ตอนที่ 546 ออกไปแก้แค้น?

-A A +A

ตอนที่ 546 ออกไปแก้แค้น?

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 546 ออกไปแก้แค้น?

เซี่ยเฟยรู้ดีว่าหยูฮัวแข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนคาดคิดเอาไว้มาก ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะไม่มีกองกำลังเสริม แต่หยูฮัวก็น่าจะสามารถจัดการกับพวกหมิงกุยด้วยตัวคนเดียวได้

อย่างไรก็ตามการเดินทางระหว่างเซี่ยเฟยกับหยูฮัวก็ค่อนข้างจะเป็นการจับคู่ที่แปลกประหลาดไปสักหน่อย 

เซี่ยเฟยยังเป็นเพียงแค่นักรบกฎที่อ่อนแอ และเขาก็ยังคงทำตัวเหมือนกับตอนที่อยู่ในพันธมิตรที่ใช้เวลาในการฝึกฝนเพียงลำพังโดยไม่ค่อยจะขอคำแนะนำจากผู้อื่น

ขณะเดียวกันแม้หยูฮัวจะเป็นสมาชิกของตระกูลหยู แต่เขาก็ไม่ค่อยได้พึ่งพาอำนาจของตระกูลทำให้เขาไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในตระกูลแห่งนี้เลย เพราะเขาชอบที่จะเคลื่อนไหวอย่างอิสระและเขาก็ไม่ชอบพึ่งพาคนอื่นไม่ต่างไปจากเซี่ยเฟย

การจับคู่ของพวกเขาจึงกลายเป็นการจับคู่ของผู้ที่แสวงหาอิสระ และเป็นพวกที่ไม่ชอบเดินตามเส้นทางของคนอื่น

หลังจากเดินผ่านประตูมิติ ชายหนุ่มก็ได้ปรากฏตัวในเมืองขนาดใหญ่ที่วุ่นวาย โดยดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งกำลังจะตกยังทิศตะวันตก แต่มันกลับมีดวงอาทิตย์อีกดวงหนึ่งกำลังจะขึ้นทางทิศตะวันออก มันจึงทำให้ภาพของท้องฟ้าของเมืองแห่งนี้ค่อนข้างที่จะดูแปลกตาไปเล็กน้อย

“ที่นี่คือดาวคาซา เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์การค้าที่รุ่งเรืองที่สุดในดินแดนของเรา บนท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์หมุนเวียนขึ้นลงทั้งหมด 3 ดวง ทำให้ดาวดวงนี้ไม่เคยตกอยู่ในความมืดมิดเลยแม้แต่วินาทีเดียว” หยูฮัวกล่าวอธิบาย

“ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไปหาหมิงกุยเหรอครับ แล้วทำไมพวกเราถึงมาที่นี่?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“หมิงกุยเป็นพวกระวังตัวมากทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แต่หลังจากการสืบสวนของฉัน ร่องรอยของหยูกู่เหอ, หยูชิงเหอและพวกชายชุดดำที่ต้องการจับตัวนายได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่”

“หากมีการเคลื่อนไหวผ่านประตูมิติหรือเข็มทิศมิติ มันก็พอมีวิธีการที่จะติดตามร่องรอยของผู้ใช้งานได้ แต่ร่องรอยของพวกเขากลับหายไปหลังจากที่ได้เดินทางมายังเมืองแห่งนี้ ฉันจึงสันนิษฐานว่ามันน่าจะมีสนามบินอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน แล้วพวกเขาก็อาศัยการเดินทางผ่านยานอวกาศเพื่อเดินทางไปยังฐานของหมิงกุยอีกต่อหนึ่ง”

“ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำเป็นอย่างแรกคือการตรวจสอบที่นี่ให้ละเอียด และค้นหาลูกน้องของหมิงกุยที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองให้เจอ” หยูฮัวอธิบาย

แม้ว่าหยูฮัวจะอธิบายออกมาแบบนั้นแต่เมือง ๆ นี้ก็มีขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา และมันก็มีคนหลาย ๆ คนเดินทางเข้าออกเมืองนี้ทุกวินาที การพยายามค้นหาร่องรอยของหมิงกุยจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

“จำไว้ว่าเมืองการค้ามักจะมีด้านมืดอยู่เสมอ นอกเหนือจากคาซาจะเป็นเมืองการค้าขนาดใหญ่แล้ว มันยังเป็นสถานที่ตั้งของตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนอีกด้วย ครั้งนี้ฉันจะพานายไปเปิดหูเปิดตาเองว่าด้านมืดของดินแดนผู้ใช้กฎมันเป็นยังไง” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

เซี่ยเฟยไม่ได้มีความคิดที่จะคัดค้าน เพราะเขาเป็นพวกชอบมองหาอะไรใหม่ ๆ อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว นอกจากนี้ตลาดมืดก็เป็นแหล่งรวมความเสี่ยงและโอกาสเอาไว้ในที่เดียวกัน แต่ตราบใดก็ตามที่เขามีสายตาที่ดีมากพอ เขาก็อาจจะสามารถหาสมบัติจากเศษซากขยะในตลาดมืดได้

หลังจากนั้นหยูฮัวก็พาเซี่ยเฟยเดินเข้าไปในตลาดที่วุ่นวาย ซึ่งศูนย์การค้าบริเวณนี้ดูไม่ต่างไปจากโซนขายของให้นักท่องเที่ยวที่มีทั้งบาร์และร้านค้าอยู่ตามข้างถนน

“พวกเราไปหาพี่พักกันก่อน แล้วค่อยเริ่มสำรวจกันทีหลัง” หยูฮัวกล่าว

ต่อมาพ่อค้าตระกูลหยูก็นำชายหนุ่มเดินเลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามตรอกซอกซอย ก่อนที่จะเดินทางมาถึงโรงแรมธรรมดา ๆ แห่งหนึ่งที่มีชายขี้เมา 2 คนกอดคอกันอ้วกอยู่ตรงประตู จนทำให้เซี่ยเฟยอดที่จะยกมือขึ้นมาอุดจมูกเอาไว้ไม่ได้ เพราะสภาพแวดล้อมในบริเวณนี้ให้ความรู้สึกไม่ต่างไปจากการได้อยู่ในสลัม

หลังจากเปิดประตูเข้าไปในโรงแรมเล็ก ๆ พวกเขาก็ได้พบกับพนักงานหญิงอ้วนเพียงคนเดียว โดยภายในมือของเธอกำลังถือของกินอะไรสักอย่างสีดำแล้วเคี้ยวมันอย่างมูมมามด้วยความเอร็ดอร่อย

เมื่อเห็นหยูฮัวกับเซี่ยเฟยเดินเข้ามาในโรงแรม หญิงอ้วนก็รีบวางอาหารเอามือเช็ดปากและหยิบกุญแจออกมาวางบนโต๊ะ

หยูฮัวพยักหน้าให้กับเธอก่อนที่จะคว้ากุญแจที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมัน และเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 พร้อมกับเซี่ยเฟย

“ข้อดีของที่แบบนี้คือไม่มีใครมาสนใจว่าเราจะทำอะไร ในทางกลับกันถ้าหากว่าเราไปเข้าพักโรงแรมที่มีมาตรฐาน ตัวตนของเราก็จะเริ่มดึงดูดความสนใจของคนอื่น ๆ อย่างที่เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้” หยูฮัวอธิบายให้เซี่ยเฟยฟัง

หลังจากเดินไปจนสุดทางเดินพวกเขาก็เดินมาจนถึงห้องที่มีเลขตรงตามกุญแจ แต่เมื่อพวกเขาเปิดประตูออกพวกเขากลับได้พบกับกลิ่นอับที่พัดโชยออกมา

ในความเป็นจริงห้อง ๆ นี้ถือได้ว่าเป็นห้องที่ดีที่สุดในโรงแรมแล้ว เพราะมันเป็นห้องที่อยู่สุดทางเดินมันจึงเป็นห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้มากที่สุด แต่น่าเสียดายที่เสียงที่ดังทะลุเข้ามาจากหน้าต่างเป็นเสียงที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก พวกเขาจึงเลือกที่จะปิดหน้าต่างและทนกับกลิ่นอับมากกว่าที่จะฟังเสียงพวกนั้น

ภายในห้องประกอบไปด้วยเตียง 2 เตียง, เก้าอี้ 2 ตัว, ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ ซึ่งหนึ่งในตู้เสื้อผ้านั้นมีประตูหลุดออกไปหนึ่งบาน ขณะที่ผ้าปูที่นอนก็มีสีสันสดใสแตกต่างจากผ้าปูที่นอนที่ควรจะเป็นสีขาวเหมือนโรงแรมทั่ว ๆ ไปที่ชายหนุ่มเคยเข้าพัก

หยูฮัวหยิบน้ำเปล่าออกมาจากแหวนมิติ 2 ขวดและหยิบเม็ดยาสีแดงออกมา 2 เม็ด

“นี่คือยาศัลยกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเราได้ ผลของยาอยู่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ พวกเรามาเปลี่ยนรูปลักษณ์กันก่อนดีกว่าจะได้สืบหาเรื่องของหมิงกุยได้ง่ายขึ้น” หยูฮัวกล่าว

หลังจากที่ทั้งคู่กลืนยาลงไปภายในคอ ไม่กี่วินาทีต่อมารูปลักษณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

แต่เดิมหยูฮัวเป็นคนที่มีผิวขาวมาก แต่ทันทีที่เขากินยาเข้าไปใบหน้าของเขากลับกลายเป็นใบหน้าของคนผิวดำที่มีหนวดเคราขึ้นมาอย่างรกรุงรัง

“อืม…พอใช้ได้” หยูฮัวกล่าวอย่างพึงพอใจ หลังจากที่หยิบกระจกขึ้นมาพิจารณาหน้าใหม่ของตัวเอง

“ยานี้มีประโยชน์มากเลยนะเนี่ย!” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้าหลังจากที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของหยูฮัว

ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็ได้กลายเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าอันดุร้ายและมีแผลเป็นอันน่ากลัวบริเวณแก้มทางซีกขวา ซึ่งใบหน้าในปัจจุบันของเขาสามารถที่จะขู่ให้ผู้คนหวาดกลัวได้โดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องปริปากพูดออกไปเลยแม้แต่น้อย

อันธอดที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะโดยปกติเซี่ยเฟยมักจะดูติ๋ม ๆ อยู่เสมอ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ศัตรูเป็นจำนวนมากเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนที่อ่อนแอ แล้วมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาชอบโดนคนอื่นรังแกมาตั้งแต่อดีต

แน่นอนว่าคนที่เข้ามารังแกเซี่ยเฟยย่อมมีจุดจบที่ไม่น่าอภิรมย์นัก เพราะถึงแม้ภายนอกชายหนุ่มจะดูติ๋ม แต่นิสัยภายในของเขากลับกลายเป็นคนที่มีนิสัยที่โหดร้าย

เซี่ยเฟยไม่ค่อยพอใจกับใบหน้าใหม่ของตัวเองมากนัก เพราะมันเป็นใบหน้าที่ดึงดูดความสนใจของคนอื่นได้มากเกินไป แตกต่างจากสไตล์ปกติที่เขามักจะชอบทำตัวจืดจางท่ามกลางฝูงชน

“ไม่เลวเลย ฉันสาบานได้ว่าต่อให้เป็นคนที่นายสนิทก็จำนายตอนนี้ไม่ได้แน่ ๆ” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“เอาล่ะเดี๋ยวฉันออกไปหาคนข้างนอกก่อน นายจะอยู่ในโรงแรมหรือจะออกไปข้างนอกก็ได้ แต่ถ้าหากว่ามีปัญหาอะไรรีบติดต่อมาหาฉันทันที” หยูฮัวกล่าวก่อนที่จะโยนเครื่องสื่อสารไปให้กับเซี่ยเฟย

ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนที่หยูฮัวจะเดินออกจากห้องไป

ภายในห้องค่อนข้างจะมีสภาพแวดล้อมที่ห่วยแตกมาก มันจึงทำให้แม้แต่ขนอุยที่มักจะหนีไปนอนบนเตียงก็ยังต้องถอนหายใจและเกาะอยู่บนไหล่ของเซี่ยเฟยไปตามเดิม

เซี่ยเฟยนำกระป๋องออกมาจากแหวนมิติ และเมื่อหุ่นยนต์ตัวน้อยได้เห็นสภาพห้องที่เหม็นอับ มันก็เริ่มทำความสะอาดอย่างขยันขันแข็งโดยไม่ปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย

หลังจากกระป๋องจัดการทำความสะอาดเตียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยกับขนอุยก็ได้ขึ้นไปพักบนเตียง ซึ่งเจ้าตัวน้อยก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยล้า ขณะที่เซี่ยเฟยได้ใช้ช่วงเวลาว่างในการฝึกฝนกฎแห่งมิติ

กฎแห่งมิติของเขาใกล้ที่จะพัฒนากลายเป็นนักรบกฎขั้นที่ 5 แล้ว ซึ่งการที่เขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 1 ขั้น มันก็หมายความว่าเขาจะมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มจึงพยายามระงับความปรารถนาที่จะออกไปเดินสำรวจด้านนอกและนั่งฝึกฝนอยู่บนเตียงอย่างอดทน

เมื่อคริสตัลขาวภายในมือหมดพลังงานลง เซี่ยเฟยก็หยิบคริสตัลขาวชิ้นใหม่ออกมาและเริ่มการฝึกฝนใหม่ในทันที โดยการพยายามจะเร่งการฝึกฝนแบบนี้จำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาลในทุก ๆ วัน ซึ่งแต่เดิมชายหนุ่มได้ใช้คริสตัลม่วงเพียงแค่วันละประมาณ 10 กว่าชิ้นเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเขาต้องใช้คริสตัลขาวในการเติมเต็มพลังงานวันละ 2-3 ชิ้นเลยทีเดียว

“ใกล้แล้ว! ตอนนี้อักขระกฎแห่งมิติตัวที่ 5 เสร็จสมบูรณ์ไปมากกว่า 90% แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวออกมาหลังจากที่เขาหยุดพักจากการฝึกฝน

“ฉันว่านายพักบ้างก็ดีนะ หลังจากสมองได้พักแล้วการฝึกในครั้งต่อไปจะได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

หลังจากที่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เซี่ยเฟยก็ได้พบว่าห้องทั้งห้องถูกทำความสะอาดเป็นอย่างดี จนทำให้แม้แต่ขนอุยก็ยังนอนหลับสนิทอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจจะออกไปด้านนอก เขาจึงยกขนอุยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากโรงแรมและมุ่งหน้าตรงไปยังตลาด

นี่คือครั้งแรกที่เซี่ยเฟยได้เดินทางมายังคาซา เขาจึงไม่รู้ว่าพื้นที่บริเวณไหนเป็นจุดที่น่าสนใจ เขาจึงเดินไปเดินมาโดยไม่มีจุดหมาย

แต่สายตาของคนบริเวณโดยรอบก็ค่อนข้างจะผิดแปลกไปจากสายตาที่เขาคุ้นเคย เพราะมีคนเพียงแค่ไม่กี่คนที่กล้าจ้องมองมายังใบหน้าของเขาในตอนนี้ตรง ๆ นั่นก็เพราะว่าใบหน้าของเขามีความดุร้ายมากจนเกินไป

อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าคนอื่นจะคิดกับเขายังไง เขาจึงเดินสำรวจต่อไปโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่นมากนัก

หลังจากเดินผ่านถนนไปหลายเส้น ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เดินมาจนถึงถนนที่ค่อนข้างกว้างขวาง โดยพ่อค้าทั้งสองฝั่งของถนนต่างก็กำลังขายอาวุธ ชายหนุ่มจึงเดินไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจสินค้าอย่างสนใจ

บรรดาอาวุธที่ถูกวางขายตามร้านค้าต่าง ๆ มีทั้งอาวุธธรรมดาและอาวุธกฎที่หาได้ยาก แน่นอนว่าราคาของพวกมันย่อมแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ชนิดที่ว่าพวกมันไม่สมควรจะนำมาวางขายอยู่ภายในร้านเดียวกันเลย

“นี่คือเกราะแขนระดับอัศวินกฎ ถ้าหากว่าคุณถูกโจมตีตัวเกราะจะเปิดใช้งานสร้างเกราะป้องกันมิติขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และปกป้องให้คุณรอดพ้นจากอันตราย!”

พ่อค้าคนหนึ่งเริ่มโฆษณาเกราะแขนสีเงินซึ่งถูกสลักด้วยอักษรกฎอันแวววาว

“เกราะป้องกันระดับอัศวินกฎงั้นเหรอ? พ่อค้าเกราะชิ้นนี้ขายยังไง?” เซี่ยเฟยถาม

“เกราะชิ้นนี้มีราคาแค่ 1,000 คริสตัลขาวเท่านั้นครับคุณลูกค้า แต่ถ้าหากว่าคุณลูกค้าต้องการจริง ๆ ผมจะให้ส่วนลด 10%” พ่อค้าหนวดสั้นกล่าวตอบ

เซี่ยเฟยทำได้เพียงแต่ส่ายหัว เพราะถึงแม้ว่าชุดเกราะระดับอัศวินกฎจะมีการป้องกันที่ดี แต่เงินในกระเป๋าของเขาก็มีอยู่อย่างจำกัด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเหลือคริสตัลขาวอยู่เพียงแค่ 700 กว่าชิ้น ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะต้องการมันจริง ๆ แต่เขาก็เหลือเงินไม่มากพอที่จะซื้อมันมาได้

เซี่ยเฟยเดินออกจากร้านและเงยหน้าสังเกตดูพระอาทิตย์บนท้องฟ้า ซึ่งในตอนนี้หยูฮัวได้ออกไปจากห้องนานเกินกว่า 10 ชั่วโมงแล้ว ชายหนุ่มจึงเริ่มที่จะรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ในทันใดนั้นเองมันก็มีจุดสีดำเล็ก ๆ เริ่มพุ่งเข้ามาใกล้พื้นผิวอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างอย่างเจิดจ้า ทำให้เซี่ยเฟยยากที่จะระบุว่าวัตถุที่กำลังตกลงมาจากฟ้าเสมือนคืออะไรกันแน่

“นั่นมันอุกกาบาตเหรอ?” เซี่ยเฟยพึมพำขณะจ้องมองไปยังวัตถุปริศนาบนท้องฟ้า

ฟิ้ว!!

อุกกาบาตพุ่งเข้ามาในดาวคาซาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะพุ่งผ่านเมืองที่เซี่ยเฟยอยู่ไปแล้วตกกระทบเข้ากับพื้นดินที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร

ฝูงชนทั่วทั้งท้องถนนต่างก็หยุดการกระทำของตัวเองอย่างกะทันหัน ขณะเดียวกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดก็หยุดการทำงานลงราวกับว่าพวกมันพังในเวลาเดียวกัน

“อุกกาบาตนั่นปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมารุนแรงมาก!” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว

****************

ตอนต่อไปพี่เฟยต้องวิ่งไปดูแน่ๆ ไม่ต้องสืบเลย 555

E-Book เล่ม 9 (ตอนที่ 487-533) เปิดขายแล้วน๊า สำหรับใครที่อยากอ่านแบบยาว ๆ หรือเก็บไว้สะสม เราก็ขอให้คิดพิจารณาพี่เฟยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆ น๊า (´▽`).。o♡

ช่องทาง MEB >> https://bit.ly/3NZ3Qca   ช่องทางเด็กดี >> https://bit.ly/3LDePFC  ช่องทางปิ่นโต >> https://bit.ly/3M9vXUI

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.