ตอนที่ 16 ฟื้นตัว

สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)
คุณกำลังอ่าน: สวรรค์มวลดาว (Heavenly Star)

-A A +A

ตอนที่ 16 ฟื้นตัว

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 16 ฟื้นตัว

 

เย่หวูเฉินนอนอยู่ข้างๆเย่หนิงเสวี่ยบนเตียงเดียวกัน สีหน้าของเขายังคงสงบ ปู่หลงกล่าวเสียงแผ่วต่ำ “ไข่อสูรสวรรค์มีแก่นชีวิตธรรมชาติอยู่จริงๆ สามารถใช้เพิ่มพูนความก้าวหน้าของคนธรรมดาได้อย่างมาก และใช้ยืดอายุของคนใกล้ตายออกไปได้อีกหลายสิบวัน เจ้าหนุ่ม เย่หนิงเสวี่ยนำมันมาจากนกเทียนเล่ยสัตว์อสูรสวรรค์ เพื่อเจ้าแล้วนางเกือบเอาชีวิตของนางไปทิ้ง ในอีกสิบกว่าวันที่เหลือของเจ้าจงอย่าได้ทำให้นางผิดหวัง”

 

แม้ว่าปู่หลงจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่เสียงของเขาก็ยังปลุกเย่หนิงเสวี่ยให้ตื่นขึ้นมา นางลืมตาแล้วลุกขึ้นนั่ง จากนั้นมองไปยังเย่หวูเฉิน ปู่หลงรีบเข้าไปหา เขาวางถ้วยลงแล้วกล่าวอย่างห่วงใย “เด็กดีของข้า ปู่ผู้นี้อยากจะขอร้องเจ้าให้พักผ่อนต่อ เพื่อร่างกายที่อ่อนล้าของเจ้า”

 

เย่หนิงเสวี่ยส่ายศีรษะเบาๆ และยิ้มด้วยใบหน้าซีดขาว “ไม่เป็นไร ข้าไม่กล้าหลับ... ข้ากลัวว่าจะไม่ได้เห็นท่านพี่อีกหากข้าเอาแต่หลับนอน”

 

“.........”

 

“ท่านปู่ ข้าได้ยินทุกอย่างที่ท่านพูดแล้ว ไข่ใบนั้นสามารถช่วยชีวิตพี่ชายข้าได้จริงใช่ไหม?” เย่หนิงเสวี่ยชี้ไปที่ถ้วยใบนั้น

 

“แน่นอน เขาอาจ.... เขาจะต้องฟื้นตัวหลังจากดื่มนี่ลงไป”

 

“งั้น...ขอข้าป้อนเขาได้ไหม?”

 

ปู่หลงแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะยื่นถ้วยกับช้อนให้เย่หนิงเสวี่ยด้วยรอยยิ้ม

 

น้ำยาในถ้วยไร้กลิ่นหอมหรือมีสีสันใด เพียงดูเหมือนน้ำเปล่า เย่หนิงเสวี่ยใช้ช้อนตักน้ำยายื่นไปที่ปากเย่หวูเฉิน และค่อยๆป้อนให้ แต่เย่หวูเฉินที่หมดสติอยู่ไม่สามารถดื่มหรือกลืนได้ ดังนั้นน้ำยาจึงเพียงค่อยๆไหลเลอะออกจากปากไป นางลองพยายามอยู่สองครั้ง แต่ก็มีเพียงส่วนน้อยที่ไหลเข้าไปในปาก

 

เย่หนิงเสวี่ยกังวลมากจนนางแทบจะร้องไห้ออกมา เพราะว่าน้ำยาทุกหยดหยาดล้วนสามารถใช้รักษาชีวิตพี่ชายนาง

 

นางวางช้อนลงแล้วหยิบถ้วยเล็กๆขึ้น จากนั้นจิบน้ำยาแล้วโน้มตัวลงเปิดริมฝีปากเขาด้วยมือ ถัดจากนั้นนางประกบริมฝีปากเข้าด้วยกัน น้ำยาไหลรินเข้าสู่ปากเย่หวูเฉินทีละน้อย นางเป่าปากเขาเบาๆเพื่อให้น้ำยาไหลเข้าสู่ร่างกายของเย่หวูเฉิน

 

นางยกศีรษะกลับมาแล้วมองที่เขาด้วยรอยยิ้มโง่งม “ท่านพี่ ท่านเคยพูดว่าจะปกป้องข้าตลอดไป... ยามนี้ท่านไม่อาจปกป้องข้า เช่นนั้นก็ให้ข้าปกป้องท่านเอง”

 

หลงเจิ้งหยางหันหลังกลับออกไปเงียบๆ ปู่หลงเองก็ยืนขึ้นช้าๆแล้วเดินออกจากบ้านเงียบๆเช่นกัน

 

ยืนอยู่ในสวนหลังบ้าน หลงเจิ้งหยางเงยหน้ามองบนฟ้า ไม่อาจทราบว่าเขากำลังมองสิ่งใด ปู่หลงเดินมายืนอยู่ข้างๆแล้วเอ่ยถาม “เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่?”

 

“ข้าคิดว่า... เทียบกับการเข่นฆ่าหรือเผาทรมานผู้คน การทำให้สาวน้อยผิดหวังกลับกลายเป็นความผิดบาปมหันต์ แม้ว่านางจะมีอายุเพียง 10 ปีก็ตาม”

 

หลงเจิ้งหยางทอดถอนใจด้วยอารมณ์หวั่นไหว

 

“ฮ่าฮ่า อย่าได้กังวลไปเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาล้วนย่อมมีเหตุผล หากเจ้าหนุ่มผู้นั้นไม่ได้ทำดีกับนาง เย่หนิงเสวี่ยเองก็คงจะไม่ทำเพื่อเขาขนาดนี้เช่นกัน หยางเอ๋อร์ จงจำไว้ว่าหากเจ้าปรารถนาให้ใครปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเต็มหัวใจ ก่อนอื่นเจ้าจงปฏิบัติกับนางผู้นั้นก่อนเช่นกัน”

 

“ว่าแต่ ท่านปู่ นางอายุเพียง 10 ขวบปีจริงๆหรือ?”

 

“....เจ้าถามคำถามได้ดี นางใช่อายุ 10 ปีจริงหรือไม่?” ปู่หลงส่ายศีรษะ กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่ทราบว่าเขากำลังสับสนสิ่งใดอยู่

 

ในโลกมืดมิด เขากำลังฟังสรรพเสียงภายนอกอยู่อย่างเงียบงัน ในขณะนั้นเอง ห่างออกไปมีเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยปรากฎขึ้นในสำนึกเบื้องลึก...

 

“....หากเจ้าต้องการวิวัฒน์พลังของตน ไม่เพียงแค่จิตวิญาณของเจ้าต้องกล้าแกร่งเพียงพอ แต่หัวใจเจ้าต้องแกร่งกล้าด้วย จิตวิญญาณ หมายถึงจิตวิญญาณแห่งห้วงสวรรค์ และโลกหล้า ที่สามารถเพิ่มพูนขึ้นได้ทุกชั่วยาม ทุกชั่วขณะลมหายใจ แม้กระทั่งสามารถเติมเต็มได้ในทันที ขณะที่หัวใจ หมายถึง จิตใจ เจ้าต้องสั่งสมประสบการณ์แห่งชีวิต , ความตาย , ความหวัง และ ความศรัทธา เมื่อเจ้ามีจิตวิญญาณและหัวใจที่กล้าแกร่งพอ ยามนั้นพลังของเจ้าย่อมวิวัฒน์”

 

ชีวิต , ความตาย , ความหวัง และ ความศรัทธา....

 

หรือว่าแท้จริงแล้วนี่คือประสบการณ์ที่ข้าได้รับในสองคืนกับหนึ่งวันที่ผ่านมา? เขาถูกแขวนอยู่ระหว่างขอบเหวความตาย ด้วยความหวังครั้งแล้วครั้งเล่า เขายืนกรานรักษาลมหายใจสุดท้ายเพื่อเย่หนิงเสวี่ย... นี่ใช่ว่าเขาได้รับประสบการณ์แห่งจิตใจที่เพียงพอแล้ว เช่นนั้นที่ยังคงขาดอยู่ในตอนนี้... คือสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณ?

 

มีบางอย่างที่อบอุ่นและเยือกเย็นไหลจากปากของเขาเข้าสู่ร่างกาย ด้วยลมปราณสายใหม่ กระแสลมปราณเดิมที่คอยปกป้องก็เข้มแข็งขึ้น ขณะเดียวกันลมปราณที่ตีกลับก็เริ่มอ่อนกำลังลง

 

ลมปราณเยือกเย็นสุขุมที่ไหลเข้ามาทีละน้อย ลมปราณสายปกป้องยิ่งเข้มแข็ง ลมปราณสายปั่นป่วนยิ่งอ่อนล้ากำลังลง จนกระทั่งสงบเงียบและซ่อนตัวลงในร่างกาย ทันใดนั้น เขารู้สึกราวกับได้ยินเสียงขาดผึงในหัวใจ รอบกายเขาพลันปรากฎพลังแห่งห้วงสวรรค์และโลกหล้าทะลักทลายเข้ามาและซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดทุกแห่งในร่างกาย

 

หรือว่านี่คือ....จิตวิญญาณ?

 

จิตวิญญาณที่ถูกมอบให้โดยเย่หนิงเสวี่ย?

 

ตอนนี้ พลังของเขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับที่สองของ ‘มนต์หวูเฉิน’ หากเขาต้องการบรรลุระดับที่สาม แปลว่าต้องดูดซับจิตวิญญาณแห่งห้วงสวรรค์และโลกหล้ามากยิ่งกว่านี้?

 

สายตาของเย่หนิงเสวี่ยพร่าพรางด้วยน้ำตา เพราะเหตุนี้นางจังไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของเย่หวูเฉินที่ค่อยๆดีขึ้น กระทั่งลมหายใจของเขายังกลับมาเป็นปกติและราบเรียบยิ่งกว่าเดิม

 

อวัยวะภายในที่อยู่ผิดที่ผิดทางด้วยกระแสลมปราณปั่นป่วนถูกฟื้นฟูในทันที ซึ่งทำให้ความเจ็บปวดของเขาสลายไปหมดสิ้น ยิ่งไปกว่านั้น ลมหายใจลึกลับนั้นยังคงยิ่งเพิ่มพูน เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขายื่นแขนออกกอดเย่หนิงเสวี่ยแน่น ขณะที่พวกเขายังประกบริมฝีปากกันอยู่

 

เย่หนิงเสวี่ยดวงตาเบิกโพลง จากนั้นผวาเข้าอ้อมแขนของเย่หวูเฉินอย่างรุนแรงและปล่อยน้ำตาที่อัดอั้นให้ไหลพร่างพรู ราวกับนางได้ปลดปล่อยทุกความหวาดกลัว , ทุกความเศร้าโศก , ทุกความเจ็บปวด และ ทุกความสิ้นหวัง ที่นางต้องประสบทั้งหมดทิ้งไป

 

เสียงร้องไห้ของนางทำให้ปู่หลงและหลงเจิ้งหยางสีหน้าเปลี่ยนในฉับพลัน เนื่องจากพวกเขาคิดว่าเย่หวูเฉินคงสิ้นลมหายใจสุดท้ายแล้ว ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบและดึงผ้าม่านเปิดขึ้น พวกเขาเพียงพบว่าชายหนุ่มนอนที่เคยนอนอยู่บนเตียง ยามนี้กลับยืนอยู่ต่อหน้าพวกตน ปราศจากวี่แววความอ่อนล้าใดๆบนใบหน้าหรือร่างกาย แม้หลังจากที่เผชิญความเจ็บป่วยร้ายแรง เขาอุ้มเย่หนิงเสวี่ยที่กำลังร้องไห้ไว้กับไหล่

 

เย่หวูเฉินยิ้มให้พวกเขา “ท่านปู่หลง พี่หลง ข้าจะไม่กล่าวคำขอบคุณใดๆเพิ่มอีกสำหรับความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่พวกท่านมีให้ แต่ว่า ข้าเย่หวูเฉินวันหนึ่งจะต้องตอบแทนพวกท่านอย่างแน่นอน”

 

ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้คิดจริงจังอะไรมากนักกับคำสัญญาของเย่หวูเฉิน หากแต่ในอีกไม่กี่ปีให้หลัง พวกเขาจะรู้ว่ามันล้ำค่าแค่ไหนและนับเป็นเกียรติเพียงใด ที่ได้รับคำสัญญาจากเย่หวูเฉิน

 

“เจ้าหนุ่ม เจ้า....?” ปู่หลงถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

“ข้าฟื้นตัวจนหายเป็นปกติแล้ว ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้” เย่หวูเฉินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

 

“ฟื้นตัวจน...หายเป็นปกติ?” ปู่หลงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ทันทีที่ตระหนักได้ว่าเย่หวูเฉินย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาจึงยิ้มและกล่าวออกมา “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเรา หากเจ้าต้องการขอบคุณใครสักคน ผู้นั้นสมควรเป็นน้องสาวเจ้า นางยอมสละทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตเจ้าไว้”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.