CHAPTER 12 : Misunderstand / บทที่ 12 : ไม่เข้าใจกัน
ณ บริษัทของหนึ่ง
หนึ่งมองดูโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างงุนงง นี่มันเกิดอะไรขึ้น น้อยเป็นอะไร ทำไมถึงให้สมาโทรมา เขาร้อนใจ และไม่พอใจเป็นอันมาก เขาจึงรีบโทรกลับไป รอบแรก ไม่มีการรับสาย รอบที่สอง มีสัญญาณว่า ปิดเครื่องไปแล้ว เขาหงุดหงิดขึ้นมา เขาลองโทรไปที่เบอร์ของชาติ ชาติก็ไม่ยอมรับสายของเขา เขาจึงกดโทรไปอีกรอบ ชาติก็ยังไม่ยอมรับอีก แต่หลังจากนั้น ก็มีข้อความเด้งขึ้นมา
‘ ค่อยคุยกัน ’ เป็นข้อความที่ชาติส่งเข้ามา
หนึ่งยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เขาอยากรู้เหลือเกินว่า มันเกิดอะไรขึ้น การที่ไม่รู้อะไรเลย และต้องมานั่งรอเวลาเพื่อให้ได้คำตอบ ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเป็นที่สุด แต่ก็ยังดีที่เขาจะได้คำตอบ ถ้าเขาไม่มีคำตอบในเรื่องนี้เลย เขาคงได้คลั่งตายเป็นแน่
ภายในรถยนต์ที่ชาติกำลังทำหน้าที่คนขับรถ เพื่อนำพาพาหนะมุ่งตรงไปที่บ้านของสมานั้น
สมาลอบมองชาติที่ขยุกขยิกอยู่กับโทรศัพท์มือถือ เขาเหลือบมองดูน้อย ที่ตอนนี้กำลังพิงซบไหล่ของเขาอยู่ เพื่อนของเขาหลับตาพริ้ม เขาแน่ใจว่า คงร้องไห้จนปวดตาไปหมด จึงได้หลับตาลง และคงหลับไปแล้วจริง ๆ ที่มุมปากที่แตกมีเลือดออกเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ที่ช่องกลาง เพื่อมาซับเลือดให้
ชาติรู้สึกได้ถึงสัมผัส ซึ่งเจ้าของมือน้อยไม่ได้รับรู้ด้วย สมายังคงใจจดใจจ่ออยู่กับน้อย ชาติเหล่สายตามองไปที่กระจกส่องหลัง คนเป็นเจ้านายของเขาเอาทิชชู่ค่อย ๆ ซับเลือดที่มุมปากของเพื่อนอย่างเบามือ สีหน้า ดวงตาดูเหมือนจะเจ็บปวดไปกับคนที่เอนกายพิงซบไหล่อยู่ และช้อนสายตามาสบกับเขาทางกระจก พวกเขาจ้องมองกันสักครู่ แล้วแววตาของคนข้างหลังก็เหมือนจะตั้งคำถามเอากับเขาว่า ทำไม คำถามที่เขาเองก็ไม่รู้คำตอบเหมือนกัน เขาคงทำได้เพียงแค่หลบสายตาเจ้าคำถามนั้นเสีย
“ พี่ชาติ ส่งข้อความไปรายงานใครครับ ” สมาเอ่ยถามขึ้น
“ ขอโทษนะครับ คุณชายครับ ” ชาติตอบ พร้อมลอบมองใบหน้าคู่สนทนา
สมาเม้มปากแน่น ก่อนที่จะเปล่งเสียงทุ้มต่ำอย่างที่สุด ลอดไรฟันออกมา
“ พี่ชาติไปคุยกับพี่ชายทำไม จะให้เขามาทำร้ายจิตใจน้อยไปถึงไหน ” คนพูดใส่อารมณ์แบบโกรธบุคคลที่สามเป็นอย่างมาก
“ นายเล็กครับ ขออนุญาตนะครับ แต่ผมว่า ควรให้ทั้งสองคุยกัน อะไรที่ไม่เข้าใจกัน จะได้เข้าใจกันเสียที อย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาสองคน คนอื่นไม่ควรเข้าไปยุ่งนะครับ” ชาติพยายามอธิบายให้นายของเขาใจเย็นลง
“ เพราะพี่ชายเป็นเพื่อนกับพี่ชาติใช่ไหมครับ พี่ชาติถึงได้เข้าข้างพี่ชาย ” สมายังพาลไม่เลิก อันที่จริง เขาอยากจะตัดพ้อชาติด้วย แต่เขาทำไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ชาติไม่เคยก้าวข้ามความเป็นเจ้านาย กับ ลูกน้องมาเลย มีแต่เขาที่คิดไปเอง หลงไปกับความใจดี ความเอาใจใส่ที่เขามีให้ เขาคิดแล้วก็ให้สมเพชตัวเอง
“ นายเล็กครับ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมก็แค่อยากให้เหตุผล แต่ถ้าเหตุผลของผม ทำให้นายเล็กไม่พอใจ ผมต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ ” ชาติก้มหัวให้ เพื่อแสดงความเสียใจ
สมาเบือนหน้าออกไปมองข้างนอกรถยนต์ ส่วนมือข้างหนึ่งบรรจงกอดประคองน้อย มืออีกข้างก็กุมมือเพื่อนเอาไว้ เขารู้ เขาเข้าใจ แต่เขาก็กลัวว่า ถ้าน้อย กับ ชาย คุยกันแล้ว ความจริงนั้นมาทำร้ายเพื่อนรักของเขาล่ะ เขาแค่ไม่อยากเห็นเพื่อนคนเดียวของเขา ต้องมานั่งเสียใจ ชีวิตของน้อยน่าสงสารมากพอแล้ว ไม่ควรจะมีอะไรมาทำให้เพื่อนของเขา ต้องเศร้า เสียใจมากไปกว่านี้
ชาติลอบมองดูสมา เขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับท่าทางของนายคนเล็กของเขามาก เขารู้ว่า คนเป็นนายคงรู้สึกเศร้า และเสียใจไปกับน้อย แล้วก็คิดมาก ไหนจะคิดมาถึงตัวเองอีก เขาก็ไม่รู้ว่า เขาไปทำอะไร อย่างไร ถึงทำให้นายคนเล็กเกิดความรู้สึกดี ๆ ขึ้นมาได้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่า เขาควรที่จะทำอย่างไร เขาไม่กล้าที่จะรับรู้เสียด้วย อย่าว่าแต่จะยอมรับเลย ถึงเขา กับ นุ่มนิ่ม จะเป็นเพื่อนกัน และเติบโตมาพร้อมกัน นุ่มนิ่มก็คงไม่พอใจที่เขาทำให้น้องชายของเธอ มีความรู้สึกชอบพอเขาขึ้นมา ไม่ต้องพูดถึงนายใหญ่ของเขา คุณนาถ ถึงจะดูไม่ค่อยสนใจลูกชายคนเล็กนี่เท่าไรนัก แต่น่าจะเพราะเกรงใจนายหนึ่ง ลูกชายคนโต ที่เกิดจากเมียคนแรก กับ คุณนายสอง ที่เป็นภรรยาที่แต่งงานกันออกหน้าออกตา รวมทั้ง นุ่มนิ่ม ลูกสาวคนกลางสุดรัก ที่เกิดกับคุณนายสอง นายใหญ่นั้นรักลูกชายคนเล็กคนนี้ พอสมควร ถึงจะไม่ค่อยแสดงออกก็ตาม ต่อให้ท่านเคยเมตตาเขามามากขนาดนั้น ท่านก็คงไม่ยินดีไปด้วยแน่ นายหนึ่งเอง ถึงจะไม่สนใจน้องชายคนเล็กเลย แต่ก็กำชับทุกคนว่าต้องดูแลให้เป็นอย่างดี และยังพูดเต็มปากว่า เป็นน้องชาย ยังไงนายหนึ่งก็คงไม่เห็นด้วยเป็นแน่
ชาติยังคงเหลือบมองสมาเป็นระยะ และทำหน้าที่ขับพายานพาหนะคันนี้ไปอย่างเงียบ ๆ
สมาสนใจแต่ภาพข้างนอก เขาทำเหมือนกับว่า เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่งไม่มีเสียงอีกไปตลอดทาง
ทางด้านหนึ่ง เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว แต่เขาคาดว่าถึงโทรไปเซ้าซี้ชาติ รายนั้นคงไม่สามารถรับสายเขาได้แน่ เขาจึงกดไปหาอีกคนหนึ่งที่น่าจะให้คำตอบกับเขาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
“ สวัสดีค่ะคุณชาย ” เสียงปลายสายดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงของจันทร์ พี่เลี้ยงของน้อย
“ ครับ พี่จันทร์ เอ่อ น้องน้อย เป็นอะไรครับ ” ชายเอ่ยถามไปอย่างประหม่า เขาเริ่มคิดแล้วว่า เขาน่าจะเป็นคนทำให้น้อยรู้สึกไม่ดีก็เป็นได้
“ จันทร์ยังไม่ทราบค่ะ แต่คุณหนูน้อยให้คุณสมาโทรมาบอกให้จันทร์เตรียมตัวไว้ คุณชาติจะมารับไปค้างที่บ้านของคุณสมาค่ะ ” จันทร์ตอบไปตามตรง
“ ถ้าพี่จันทร์รู้ว่า น้องน้อยเป็นอะไร ช่วยโทรมาบอกผมด้วย ” ชายรู้สึกว่า เขาไม่มีทางไปเลย
“ ได้ค่ะ คุณชาย ไม่ต้องเป็นห่วงคุณหนูน้อยนะคะ จันทร์จะดูแลให้เป็นอย่างดีค่ะ ”
“ ขอบคุณครับ ” ชายกดวางสายลง ตอนนี้ที่เขาทำได้ คือ เขาต้องรอ คิดแล้วเขาก็ยกมือกุมหัว แล้วเขาก็กดโทรศัพท์ไปหาอีกคนหนึ่ง
“ ว่าไง ” เสียงปลายสายอู้อี้พอสมควร
“ ไอ้นุ่มนิ่ม นอนอยู่หรือ ” ชายถาม
“ เออ มีอะไร ” นุ่มนิ่มพลิกตัวขึ้นจากท่านอนตะแคง มานอนราบ เธอคว้าเอาตุ๊กตาที่เธอนอนกอดอยู่ มาหนุนศีรษะของเธอให้สูงขึ้น
“ น้องน้อยถึงบ้านแกหรือยัง ” คนถามเสียงกระวนกระวายมาก
“ ชั้นนอนอยู่บ้านของสมา แล้วน้องน้อยของแก ถ้าจะมาก็ต้องมาที่บ้านนี้ เขาไม่ไปที่บ้านชั้นหรอก ” นุ่มนิ่มแย้ง
“ เออ ๆ ตามนั้น แล้วสรุป ไปถึงหรือยัง ” ชายเริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย
“ ยังโว้ย อย่ามาขึ้นเสียงกับชั้นนะ แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน ” เสียงนุ่มนิ่มแว้ดขึ้นมาทันทีทันใด เธอเป็นคนไม่ชอบให้ใครมาขึ้นเสียงใส่เธอ เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ขนาดพ่อของเธอยังไม่เคยขึ้นเสียงกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่า น้องน้อยจะไปนอนค้างบ้านของสมา ขอถามหน่อยนะ ตกลง สมา คิดอะไรกับน้องน้อยหรือเปล่า ”
“ ไอ้ชาย ไอ้สันดาน สมา กับ น้อย พวกเขาเป็นเพื่อนกันโว้ย มึงไม่รู้ห่าอะไรเลยเหรอ น้อยเขาชอบมึงโว้ย วันนี้มึงเป็นอะไร ” นุ่มนิ่มเริ่มโมโหขึ้นมาในทันที เมื่อชายเอ่ยพาดพิงถึงน้องชายของเธอ
“ ไม่รู้ว่ะ ไม่รู้อะไรเลย จะเป็นบ้าอยู่แล้ว ” ชายระบายให้เพื่อนฟัง
“ เออ ๆ ใจเย็น ๆ ก่อน ถ้าน้อยมาถึงแล้ว ชั้นจะถามให้นะ เครป่ะ ”
“ เออ ขอบใจนะ ”
“ อืม ” นุ่มนิ่มรับคำ แล้ววางสายไป
หลังจากวางสายจากนุ่มนิ่ม ชายก็นั่งหลับตาลงอย่างเหนื่อย ๆ
หน้าบ้านของสมา
ชาติ ทำหน้าที่ขับนำพารถยนต์มาจนถึงหน้าบ้าน
“ น้อย ถึงบ้านสมาแล้ว ” สมาปลุกน้อยให้ตื่นขึ้น
“ อีม ” น้อยรับคำในลำคอ เขาเอนตัวกลับมานั่งได้ตรง เขาเปิดประตูรถยนต์ลงไป
ส่วนทางด้านชาติ เขาเดินมาเปิดประตูให้กับสมา
สมามองดูประตูรถยนต์ที่เปิดออก แล้วเขาก็เมินหน้าไปทางน้อย และลงจากรถยนต์ไปทางเดียวกับเพื่อนของเขา ตอนนี้เขาคิดจะลองตัดใจจากชาติ เขาเห็นเพื่อนรักเจ็บปวดขนาดนี้แล้ว ทำให้เขาไม่กล้าที่จะให้ใจกับชาติมากไปกว่านี้ เพราะแค่นี้ เขาก็รู้สึกเจ็บมากพอแล้ว ถ้าเขายอมให้ชาติเป็นเจ้าของหัวใจแบบที่น้อย ยอมให้ชาย คงไม่ดีเป็นแน่
ชาติ ยืนมองสมาอย่างรู้ทัน ดีแล้ว นายคนเล็กของเขาจะได้เจอคนที่ดี ชาติปิดประตูรถยนต์ที่เขาเป็นคนเปิดออก
สมาเข้าคล้องแขนของน้อย
“ ขอต้อนรับสู่บ้านแสนสุขของกระผมขอรับ ” สมาพูดเสียงดัง ฟังชัด เขาทำเสียงเลียนแบบตามที่เขาเคยได้ยินจากทางโทรทัศน์
น้อยเผลอยิ้มออกมาได้ และก็พยักหน้ารับ
“ งั้นคืนนี้ ข้าขอค้างกับเจ้าคืนหนึ่งนะ ” น้อยเล่นโต้ตอบกลับไป
“ ได้เลยขอรับ เชิญ ” สมารับคำแบบจริงจัง แต่ก่อนที่เขาจะพาน้อยเดินเข้าไปข้างในบ้านนั้น
“ พี่ชาติออกไปรับพี่จันทร์มาเลยนะ ” สมาหันไปบอกชาติ
“ ครับนายเล็ก ” ชาติรับคำ แล้วก็ขึ้นรถ ขับทะยานออกไป
สมาเหลือบไปมองดูรถยนต์ที่ชาติเป็นคนขับออกไป หลังจากเขาก็พาน้อยก้าวเท้ากันเข้าไปในบ้าน
“ กลับมาแล้วหรือ ” เสียงหนึ่งดังขึ้น เขากล่าวทักสมา ทั้งที่ยังนั่งอยู่ที่โซฟา
“ พี่หนึ่ง ” สมาร้องเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึงว่า จะเจอหน้าพี่ชายคนโตที่ส่วนของบ้านเขา
“ สวัสดีครับพี่หนึ่ง ” น้อยยกมือขึ้นไหว้
“ สวัสดีครับ ” สมาตั้งสติได้ รีบทำความเคารพพี่ชายทันท่วงที
“ พี่ได้ยิน น้อยพูดว่า คืนนี้จะมานอนที่นี่ ” หนึ่งถาม
“ เอ่อ น้อยขออนุญาตนอนที่นี่ได้ไหมครับ ” น้อยรู้สึกประหม่า จริงด้วย เขาลืมไปได้อย่างไรว่า คนที่เขาต้องขออนุญาตจริง ๆ คือ พี่ชายของเพื่อน
“ ได้สิจ๊ะ ไม่มีปัญหา จะนอนกับสมาใช่ไหม แล้วพี่จันทร์จะตามมาไหมคะ ” เสียงของนุ่มนิ่มดังขึ้น พร้อมร่างของเธอที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน
“ สวัสดีครับพี่นุ่มนิ่ม ขอบคุณมากนะครับ "
“ สมาให้พี่ชาติขับรถไปรับพี่จันทร์แล้วครับ ” สมาชิงตอบ
“ ว่าไงน้องสมา จะพาใครมา ขออนุญาตผู้ปกครองของเขาแล้วหรือยังครับ น้อยก็เหมือนกัน จะมาค้างที่นี่เมื่อไรก็ได้ จะมาอยู่เลยก็ได้ แต่โทรไปบอกผู้ใหญ่ก่อนดีไหม คุณลุง กับ คุณป้า จะได้ไม่มาว่าพี่ได้ ” นุ่มนิ่มเดินถึงข้างล่างแล้วก็เข้าไปกอดบ่าน้องชาย และเริ่มร่ายยาว
“ สมาขอโทษนะคร้าบ ” สมายกมือขึ้นไหว้พี่สาวอย่างอ้อน ๆ
“ อืม ” นุ่มนิ่มรับคำ พลางเอามือขยี้ผมของน้องชายด้วยความเอ็นดู
“ น้อยก็ต้องขอโทษพี่นุ่มนิ่ม กับ พี่หนึ่งด้วยนะครับ ” น้อยเองก็ยกมือไหว้ขออภัยคนทั้งสอง
“ จ๊ะ ไม่เป็นไร ” นุ่มนิ่มยิ้มรับ และเอื้อมมือไปขยี้ผมของน้อยด้วย ก่อนจะหันหน้าไปหาผู้เป็นพี่ชาย
“ ทำไมพี่หนึ่งยังไม่กลับคะ ” นุ่มนิ่มถามขึ้นอย่างสงสัย
“ พี่ก็นั่งรอให้สมากลับมาก่อน จะได้ขึ้นไปตามน้องนุ่มนิ่มค่ะ ” หนึ่งตอบ
“ น้องสมากลับมาแล้ว นิ่มก็ลงมาแล้ว พี่หนึ่งจะกลับก็ได้นะคะ ” นุ่มนิ่มบอกกล่าวกับพี่ชาย
“ วันนี้พี่ขออยู่ทานข้าวเย็นด้วยคนนะคะ ได้ไหมสมา ”
“ ต้องแล้วแต่น้องสมาเลยค่ะ บ้านของเขานี่คะ ” นุ่มนิ่มโยนให้สมา เป็นคนตอบ
หนึ่งมองหน้าน้องชาย
“ เชิญครับ สมาดีใจนะที่จะได้นั่งทานข้าวกับพี่หนึ่งด้วย ” สมาพูดจบก็ผละจากนุ่มนิ่ม แล้วถลาเข้าไปนั่งกอดเข่าพี่ชาย
หนึ่งยิ้มรับ
น้อยมองดูภาพตรงหน้า แล้วรู้สึกสะเทือนใจ เขาเองก็มีน้องต่างแม่สองคนเหมือนกัน ถ้าพ่อของเขาเป็นเหมือนพ่อของสมาคงจะดี เขาคงจะมีความสุขไม่น้อย
นุ่มนิ่มหันมาเห็นน้อยทำหน้าเศร้า ก็เกิดความสงสาร เธอจึงเดินไปกอดคอน้อย
“ ไม่เป็นไรนะ น้องน้อยเองก็เป็นเหมือนน้องของพวกพี่อีกคนหนึ่ง ถ้ามีอะไรก็บอกกับพี่ได้ พี่จะดูแลเราเหมือนที่ดูแลเจ้าสมาเลย ” นุ่มนิ่มลูบหัวน้อยด้วยความรัก
“ ขอบคุณครับ ” น้อยกอดนุ่มนิ่มกลับ พร้อมมองไปหนึ่ง
หนึ่งพยักหน้า ยิ้มให้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 521
แสดงความคิดเห็น