บทที่ 417: คนในเผ่าของเฟิงเฉิงใจกว้างจริง ๆ

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 417: คนในเผ่าของเฟิงเฉิงใจกว้างจริง ๆ

“หลิงเอ๋อเล่าเรื่องที่นางไปร่ำเรียนกับหมอมาให้ข้าฟัง มันทำให้ข้าสามารถมองคนออกได้นิดหน่อย พี่สาม ไม่ว่าท่านจะยุ่งแค่ไหน ท่านก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเอง อย่าอดนอนจนทำให้ร่างกายรับไม่ไหว” เนื่องจากภูตไม่รู้ว่ารอยคล้ำใต้ตาบ่งบอกถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ หูเจียวเจียวจึงอธิบายถึงเหตุผลให้พี่ชายฟัง

 

เธอไม่ต้องการให้พี่สามล้มป่วยไปเพราะเหตุนี้ แถมมันยังได้ไม่คุ้มเสียอีก

 

พอหูชิงหลู่ได้ยินเช่นนั้นก็เกาหัวด้วยความลำบากใจ “พี่รู้แล้ว ต่อจากนี้ไปพี่จะเชื่อฟังเจ้า”

 

แน่นอนว่าจิ้งจอกหนุ่มเชื่อฟังคำพูดของน้องสาวคนเล็กเสมอ

 

ขณะเดียวกัน หลงโม่ที่ถูกทิ้งให้ยืนอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็นพูดขัดขึ้นทันทีว่า

 

“ร่างกายของผู้ชายไม่ได้บอบบางขนาดนั้น”

 

ทว่าหูชิงหลู่ไม่รู้สึกละอายใจแต่อย่างใด “น้องสาวของข้าบอกว่าข้าอ่อนแอ ดังนั้นข้าจึงอ่อนแออย่างที่นางพูดนั่นแหละ” 

 

คนเป็นพี่ชายพูดจบแล้วก็ลากหูเจียวเจียวไปใกล้ ๆ กำแพงบ้าน ก่อนจะเปิดหนังสัตว์ผืนหนึ่งออกอย่างตื่นเต้น

 

“น้องเล็ก เจ้ามาพอดีเลย พี่เพิ่งทำลองของใหม่ขึ้นมา ถ้าเจ้าชอบก็หยิบไปได้เลยนะ”

 

ชายหนุ่มจำได้ว่าตอนที่เขายังเด็ก คนทั้งเผ่าไม่ชอบของไร้ประโยชน์ที่เขาสร้างขึ้น 

 

มีเพียงน้องน้อยคนนี้ที่ไม่ได้มีอคติอะไรและเฝ้าดูเขานั่งทำของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสายตาคนอื่น แล้วบอกให้เขาเลือกทำในสิ่งที่ชอบ แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้ายเขาก็ต้องเลือกทำอะไรที่มีประโยชน์กับตัวเองรวมถึงคนในครอบครัวมากกว่าอยู่ดี

 

จนกระทั่งปัจจุบัน การทำสิ่งของเหล่านี้สามารถช่วยให้เผ่ามีความเจริญก้าวหน้า และทำให้หูชิงหลู่ ‘มีเป้าหมายในชีวิต’ อีกครั้ง

 

“มันคืออะไรหรือ?” หูเจียวเจียวเอ่ยถามพลางทำหน้าสงสัย

 

ต่อมา หญิงสาวก้มลงไปเห็นเครื่องปั้นดินเผารูปทรงต่าง ๆ วางเรียงรายเป็นแถวอยู่ใต้หนังสัตว์

 

เครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้มีเนื้อหยาบซึ่งทำขึ้นมาแบบง่าย ๆ โดยที่พวกมันล้วนเป็นสีกากีหรือสีน้ำตาลเข้ม แต่ถึงกระนั้น ใบหน้าของจิ้งจอกสาวก็ยังตกตะลึง

 

“พี่สาม ท่านทำของพวกนี้เองหรือ?” หูเจียวเจียวหันไปมองหน้าหูชิงหลู่ด้วยความประหลาดใจ

 

เดิมทีเธอต้องการทำเครื่องปั้นดินเผาเอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการดำรงชีวิต

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในเผ่ามีหินเพียงพอให้ใช้ทำอะไรได้มากมาย แล้วคนในเผ่าก็ไม่ได้ขาดแคลนภาชนะหรือเครื่องครัวต่าง ๆ แต่สิ่งที่พวกเขาขาดแคลนคืออาหารที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตมากกว่า ดังนั้นโครงการนี้จึงถูกพักไว้แบบไม่มีกำหนด

 

หลังจากหูชิงหลู่ได้ยินคำถามของน้องสาว เขาก็พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจและพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ใช่ น้องเล็ก เจ้าลองดูสิ ถ้าเจ้าชอบก็เอากลับไปใช้ได้เลย ของพวกนี้นอกจากจะใส่อาหารได้แล้วยังเอาไว้ใช้เป็นที่เก็บน้ำหรือเก็บน้ำแกงให้ร้อนได้นานขึ้นด้วย!”

 

“แล้วอีกอย่าง มันมีน้ำหนักเบากว่าหินมาก แม้แต่เจ้าที่เป็นผู้หญิง ก็ยังสามารถหยิบยกมันได้ง่ายดาย”

 

ผู้เป็นพี่ชายต้องการแบ่งปันสิ่งดี ๆ กับน้องสาวของเขาเท่านั้น

 

หูชิงหลู่เว้นจังหวะพูดก่อนจะอธิบายต่อไปว่า

 

“พี่คิดว่าดินเหนียวที่เจ้าพูดสามารถใช้ทำก้อนอิฐได้ ซึ่งมันดีกว่าหิน และดินเหนียวก็ควรจะสามารถเอามาทำอย่างอื่นได้ด้วย ในตอนแรกพี่ก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะทำออกมาสำเร็จดั่งที่หวังไว้”

 

“พี่สาม ท่านยอดเยี่ยมมาก” หูเจียวเจียวเอ่ยปากชมพี่ชายโดยไม่ลังเล

 

แล้วหญิงสาวก็ลูบไล้ชามดินเผา 2 ใบในมือ

 

ตั้งแต่เธอทะลุมิติมาที่นี่ นอกจากสิ่งของในมิติแล้ว เธอก็ไม่ได้สัมผัสของอย่างอื่นนอกจากเครื่องมือหินเลย แม้แต่ของใช้ในบ้านก็ทำมาจากหินทั้งนั้น

 

ทว่าเนื่องจากข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง มันทำให้จิ้งจอกสาวไม่อยากพึ่งพาของในมิติมากเกินไป ไม่เช่นนั้นเธออาจจะตกที่นั่งลำบาก

 

แล้วหากวันหนึ่งของในมิติอันตรธานหายไป เธอก็ยังจำเป็นจะต้องเอาชีวิตรอดบนโลกนี้ให้ได้ด้วยตัวเอง

 

เมื่อหูชิงหลู่ได้ยินคำชมของน้องสาวคนเล็ก เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น

 

“น้องเล็ก เจ้าชอบอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เดี๋ยวพี่สามคนนี้จะทำให้เจ้าเอง ของพวกนี้ทำง่ายกว่าก้อนอิฐมาก” ชายหนุ่มตบหน้าอกพร้อมให้คำมั่น

 

แน่นอนว่าหูเจียวเจียวไม่ทำให้เขาท้อใจ เธอหยิบชาม 2 ใบขึ้นมาแล้วยื่นให้หลงโม่

 

“ขอบคุณพี่สาม งั้นข้าเอา 2 อันนี้ เราจะได้มีชามเอาไว้ดื่มน้ำ”

 

จากนั้นหญิงสาวก็วางมือลงบนต้นแขนของผู้เป็นสามี

 

เมื่อมังกรหนุ่มได้ยินคำว่า ‘เรา’ เขาก็มีความสุขทันที ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นมองไปทางหูชิงหลู่

 

เห็นไหม!

 

คนที่สำคัญที่สุดในใจของเจียวเจียวคือข้า

 

ทางด้านจิ้งจอกหนุ่มกลอกตาใส่ท่าทางขี้อวดของเจ้ามังกร แล้วพยายามข่มความอยากที่จะแย่งชามดินเผาจากมือของอีกฝ่ายคืนมา 

 

“พี่สาม ท่านตั้งชื่อให้เจ้าสิ่งนี้หรือยัง?” เสียงของหูเจียวเจียวดึงสติเขากลับมาอีกครั้ง

 

“พี่ยังไม่ได้ตั้งชื่อมันเลย น้องเล็กเจ้าช่วยตั้งชื่อให้มันหน่อยสิ”

 

หูชิงหลู่เกาหัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาชอบลงมือทำก็จริง แต่เขาไม่เก่งเรื่องการตั้งชื่อสักเท่าไหร่ 

 

ดังนั้นให้น้องสาวของเขาตั้งชื่อให้มันดีกว่า!

 

ที่ผ่านมาหูเจียวเจียวรู้สึกรับไม่ได้กับชื่อแปลก ๆ ทุกชนิดในโลกของภูตมานานแล้ว เธอจึงตอบว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เรียกมันว่าเครื่องปั้นดินเผาแล้วกัน ท่านว่าชื่อนี้ดีไหม?” 

 

“ใบใหญ่เหมือนหม้อหินเรียกว่าหม้อดินเผา ส่วนใบเล็กเรียกว่าชามดินเผา” เธอกล่าวขณะชี้ไปที่ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาที่มีรูปทรงต่าง ๆ พลางพยายามจดจำสีของมัน 

 

“เครื่องปั้นดินเผา? ตกลง! เรียกมันว่าแบบนี้ก็ได้” ดวงตาของหูชิงหลู่เป็นประกาย ในขณะที่เขาพยักหน้าซ้ำ ๆ 

 

ในตอนนั้นเอง หูเจียวเจียวสังเกตเห็นว่ามีรอยนิ้วมือจำนวนมากบนพื้นผิวของพวกมัน เธอจึงเดาว่าพี่ชายคนที่ 3 น่าจะปั้นทั้งหมดขึ้นมาด้วยมือ ดังนั้นเธอจึงบอกวิธีทำแท่นหมุนเครื่องปั้นดินเผาให้เขาฟัง 

 

พอหูชิงหลู่ได้ยินคำพูดของน้องสาว เขาก็กลายเป็นเหมือนคนที่ได้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเข้าไป

 

“มีแบบนี้ด้วยหรือ เจียวเจียว เจ้าฉลาดมาก ถ้ามีเจ้าแท่นหมุนที่ว่า เครื่องปั้นดินเผาที่พี่ทำจะดูดีขึ้น!” แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จิ้งจอกหนุ่มก็รู้สึกตื่นเต้นมากแล้ว

 

“พี่สาม ท่านต้องลองเอาดินชนิดต่าง ๆ มาลองทำด้วย แล้วข้าได้ยินมาว่าในป่ามีพืชหลายชนิดที่สามารถใช้ย้อมสีได้ แค่นี้ท่านก็สามารถทำเครื่องปั้นดินเผาที่มีสีสันต่างกันได้แล้ว” หูเจียวเจียวแบ่งปันความคิดของเธอให้พี่ชายฟัง 

 

จิ้งจอกสาวคิดว่าในอนาคตอีกไม่ไกล พี่ชายคนที่ 3 อาจสามารถทำเซรามิก หรือเครื่องลายครามได้ 

 

หลังจากที่หูชิงหลู่ตั้งใจฟังรายละเอียด เขาก็รู้สึกว่าตนได้ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ และจิตใจของเขาก็สดใสขึ้นมาก ในเวลาเดียวกัน ความคิดแปลกใหม่นับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาในหัวชายหนุ่มทันที ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปจับมือน้องสาวผู้จุดประกายความคิดแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า

 

“น้องเล็ก เจ้าคือเทพธิดาลงมาโปรดพี่สามจริง ๆ! ความคิดของเจ้าน่าทึ่งมาก เจ้าช่วยพี่สามได้มากเลย!” 

 

ในเวลาเดียวกัน พวกโหวเสี่ยวเตียวที่อยู่ข้าง ๆ ยืนทำหน้าสับสน

 

พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมหูชิงหลู่ถึงตื่นเต้นมากขนาดนั้น

 

แต่เมื่อทุกคนเห็นเขามีความสุขและรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เหล่าภูตก็ยิ้มตามไปด้วย

 

หลังจากที่หูชิงหลู่พูดจบ เขาก็รีบมุ่งหน้าออกไปหาดินใหม่ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหยุดเขาได้อีกแล้ว

 

โชคดีที่การทำก้อนอิฐสิ้นสุดลงก่อน เพราะฉะนั้นการที่จิ้งจอกหนุ่มจะไปทำอย่างอื่นมันก็ไม่กระทบกับงานหลัก

 

ทางด้านหลงโม่ เขามองตามหลังพี่ชายของภรรยาที่เดินออกไป และอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า

 

“หูชิงหลู่เป็นคนบ้าของแปลกแบบนี้มาตลอดเลยหรือ?”

 

เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

 

“พี่สามน่าจะชอบอะไรพวกนี้จริง ๆ” หูเจียวเจียวกล่าวพลางถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

 

เนื่องจากหลงโม่สามารถเข้าใจคำว่า ‘ชอบ’ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความรู้สึกของหูชิงหลู่

 

ถ้าเป็นสำหรับเจียวเจียว เขาสามารถทำสิ่งที่บ้ากว่านี้ได้ไม่ต่างกัน

 

“ก่อนหน้านี้หูชิงหลู่ไม่ค่อยชอบพูด แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน เขาก็เริ่มพูดเยอะขึ้น” โหวเสี่ยวเตียวอธิบาย

 

เมื่อเทียบกับพี่น้องผู้ชายตระกูลหูทั้ง 4 นิสัยของหูชิงหลู่นั้นค่อนข้างเก็บตัว ยกเว้นหูเจียวเจียวและพี่น้อง ปกติแล้วเขาไม่ชอบพูดคุยกับภูตคนอื่นเลย

 

แต่ปัจจุบันเขาเปลี่ยนไปมากจริง ๆ

 

ทว่าหูเจียวเจียวรู้สึกมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

 

หลังจากหูเจียวเจียวกับหลงโม่ได้รู้ถึงสถานการณ์เกี่ยวกับการทำก้อนอิฐจากโหวเสี่ยวเตียวแล้ว ทั้งคู่ก็กลับไปเล่าให้ท่านผู้เฒ่าฟัง

 

ขณะนี้หัวหน้าเผ่ายังรออยู่ในถ้ำที่พวกผู้หญิงพักผ่อนกัน

 

ทันทีที่ชายชราได้ยินว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างบ้านตอนนี้ เขาก็รู้สึกเสียดาย

 

แต่เฟิงเฉิงและคนของนางโบกมือพลางพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า

 

“ท่านผู้เฒ่าไม่ต้องห่วง เรามีอาหาร เสื้อผ้า ความอบอุ่นเพียงพอ ก่อนหน้านี้พวกเรายังนอนข้างนอกได้สบาย ๆ ตอนนี้แค่มีถ้ำช่วยบังลมหนาวก็ดีมากแล้ว” 

 

“ท่านผู้เฒ่า เราขอบคุณท่านที่แบ่งปันทั้งอาหาร น้ำดื่มและเสื้อผ้าให้ แค่นี้มันก็มากจนไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว!”

 

หลังจากดื่มยาและน้ำแกงร้อน ๆ ร่างกายของพวกนางก็อุ่นขึ้นมาก อีกทั้งพวกนางยังมีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นด้วย

 

ยามนี้ภูตผู้มาใหม่ทุกคนยืนขึ้นคำนับขอบคุณหัวหน้าเผ่า

 

เมื่อผู้อาวุโสเห็นการแสดงออกที่จริงใจของอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกตื้นตันใจ

 

คนในเผ่าของเฟิงเฉิงใจกว้างจริง ๆ!

 

เวลาต่อมา เขาก็กลับออกจากถ้ำไปอย่างสบายใจ

 

หลังจากที่หูเจียวเจียวแจ้งข่าวเสร็จแล้ว เธอก็กลับบ้านพร้อมกับหลงโม่

 

ในไม่ช้า ภายในถ้ำก็เหลือเพียงพวกภูตเฟิงหลีเท่านั้น

 

ทันทีที่หัวหน้าเผ่ากับหูเจียวเจียวออกไป ภูตทั้งหมดก็รวมตัวกันเป็นวงกลมทันที ตอนนี้สภาพพวกนางไม่ต่างจากฝูงมดที่รวมตัวกันกินน้ำผึ้ง 

 

“เผ่านี้ใหญ่มาก!”

 

“ได้ยินไหมว่าในฤดูหนาวผู้หญิงในเผ่าของพวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ในถ้ำ!”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.