บทที่ 11...2/3
อรอินทุ์ตื่นมาอีกครั้งด้วยความสดชื่นเมื่อได้นอนเต็มอิ่ม มือของเธอว่างเปล่าเมื่อคนที่หลับแล้วฝันร้ายเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เธอก้มหน้าชักเขินๆ ไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่ใกล้พันธินขนาดนี้มาก่อน พยาบาลเปิดประตูเข้ามาได้เวลาพอดี เขาออกไปจากห้องเมื่อเธอต้องเข้าห้องน้ำบ้าง พอออกมาทั้งอาหารและยาก็พร้อม แต่คนเฝ้าไข้นี่สิ มีอะไรกินหรือยัง
พออรอินทุ์กินข้าวและยาเสร็จ ประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง พันธินกลับมาพร้อมปริญ อรอินทุ์มองเขาแล้วคิด
‘กินอะไรกันมาแล้วละมั้ง ชักอยากไปเดินย่อยแล้วสิ’
“ฉันไปกินข้าวกับปริญมา กำลังอิ่มมากเลย ไปเดินเล่นกันไหม อยู่แต่ในห้องเธอคงเบื่อแล้วกระมัง”
อรอินทุ์ยิ้มยังไม่ทันพูดอะไรคนถามก็ช่วยประคองมายังรถเข็นซึ่งมีในห้องพอดี พันธินเข็นรถพาไปที่ลิฟต์ แล้วเดินต่อไปยังสวนหย่อมด้านข้างของโรงพยาบาล โชคดีที่เธอไม่ได้อาการเพียบหนักขนาดต้องไปไหนต้องกระเตงน้ำเกลือไปด้วย ร่างสูงนั่งลงตรงเก้าอี้ไม้ข้างๆ รถเข็น ถ้ามองเลยไปอีกนิดก็จะเห็นปริญยืนระวังภัยอยู่ อรอินทุ์รู้สึกเหมือนกำลังเล่นหนังประเภทฆ่าล้างโคตรอยู่เลยแฮะ พันธินหัวเราะพลางยกมือว่าไม่มีอะไร
เราคุยกันเรื่องเมื่อวาน คนร้ายยังลอยนวลไป ข่าวดีคงมีเพียงเธอกับเขา และคนอื่นๆ ยังมีลมหายใจ แต่ต่อไปคนร้ายจะมาแผนไหนอีก เขาต้องหาทางรับมือ
“ต่อไปคุณธินต้องระวังตัวมากๆ นะคะ”
“ห่วงฉันหรือ” เขาถามทำหน้าเฉย ทั้งที่ได้คำตอบจากคนห่วงตั้งแต่เธอคิดตอนถามแล้ว
อรอินทุ์ยิ้มแทนตอบ ถ้าเดือนก่อนมีใครมาบอกเธอว่าจะเจ็บตัวเพราะพันธิน แถมยังเป็นห่วงเขา เธอไม่มีทางเชื่อ แต่ตอนนี้อะไรต่างๆได้เกิดขึ้นไปแล้ว
“นั่นไงคุณพันธินกับผู้หญิงในข่าว” นักข่าวตะโกนบอกกันแล้วกรูเข้ามา
พันธินหันไปมองแวบเดียวก็รีบหันหน้ากลับแล้วคว้าร่างเพรียวมาอุ้มพร้อมกับดันใบหน้าของอรอินทุ์มาแนบอก ถ้าเป็นข่าวตอนนี้อีกเธอคงเสียชื่อเสียงอีกรอบ ป่านนี้นักข่าวคงสืบจนรู้หมดแล้วว่าเขามาค้างในห้องคนไข้ทั้งคืน ไม่ต้องเดาว่าจะถูกใส่สีตีไข่จนเละเทะขนาดไหน
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณธิน” เธอถามเสียงอู้อี้ พอเงยหน้าจะถามซ้ำกลับถูกดุให้ซ่อนหน้ากับอกของเขา เธอทำตามอย่างไม่เข้าใจนัก พวกเราหนีใครอีกแล้วเนี่ย คำตอบมาถึงตอนที่เรากำลังจะเข้าไปในลิฟต์
“กันนักข่าวออกไปเดี๋ยวนี้”
ปริญยืนบังทางเข้าลิฟต์ไว้ อรอินทุ์ฝืนคำสั่งหันไปมองเลยถูกแสงแฟลชสาดใส่ตาพร้อมๆ กับที่บานลิฟต์ปิดลง เธออยากจะหายตัวได้ ไม่นึกว่านักข่าวจะตามมาทำข่าวถึงที่นี่
“ทำยังไงดี งานนี้ชื่อเสียงของคุณธินไปหมดแน่ๆ”
พันธินหัวเราะจนลิฟต์เปิดและพาคนไข้ไปถึงห้อง สมัยนี้ผู้ชายเป็นฝ่ายเสียหายแล้วหรือ ป่วยการพูดไป เราไม่ควรมาเถียงกันด้วยเรื่องพวกนี้ เขาวางร่างเพรียวที่เบาลงไปนิดหนึ่งบนเตียง เธอเขยิบนั่งทำหน้าเหมือนโลกจะแตก
“เดี๋ยวไปฉันถามหมอก่อน ถ้าหมออนุญาตและเธอพร้อม เราจะกลับบ้านกัน”
“ฉันพร้อมค่ะ กลับตอนนี้เลยก็ได้ คุณธินบอกพ่อหรือเปล่า” โอยๆ เธอลืมไปได้ยังไง
“จะเหลือเหรอ ไม่ต้องห่วง ลุงอิชย์วางใจถ้าเธออยู่กับฉันอยู่แล้ว”
พันธินเปิดประตูออกไปจากห้อง ปริญเป็นคนที่เข้ามาแทน อรอินทุ์รีบเดินไปที่ห้องน้ำพร้อมชุดที่ทำความสะอาดแล้ว เธอต้องรีบกลับบ้านไปหาพ่อ ส่วนเรื่องข่าว พันธินน่าจะจัดการได้หรอกน่า ทำไมซวยซับซวยซ้อนขนาดนี้ เขาเสียชื่อเสียง ส่วนเธอจะเสียงานก็เพราะข่าวบ้าๆ นี่แหละ
ชั่วโมงต่อมาเราทั้งหมดออกจากโรงพยาบาลโดยใช้ลิฟต์หลัง คราวนี้ปริญพาตัวเองมาอยู่รถคันเดียวกับพันธินเป็นบอดี้การ์ดพ่วงคนขับรถ ทั้งที่เขาเองก็ถูกยิง เธอเดาว่าเขาคงรู้สึกไม่ดีที่ทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ รถที่บ้านวัสวานขับตามมาไม่ห่าง เธอกับพันธินนั่งด้วยกันที่เบาะหลัง
“ปวดแผลบ้างหรือเปล่า ตรงข้อเท้าที่แพลงด้วยยังเจ็บอยู่ไหม” พันธินเห็นอรอินทุ์นั่งเอนๆ เหมือนไม่สบายตัว
คนเจ็บตัวฝืนยิ้ม ข้อเท้าแพลง ข้อมือซ้น แถมยังมีแผลงูกัด เรียกว่าฟาดเคราะห์กันทีเดียวคุ้มยันเบญจเพศเลยทีเดียว
“นิดหน่อยค่ะ แต่ทนได้ คุณธินล่ะค่ะ เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า”
“ห่วงตัวเองเถอะน่า ฉันทำให้เธอเจ็บตัว เกือบตาย ต่อไปฉันจะไม่พาเธอไปไหนด้วยกันอีก ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเสี่ยง” ต่อไปมันอาจจะเล่นงานหนักกว่านี้ เขาต้องรู้ให้ได้ว่ามีศัตรูที่ไหนอีก มือปืนไม่ใช่คนของจิณณ์กับภาวิตแน่ๆ ถ้าใช่มีหรือที่เขาจะไม่รู้
อรอินทุ์หัวเราะมาคิดได้ตอนนี้ก็ช้าไปแล้วละมั้ง ไหนจะเรื่องงาน แล้วยังที่เขามีเรื่องปรึกษาพ่อของเธอบ่อยๆ จะหลบลี้หนีหน้ากันไปได้ยังไง
“ไม่เป็นไรค่ะ คิดเสียว่าถ้าตายขึ้นมาก็ไม่เหงา เราจะได้ไปหาคุณแสงด้วยกัน ว่าแต่ใครกันที่อยากฆ่าคุณธิน คุณจิณณ์หรือเปล่าคะ”
“ฉันไม่แน่ใจ รอตำรวจหาตัวมือปืนให้ได้ก่อน” เขาบอกพอหันมาก็เห็นคนช่างถามปิดปากหาว “ง่วงก็หลับได้นะ ปริญไม่พาเธอกับฉันลงข้างทางแน่ๆ คิดเสียว่ามีผู้ชายตัวโตๆ คนคอยดูแลเธอจนถึงบ้าน”
“ดูแลคุณธินต่างหาก ฉันหลับก่อนนะคะ ไอ้งูบ้าตัวนี้คงแรงเยอะจริงๆ ทำฉันหมดแรงข้ามวันข้ามคืน” เธอเอนตัวไปซบกับพนักอีกฝั่ง ผู้ชายสองคนในรถพากันยิ้ม ก็เล่นพูดเสียให้คิดลึกแบบนั้น แต่คนที่หลับตายังไม่วายบ่นในใจต่อ
‘งานนี้นักข่าวคงให้ฉายาฉันแน่ มือที่สี่หรือสามดีเนี่ย เฮ้อ’
“ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆ และหลับไปก่อนที่จะทันคิดว่าเขาตอบสิ่งที่เธอคิดได้ยังไง เสื้อสูทที่พาดไว้กับเบาะถูกคลุมตัวอรอินทุ์ไว้พร้อมกับคำสั่งให้เบาแอร์ ปริญเห็นความใกล้ชิดและเอาใจใส่นั้น พันธินหลับตานิ่งฟังว่าบอดี้การ์ดส่วนตัวกำลังคิดอะไร น่าแปลกคราวนี้ไม่บ่น แต่กำลังนึกชมเขาที่ใส่ใจคนอื่น แต่ไม่ค่อยดีแน่เมื่ออรอินทุ์เริ่มได้รับความสนใจ แน่นอนหากปริญสนใจ พ่อของเขาย่อมสนใจตาม
อรอินทุ์ตื่นมาก่อนถึงบ้านไม่นานนัก เธอนั่งคิดอะไรเงียบๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องข่าวและเรื่องวุ่นๆ ระหว่างเธอกับพันธิน ในขณะที่คนข้างๆ ก็นั่งหลับตาเฉยเหมือนหลับ แต่ไม่ได้หลับ เขารู้แล้วว่าอรอินทุ์มีปัญหาอะไร บางคนยอมบอกปัญหาตรงๆ แต่บางคนมักบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่มีปัญหาซ่อนไว้มากมาย การทำให้คนอื่นสบายใจมีส่วนดีก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาได้รับการแก้ไขได้ทันเวลา
รถจอดที่หน้าบ้านสองชั้นของอิชย์ พอรั้วเปิดออกอิชย์รีบเดินมารอรับลูกสาว อรอินทุ์ลงจากรถ แต่ก็ช้ากว่าพันธินที่ลงมาก่อนแล้วเข้ามาช่วยประคองเดิน เธอเริ่มไม่สบายใจเมื่อเห็นสีหน้าห่วงสุดใจของพ่อ
“เดี๋ยวฉันบอกพ่อเองค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เธอไม่อยากให้เขาถูกพ่อดุ ถึงพ่อจะไม่เคยทำแบบนั้นก็เถอะ
“ฉันสร้างปัญหา เธอเป็นคนรับปัญหาก็อยู่เฉยๆ เถอะน่า อย่าขืนตัวสิ เดินไม่ถนัดไม่ใช่หรือ แต่ถ้าเธอไม่รังเกียจฉันอุ้มไปส่งในบ้านก็ได้นะ”
อรอินทุ์แอบยิ้ม แค่นี้ก็ใจดีจนหล่อเกินมนุษย์แล้ว ถ้าทำดีกับเธอมากกว่านี้สงสัยได้นึกว่าตัวเองเพิ่งสวมมงกุฎนางงามจักรวาล แล้วเขาน่ะจะยิ้มอะไรนัก เมื่อก่อนไม่ยิ้มง่ายขนาดนี้สักหน่อย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินไหว แล้วถ้าคุณเธียรถาม...” แค่พูดถึงก็ทำให้เครียดได้แล้ว
“ไม่ต้องมาปวดหัวแทนฉันหรอกน่า” พันธินรู้ดีว่าจะเจออะไร
มือบางยื่นไปจับแขนที่รอให้จับแล้วเดินเข้าบ้าน ยัยเฉาก๊วยวิ่งมารับส่งเสียงงี๊ดๆ เหมือนจะถามว่าเธอหายไปไหนมา เดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงที่นั่งประจำ
“ขอโทษนะครับลุงอิชย์ที่เกิดเรื่องจนได้” พันธินยกมือไหว้อิชย์ เขารู้ดี ถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงกว่านี้ ร้อยคำขอโทษก็ไม่มีทางเพียงพอกับความสูญเสีย
“คุณธินไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องสักหน่อย ผมเข้าใจ” อิชย์ยกมือไปตบไหล่ลูกชายของเธียรที่เขารักเหมือนลูกชายของตัวเอง ก่อนจะหันมายิ้มโล่งอกเมื่อเห็นลูกสาวยังปลอดภัยดีตามที่พันธินบอก “เจ็บมากไหมลูก อยากได้อะไรบอกพ่อนะ”
“อยากกอดพ่อใจแทบขาด”
อิชย์ย่อตัวลงให้ลูกสาวได้กอดสมใจอยาก ลูกโตเป็นสาวแต่ก็ยังเหมือนเด็กสำหรับเขาเสมอ อรอินทุ์น้ำตาคลอ ไม่ได้อยากจะทำซึ้งต่อหน้าคนอื่นสักหน่อย แต่พอเห็นพ่อแล้วเธอรู้สึกว่าได้กลับบ้าน มาถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วจริงๆ พันธินยิ้มให้เพื่อนร่วมตาย เวลานี้เขาควรไปได้แล้ว พ่อลูกจะได้คุยกัน
“ผมกลับก่อนนะครับ”
อิชย์หนักใจแทน “เตรียมคำตอบที่ดีเอาไว้นะครับ ทางนั้นคงรอถามอยู่ตอนนี้”
“ครับ”
อรอินทุ์คลายกอดจากพ่อแล้วหันมายิ้มให้กำลังใจพันธิน เธอไม่รู้ว่าคุณเธียรจะถามอะไรลูกชายบ้าง แต่ที่ผ่านมาการแสดงความรักในบ้านวัสวานดูเหมือนจะเป็นเรื่องแปลกประหลาด ร่างสูงยกมือให้ไม่หันมาแทนคำว่าไม่เป็นไร ไม่นานนักรถก็เคลื่อนจากไปเพื่อเข้าสู่บ้านหลังใหญ่ที่ประตูทางเข้ามีนักข่าวมารออยู่หลายคน
ไม่ใช่แค่พันธินที่มีความลับกับคุณเธียร คุณเธียรก็มีความลับกับพันธินเหมือนกัน
แจ้งข่าวนะคะ
1 จันทร์ซ่อนใจ ได้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ (20/11/2023) ในหมวด นิยายรัก เว็บ/แอพพลิเคชั่น MEB ค่ะ
ลิงค์ค่ะ
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntz...
2 โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อง จันทร์ซ่อนใจ จากราคาปกติ 249 ลงเหลือ 149 บาท 17 วัน ตอนเหลือเวลา 12 วันค่ะ สามารถพาอรอินทุ์กับพระเอกของเธอมาไว้ที่ชั้นหนังสือในราคาน่ารักได้แล้วนะคะ
3 โบว์จะลงจันทร์ซ่อนใจให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วหยุดการลงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาด้วยกันค่ะ
จันทร์ซ่อนใจเป็นนิยายที่จะคุณรู้ว่าการรอคอยและไม่หมดหวัง
สักวันคุณจะสมหวัง...
และร่วมกันหาฆาตกรตัวจริงด้วยกัน หวังว่าจะชอบนะคะ
- _บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 251
แสดงความคิดเห็น