ส่งสินค้า+เมามาย
“อ้าว เถ้าแก่เหลียนท่านถึงกับมาด้วยตัวเองเลยรึ” เจียเหรินมองคนที่ลงมาจากรถม้า เขาไม่คิดว่าเถ้าแก่เหลียนจะมาที่นี่ด้วยตนเอง จึงแปลกใจเล็กน้อย
“ฮ่าๆ ข้าเพียงแค่อยากมาดูฟาร์มของเจ้าให้เห็นกับตาสักครั้ง อ่า มองดูแล้วไม่น่าผิดหวังจริงๆ สมแล้วที่น้องเหรินเป็นคนสร้างมัน” แน่นอนเถ้าแก่อย่างเขาย่อมอยากมาเห็นกิจการของคู่ค้าของตนเองไว้บ้าง และสมกับที่เขาอยากมายิ่งนัก ฟาร์มแห่งนี้ทำเอาเขาตื่นตามากนัก พืชพรรณออกดอกผลสวยงาม น้ำใสจนเห็นตัวปลาได้ มิน่าเจียเหรินถึงอยากทำฟาร์มนัก มองไปที่ใดก็ดูร่มรื่นสบายตาเช่นนี้เอง
“ฮ่าๆ ปล่อยให้ลูกน้องของท่านดูมันไปก่อน ท่านพ่อตาข้าฝากทางนี้ก่อน ข้าจะพาเถ้าแก่ไปชิมของดีของเราก่อน” ในเมื่อเถ้าแก่มาเองถึงที่เขาไม่ต้อนรับคงไม่ได้ จึงปล่อยทางนี้ให้พ่อตาของเขาเป็นคนจัดการไปก็แล้วกัน
“ได้ๆ ทางนี้ข้าจัดการเอง สือน้อย มาช่วยตาตรงนี้หน่อยสิ” พ่อฮั่วรับคำ ก่อนตะโกนไปอีกฝั่งเพื่อเรียก ชิงสือให้มาช่วยเขาอีกแรง
“ขอรับท่านตา รอสักครู่ ข้ากำลังเอาไก่ออกจากตู้ฟักใกล้เสร็จแล้วขอรับ” ชิงสือที่ตอนนี้แทบไม่ต่างจากชาวสวนผู้หนึ่งร้องตะโกนออกมาจากโรงเพาะเลี้ยง
“ได้ๆ ตาไม่รีบ พวกเจ้ามาข้าจะพาไปเอาของ ที่โรงเก็บผลผลิต” เมื่อรู้ว่าชิงสือกำลังยุ่งอยู่ พ่อฮั่วจึงพาลูกจ้างสองคนของเถ้าแก่ไปเอาผลผลิตตามคำสั่งที่จะต้องส่งให้โรงเตี๊ยมเผิงซิ่งทุกเดือน ค่อยให้เขาตามไปทีหลังก็ได้ มันไม่ได้ยากมากนักเพราะการจัดเก็บ ใช้แหวนมิติจึงไม่ได้ขนของหนัก เพียงแต่พ่อฮั่วยังเป็นมือใหม่และไม่รู้อักษรมากนัก แม้เจียเหรินจะสอนให้บ้างแล้วก็ตาม ชิงสืออ่านออกเขียนได้เวลานับของจึงอยากให้เขามาคอยดูด้วย
“เยี่ยมยิ่งนักเจ้าถึงกับทำศาลากลางน้ำที่บรรยากาศดีเช่นนี้ นั่นปลาที่เจ้าจะขายให้ข้าใช่หรือไม่ มันช่างตัวใหญ่และมีมากมายยิ่งนัก” เถ้าแก่เหลียนมองดูรอบๆ น้ำใสจนเห็นตัวปลา แล้วเถ้าแก่เหลียนอิจฉายิ่งในขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ขาดแคลนอาหาร แต่ครอบครัวของเจียเหรินมีเหลือกินเหลือใช้จนได้ขาย
“ใช่ศาลานี้ข้าพึ่งทำขึ้นมาไม่นานนี้ คิดเอาไว้ต้อนรับผู้ที่มาชมฟาร์มคิดว่าไม่เลวเลย” ตอนเเรกยังไม่มีศาลากลางน้ำ เจียเหรินจึงได้ให้หลงเปียวบุตรเขยของผู้ใหญ่บ้านมาสร้างให้ พึ่งเสร็จไปแค่สองสามวันนี้เอง เดิมคิดเอาไว้ใช้เป็นจุดพักผ่อนกินข้าวของคนในฟาร์ม แต่ใช้ต้อนรับผู้คนก็ได้เช่นกัน
“ดีๆ น้องเหรินช่างใส่ใจยิ่งนัก ว่าแต่ที่น้องเหรินบอกว่าจะพาข้ามาชิมของดีนี่อะไรรึ ปลาย่างที่อยู่ตรงหน้านี้หรือไม่ หน้าตาน่ากินยิ่งนัก” เจียเหรินมีความคิดที่ก้าวหน้าเขามักจะคิดนำหน้าคนอื่นเสมอ จุดนี้เถ้าแก่เหลียนนับถือเขายิ่ง เถ้าแก่เหลียนมองปลาย่างพร้อมกับน้ำจิ้มที่วางอยู่บนโต๊ะ คิดว่าอันนี้ใช่หรือไม่ที่เจียเหรินอยากให้เขาชิม
“อันนี้ก็ส่วนหนึ่ง แต่นี่คือของสำคัญที่ข้าอยากให้เถ้าแก่เหลียนลองดื่มดู” เจียเหรินหยิบไห สองไห ออกจากแหวนมิติมาวางตรงหน้า อันนี้ต่างหากที่เขาอยากให้เถ้าแก่เหลียนลองชิมดู
“ฮ่าๆ น้องเหรินเจ้าช่างรู้ใจข้าเสียจริงๆ ” เถ้าแก่เหลียนสูดกลิ่นหอมของเหล้าตรงหน้าแม้ยังไม่ได้ดื่ม แค่ได้กลิ่นของมัน เขาก็ต้องกลืนน้ำลายแล้ว
“เชิญเถ้าแก่เหลียน” เมื่อเห็นเถ้าแก่เหลียนจองมันตาเป็นมัน เจียเหรินจึงผายมือเชื้อเชิญให้เขาดื่มกินได้เลยไม่ต้องเกรงใจกัน
“ได้ ข้าขอลอง ปลาย่างตนนี้ก่อนแล้วกัน อืม อร่อยมากน้องเหริน น้ำจิ้มนี้ ทั้งเผ็ด ทั้งเปรี้ยวๆ แต่อร่อยเข้ากันไม่น้อยเลย” เมื่อเป็นเช่นนี้ เพื่อไม่ให้อับอายบุรุษที่เยาว์วัยกว่าตนเองนัก เขาจึงเลือกกินปลาย่างเสียก่อน พอกินมันเข้าไปเถ้าแก่เหลียนถึงกับเบิกตาขึ้น ไม่คิดว่าปลาย่างกับน้ำจิ้มนี้จะเข้ากันอย่างยิ่ง เล่นเอาเขาต้องชิมเพิ่มอีกเสียหลายคำ
“นี่เรียกว่าน้ำจิ้มซีฟู๊ด มันสามารถกินกับพวกเนื้อย่างได้ด้วยนะ” ไม่มีใครไม่ตกเป็นธาตุของน้ำจิ้มสูตรเด็ดนี้ เจียเหรินได้แต่มองเถ้าแก่เหรินกินปลาอย่างอเร็ดอร่อย
“เอ่อ น้องเหริน เจ้าจะขายสูตรให้ข้าได้หรือไม่” เถ้าแก่เหรินรู้ตัวว่าตนเองเสียกิริยาแล้ว จึงค่อยๆ วางมือลง ก่อนถามเจียเหริน หากเขาได้สูตรของน้ำจิ้มนี้ไปขายรับรองว่า โรงเตี๊ยมเผิงซิ่งต้องโด่งดังเพิ่มมากขึ้นแน่ ทุกวันนี้เริ่มมีเหล่าเศรษฐีจากเมืองรอบๆ มากินอาหารจากโรงเตี๊ยมเขามากขึ้น เมื่อคิดถึงเงินจำนวนมาก เถ้าแก่เหลียนก็ตาลุกวาวอีกครั้ง
“ฮ่า แน่นอน ข้าขายให้ท่านได้แน่ ท่านลองดื่ม เหล้าหมักของข้าทั้งสองชนิดนี้ดู ท่านชอบหรือไม่” เจียเหรินต้องการขายให้เขาแน่นอนอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เอาออกมาล่อเถ้าแก่เหลียนเสียขนาดนี้ และยังมีสุราพวกนี้อีก
“อ่า สุราทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันนัก อันหนึ่งร้อนแรง อันหนึ่งนุ่มลมุนไม่บาดคอ” เถ้าแก่เหลียนวางจอกลง เหล้าทั้งสอบแบบนี้ต้องขายดีอย่างแน่นอน ซ้ำมันยังเข้ากับปลาย่างน้ำจิ้มซีฟู๊ดอะไรนี่ด้วย
“ใช่แล้ว อันร้อนแรงนี้ข้าทำขึ้นเพื่อเหล่าบุรุษที่ชอบเหล้าแรงๆ ส่วนอีกอันเป็นเหล้าผลไม้ ทำจากผลไม้หลายชนิด เช่นลูกท้อ องุ่น ลิ้นจี่ รสชาติแตกต่างกันเล็กน้อย มันเหมาะกับผู้ที่เมาง่ายหรือเหล่าสตรี” เขาอธิบายให้เถ้าแก่เหลียนฟังอย่างตั้งใจ
“โอว้ น้องเหริน น้องรัก เจ้าจะขายพวกมันทั้งหมดให้พี่ได้หรือไม่” ยิ่งฟังในดวงตาของเถ้าแก่เหลียนยิ่งคล้ายว่ามีเงินทองอยู่เต็มไปหมด ต้องยอมรับว่ายิ่งเขาพบกับเจียเหรินเท่าไหร่ เถ้าแก่เหลียนยิ่งได้โชคที่เจียเหรินยื่นให้ตลอด
“ได้แน่นอน เพียงแต่มันมีไม่มากนัก ทุกเดือนข้าส่งให้ได้แค่สิบไหเท่านั้น” เขายินดีจะขายออกไป แต่หากต้องจำกัดอยู่บ้าง แค่เอาไว้กินเองในครอบครัวก็มากแล้ว
“ได้ๆ เท่านี้ นับว่าดีแล้ว” เถ้าแก่เหลียน ยอมรับจำนวนเท่านี้ ยิ่งมีน้อยและหายากเช่นนี้ ยิ่งสร้างชื่อเสียงให้โรงเตี๊ยมของเขาไปอีก เขาจะเอาไว้เป็นเหล้าระดับสูงของร้าน
“ท่านอาจารย์ขอรับท่านปู่ให้มาบอกว่าทุกอย่างส่งมอบเรียบร้อยแล้วขอรับ” ชิงสือเข้ามารายงานแก่อาจารย์ของตน แม้แต่ไก่ที่ส่งรอบนี้ด้วย ทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไร
“โอ้ ไวใช้ได้เลย เเล้วท่านพ่อตาข้าเล่าเหตุใดจึงไม่เห็นเขา” เจียเหรินคิดว่าคงเป็นชิงสือนั่นเองที่ไปช่วยพ่อตาของเขานับส่ง เพราะเขาพึ่งสอนพ่อตาได้ไม่นานแม้เขาจะเรียนรู้ได้ไวกว่าคนทั่วไปเพราะได้รับน้ำพุแห่งสวรรค์ แต่พ่อตาของเขาเป็นการจัดการครั้งแรกคงจะประหม่าอยู่ไม่น้อย เหตุใดจึงมีเพียงแต่ชิงสือเข้ามาเจียเหรินจึงถามหาพ่อฮั่ว
“ท่านตา กำลังย่างปลา ทำกับข้าวกินกับพวกคนงานที่มากับเถ้าแก่อยู่ขอรับ” ชิงสือตอบตามความจริง
“อืม เช่นนั้นเจ้าก็มานั่งกับพวกข้าเถิด เถ้าแก่เหลียนข้าลืมแนะนำท่านให้รู้จัก นี่คืออาสือเขาเป็นศิษย์ของข้า อาสือนี่คือเถ้าแก่เหลียนเขาเป็นคู่ค้าของฟาร์มเรา ต่อไปเจ้าจะได้พบเขามากขึ้น” เมื่อทราบเช่นนั้นเจียเหรินก็ไม่ได้ซักไซ้อันใดอีกเพียงคิดว่าพ่อฮั่วคงอาศัยโอกาสนี้ทำความคุ้นเคยกับเหล่าคนงานเพราะอาจจะต้องพบเจอกันบ่อยครั้ง หลังจากนี้ไป ก่อนเจียเหรินจะเเนะนำทั้งสองคนตรงหน้าตนให้รู้จักกัน
“คารวะเถ้าแก่เหลียนขอรับ” ชิงสือคารวะตามมารยาทไม่มีความเย่อหยิ่งในแบบของเชื้อพระวงค์อยู่แม้แต่น้อย
“ฮ่าๆ หน่วยก้านไม่เลวเลย เจ้าเรียกข้าว่าลุงเหลียนเถิด น้องเหรินข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีลูกศิษย์แล้ว สือน้อยเจ้าต้องเรียนรู้จากอาจารย์ของเจ้าให้มาก เขาเป็นคนที่น่าทึ่งไม่น้อยเลย” เถ้าแก่เหลียนมองดูเด็กหนุ่มตรงหน้า แม้จะเนื้อตัวมอมแมมเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปกปิดรัศมีของเขาได้ เถ้าแก่เหลียนได้แต่คิดในใจ คนจะเป็นศิษย์ของเจียเหรินต้องไม่ธรรมดาแน่นอน หากแต่เขาไม่รู้ว่าความไม่ธรรมดานั้น จะไม่ธรรมดาจนไปถึงขั้นนั้นได้ หากเขารู้คงไม่ขอให้เด็กหนุ่มตรงหน้าเรียกตนว่าลุงเป็นแน่
“ข้าทราบขอรับ ข้าจะเรียนรู้จากอาจารย์ให้มากท่านลุงเหลียน” ชิงสือรับคำสั่งสอนของเถ้าแก่เหลียน ก่อนเหลือบมองไปที่อาจารย์ของตนเล็กน้อย เขาทราบดีว่าต้องเรียนรู้กับอาจารย์ให้มากให้ได้สักครึ่งหนึ่งก็ยังดี
“ดีๆ มาๆ เจ้าดื่มได้หรือไม่” เมื่อเห็นเด็กหนุ่มมีท่าทีเชื่อฟังเถ้าแก่เหลียนถูกใจยิ่ง จึงชักชวนเขาดื่มสักจอก
“ข้าดื่มได้ขอรับ” ชิงสือดวงตาลุกวาวรับจอกจากเถ้าแก่เหลียนอย่างนอบน้อม ก่อนดื่มลงไปหมดจอกอย่างรวดเดียว
“เช่นนั้นเจ้ายังเป็นเด็กน้อยอยู่ ดื่มเพียงเล็กน้อยก็พอแล้ว” เมื่อเห็นความกล้าหาญของเด็กหนุ่ม เถ้าแก่เหลียนออกปากปรามเล็กน้อย ตอนเขาอายุเท่าชิงสือดื่มได้มาสุดแค่สามจอกเท่านั้นก็ล้มฟุบแล้ว ยิ่งเหล้าตรงหน้าแรงอยู่ไม่น้อยเลย
“หึ เถ้าแก่ ท่านไม่ต้องห่วง ลูกศิษย์ของข้าคนนี้แม้จะอ่อนด้อยในด้านอื่น แต่เรื่องร่ำสุราเขาไม่เเพ้ผู้ใดแน่” เรื่องนี้แม้แต่เจียเหรินยังต้องยอมแพ้ลูกศิษย์คนนี้ ใครใช้ให้เขาดันมีเส้นลมปราณจักรพรรดิมังกรทองร่ำเมรัยเล่า สุรานับว่าช่วยบำรุงเลือดลมของเขา และสาเหตุที่เจียเหรินต้องหมักสุราไว้มากมายก็เพื่อลูกศิษย์คนนี้โดยเฉพาะ
“ฮ่าๆ น้องเหริน เจ้าตามใจลูกศิษย์ของเจ้าเกินไปหรือไม่ เขาจะเสียคนได้นะ” เถ้าแก่เหลียนเห็นเจียเหรินโอ้อวดลูกศิษย์ของตนเองเกินไป ก็ให้หมั่นไส้อยู่บ้าง เด็กหนุ่มพึ่งหัดดื่มสุราเช่นนี้ เขาจะแพ้ได้รึ
“น้องเหริน ข้าขอโทษที่ข้าดูถูกลูกศิษย์เจ้า ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าขอยอมแพ้ คร๊อก” เถ้าแก่เหลียนถึงกับยอมแพ้ ขอกลับคำที่พูดไปก่อนหน้านี้ เขาแทบไม่ไหวแล้ว เจ้าเด็กน้อยนี่ถึงกับยกไหซดอย่างสบายๆ ไปสิบไหแล้ว เถ้าแก่เหลียนปวดใจยิ่งเขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเขาถึงได้รับสุราจากเจียเหรินเพียงแค่เดือนละสิบไห ก็ดูศิษย์ของเขาคนนี้สิ เขากินแทนน้ำเปล่าหรือไร ว่าแล้วเถ้าแก่เหลียนก็ล้มฟุบลงบนโต๊ะทันที
“ท่านอาจารย์เขาหลับไปแล้ว จะทำเช่นไรดี” ชิงสือปาดมุมปากเช็ดสุราที่หกเลอะ มองดูเถ้าแก่เหลียนที่สลบไปแล้ว ก่อนหันไปขอความช่วยเหลืออาจารย์ของตน
“พาเขาไปส่งที่รถม้า ส่วนเรื่องเงินค่อยตามไปเก็บทีหลังก็ได้” เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ได้แต่พาเขาไปส่งรถม้าก่อน เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกันทีหลังได้
“ขอรับ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 120
แสดงความคิดเห็น