์ของตนเอง
ถึงแม้ว่าหน่วยต่างๆในโลกเวทมนตร์จะคัดค้านไม่ให้เธอไปตามหาหญิงสาวก็ไม่คิดจะสนใจ โดยส่วนใหญ่หน่วยลับและหน่วยความมั่นคงจะไม่ให้ญาติหรือผู้เกี่ยวข้องที่เป็นผู้เสียหายไปทำคดีโดยตรง แต่ทุกอย่างสำหรับเธอมันมีข้อยกเว้นได้เสมอเธอเป็นใครเธอเป็นนักเวทย์อัจฉริยะอันดับ 1 ของโลกเวทมนตร์ ดังนั้นการที่เธอจะเคลื่อนไหวตามใจชอบมันเป็นสิทธิ์ที่ควรกระทำได้
ถ้าเป็นไปได้หญิงสาวก็อยากจะลุกออกจากที่แห่งนี้และไปดำเนินการในทันที ใจเธอรู้ดีว่าไม่สามารถทำได้ต่อให้เธอจะไปหาแต่ทั้ง 3 ฝ่ายก็ต้องอยู่ร่วมและตกลงเรื่องนี้กัน การเกิดอุบัติเหตุมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้แต่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้มันเกี่ยวกับเรื่องของเวทมิติ ซึ่งหาผู้ชำนาญเวชสายนี้ได้ยาก
คนที่หญิงสาวรู้จักก็มีแค่คนเดียวนั่นก็คือศิลา ศิลาเป็นนักเวทย์ที่อัจฉริยะเป็นผู้เ****วชาญพลังเวทย์หลากหลายธาตุและยังเ****วชาญเวชการเวลาและเวทย์มิติ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถย้อนเวลาได้แต่การข้ามมิติไม่ใช่เรื่องยากสำหรับชายหนุ่มคนนี้ ถ้าให้เธอไปงมเองมันคงจะยาก แต่ถ้าเกิดให้เธอขอความช่วยเหลือต่อให้จะต้องขอร้องก็ต้องขอกับชายคนนี้ให้ได้
หญิงสาวหรี่ตา เธอรู้สึกถึงบางสิ่งที่ขยับเข้ามาใกล้ พอมองดูดีๆก็พบว่าเป็นน้องสาวของตนเองที่กำลังดิ้นไปดิ้นมา หญิงสาวอวบยิ้มขึ้นมาไม่ได้ถ้าน้องทั้งสองได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งก็คงเป็นเรื่องที่ดี ไม่สิสำหรับหญิงสาวต่อให้จะต้องทำยังไงก็ต้องพาน้องชายของเธอกลับมาให้ได้
ถึงแม้ว่าจะไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์และเวทวิทยามายืนยันว่าลูกศิษย์ของเธอหายไปไหน แต่ด้วยสัญชาตญาณหญิงสาวก็มั่นใจ พวกเขาต้องหลุดไปยังดันเจี้ยน หรือมิติอื่นอย่างแน่นอน
“นอนไม่หลับเหรอครับอาจารย์” เสียงกระซิบที่ลอยมาตามลมทำให้หญิงสาวหันขวับไปมอง เส้นผมสีแดงยาวประบ่าสะบัดพริ้วไปตามแรงลม หน้าตาที่ดูไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว เด็กคนนี้กลับเป็นคนที่ใส่ใจทุกสิ่ง
“ใช่แล้วล่ะ แล้วเธอล่ะนอนไม่หลับหรือไง”
“ผมเป็นห่วงรุ่นน้องที่น่ารักของผม ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้สนิทอะไรกันเวลาอยู่ในห้องเรียน แต่ว่าน้องสาวของผมก็สนิทด้วยน่ะสิครับ แล้วอีกอย่างเจ้านั่นก็หายไปด้วยเธอเท่านั้นไม่ได้อยู่กับวิทยาศาสตร์มันก็คงจะไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย”
ไอเลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราะสำหรับความรู้สึกของเธอเธอคิดว่าเนกิกับรูรุคงไม่ใช่เพื่อนสนิทกันอย่างแน่นอน แต่จากที่เด็กคนนี้พูดทำให้เธอต้องคาดคิดและคะเนใหม่เสียแล้ว
“อาจารย์ว่าพวกผมไม่ได้สนิทกันมากมายอะไร แต่ว่าสำหรับผมหมอนั่นมีความคิดและทักษะที่ใกล้เคียงมากครับ ผมอาจจะเก่งกาจเรื่องเวทมนตร์แต่ว่าหมอนั่นเก่งกาจเรื่องวิทยาศาสตร์และวิทยาการ เรื่องสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมถึงแม้ว่าในโลกใบนี้เวทมนตร์จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ตามที แต่ว่าหมอนั่นก็ยังกล้ามั่นใจและก้าวเดินไปในเส้นทางของตัวเองนี่แหละครับที่ทำให้ผมชอบหมอนั่น”
“ไม่น่าเชื่อลูกศิษย์ของฉันกินกันเองเหรอเนี่ย”
สิ้นคำพูดทีเล่นทีจริง เนกิก็คิ้วกระตุก
“ผมไม่ได้ชอบหมอนั้่นน้าจารย์”
ไออยากจะลุกขึ้นไปเขกหัวเด็กตรงหน้า เมื่อเนกิตะโกนลั่นเพราะว่ามันจะทำให้น้องสาวสุดที่รักของเธอตื่นขึ้นมาด้วย
“อย่าตะโกนเดี๋ยวน้องครูตื่น”
เนกิยิ้มในใจแต่เขากลับแสดงท่าทางไม่พอใจออกมา “ผมไม่ยอม ผมถูกกล่าวหา ผมถูกกล่าวหา”
“ลองดูสักหน่อยอาจจะติดใจก็ได้นะ” เสียงของน้องเนกิดังขึ้น ก่อนที่นากิจะค่อย ๆ สาวเท้่าเข้ามา
เด็กสาวมองอาจารย์ที่นอนแล้วแต่จากที่ดูจากท่าทางน่าจะยังไม่ได้หลับแม้แต่นิดเดียว ก่อนที่เธอจะค่อยๆย่องมาอย่างเงียบเชียบและตัดสินใจอุ้มน้องสาวของอาจารย์ แล้วเดินจากไป
“สมแล้วที่เป็นน้องสาวของเธอไม่ต้องพูดให้มากความก็เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองควรที่จะทำมากที่สุด”
เนกิพยักหน้า “เพราะพลังนั้นหรือไม่ก็เพราะความรักเด็กตั้งแต่แรกผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่แบบนี้ระยะห่างของผมกับน้องก็เลยไม่เยอะเท่าไหร่เพราะว่ายังไงเธอก็รู้ว่าผมต้องการอะไรต่อให้ไม่ต้องพูดก็ตาม”
“พลังแบบนั้นถ้าเลือกได้อาจารย์คิดว่านากิก็คงไม่อยากมีเท่าไหร่หรอก ยิ่งมีพลังแบบนั้นมากเท่าไหร่ยิ่งทรมาน”
“เหมือนอาจารย์อย่างนั้นล่ะครับ ผมอาจจะพูดแทงใจแรงไปหน่อยแต่ว่าอาจารย์ก็คงเข้าใจสถานภาพของอาจารย์และก็ของพวกเราดี พวกเราก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันอย่างเลือกไม่ได้”
พวกเขาทั้งสองมองไปยังท้องฟ้าที่ค่อยๆสว่างขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ก่อนที่หญิงสาวจะกล่าวกับลูกศิษย์ของตนเอง
“สถานการณ์ของครูถ้าเทียบกันแล้วมันก็ยังดีกว่าสถานการณ์ของเธอนะ “
“เรื่องแบบนั้นอย่าพูดมันอีกเลยครับพวกเราก็แย่กันทั้งสองฝ่าย ทำผมตอนนี้ก็ไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ผมมองตัวเองอยู่ทุกวันแล้วเฝ้าคิดว่าผมกับน้องคือสิ่งมีชีวิตชนิดใดกันแน่ในโลกใบนี้ มันก็คงเหมือนเด็กคนนั้น คงเหมือนกันนั่นแหละ”
เขาทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา สิ่งที่คนธรรมดาอยากมีแต่พวกอัจฉริยะไม่มีหรือต่อให้จะเป็นพวกอัจฉริยะมีแต่คนธรรมดาไม่มี แต่อย่างน้อยพวกคนธรรมดาและพวกอัจฉริยะก็ยังได้ใช้ชีวิตที่เป็นปกติสุข
“อาจารย์ก็เหมือนกันต้องถูกโลกเวทมนตร์รังเกียจ ก่อนที่จะได้มาเป็นอาจารย์มันคงจะยากลำบากมากเลยสินะครับ”
“จะให้คนอย่างครูเล่าเรื่องหดหู่ของชีวิตให้เด็กอย่างเธอฟังอย่างนั้นหรอ มันก็ไม่ใช่แล้วนะ พวกเราเลิกพูดเรื่องนี้เลิกหมกมุ่นกับอดีตแล้วมาคิดเรื่องปัจจุบันดีกว่า พวกเราจะเอายังไงกันดี”
เนกิยิ้ม ก่อนที่จะหันไปมองอาจารย์ของตน “ไม่เห็นต้องเอายังไงเลยครับอาจารย์ ไม่เห็นต้องคิดอะไรให้มากต่อให้พวกเราต้องทำอะไรมากแค่ไหนก็ตามพวกเราก็ต้องช่วยเจ้าพวกนั้นกลับมาให้ได้”
ไอบิดขี้เกียจก่อนที่จะหันมามองยังลูกศิษย์โปรดของเธออีกคนนึง “เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ต่อให้ฉันต้องแลกกับตำแหน่งอะไรก็ตามฉันก็ต้องช่วยกลับมาให้ได้ นั่นก็เพราะว่าพวกนั้นคือลูกศิษย์และน้องชายของฉัน”
เมื่อแสงสว่างปรากฏขึ้นอีกครั้ง 1 ชาย 1 หญิงก็เคลื่อนไหวในทันที พวกเขาทั้งสองคนไม่คิดที่จะอาบน้ำชำระร่างกายเป้าหมายของพวกเขาก็คือโรงเรียนเวทมนต์อันดับ 1 ของอาณาจักร
เพียงไม่นานพวกเขาทั้งสองก็โผล่มายังโรงเรียนเวทย์มนต์ แล้วพุ่มประจำห้องผู้อำนวยการสูงสุดในทันที ชายชราผมขาวหน้าตาเคร่งขรึมท่าทางใจดีนั่งสบายๆอยู่ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งมีชายหนุ่มท่าทางเห*้ยมเกรียม หน้าตาดุร้ายนั่งอยู่ไม่ห่างไปนัก
“จริงเหรอครับผู้อำนวยการที่มีเด็กโรงเรียนของเราหายตัวไป” ศิลาถามขึ้นด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ไม่เฉพาะเด็กโรงเรียนของเราแต่เด็กรอบๆบริเวณนี้ถูกลักพาตัวไป แล้วพบว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้กลับมาอีกเลยไม่มีจดหมายเรียกค่าถ่ายและการติดต่อใดๆจากคนร้าย”
ไอกับเนกิหยุดชะงักเมื่อพวกเขามาถึงแล้วเจอสถานการณ์เช่นนี้ แต่ดูเหมือนว่า 2 ผู้อาวุโสจะไม่สนใจ
ศิลาชำเรืองตามองแล้วกวักมือให้ไอยรามานั่งใกล้ๆ ในขณะเดียวกันผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนต์กวักมือไล่ให้เด็กน้อยผมแดงออกไปจากห้อง
หลังจากที่เด็กน้อยผมแดงออกมาจากห้องเขาก็พบว่าผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยสดงดงามกำลังเดินตรงมาที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องคะเนให้มากความก็รู้ได้ว่าหญิงผู้นี้คือเฟรย่า ผู้หญิงที่เป็นผู้คุมกฎ 1 ใน 3 นอกจากศิลาและไอยรา
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 211
แสดงความคิดเห็น