ตอนที่ 218 ตายหมด
ตอนที่ 218 ตายหมด
คำเตือน: เนื้อหาในตอนนี้มีความรุนแรงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ทันใดนั้นมันก็มีมีดสามแฉกสีเงินปรากฏขึ้นที่ข้อมือของชายหนุ่ม ก่อนที่ชายคนนี้จะแทงมีดเข้าไปที่หัวใจของน้องหก!
อันธเคยขอให้เซี่ยเฟยช่วยชีวิตน้องหกอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นทันทีที่อีกฝ่ายลงมือชายหนุ่มจึงปล่อยเซเลสเชียลมูนออกไปโดยไม่ลังเล!
ฉึก!
ฉัวะ!
เสียงทั้งสองเกิดขึ้นเกือบจะพร้อมกัน โดยเสียงแรกเป็นเสียงของมีดสั้นที่แทงเข้าไปในหัวใจ ขณะที่เซเลสเชียลมูนของเซี่ยเฟยก็ได้พุ่งผ่านศีรษะของชายหนุ่มทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตไปในเวลาเกือบจะพร้อมกัน
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่พอใจ เพราะมันไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการจะช่วยน้องหกของอันธ แต่มันเป็นเพราะทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมากจนเกินไป เขาจึงไม่สามารถลงมือช่วยเหลือน้องหกของอันธได้ทัน
เลือดของทั้งสองคนไหลอาบไปทั่วทั้งพื้นถ้ำ ขณะที่หญิงสาวตัวต้นเรื่องกำลังกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน
เพียงแค่การไม่สามารถช่วยเหลือน้องหกของอันธได้ก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกหงุดหงิดใจมากพออยู่แล้ว ยิ่งในตอนนี้มันได้มีเสียงกรีดร้องที่น่ารำคาญเขาจึงสะบัดมือบังคับเซเลสเชียลมูนให้ทำการจู่โจมเพื่อให้หญิงสาวคนนี้เงียบเสียงลง
“เดี๋ยวก่อน!” อันธตะโกนขัดจังหวะขึ้นมา
เซี่ยเฟยรีบใช้พลังจิตเพื่อชักนำให้ใบมีดของเซเลสเชียลมูนเบี่ยงหลบออกไปด้านซ้าย ซึ่งถ้าหากว่าอันธพูดขึ้นมาช้ากว่านี้แม้แต่นิดเดียว ศีรษะของหญิงผู้ร่างเปลือยคนนี้ก็คงจะถูกตัดศีรษะเหมือนกับชายชู้ของเธอไปแล้ว
ฟิ้ว!
ใบมีดกลมสีเงินพุ่งผ่านใบหน้าของหญิงสาวไปเพียงแค่นิดเดียวก่อนจะจมลงไปในกำแพงหิน ซึ่งการจู่โจมในครั้งนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนทำให้เธอลืมร้องไห้ไปชั่วขณะ
“รีดข้อมูลจากเธอมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” อันธพูดด้วยความโกรธ
พวกเขาศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่ได้เจอกันมาตั้งนานหลายปี แต่สิ่งที่อันธได้พบเห็นกลับกลายเป็นภาพของศิษย์น้องที่ถูกสังหาร
แต่เขาก็ไม่ได้โทษเซี่ยเฟยที่ไม่สามารถลงมือช่วยศิษย์น้องของเขาได้ เพราะด้วยระยะที่ใกล้กันมากขนาดนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็คงจะช่วยศิษย์น้องหกเอาไว้ไม่ทัน
เซี่ยเฟยพยายามเก็บระงับอารมณ์ของเขาเอาไว้ในใจ ซึ่งการรีดข้อมูลจากหญิงสาวคนนี้ก็น่าจะช่วยให้เขาได้รู้สถานการณ์ภายในสำนักเงาสังหารมากยิ่งขึ้น
ศพของชายชู้ยังคงหัวขาดคุกเข่าอยู่บนพื้น ชายหนุ่มจึงเดินไปเตะศพชายคนนี้อย่างรุนแรง
ตูม!
ร่างของศพกระแทกเข้าใส่กับกำแพงพร้อมกับเลือดที่สาดกระจายออกมาเหมือนกับสายฝน ซึ่งภาพเหตุการณ์นี้ทำให้หญิงสาวตัวสั่นอย่างรุนแรงและเธอก็พยายามมองไปที่เซี่ยเฟยด้วยแววตาที่น่าสงสาร แต่น่าเสียดายที่แววตาของเธอคนนี้ไม่สามารถใช้กับคนอย่างเขาได้ผล
เพียะ! เพียะ!
คำทักทายของเซี่ยเฟยคือการตบหน้าหญิงสาวอย่างรุนแรง และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้มีพลังพิเศษสายความเร็วแต่พละกำลังของเขาก็เหนือกว่าคนทั่วไป
ใบหน้าของหญิงสาวสะบัดไปมาตามแรงมือพร้อมกับมีฟันเล็ก ๆ หลุดออกมาจากปาก นอกจากนี้ใบหน้าที่เคยเป็นจิ้งจอกสาวสวยก็บวมเป่งจนกลายเป็นหัวหมู มันจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงการพยายามยั่วยวนเซี่ยเฟยอีกต่อไป เพราะใบหน้าแบบนี้ก็คงจะไม่สามารถเอาไปยั่วยวนคนอื่นได้อีกแล้ว
“ถามเธอว่าเธอเป็นใครในสำนัก แล้วทำไมเธอถึงมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับน้องหก” อันธกล่าวกับเซี่ยเฟย
ชายหนุ่มเริ่มถามหญิงสาวตามที่อันธได้บอกมา ซึ่งมันก็ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวคนนี้เปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คิดว่าจะได้พบกับคนแปลกหน้าบนดาวดวงนี้ นอกจากนี้เซี่ยเฟยยังสามารถระบุตัวตนว่าเธอคือสมาชิกของสำนักเงาสังหารได้อย่างรวดเร็ว
อย่าลืมว่าดาวดวงนี้ได้ซ่อนอยู่ท่ามกลางเนบิวลาสีแดง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีเศษหินแม่เหล็กล่องลอยอยู่ท่ามกลางเนบิวลาอยู่อย่างมากมาย มันจึงทำให้ผู้ที่สามารถเข้าถึงดาวดวงนี้มีเพียงแค่คนในสำนัก แต่ไม่ว่าเธอจะมองยังไงเซี่ยเฟยก็ไม่ใช่คนในสำนักเดียวกับเธอเลย
อย่างไรก็ตามหญิงสาวก็ไม่สามารถขัดขืนการลงมือของเซี่ยเฟยได้และรายละเอียดในเรื่องของสำนักก็ถูกชายหนุ่มเปิดโปงไปจนหมดแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังและตอบคำถามทั้งหมดของเขาตามความเป็นจริง
หลังจากซักถามอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด
ตามประเพณีของสำนักทุก ๆ 3 ปีสายลับของสำนักจะนำเด็กกำพร้าจากทั่วทั้งจักรวาลกลับไปทำการฝึกฝน ซึ่งเด็กที่มีพรสวรรค์จะได้รับการฝึกอบรมในฐานะของนักฆ่า ส่วนเด็กที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ก็จะถูกเลี้ยงดูในฐานะของคนใช้
หญิงสาวคนนี้บังเอิญได้รับมอบหมายให้คอยรับใช้ตำหนักของน้องหก ซึ่งในตอนที่เธอยังเด็กเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กรับใช้ธรรมดา แต่เมื่อเธอโตขึ้นมาเสน่ห์ของเธอก็เริ่มเปิดเผยออกมาเรื่อย ๆ
ในที่สุดน้องหกก็รับหญิงสาวคนนี้ไปดูแลฉันสามีภรรยา แต่เมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปเสน่ห์ของเธอก็ได้ไปเตะตาของชายอื่น
ในจักรวาลไม่มีความลับใดที่จะสามารถอยู่ยงได้ตลอดไป ในที่สุดเรื่องชู้รักก็แพร่กระจายออกไปในหมู่อาจารย์อย่างรวดเร็ว ผู้หวังดีบางคนเคยได้นำเรื่องนี้มาบอกกับน้องหกแล้วแต่น้องหกเป็นคนซื่อ ๆ เขาจึงเลือกที่จะเชื่อใจภรรยาของตัวเอง
หลังจากอันธได้ยินเรื่องราวเส้นเลือดก็ผุดขึ้นมาทั่วทั้งใบหน้าของเขาด้วยความโกรธ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังรู้สึกโกรธเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถบีบคอจิ้งจอกสาวด้วยมือของตัวเองได้
“ขอถามเธอหน่อยสิว่าผู้อาวุโสเงาจันทร์ยังสบายดีอยู่ไหม?” อันธถอนหายใจพร้อมกับกล่าวถามออกมา
คำถามนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอยู่เล็กน้อย และเขาก็สามารถสันนิษฐานได้เลยว่า ‘ผู้อาวุโสเงาจันทร์’ ที่อันธได้กล่าวถึงจะต้องเป็นชื่ออาจารย์ของวิญญาณตนนี้อย่างแน่นอน
หญิงสาวรู้สึกสับสนกับคำถามเรื่องผู้อาวุโสเงาจันทร์อยู่เช่นกัน เพราะเพียงแค่เซี่ยเฟยรู้เรื่องสำนักก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากแล้ว แต่นี่ชายหนุ่มถึงกับรู้ชื่อของหนึ่งในผู้อาวุโสที่ลึกลับมากที่สุดของสำนักซึ่งคนนอกก็ไม่ควรที่จะรู้จักผู้อาวุโสคนนี้เลย
‘หรือว่าเขาจะมาจากสำนักเงาสังหาร?’
‘แต่ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นชายหนุ่มคนนี้มาก่อนเลย?’
หญิงสาวแอบสงสัยอยู่ในใจ แต่เธอก็ยังคงเล่าเรื่องผู้อาวุโสเงาจันทร์ตามความเป็นจริง
เนื่องมาจากเธอเป็นเพียงสาวใช้ตัวเล็ก ๆ เธอจึงมีโอกาสได้พบกับผู้อาวุโสเงาจันทร์เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ข้อมูลที่เธอเล่าออกมามีรายละเอียดอยู่น้อยมาก แต่มันก็ยังเพียงพอทำให้อันธรู้สึกสบายใจอยู่ดี
อย่างน้อยที่สุดอันธก็ได้รู้ว่าอาจารย์ที่เขาเคารพยังคงมีร่างกายที่แข็งแรง วิญญาณนักฆ่าจึงหลั่งน้ำตาออกมาพร้อมกับคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ
เซี่ยเฟยต้องยอมรับว่าอันธเป็นคนหนึ่งที่เคารพอาจารย์ของตัวเองมากจริง ๆ และถึงแม้ว่าอาจารย์จะสั่งให้เขาไปตายแต่อันธก็คงจะไปตายอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ในที่สุดมันก็ไม่เหลือข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากหญิงคนนี้ให้พวกเขาได้ทำการสืบหาอีกแล้ว
เซี่ยเฟยเหลือบสายตามองอันธเพื่อถามว่าเขาควรจะจบชีวิตของผู้หญิงคนนี้เลยหรือไม่ ซึ่งวิญญาณนักฆ่าก็พยักหน้าให้เป็นนัย ๆ ชายหนุ่มจึงใช้เซเลสเชียลมูนตัดคอของเธอออกอย่างไร้ปรานี
ในที่สุดเรื่องเศร้าเรื่องนี้ก็มีผู้สังเวยชีวิตไปถึงสามศพ แล้วมันก็คงจะไม่มีใครคิดว่าเรื่องราวจะได้ดำเนินมาจนมีตอนจบแบบนี้
หลังจากจัดการหญิงสาวเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็ลุกยืนขึ้นพร้อมกับเอามือคลำไปตามร่างของซากศพทั้งสาม
“นั่นนายกำลังจะทำอะไร?”
“คนตายเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้อยู่แล้ว ฉันแค่จะลองดูว่ามีอะไรที่ฉันพอจะเอาไปใช้ได้บ้าง?”
แต่เดิมอันธต้องการจะหยุดชายหนุ่มไว้ เพราะท้ายที่สุดศพทั้งสามก็เป็นศิษย์จากสำนักเดียวกันกับเขา แต่หลังจากที่วิญญาณนักฆ่าได้ทำการคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ สิ่งที่เซี่ยเฟยพูดก็ไม่ต่างไปจากความจริงเพราะคนตายไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้เลย
มีดสามแฉกที่ชายหนุ่มได้ใช้ในการลงมือมีคุณภาพที่ค่อนข้างดี เพราะท้ายที่สุดมันก็สามารถเจาะทะลุผ่านชุดต่อสู้เข้าสู่หัวใจของน้องหกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่ามีดเล่มนี้มีความคมมากเพียงใด
เซี่ยเฟยหยิบมีดขึ้นมาถือไว้ในมือและได้พบว่ารูปร่างของมีดเล่มนี้ถูกออกแบบมาอย่างแปลกตามาก ตรงกลางของใบมีดทั้งสามมีร่องสำหรับเอาไว้ระบายเลือด และถึงแม้ว่าภายนอกมันจะดูเป็นมีดทื่อแต่ความจริงมันกลับกลายเป็นอาวุธที่คมมาก
“มันชื่อ ‘เดือยกระดูก’ เป็นอาวุธสังหารชนิดพิเศษจากสำนักของฉันเอง ถ้าหากใครพลาดโดนอาวุธชนิดนี้จู่โจม ถึงแม้พวกเขาจะไม่ตายในทันทีแต่พวกเขาก็จะเสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมากจนเกินไป ฉันไม่คิดเลยว่าอาวุธพิเศษแบบนี้จะมาอยู่ในมือของไอ้ชั่วนี้ได้ ชะตากรรมของน้องหกช่างโชคร้ายเสียจริง ๆ” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“วิธีการสังหารของมีดเล่มนี้โหดเหี้ยมมากจริง ๆ ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะมีคนออกแบบอาวุธที่โหดร้ายแบบนี้ขึ้นมาด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“พวกเราคือสำนักนักฆ่านะ พวกเราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อสังหารเป้าหมายให้สำเร็จ” อันธตะคอกขึ้นมาอย่างเย็นชา
เซี่ยเฟยเบะริมฝีปากออกมาเล็กน้อย ท้ายที่สุดเขาก็รู้อยู่แล้วว่าอันธคอยปกป้องชื่อเสียงสำนักของเขาเสมอมา นี่ถ้าหากเขาเอาอาวุธชิ้นนี้ไปขายเพื่อแลกเงินจริง ๆ วิญญาณตนนี้ก็คงจะหลอกหลอนเขาทุกวันอย่างแน่นอน
หลังจากคุ้ยซากศพของทั้งสามคนจนเสร็จ ชายหนุ่มก็ได้พบอาวุธอีกหลายชนิดแต่มันก็ไม่มีอาวุธชนิดไหนมีค่าเท่ากับเดือยกระดูกแล้ว
“พวกมันคืออะไร?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับหยิบของที่เขาไม่รู้จักออกมาให้อันธดู
“พวกมันเป็นบัตรประจำตัวของแต่ละคนที่จะต้องแสดงหากต้องการจะเข้าไปยังสถานที่สำคัญ พวกมันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับนายหรอก ส่วนเม็ดยาสีดำพวกนั้นเป็นเม็ดยาเอาไว้สำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บภายใน ส่วนอาวุธพวกนั้นก็เป็นอาวุธลับแต่มันก็ไม่ได้มีค่าเท่ากับเดือยกระดูกเล่มนั้นหรอก” อันธกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะเก็บของทั้งหมดเข้าไปในแหวนมิติ
สำหรับเซี่ยเฟยที่มีความเร็วเกือบ 4,000 เมตรต่อวินาทีแล้ว อาวุธลับพวกนี้แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขาเลย เพราะเขาสามารถใช้ความเร็วของตัวเองในการจัดการกับศัตรูได้อย่างมากมายและไม่จำเป็นจะต้องใช้อาวุธลับในการจู่โจมเข้าใส่ศัตรู
เซี่ยเฟยคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้งพร้อมกับใช้มือลากศพทั้งสามไปบนพื้น
“นั่นนายกำลังจะทำอะไร? ปล่อยให้พวกเขาพักผ่อนอยู่ที่นี่ไปเถอะ”
“คนบ้านเกิดฉันสั่งสอนกันมาว่าเราควรฝังศพเพื่อให้เกียรติแก่ผู้ตาย ในเมื่อคนพวกนี้เป็นศิษย์น้องของนายฉันก็ควรจะต้องให้เกียรติพวกเขาหน่อย” เซี่ยเฟยพูดอย่างเฉยเมย
อันธพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง เพราะเขาคิดว่าเซี่ยเฟยกำลังทำแบบนี้เพราะให้ความเคารพต่ออาจารย์ของเขาและมันก็ทำให้เขามองชายหนุ่มในแง่ดีมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ในใจของเซี่ยเฟยกลับคิดว่าดาวดวงนี้คือดาวสำหรับการทดสอบของพวกนักฆ่า ดังนั้นมันอาจจะมีนักฆ่ามาพบศพทั้งสามแล้วเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนสังหารศพทั้งสามนี้ก็ได้ เขาจึงจำเป็นจะต้องซ่อนศพให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้พวกนักฆ่าเจอหลักฐานที่เชื่อมโยงมาหาเขาได้
แต่ในทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากหน้าถ้ำ ซึ่งในคราวนี้มันเป็นเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากคนอย่างน้อยห้าคน!
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 148
แสดงความคิดเห็น