บทที่ 421: เหยียนหุนที่ถูกฝังอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายพันปี

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 421: เหยียนหุนที่ถูกฝังอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายพันปี

ทันใดนั้นอูหลิวก็รู้ตัวว่าตนเองเผยอารมณ์ที่แท้จริงออกไป เขาจึงดึงหนังสัตว์ที่คลุมศีรษะลงมาปิดใบหน้าให้อยู่ใต้เงามืดแล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย 

 

“ทำไมเจ้าถึงขุดมันไม่ได้ ลองวิธีอื่นหรือยัง?”

 

ในขณะที่ชายแก่เอ่ยถาม ดวงตามืดมนที่ซ่อนอยู่ใต้เงากำลังส่องประกายแสงเย็นเยียบ

 

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาควรจะเปิดเผยความลับของตัวเอง

 

ปัจจุบันเขามีอำนาจควบคุมคนในเผ่าได้อย่างจำกัด มีเพียงคนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่ยอมทำงานให้เขา หากคนอื่นเกิดระแคะระคายอะไรขึ้นมา แผนที่เขาวางไว้ก็จะยิ่งล่าช้าไปอีก

 

เขารอมาหลายปี จนกระทั่งบัดนี้เขารอไม่ไหวแล้ว!

 

เขาอยากจะให้แผนมันสำเร็จเดี๋ยวนี้! และเขาจะต้องค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เหมืองหินดำออกมาให้เร็วที่สุด!

 

ในเวลาเดียวกัน ความกลัวจับใจของภูตหมาป่านั้นหายวับไป แล้วในไม่ช้ามันก็บรรเทาลงเพราะออร่ารอบ ๆ ตัวอูหลิวเปลี่ยนไป

 

จากนั้นเขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “ก่อนหน้านี้เรายังสามารถขุดหินดำได้ด้วยกรงเล็บของเรา แต่ตอนนี้หินดำทำให้กรงเล็บของทาสมากกว่า 10 คนของเราหัก เราไม่รู้ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร...”

 

หลังจากชายชราได้ยินคำอธิบาย ดวงตาที่มืดมิดของเขาก็แคบลง ก่อนที่มันจะเปล่งประกายระยิบระยับ

 

นี่พวกเขาขุดกันมาจนถึงก้นเหมืองแล้วหรือ? 

 

มีข่าวลือว่าภายใต้เหมืองหินดํามีสมบัติที่เรียกว่า ‘เหยียนหุน’ ซึ่งมันถูกฝังอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายพันปี และเหยียนหุนชิ้นหนึ่งจะต้องดูดซับพลังจากใต้โลกพิภพเป็นเวลาหลายร้อยล้านปีจึงจะก่อตัวขึ้นมาได้สักชิ้นหนึ่ง

 

นอกจากนี้เหยียนหุนยังเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขานมานานกว่าจิงหลิงเสียอีก นอกจากมันจะสามารถทำให้ภูตกลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว มันยังสามารถจัดการกับจิงหลิงได้ด้วย ถือว่าสมบัติดังกล่าวเป็นศัตรูตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียวที่รับมือกับจิงหลิงได้

 

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีภูตคนใดพบเหยียนหุนมาหลายพันปีแล้ว

 

คราวนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องตามหาเหยียนหุนให้จงได้!

 

เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด มันมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือพวกเขากําลังจะขุดเจอเหยียนหุน!

 

“เหล่าอู เราต้องขุดต่อไปไหม?” พอภูตหมาป่าเห็นว่าชายชราเงียบไปนาน เขาก็เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

 

วินาทีนั้นอูหลิวดึงตัวเองออกจากห้วงความคิด พร้อมกับพยายามกดความตื่นเต้นในใจของเขาลงไปให้ลึกสุดใจ

 

ครู่ถัดมา ชายชรายกมือขึ้นตอบด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า “พักไปก่อน”

 

คนเป็นลูกน้องที่ได้ยินเช่นนี้ถึงกับตกตะลึง เขาไม่อยากจะเชื่อคำสั่งที่ออกจากปากอีกฝ่ายเลย

 

“ไม่ขุดต่อหรือ?”

 

ก่อนที่หัวหน้าต้องการระงับการขุดเหมืองหินดํา อูหลิวเป็นคนแรกที่คัดค้าน

 

นับตั้งแต่ก่อตั้งเผ่าหมาป่าขึ้นมา พวกเขายังไม่เคยหยุดขุดเหมืองหินดําเลยสักวัน

 

การขุดเหมืองหินดํากลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสายตาของภูตหมาป่าไปเสียแล้ว แต่ทันใดนั้นอูหลิวก็บอกว่าพวกเขาไม่จําเป็นต้องขุดต่อ จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

 

“อืม”

 

เนื่องจากสมบัติอย่างเช่นเหยียนหุนไม่ใช่สิ่งที่ภูตธรรมดาสามารถขุดได้ ในเมื่อมันถูกขุดไปจนถึงทางตันแล้ว แน่นอนว่ามันจะขุดต่อไปไม่ได้อีก

 

หากอยากจะขุดต่อไป ชายชราจะต้องคิดหาวิธีอื่น

 

จากนั้นอูหลิวก็โบกมือส่งสัญญาณให้ภูตหมาป่าออกไปได้

 

แล้วคนเป็นลูกน้องก็คำนับก่อนจะถอยกลับไป

 

หลังจากภูตหมาป่าเดินไปไกล ชายชราก็เงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าเหี่ยวย่นของเขาขณะที่สายตาอันมืดมนทอดมองไปยังทางเข้าออกเผ่าราวกับว่าเขามองเห็นทุกอย่างในระยะทางหลายพันกิโลเมตรข้างนอกกําแพงหิน

 

ในระหว่างที่อูหลิวกําลังไตร่ตรอง ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว

 

เขาคิดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในเหมืองหินดำก่อนหน้านี้

 

หากเขาสามารถใช้เจ้าสิ่งนั้นเพื่อทำลายเหมืองอีกครั้ง บางทีเขาอาจจะทำลายส่วนแข็ง ๆ ด้านล่างได้!

 

ผู้หญิงที่ชื่อหูเจียวเจียวดูเหมือนนางจะมีความสามารถมาก แค่นางไปที่เหมืองหินดําครั้งเดียว นางก็ทําลายมันจนพังราบเป็นหน้ากลอง ถ้านางมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนกว่าเดิม บางทีนางอาจจะขุดเหยียนหุนขึ้นมาได้!

 

ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวูบวาบในดวงตาของอูหลิว

 

ข้าต้องได้ครอบครองเหยียนหุน!

 

“เข้ามา!”

 

ทันทีที่ชายชราตัดสินใจเสร็จ เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะเรียกภูตหมาป่าให้มาหาตน

 

“เจ้านำภูตกลุ่มหนึ่งแอบเข้าไปในเผ่าเพื่อเอาตัวนังจิ้งจอกคนนั้นกลับมาให้ข้า”

 

“แล้วอย่าทำอะไรกระโตกกระตาก แค่จับตัวนางมาคนเดียวเท่านั้น”

 

เมื่อคนเป็นลูกน้องได้ยินคำสั่งก็มีท่าทางลังเล “แต่เหล่าอู... ผู้หญิงคนนั้นมีอาวุธแปลก ๆ อยู่ในมือ แล้วยังมีภูตมากมายคอยปกป้องนาง เราคงไม่สามารถเข้าใกล้ตัวนางได้...”

 

อีกทั้งพวกเขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าจิ้งจอกสาวคนนั้นทรงพลังมากแค่ไหน

 

ตอนนี้ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าสามารถจับตัวนางมาได้

 

พออูหลิวนึกถึงความสามารถที่โดดเด่นของหูเจียวเจียว เขาก็ไม่โกรธลูกน้องที่รู้สึกไม่มั่นใจ เขานิ่งไตร่ตรองสักครู่ก่อนจะเปลี่ยนคําพูดของตัวเอง

 

“ถ้าเจ้าจับนางไม่ได้ เจ้าก็จับคนของนางมาแทนโดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก”

 

เนื่องจากผู้หญิงและเด็กมีค่ามากกว่าผู้ชาย แล้วผู้หญิงก็เป็นเพศที่ใจอ่อน เขาจะใช้คนเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือต่อรอง แม้ว่าพวกเขาจะจับตัวหูเจียวเจียวมาไม่ได้ แต่ชายชราก็สามารถใช้ตัวประกันเพื่อแลกกับสิ่งที่เขาต้องการ

 

เขามั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะยอมแลกเปลี่ยนกับเขาอย่างแน่นอน

 

“รับทราบ” คนเป็นลิ่วล้อรับคําสั่ง

 

ยามนี้ภูตหมาป่าที่มารับคำสั่งรู้สึกเหมือนยืนอยู่ต่อหน้ามัจจุราช ขาของเขาอ่อนแรงจนแทบจะโค้งคำนับผู้เป็นนายไม่ไหว

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกเสมอว่าอูหลิวคนปัจจุบันแตกต่างจากเมื่อก่อน

 

เขาอดคิดไม่ได้ว่าชายคนนี้น่ากลัวขึ้นมากกว่าเดิม

 

ในไม่ช้าภูตหมาป่าก็เผยแพร่คําสั่งของอูหลิว

 

เมื่อชายที่เป็นผู้นำกลุ่มพาสมาชิกออกจากเผ่า เขาบังเอิญได้พบกับภูตหมาป่าที่เป็นลูกน้องคนสนิทของหลางซัว

 

พอภูตหมาป่าคนนั้นเห็นว่าพวกเขากําลังจะออกไปข้างนอก เขาก็นําภูตอีก 2-3 คนมาขวางทางอีกฝ่ายอย่างหยาบคายและถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

“ตอนนี้เป็นฤดูหนาว พวกเจ้าจะออกจากเผ่าไปทำอะไร?”

 

ในอดีตภูตของเผ่าจะต้องรับคำสั่งจากหลางเมี่ยเท่านั้นจึงจะเคลื่อนไหวทำอะไรได้

 

ตั้งแต่หูเจียวเจียวหลบหนีออกไป หัวหน้าก็ไม่ได้สนใจสิ่งใดเลย เขาเอาแต่นอนทั้งวันจนละทิ้งงานของเผ่าให้อูหลิวเป็นคนจัดการ ในตอนนี้ชายหนุ่มจึงแอบรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อย

 

ด้วยเหตุนี้หลางเมี่ยเลยไปหาหัวหน้าหลายครั้ง

 

แต่หัวหน้าก็กลายเป็นคนขาดสติ อีกฝ่ายไม่ยอมจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ในเผ่าเลย

 

จากนั้นเขาก็ระบายความโกรธกับลูกน้องของตัวเองเหมือนคนบ้า

 

“พวกข้าจะไปจับนังจิ้งจอกตัวแสบที่ทำลายเหมืองหินดำของเรา” ภูตหมาป่าที่เป็นผู้นำกลุ่มออกไปทำภารกิจอธิบายตามความจริง

 

เมื่อหลางเมี่ยได้ยินเช่นนี้ก็ทำหน้าไม่พอใจ และพูดด้วยน้ําเสียงคุกคามว่า “ว่าไงนะ? หัวหน้าสั่งให้เจ้าไปจับหูเจียวเจียวจริงหรือ ทำไมเขาไม่สั่งให้ข้าไปเองล่ะ?!”

 

เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลย

 

เป็นไปได้ไหมว่าหัวหน้าไม่ไว้ใจเพราะก่อนหน้านี้ตนทำพลาด?

 

ข้ารับไม่ได้! ไอ้พวกคนไร้ประโยชน์กลุ่มนี้จะมีความสำคัญมากกว่าข้าได้ยังไง? 

 

ไม่มีทางที่หัวหน้าจะใช้งานพวกมันโดยที่ไม่บอกเขาก่อน!

 

ในไม่กี่อึดใจ ตัวแทนความดีความชั่วในหัวของหลางเมี่ยได้ทะเลาะตบตีกันมากมายนับครั้งไม่ถ้วนว่าตนควรทำอย่างไรดี

 

ทางด้านภูตหมาป่ารีบส่ายหัวพลางอธิบายว่า “ไม่ใช่คำสั่งของหัวหน้า แต่เป็นเหล่าอูที่สั่งให้เราไป”

 

พอหลางเมี่ยได้ยินชื่ออันแสนน่ารังเกียจ คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น

 

“อะไรนะ? อูหลิวสั่งให้พวกเจ้าไปงั้นรึ มันจะเป็นไปได้ยังไง เขาเคยเกลี้ยกล่อมหัวหน้าไม่ให้ไล่ตามนางไปไม่ใช่หรือไง?”

 

ชายหนุ่มไม่อยากจะเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายเลย

 

แต่ในไม่ช้าเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป

 

“แบบนี้นี่เอง ไอ้เฒ่าหัวโล้นจอมเจ้าเล่ห์นั่น!” 

 

“ที่แท้เหตุผลที่เจ้านั่นพยายามเกลี้ยกล่อมให้หัวหน้าปล่อยตัวนังจิ้งจอกตัวแสบนั่นไป ความจริงแล้วมันอยากจะผูกขาดผลประโยชน์เองสินะ”

 

“กะแล้วเชียวว่าไอ่แก่นั่นไม่ใช่คนดีอย่างที่ใครหลายคนเห็น ไม่ได้การ ข้าต้องไปบอกเรื่องนี้กับหัวหน้า…”

 

หลางเมี่ยพึมพำกับตัวเองจบแล้วก็หันหลังเดินจ้ำอ้าวไปที่บ้านพักของหลางซัว

 

ท่าทางของชายหนุ่มทำให้ภูตแถวนั้นงุนงง

 

เมื่อทุกคนเห็นว่าหลางเมี่ยเดินออกไปไกลแล้ว ภูตที่ได้รับคำสั่งให้ไปจับตัวคนของจิ้งจอกสาวก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

โชคดีที่หลางเมี่ยไม่พาลทะเลาะตบตีกับพวกตน ไม่อย่างนั้นคนในกลุ่มทั้งหมดคงไม่สามารถผ่านด่านคนที่รับมือยากที่สุดในเผ่าไปได้แน่นอน

 

“ไปกันเถอะ รีบออกเดินทางกันเร็ว ถ้าหลางเมี่ยกลับมาเราคงไม่ได้ออกไปไหนกันแล้ว”

 

จากนั้นเหล่าภูตหมาป่าก็รีบออกจากเผ่าไปแบบไม่รอช้า

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน หมาป่าตัวหนึ่งกำลังวิ่งมุ่งหน้าไปทางบ้านพักของหลางซัว แต่พอมาถึงครึ่งทางเขาก็หยุดกะทันหัน

 

ไม่นานดวงตาสีเขียวก็เปล่งประกายวูบวาบ

 

“ไม่สิ! ข้าจะบอกหัวหน้าไม่ได้”  ทันใดนั้นหลางเมี่ยก็รู้สึกว่าอูหลิวต้องกำลังวางแผนชั่วเอาไว้แน่ แถมหัวหน้าก็ไม่เคยตำหนิอีกฝ่าย การที่เขาไปแจ้งหัวหน้าเรื่องดังกล่าวมันน่าจะไม่เกิดประโยชน์อะไร 

 

ถัดมา หมาป่าหนุ่มเดินวนเป็นวงกลมอย่างกระวนกระวายใจ

 

แล้วเขาควรทำอย่างไรดี?

 

แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้ไอ้แก่นั่นทำเรื่องลับหลังหัวหน้าอย่างเด็ดขาด

 

ยามนี้หลางเมี่ยคิดหนักจนหางสะบัดไปมาเร็วขึ้นตามอารมณ์ร้อนใจของเจ้าของ

 

ในไม่ช้าดวงตาของเขาก็พลันสว่างขึ้น!

 

“ใช่แล้ว!”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.