บทที่ 16...3/3 สิ้นสุดการ up ค่ะ

ขอเพียงรักนี้นิรันดร

-A A +A

บทที่ 16...3/3 สิ้นสุดการ up ค่ะ

แสงของเช้าวันสุดท้ายในชีวิตของธามิณียังคงอบอุ่นเหมือนเดิม เธอพยายามไม่คิดว่าวันนี้เวลาของเธอจะหยุดลงตอนไหน แค่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป  แม้จะไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม การที่เธอได้ทำอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตทั้งที่น่าจะหมดโอกาสไปแล้วตั้งแต่ 5 ปีก่อน เธอจะคิดว่ามันดีมากแล้ว

หญิงสาวเดินไปที่รถ แต่กลับแปลกใจเพราะไม่ใช่ศนิที่มารับเธอเหมือนทุกวัน ทว่าเป็นชาญ เกิดคำถามขึ้นทันทีว่าศนิไปไหนอย่างนั้นหรือ  ถึงกระนั้นเธอก็เปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับเหมือนเดิม ชาญแปลกใจที่ธามิณีเลือกมานั่งตรงนี้ แต่ไม่ได้ทักท้วงอะไร

“วันนี้ผมได้รับคำสั่งให้ขับรถไปส่งคุณธามิณีครับ”

ธามิณีหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าใบเล็ก  “ถ้าอย่างนั้น ฉันฝากให้คุณทำงานเรื่องหนึ่งได้ไหมคะ”

“ได้ครับ”

“ฝากของในกล่องใบนี้ให้ศนิในวันพรุ่งนี้นะคะ”  ธามิณีส่งกล่องขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อยให้กับชาญที่รับไปวางไว้ที่เบาะหลัง “อย่าเพิ่งให้ศนิจนกว่าจะพรุ่งนี้นะคะ”

 “ผมจะทำให้ครับ”

การที่ชาญไม่ถามว่าทำไม ทำให้ธามิณีโล่งอก อย่างน้อยการที่เห็นเขาบนรถในวันนี้แทนศนิก็มีข้อดีอยู่มาก เพราะสิ่งที่เธอเตรียมไว้ให้ศนิในกล่องนั้นจะส่งถึงมือเขาในวันพรุ่งนี้ เพียงแต่ในวันสุดท้ายของชีวิต เธอจะไม่มีโอกาสได้พบกับศนิอีกแล้วงั้นหรือ หญิงสาวถอนใจเพราะเป็นแบบนี้ก็น่าจะดีแล้ว เขาจะได้ไม่รู้ว่าเป็นวันนี้ เธอจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเขาอาจทำบางอย่างที่ส่งผลต่อตัวเขาเอง

 

ตึกจะถล่มไหมนะ? เป็นคำถามที่ธามิณีไม่แน่ใจเลย แต่ก็กลัวว่าหากมันเกิดขึ้นจริงๆ จะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นเธอจึงเลี่ยงไม่เข้าตึกเรียนในวันนี้ ไม่ใช่เพราะอยากหนีสิ่งที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ แต่เพราะไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนไปด้วย หญิงสาวไม่เข้าเรียนในตอนบ่าย แต่เลือกจะไปเดินเล่น เธอโทรหากัลยากับรวิชญ์เพื่อคุยเรื่องทั่วๆ ไป ก่อนจะวางสายด้วยความรู้สึกใจหาย เธอเดินไปเรื่อยๆ หาของอร่อยที่ชอบ ฟังเพลงที่ชอบ แล้วนั่งมองใครต่อใครที่กำลังเดินผ่านหน้าร้านที่เธอกำลังนั่ง เวลาผ่านไปจนกระทั่งเย็นมากแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอเลย บางทีอาจจะไม่ใช่วันนี้หรือเปล่า

ทำไมวันนี้ศนิหายไปเลยนะ?

แม้ธามิณีจะสงสัย แต่คิดว่ามันก็ดีแล้วที่เป็นแบบนี้ หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดที่สะพานลอย หากเดินขึ้นไปมันจะถล่มลงมาไหมนะ ที่ผ่านมาต่อให้หาวิธีขัดขวาง แต่ชะตากรรมต่างๆ มันไม่เคยเปลี่ยน หญิงสาวเดินขึ้นบันไดแต่ละขั้นไปด้วยความระแวงกลัว พยายามคิดว่าหากสิ่งใดจะเกิดมันย่อมเกิด ทว่าหลังจากเดินขึ้นสะพานลอยที่ทำให้หัวใจเต้นแรงที่สุดในชีวิต แต่กลับไม่เกิดอะไรขึ้นเลย เธอเดินต่อไปจนกระทั่งมาถึงหอพัก การเดินมาตลอดทั้งบ่ายทำให้เธอเมื่อยจนอยากไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนสักพัก หลังจากนั้นหากจะเกิดอะไรขึ้นก็สุดแท้แต่เถิด

แต่ความค้างคาใจทำให้จากที่สงสัย ธามิณีเริ่มเป็นห่วงว่าทำไมศนิถึงได้หายไป เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่านะ หญิงสาวได้แต่ถอนใจพลางโทรหาเขา

“ทำไมไม่รับสาย ทำไมวันนี้ศนิแปลกๆ”

ธามิณีไม่แน่ใจว่าคิดไปเองไหมว่าหัวใจของเธอเต้นแรง ทั้งที่กำลังนอนอยู่บนเตียง พอกำลังจะหลับตาลงพลันแสงสีม่วงที่เธอคุ้นเคยก็ปรากฎขึ้นภายในห้อง

ศนิมางั้นหรือ? แต่เขาอยู่ที่ไหนกันนะ?

หญิงสาวเหลียวมองหาไปรอบตัว จนกระทั่งเห็นเขายืนอยู่ข้างเตียงห่างออกไปหลายก้าว เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดจากบาดแผลทั้งหัวไหล่ ปลายคิ้วและตรงสีข้าง

เกิดอะไรขึ้น? ศนิไปทำอะไรมา?

ธามิณีจะลุกขึ้นเพื่อเดินมาหาเขา ทว่าเธอกลับทำไม่ได้ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นตรึงร่างเอาไว้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ

“ธามลุกขึ้นไม่ได้ คุณได้รับบาดเจ็บเพราะอะไรคะ เจ็บมากหรือเปล่า ธามจะช่วยคุณยังไงดี”

          ธามิณีเห็นศนิมองมาที่เธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย เรียวปากเม้มปิด เขายืนอยู่ตรงนั้นไม่ก้าวเข้ามาหาเธอ แผ่นหลังของเขาหยัดตรง ทั้งที่บาดแผลน่าจะทำให้เขาเจ็บจนไม่น่าจะยืนไหวด้วยซ้ำ ทว่าในฉับพลันนั้นธามิณีก็รู้สึกถึงแรงกดมหาศาลที่ไหล่ทั้งสองข้างและเอวพร้อมๆ กับหัวใจของเธอก็เจ็บร้าวราวกับถูกฉีกออก มือของศนิแบออก ราวกับมือของเขารอรับบางสิ่งอยู่อย่างไรอย่างนั้น

          “คุณกำลังทำอะไร? ธามเจ็บนะ”

ใบหน้าของศนิยังคงเรียบเฉย มีเพียงดวงตาของเขาที่ธามิณีรู้สึกว่าเศร้าเหลือเกิน ถ้าเขารู้สึกเศร้าแล้วทำแบบนี้ทำไม ที่เขาทำแบบนี้เพราะต้องการผลึกกาลกลับคืนไปใช่ไหม เขารอไม่ไหวอีกแล้วหรือ ทั้งที่เธอคงจะตายอีกไม่นานนี้ เขารอไม่ได้จริงๆ หรือ ทำไมถึงใจร้ายกับคนที่เขาบอกว่ารัก หรือคำว่ารักมันไม่ใช่ความรัก หากความรู้สึกที่หน้าอกนั้นเจ็บเจียนตายแล้ว การได้รู้ว่าถูกหักหลังกลับเจ็บจนอยากให้เขาซัดพลังใส่เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรหรือเสียใจเพราะรักเขาอีก

“ทำไม?”

ธามิณีถามออกไปได้เพียงเท่านั้นเพราะหัวใจของเธอกำลังเต้นช้าลง เขาดึงผลึกกาลออกไปจากหัวใจของเธอจนสิ้นแล้วใช่ไหม หญิงสาวไม่มีโอกาสได้เห็นว่าตอนนี้มีกลุ่มพลังงานที่สวยงามราวกับเพชรสีม่วงกำลังลอยอยู่เหนือร่างของเธอ เหตุผลเดียวที่เธอร้องไห้มาจากการเห็นใบหน้าของชายที่รักสุดหัวใจ คำรักเป็นแค่คำลวงอย่างนั้นหรือ เขาไม่ได้รักเธอเลยใช่ไหม หากเขารักเธอคงไม่มองเธอเจ็บปวดทรมานด้วยการยืนเฉยๆ เขาทำเพียงแบมือเพื่อรอรับสิ่งที่เขาปรารถนาเท่านั้น สายตาของเขาเศร้า แต่การกระทำของเขาช่างโหดร้าย ทว่าคำรักของเขาต่างหากที่ทำร้ายเธอยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เธอจะจบชีวิตต่างจากนิมิตแบบนี้ใช่ไหมนะ ช่างเป็นการลาจากที่เผาใจให้มอดไหม้ หากชีวิตหลังความตายมีจริง เธอคงไม่ต้องดื่มอะไรเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดในชาตินี้

เธออยากจะลืมเขาตั้งแต่วินาทีนี้และขอให้อย่าได้พบเจอกันอีกไม่ว่าภพชาติไหน ไม่ใช่เพราะเธอเกลียดเขา แม้จะเสียใจเจียนตาย เธอกลับยังรักเขาอยู่ดี เธอไม่อยากจำอีกแล้วว่าความรู้สึกของการได้รักเขามันทำให้เจ็บปวดจนต้องแลกด้วยชีวิต

ตอนนี้เธอกำลังหายใจอยู่ แต่เวลาที่เหลือคงไม่มากแล้วใช่ไหม ศนิจะมองเธออยู่ตรงนั้นจนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย ช่างเป็นความใจดีที่น่าเจ็บปวด ธามิณีสูดหายใจเมื่อรู้สึกว่าหัวใจกำลังเต้นในจังหวะแปลกๆ หากต้องจากกัน เธอควรได้พูดลาสักคำ แม้เขาจะอยากหรือไม่อยากฟังก็ตามแต่

“ธามเคยคิดว่าถ้าถึงเวลาที่ต้องลาจากคุณ ธามจะบอกลาคุณยังไง คุณจะเสียใจมากไหม ธามไม่อยากให้คุณเสียใจ พอเห็นอย่างนี้ ธามควรดีใจนะที่คุณทำตามที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่รู้สึกอะไรหากธามจากไปจริงๆ แต่ธามกลับเสียใจเพราะคุณใจร้ายมาก คุณน่าจะบอกธามว่าต้องการอะไร ธามจะได้ไม่ถลำใจจนคิดว่าที่ผ่านมาเป็นความรู้สึกจากใจจริงของคุณ” 

แม้ธามิณีจะสั่งให้ตัวเองเข้มแข็งอย่าได้ร้องไห้อีก ถ้าจะต้องตายไปอย่างนี้ แต่ความเสียใจมันมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเพื่อสลายทุกความรู้สึกที่มีในหัวใจ แต่ชั่วเวลาเพียงไม่กี่นาที เธอคงไม่อาจลืมเขาได้ ผู้ชายที่เธอรักและคนที่หักหลังเธอในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

“ลาก่อน”

“อย่าเอ่ยลา สักวันเราจะได้พบกันอีก” ศนิเอ่ย ทว่ายังคงยืนอยู่ที่เดิม

ธามิณีมองไปที่ศนิเพราะคำพูดของเขากลับทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เคยเจ็บ เราจะได้พบกันอีกงั้นหรือ เพื่ออะไร เธอคงไม่อาจลืมได้ว่าเขาทำสิ่งใดในวาระสุดท้าย ธามิณีหลับตาเพื่อฟังเสียงหัวใจที่กำลังเต้นช้าลงเรื่อยๆ ของเธอ หากเธอวิ่งลงจากเตียงแล้วออกไปขอความช่วยเหลือ เธอจะรอดตายไหมนะ ทว่าเธอคงได้แค่คิดเพราะศนิยังคงใช้พลังตรึงร่างของเธอไว้ราวกับต้องการเห็นกับตาว่ามนุษย์ที่เขาแสร้งบอกว่ารักได้ตายแล้วจริงๆ  เสียงหัวใจของเธอมันเต้นเป็นเสียงอย่างไรนะ

ตึ้ก..ตึ้ก...

ทำไมมันถึงได้น่าฟังจัง ธามิณีรู้สึกได้ถึงความเย็นจากน้ำตาเพราะเพิ่งรู้ว่าเสียงเต้นของหัวใจช่างน่าฟังแบบนี้เอง เธออยากฟังเสียงหัวใจของตัวเองไปอีกเรื่อยๆ อยากได้ทำงานที่รัก ได้บอกรักใครสักคนที่รักเธอจากใจจริง อยากได้เห็นความสุขของตัวเองมากกว่านี้ อยากเห็นเพื่อนๆ ในวันแต่งงาน แต่ไม่มีโอกาสเหล่านั้นอีกแล้ว

ตึ้ก... ธามิณีสูดหายใจยาวพลางยกมือขึ้นมากุมหน้าอก เมื่อกำลังรู้สึกว่าหายใจยากขึ้นไปทุกทีๆ ความตายที่เธอกำลังใกล้เข้าไปมันเป็นแบบนี้เองสินะ สมองของเธอกำลังเลื่อนลอยมึนชา หัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆ

ตึ้ก...

ธามิณีหายใจแรงเพื่อสูดอากาศเข้าสู่ร่างกาย ขอแค่ได้หายใจ ชีวิตนี้มันช่างเปราะบางนัก อีกไม่กี่นาทีเธอจะตายแล้วใช่ไหม ศนิยังมองเธออยู่ใช่หรือเปล่า ธามิณีไม่อาจลืมตามองเพื่อจะเห็นสายตารอคอยของเขาได้ หญิงสาวปิดตานิ่งแล้วพยายามดึงรั้งลมหายใจ มือของเธอกำแน่น

ตึ้ก...แล้วตามมาด้วยความเงียบงัน

มีเสียงสูดหายใจแรงจากศนิ ธามิณีมั่นใจว่าได้ยิน เขาร้องไห้งั้นหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก แต่เธอกำลังนึกไม่ค่อยออกว่ากำลังเสียใจเพราะอะไร และเพราะใครกันนะ ทำไมถึงร้องไห้ หรือว่าความตายทำให้รู้สึกพร่าเลือนค่อยๆ จำไม่ได้แบบนี้กันนะ

ตึ้...ก

ทว่าในห้วงสุดท้ายที่เธอยังรับรู้ได้ เธอได้เสียงเสียงประตูเปิดออก เธอพยายามจะลืมตาแต่ว่ามันสายไปแล้ว ทุกอย่างพร่ามัวจนเธอแน่ใจว่าหัวใจหยุดเต้น ร่างกายของเธอราวกับลอยขึ้น ทว่ามันคงสายไปแล้ว เธอคงได้เดินทางไปยังที่แสนไกลซึ่งไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ใด นรกหรือสวรรค์มีจริงไหม เธอไม่รู้เลย มีเพียงสิ่งเดียวที่เธออยากจะขอ หวังว่าเธอจะได้พบพ่อกับแม่

ลาก่อน...

          สิ้นสุดการ up นิยายแล้วนะคะในบทที่ 16 ลงให้อ่านตามที่แจ้งไป สามารถอ่าน ขอเพียงรักนี้นิรันดร ได้ต่อในรูปแบบ E-Book ที่เว็บ MEB หมวด นิยายรัก ค่ะ

        ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ

        อัมราน_บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.